ชนักปักหลัง11ชื่อ! สมชายปูดข่าวครม.ใหม่/มาร์คอัดอิ๊งค์ก้าวไม่พ้นครอบครัว

เลขาธิการนายกฯ เผย กฤษฎีกาตอบกลับมาแล้วหลังส่งตรวจคุณสมบัติ รมต.จะได้ข้อมูลครบถ้วนในสัปดาห์นี้ "พริษฐ์" แจงทำงานกับ "ลุงป้อม-พปชร." เชิงกลไกที่ประชุมวิปฝ่ายค้าน แต่อุดมการณ์ ปชน.ยังต้องเดินหน้าต่อ "อภิสิทธิ์” อัด พท.ยังก้าวไม่พ้นครอบครัว ชี้ศรัทธา-ความไม่ถูกต้องคือจุดตาย รบ. ด้าน สว.เตือน "อุ๊งอิ๊ง" อย่าให้พ่อครอบงำ แนะให้ไปบอกพ่ออยู่บ้านเลี้ยงหลาน มีอะไรจะกลับไปถามเอง "สมชาย" ปูดโผ ครม. 11 คนติดปมคดี    

เมื่อวันที่ 1 กันยายน นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีส่งคุณสมบัติรัฐมนตรีให้คณะกรรมการกฤษฎีกาคณะใหญ่ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 2560 รวมถึงนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ร่วมคณะอยู่ด้วยช่วยพิจารณาว่า ได้ส่งไปให้ตรวจสอบแล้วตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ตอนนี้มีการตอบกลับมายังเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะถ้ามีข้อสงสัยทางข้อกฎหมายก็จะส่งให้กฤษฎีกาตรวจสอบ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ขั้นตอนต่างๆ ยังไม่เสร็จสิ้น

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า รายชื่อที่ส่งให้กฤษฎีกาตรวจสอบเป็นใครบ้าง นพ.พรหมินทร์ระบุว่า ด้วยความรอบคอบทางเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งไปทุกกรณี แต่ไม่ได้ระบุตัวบุคคล ซึ่งคาดว่าการตรวจสอบของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้ข้อมูลครบถ้วนในสัปดาห์ที่จะถึงนี้

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ถึงการที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ทำงานร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่า ไม่มีปัญหา ในสมัยนี้เราไม่ได้มีปัญหาอะไรกับพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ทำงานร่วมกันได้

เมื่อถามว่า จะต้องชี้แจงกับแฟนคลับพรรคเพื่อไทยหรือคนเสื้อแดงอย่างไรบ้าง นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ปชป.ยุคนี้กับยุคก่อนต่างกัน ใบไม้ผลัดใบไปแล้ว จะไปเจ้าคิดเจ้าแค้นอะไรกัน ไม่งั้นก็ไปไม่รอด ต้องเอาประเทศชาติบ้านเมืองไปข้างหน้าก่อน ดังนั้นการสลายขั้ว ไม่ทะเลาะเบาะแว้งเป็นเรื่องดี เราเสียหายกันมา 16 ปี ต้องรู้จักอโหสิอภัยบางอย่าง เรื่องผ่านมาแล้วก็ผ่านไป หากพลิกไปข้างหลังก็ไปข้างหน้าไม่ได้ วันนี้ประชาชนต้องรอด

นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีมีบุคคลนิรนามยื่นร้องให้ยุบพรรคเพื่อไทยว่า หากมีผู้มายื่นคำร้องต้องเข้าสู่กระบวนการตามระเบียบสืบสวนและไต่สวน ว่าเป็นคำร้องที่สมควรรับไว้หรือไม่ หากเห็นว่าคำร้องควรรับไว้จะมีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนไต่สวน เพื่อสอบปากคำพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานแวดล้อมและผู้ที่เกี่ยวข้อง หากได้ข้อสรุปแล้วจะเสนอความเห็นของสำนวนไปยังสำนักงาน กกต. โดยมีเลขาธิการ กกต.เป็นผู้ให้ความเห็นว่าเป็นอย่างไรบ้าง เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ระยะเวลา ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงการทำงานของแต่ละฝ่ายได้ ซึ่งสำนักงาน กกต.ยังไม่ได้รายงานให้ กกต.ทราบ เป็นข่าวเฉยๆ

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงการเตรียมร่วมงานกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หลังพรรคเพื่อไทยขับออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล จึงต้องมาเป็นฝ่ายค้านร่วมกับพรรค ปชน.ว่า การทำหน้าที่ของฝ่ายค้านมีความแตกต่างกับรัฐบาล ที่การเป็นฝ่ายค้านไม่ได้เป็นการจับมือร่วมกันเพราะมีนโยบายและอุดมการณ์สอดคล้องกัน แต่ฝ่ายค้านเป็นเพียงการรวบรวมพรรคการเมืองที่ไม่ได้อยู่ในรัฐบาล และอาจมีอุดมการณ์ที่แตกต่างกันมาก เพียงแต่ไม่ได้ร่วมรัฐบาล ดังนั้นไม่ว่าท้ายที่สุดการจัดตั้งรัฐบาลจะจบอย่างไร และพรรคใดจะต้องมาเป็นฝ่ายค้านบ้าง แต่พรรค ปชน.ขอโฟกัสกับพรรค ปชน. ในฐานะแกนนำพรรคฝ่ายค้าน ตามแนวทางที่พรรคได้สื่อสารกับประชาชน

ศรัทธาความไม่ถูกต้องคือจุดตาย

ส่วนการโฟกัสเฉพาะพรรค ปชน.จะทำให้ฝ่ายค้านขาดเสถียรภาพในการทำหน้าที่หรือไม่ นายพริษฐ์ชี้แจงว่า การทำหน้าที่ของฝ่ายค้านไม่ใช่ลักษณะพรรคใครพรรคมัน สิ่งใดต้องทำงานร่วมกันในเชิงกลไกที่ประชุมวิปก็ยังคงเดินหน้าต่อไป แต่ในเชิงอุดมการณ์ แนวคิดและนโยบายที่พรรค ปชน.ต้องการผลักดันและใช้กลไกสภานั้น พรรคปชน.ก็จะเดินหน้าต่อ โดยไม่เกี่ยวข้องกับพรรคใดๆ ที่มีสถานะฝ่ายค้าน

นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกฯ กล่าวถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่กลับมามีบทบาทในประเทศอีกครั้งว่า ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากวันที่นายทักษิณเคยเรืองอำนาจ ส่วนที่นายทักษิณเข้ามามีบทบาทในการบริหารประเทศ สังคมมองออกว่านายทักษิณมีบทบาทมาต่อเนื่อง เพียงแต่จะเปิดเผยมากน้อยเพียงใดเท่านั้น ส่วนหนึ่งถ้ามองในมุมบวกก็ต้องบอกว่า สำหรับคนที่เชื่อในแนวทางนั้นก็อาจจะมีความเชื่อมั่น มีความมั่นใจมากขึ้น อาจจะทำให้การประสานงาน อาจจะใช้ประสบการณ์ผลักดันในสิ่งที่ตัวเองต้องการ

 “อย่างที่ผมเคยบอกว่า วันที่นายทักษิณเคยมีอำนาจมากมายมหาศาล สุดท้ายก็ต้องยุติลงด้วยหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นความไม่ถูกต้อง ดังนั้นถ้ายังไม่เก็บเกี่ยวบทเรียนตรงนี้ ความเสี่ยงที่จะเกิดแบบนี้อีกก็มี”

 เมื่อถามว่า ช่วงที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ลงเล่นการเมือง นายอภิสิทธิ์เคยปราศรัยว่าสงสาร น.ส.ยิ่งลักษณ์ และวันนี้ น.ส.แพทองธารมาเป็นนายกฯ แล้ว นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่ไปก้าวล่วงในแง่ความสัมพันธ์ในครอบครัวจะเป็นอย่างไร แต่แสดงว่าเป็นแนวทางที่ต้องสอดรับกัน ตนเคยพูดหลายครั้งว่า แม้จะต่อสู้กับพรรคเพื่อไทยมาอย่างยาวนาน ตนก็ยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยมีความสำเร็จในบางเรื่อง และเสียดายว่าเขาไม่ได้ต่อยอดเอาตรงนั้นมาเป็นแกนในการขับเคลื่อนพรรค และยังไม่สามารถที่จะก้าวพ้นครอบครัวได้

 ต่อข้อถามที่ว่า จากนี้จะมีการปฏิวัติเกิดขึ้นอีกหรือไม่ เพราะคนตระกูลชินวัตรมาเป็นนายกฯ คนที่ 3 แล้ว นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงไม่ใช่เรื่องตระกูลหรืออะไร แต่อยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้มันมีเงื่อนไข และเราก็ไม่อยากจะต้องไปสู่จุดนั้นกันอีก และคิดว่าสภาฯ น่าจะอยู่ครบเทอม เพราะมองไม่เห็นว่าจะมีปัญหาในพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งไม่น่าจะมีพรรคใดอยากจะเลือกตั้งเร็ว ส่วนจุดอ่อนหรือจุดตายของรัฐบาลชุดนี้ คือปัญหาศรัทธาของประชาชนที่ไปเกี่ยวข้องกับเรื่องความไม่ถูกต้อง

นายปฏิมา จีระแพทย์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวว่า ในฐานะ สว. ตนพร้อมจะทำหน้าที่ตรวจสอบ ให้คำแนะนำรัฐบาลอย่างเต็มที่ในฐานะสภาสูง ที่จะเริ่มจากการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภา คาดหวังให้นายกฯนำพาประเทศไทยก้าวผ่านความท้าทายทางเศรษฐกิจ ความท้าทายทางสังคมได้อย่างราบรื่น อยากเตือนนายกฯ ให้รับฟังประชาชน รับฟังความคิดเห็นจากสื่อมวลชนให้มากยิ่งขึ้น และได้เตือนนายกฯ ไปถึงเรื่องการครอบงำตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 28 ที่คุณทักษิณแสดงวิสัยทัศน์เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา คิดว่าการที่ลูกจะฟังคำแนะนำจากพ่อ เป็นสิ่งที่สมควรอย่างยิ่งในครอบครัว แต่การทำงานในวันนี้นายกฯ ไม่ได้เป็นลูกของคุณพ่อ แต่เป็นนายกรัฐมนตรี และเป็นนายกฯ ที่ถูกจับตามองอยู่เยอะ

ปูดโผ ครม. 11 ชื่อสะดุดคดี

"ในฐานะที่เป็นหัวหน้ารัฐบาล นายกฯ ก็จำเป็นที่จะต้องใช้ความรู้ความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่ โดยอาจจะปรึกษาคุณพ่อก็ได้ ไม่จำเป็นต้องให้สาธารณชนรับทราบ ถ้าผมเป็นท่าน ผมก็จะบอกคุณพ่อของผมว่า คุณพ่ออย่าออกสื่อเยอะ คุณพ่ออยู่ที่บ้านเลี้ยงหลาน แล้วเดี๋ยวลูกมีอะไร ลูกจะโทร.ไปถาม หรือกลับไปกินข้าวเย็นที่บ้าน  แล้วลูกจะไปปรึกษา ขอคำแนะนำ นายกฯ อายุ 38 ปี ต้องทำให้ลูกของนายกฯ ภูมิใจ" นายปฏิมาระบุ

นายวันชัย สอนศิริ อดีต สว. โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เรื่อง “ผลงานของนายกฯ อุ๊งอิ๊ง เท่านั้นที่จะชนะศัตรูหมู่มารได้” โดยระบุว่า "ศัตรูเก่าศัตรูใหม่ของคุณทักษิณพ่อของนายกฯ อุ๊งอิ๊ง เขาเตรียมถล่มกันทุกเม็ดทุกดอก ถาโถมเข้าใส่ทั้งคุณทักษิณและคุณอุ๊งอิ๊ง นายกฯ อุ๊งอิ๊งเตรียมตั้งหลักที่จะรับสารพัดเรื่องได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป อย่าไปมัวเสียเวลากับคนพวกนี้ และเลิกคิดเรื่องการโกงกินทุจริตคอร์รัปชัน การเล่นพรรคเล่นพวก การก่อกรรมทำชั่วต่างๆ มุ่งหน้าเอาแต่งานเพื่อผลงานให้โดนใจประชาชน แก้ปัญหาเศรษฐกิจ เรื่องปากเรื่องท้อง ต้องรีบเร่งทำให้ได้"

"ไม่ต้องไปวิตกกับพวกร้องเรียนเหล่านั้น ชาวบ้านเขาไม่สนหรอก เขารออยู่แต่ว่าจะแก้ปัญหาให้เขาได้เมื่อไร ถ้าแก้ให้เขาได้มันก็จะเป็นเกราะป้องกันให้กับนายกฯ อุ๊งอิ๊งได้เป็นอย่างดี ต้องทำให้ชาวบ้านพอใจจนพวกร้องเรียนกระอักเลือดตาย ใครจะนินทาว่ากล่าวใส่ร้ายป้ายสีกี่เรื่องกี่ประเด็นก็ช่างหัวมัน เอาผลงานเข้าสู้ เอาประชาชนเป็นประกัน แค่นี้ก็ไปตลอดรอดฝั่ง ศัตรูหมู่มารก็ย่อยยับไปเอง ก็แตกกันหลายพรรคแล้ว" นายวันชัยระบุ

นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "ข่าวดี! ครม.อิ๊ง 1 ตรวจละเอียดยิบ รมต.ต้องสุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไม่ประพฤติผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ข่าวลืออื้ออึงว่าติดปมตั้ง 11 ทั้งคดีใน ป.ป.ช.  อัยการ ศาล ฯลฯ จะกล้าลุยตั้งก่อน ไปตายเอาดาบหน้า? #นักการเมืองดีหายากนักหรือไง"

นายสติธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล น.ส.แพทองธารจะอยู่ได้ไม่นานว่า ผลงานจะเป็นตัวพิสูจน์ว่าจะอยู่ได้ครบเทอมหรือไม่ และมีโอกาสแค่ไหนที่จะชนะการเลือกตั้ง แต่ถ้าดูแล้วปลายปีนี้เศรษฐกิจยังไม่กระเตื้องขึ้น ก็มีโอกาสที่จะอยู่ไม่นาน ส่วนเรื่องคดีความทั้งเรื่องของการครอบงำ และคุณสมบัติต่างๆ ของรัฐมนตรี เมื่อเขาตั้งรัฐบาลแบบมีดีล ก็ต้องมีหลักประกันที่จะทำให้ดีลเป็นไปตามที่คุยกันไว้ รัฐบาลเพิ่งตั้งบนความสมประโยชน์ของทุกฝ่าย จะมีคนที่อกหักก็แค่ลุงบ้านป่าฯ ดังนั้นระยะแรกคดีความน่าจะยังไม่กลับมาทิ่มแทง คงต้องรอสักระยะหนึ่ง และถ้าหากผลงานไม่ขึ้นจริงๆ  คดีความต่างๆ ก็จะตามมาหลอกหลอน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตั้งรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง จบใน ‘15กันยา’

"ภูมิธรรม" เผย "ป.ป.ช." ส่งผลตรวจคุณสมบัติว่าที่รัฐมนตรีแล้ว รอ "สลค.-กฤษฎีกา" ตรวจซ้ำ เพราะไม่รู้ใครเสี่ยงมีคดีกี่คน พยายามให้เสร็จใน 1