นิพิฏฐ์ชี้‘ชวน’แนะ ถึงเวลาพรรคใหม่!

เอาแล้ว! นิพิฏฐ์บอกผลหารือ “นายหัวชวน” ชี้ถึงเวลาชอบธรรมตั้งพรรคใหม่ เจ้าตัวอาสาเป็นคนกลางประสานอดีตเด็ก ปชป.และคนรักอุดมการณ์กลับมาสืบทอดเจตนารมณ์ แต่ “ใบมีดโกน” ขอโบกมือลาเพราะเหนื่อยแล้ว ซูเปอร์โพลตอกย้ำคนส่วนใหญ่ยี้ร่วมรัฐบาล แต่เพื่อไทยคะแนนนิยมกลับพุ่ง

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน 2567 ยังคงมีความต่อเนื่องในกรณีพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะเข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย (พท.) โดยนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง และรองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงการเข้าพบนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรค ปชป.ว่า ได้ปรึกษากับนายชวนว่าในส่วนคนเก่าที่เคยมีอุดมการณ์ร่วมกับ ปชป. แต่ปัจจุบันไม่ได้มีตำแหน่งหรือเป็นสมาชิกพรรค จะสามารถมีช่องทางเข้าไปฟื้นฟูพรรคได้หรือไม่ ซึ่งนายชวนบอกว่าหมดหนทางแล้ว ผู้บริหารชุดนี้มีอำนาจเด็ดขาด ไม่ยอมให้คนเก่าเข้าไปแน่ เลยสอบถามต่อในมุมของคนที่เคยอยู่ในพรรค ปชป.และยังคงรักยึดหลักอุดมการณ์ของพรรค และไม่อยากเห็นพรรค ปชป.ล้มหายตายจากหรือตกต่ำไปมากกว่านี้ ว่าหากคนเหล่านี้รวมถึงตนเองไม่สามารถเข้าไปภายในพรรคและแก้ไขอะไรได้ จะมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่เราเองจะมาตั้งพรรคใหม่ และแสดงเจตนารมณ์อุดมการณ์ว่าเราคือพรรค ปชป.ที่แท้จริงได้ไหม ซึ่งนายชวนได้ตอบกลับว่า วันนี้มีความชอบธรรมที่จะตั้งพรรคการเมืองใหม่แล้ว

 “ความคิดเห็นของผมและท่านชวนไม่ได้เห็นด้วยกับการที่ประชาธิปัตย์เข้าไปร่วมกับเพื่อไทยตั้งแต่แรก วันนี้หากคณะกรรมการบริหารพรรคปิดทางไม่ให้โอกาสคนเก่าสามารถเข้าไปฟื้นฟูพรรคได้ จึงมีความเป็นไปได้ว่าบุคคลเก่าที่รักประชาธิปัตย์ มีความชอบธรรมในการไปตั้งพรรคใหม่ แต่ในส่วนของท่านชวนเอง ท่านคงไม่ขอเข้าไปมีอำนาจหากมีการตั้งพรรคใหม่ ท่านเองก็เหนื่อยมากแล้ว”

นายนิพิฏฐ์กล่าวอีกว่า วันนี้ได้เตรียมพูดคุยกับคนกลุ่มเก่าที่มีสายเลือด ปชป.ที่แท้จริง มาร่วมกันหาทางออกในการสร้างบ้านหลังใหม่พร้อมอุดมการณ์เก่า หลังจากนี้ก็ต้องพูดคุยกันอีกครั้ง ไม่ได้หวังว่าใครจะกลับมาในตำแหน่งใด หวังแค่อยากเห็น ปชป.ในแนวทางพรรคเดิม พรรคไม่จำเป็นที่จะมองแค่เป็นพรรคร่วมหรือฝ่ายค้าน แต่เน้นแนวทางเดิมเห็นประชาชนเป็นหลัก อยากเห็นคนหนุ่มที่ไม่กลัวแพ้กลับมารวมตัวกัน ไม่อยากเห็นพรรคการเมืองที่เน้นทุนนิยมที่สร้างความวุ่นวายจนเสียหลัก

นายนิพิฏฐ์กล่าวยอมรับว่า ไม่ใช่แค่ตนเองที่เสียความรู้สึก แต่ในกลุ่มของ ปชป.คนเก่าก็ค่อนข้างคิดเหมือนกัน และมองว่าไม่ใช่อุดมการณ์เดิม รวมถึงประชาชนที่ศรัทธาในพรรค ปชป.กว่า 90% ก็ไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ ที่ผ่านมาไม่ได้มีโอกาสพูดคุยกับกลุ่มผู้บริหารพรรคปัจจุบัน เพราะมองว่าพูดไปก็ป่วยการ ไม่มีอะไรสามารถแก้ไขได้ เพราะเขาเลือกแนวทางที่จะเดินและปิดตายช่องทางที่จะกลับมาทำให้ ปชป.เป็นอย่างเดิม เมื่อ กก.บห.ชุดปัจจุบันมองผลประโยชน์ในส่วนของตำแหน่งทางการเมืองเป็นหลัก มากกว่ามองผลประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ เชื่อว่าจะยิ่งทำให้สัดส่วนของสมาชิกพรรคและ สส.ลดน้อยลงจากหลักสิบปัจจุบันเป็นหลักหน่วยในอนาคต

 “ถ้าเป็นไปได้หากคนเก่าของพรรค ปชป.ที่ยังคงรักและยึดมั่นอุดมการณ์กลับมารวมตัวกัน ผมพร้อมที่จะเป็นคนกลางประสานเพื่อก่อตั้งพรรคใหม่ ผมไม่หวังตำแหน่งทางการเมือง แค่อยากรักษาบ้านหลังเก่าที่ชื่อประชาธิปัตย์ให้คู่กับประเทศไทย ไม่อยากให้พรรคล้มหายตายจากเพราะอุดมการณ์ที่เปลี่ยนไป”

เมื่อถามว่า จะฝากอะไรถึงกลุ่มผู้บริหารพรรคปัจจุบัน หรือไม่ นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า ไม่ขอฝากอะไร เพราะขนาดนายชวนซึ่งเป็นบุคคลที่ทุกคนเคารพและยังคงอยู่ภายในพรรคพูด แต่ก็ไม่มีใครฟัง ตนเป็นเพียงคนนอก หากพูดไปก็เชื่อว่าไม่มีใครฟังเช่นกัน คงได้แค่เป็นห่วงอนาคตพรรคเท่านั้น เพราะไม่ได้เป็นคนเคยรัก แต่ยังคงรักพรรคประชาธิปัตย์อยู่

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "หลังจากพรรค ปชป.มีมติเข้าร่วมรัฐบาล และได้นำข่าวดังกล่าวเผยแพร่บนเพจเฟซบุ๊กของพรรค ผลปรากฏว่ามีประชาชนผู้สนับสนุนพรรคเข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ซึ่งหนักไปทางรุมต่อว่าเกือบ 100% ไม่เห็นด้วยกับการที่ ปชป.เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรค พท. หลายคนบอกว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าสูญพันธุ์บ้าง ต่ำสิบบ้าง บางคนใช้คำหยาบคาย บ้างก็บอกว่าจะหยุดสนับสนุนพรรค ไม่เลือกแล้ว อย่างนี้ภาษาโซเชียลเรียกว่าทัวร์ลงจนไม่มีลานจอดรถทัวร์แล้ว"

นายเทพไทระบุอีกว่า "ถ้าจะกล่าวหาว่าเป็นเฟซบุ๊กไอโอหรืออวตารก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่กระแสในสื่อโซเชียลที่แสดงความเห็นมานั้นสอดคล้องกับอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนจริงๆ อาจมีคนเข้ามาอวยอยู่บ้างประปรายหรือน้อยมาก แต่ถูกจับโป๊ะว่าเป็นบัญชีของนายเดชอิศม์ ขาวทอง คอมเมนต์อวยตัวเอง ซึ่งยิ่งสร้างความอับอายให้กับผู้คนในสังคม จนแอดมินเพจพรรคต้องปิดช่องแสดงความคิดเห็น เพราะไม่อาจรับฟังความคิดเห็นที่ตำหนิติเตียน และเห็นต่างกับมติพรรคได้ ถ้าเปรียบตอนนี้จะเห็นว่าเกิดกระแสติดลบ และกว่าจะกอบกู้มาให้เป็นเสมอตัว หรือเท่าทุน ก็ยากกว่าเดิม"

 “อย่าท้าทายความรู้สึกของประชาชน ถ้าประชาชนเสื่อมศรัทธา และไม่สนับสนุนพรรค ก็จะทำให้พรรคเดินหน้าไปได้ยากมาก ขอให้ชาวประชาธิปัตย์จดจำมือทุกมือ ทุกชื่อที่โหวตสนับสนุนให้พรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมรัฐบาลกับระบอบทักษิณไว้ให้ดี เผื่อวันข้างหน้าเมื่อเกิดความเสียหายใดๆ ขึ้นกับพรรค จะได้ทวงถามความรับผิดชอบทางการเมืองได้ หรือว่ากว่าจะถึงวันนั้นพรรคประชาธิปัตย์อาจเสียหายอย่างยับเยินเกินจะกอบกู้ไปเสียแล้ว” นายเทพไทระบุ

วันเดียวกัน สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่อง ความนิยมต่อประชาธิปัตย์ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,346 ตัวอย่าง โดยความนิยมของประชาชนคนเคยเลือกพรรค ปชป.หลังมีข่าวเข้าร่วมรัฐบาลพรรค พท.พบว่า คะแนนนิยมต่อ ปชป.เพิ่มขึ้นหรืออยู่ในแดนบวก 39.9% ในขณะที่คะแนนนิยมส่วนใหญ่ต่อ ปชป.ลดลงหรืออยู่ในแดนลบถึง 60.1% ส่วนคนเคยเลือกพรรค พท.หลังมีข่าวพรรค ปชป.เข้าร่วมรัฐบาล พบว่าคะแนนนิยมต่อพรรค พท.เพิ่มขึ้นหรืออยู่ในแดนบวกสูงถึง 80.4% ในขณะที่คะแนนนิยมต่อพรรค พท.ลดลงหรืออยู่ในแดนลบมีอยู่ 19.6%

ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อจำแนกออกตามกลุ่มอาชีพของคนเคยเลือกพรรค ปชป.พบว่า ปชป.เสียคะแนนนิยมในกลุ่มพนักงานเอกชนที่เคยเลือก ปชป.มากที่สุด 81.1% รองลงมาคือกลุ่มเกษียณอายุ 66.7% กลุ่มค้าขายอาชีพอิสระ 65.3% กลุ่มข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ 62.3% และกลุ่มเกษตรกร 54.7% ส่วนเมื่อจำแนกออกตามกลุ่มอาชีพของคนเคยเลือก พท.พบว่า คนเคยเลือกพรรค พท.สูงสุดที่ได้คะแนนบวกมากสุดคือ กลุ่มเกษียณอายุ 81.8% กลุ่มข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ 80.6% กลุ่มเกษตรกร 79.2% กลุ่มค้าขาย อาชีพอิสระ 73.8% และกลุ่มพนักงานเอกชน 66.9%.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อดีตแกนนำกปปส.สวดยับ 'ปชป.' ซูฮกเพื่อไทย หักหลังปชช.แสวงหาผลประโยชน์

“สาทิตย์” จัดหนัก ปชป. ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย  หักหลังประชาชนที่เคยร่วมต่อสู้กันมา มองวิกฤตทำให้พรรคประชาชนมีโอกาส