จับตาสว.น้ำเงินกินรวบประธานกมธ.

ประชุม สว.จันทร์นี้ส่อเดือด หลังลือสะพัด สายสีน้ำเงิน-บ้านใหญ่บุรีรัมย์ กินรวบประธาน กมธ. 21 คณะ แถมเก้าอี้ประธานวิปวุฒิสภา “อังคณา” แฉแย่งกันเป็นเพราะได้งบเลี้ยงดูปูเสื่อ-เครื่องราชฯ ทุกปี เชื่ออย่างมากโยนให้แค่ 1 คณะ

ในวันจันทร์ที่ 2 กันยายน จะมีการประชุมสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ครั้งที่ 8 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) โดยในวาระเรื่องด่วนจะมีการพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ... ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว

 โดยนายประภาส ปิ่นตบแต่ง สว. ในฐานะ กมธ.วิสามัญ กล่าวว่า ในการประชุม สว.จะพิจารณารายงานของ กมธ.ที่ให้ปรับลด กมธ.ลงจากเดิม 26 คณะ เหลือ 21 คณะ ซึ่งข้อบังคับใหม่หลักเกณฑ์ต่างๆ ยังคงคล้ายสมัยที่ผ่านมา เช่น สว. 1 คนเป็น กมธ.สามัญได้ไม่เกิน 2 คณะ แต่ถ้าเป็นประธาน กมธ.แล้วเป็นได้แค่ 1 คณะ และให้ลดจำนวนอนุ กมธ.ในคณะ กมธ.สามัญแต่ละคณะให้ตั้งได้ไม่เกิน 3 คณะเท่านั้น เป็นต้น

เมื่อถามถึงกระแสข่าว สว.สีน้ำเงินจะเข้าไปเป็นประธาน กมธ.หมดทั้ง 21 คณะ นายประภาสกล่าวว่า ได้ยินแต่ข่าวลือ ซึ่งในแง่การทำงานของ สว.ที่มีหลายกลุ่ม ควรมีการเกลี่ยงานให้ สว.แต่ละคนได้ทำงานที่ตัวเองถนัด ก็หวังว่าจะมีกระบวนการเลือกประธาน กมธ.และ กมธ.แต่ละคณะ ที่ได้คนมีความรู้ความสามารถเข้าไปทำงานใน กมธ.ชุดที่ สว.ถนัด ทั้งการเป็นประธาน กมธ.และ กมธ.ทั้ง  21 คณะ

 “ตอนนี้มีวิปวุฒิสภาที่ไม่เป็นทางการอยู่ วิป สว.ก็ควรไกล่เกลี่ยกันก่อนเพื่อให้ สว.ทำงานร่วมกันได้ เท่าที่ทราบวิป สว.เขาก็กำลังคุยกันอยู่ โดยการเลือกประธาน กมธ.ทั้ง 21 คณะ หากไกล่เกลี่ยเจรจากันก่อนก็จะดี โดยใช้หลักเกลี่ยไปตามสัดส่วนจำนวน สว.ที่รวมตัวกันหลวมๆ รวมถึงการพิจารณาจากความรู้ความสามารถและประสบการณ์ เพราะ สว. 200 คนมาจาก 20 กลุ่มสาขาอาชีพ ก็จะมี สว.แต่ละด้านอยู่แล้ว เช่น กมธ.ด้านสิทธิมนุษยชนก็มี สว.อย่างนางอังคณา นีละไพจิตร เป็นต้น ก็น่าจะเป็นหลักการพิจารณาในการที่จะให้ใครไปเป็นประธาน กมธ.ชุดต่างๆ" นายประภาสกล่าว

มีรายงานว่า ปัจจุบันแม้วิป สว.ยังไม่มีการตั้งอย่างเป็นทางการ เพราะต้องรอให้ประกาศใช้ข้อบังคับการประชุม สว.ฉบับใหม่ก่อน แต่ตอนนี้ก็มีวิป สว.อย่างไม่เป็นทางการแล้ว โดย สว.ที่เป็นตัวหลักประสานงานต่างๆ ระหว่าง สว.ทุกขั้ว คือ พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา แกนนำ สว.สายสีน้ำเงิน  อดีตรองผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก และอดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ที่ทำหน้าที่แกนนำวิป สว.ชั่วคราว ในการคอยเจรจากับ สว.แต่ละขั้ว และยังมีส่วนสำคัญในการทำโผประธาน กมธ. ทั้ง 21 คณะ ทำให้ได้รับการคาดหมายว่าอาจได้ลุ้นตำแหน่งประธานวิป สว. แต่ก็มีข่าวบางกระแสบอกว่า สายสีน้ำเงินและบ้านใหญ่บุรีรัมย์ต้องการให้ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธานวิป สว.

ด้านนางอังคณากล่าวถึงกระแสล็อกชื่อประธาน กมธ.ว่า ได้ยินมานานแล้วจะมีการล็อกประธาน กมธ. และมีการพูดกันว่าจะไม่ให้ สว.กลุ่มอิสระเป็นประธาน กมธ.เลย ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ สว.มี 200 คน มีการถามว่าใครอยากอยู่ กมธ.ไหน ความเห็นส่วนตัวที่มาจาก สว.กลุ่มวิชาชีพ ก็ต้องมาดูว่าใครมีความรู้ความสามารถ ใครอยู่กลุ่มไหน บางคนก็ไม่อยากอยู่กลุ่มอาชีพที่เข้ามา เวลาเลือกก็เห็นว่าควรดูตามความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ไม่เอาแล้วการจับฉลาก

นางอังคณากล่าวว่า สว.กลุ่มอิสระเป็นเสียงที่น้อยไม่ถึง 1 ใน 3 ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ถ้าใช้มติเสียงข้างมากก็แพ้อยู่ดี แต่ถ้าจะให้ประชาชนได้ประโยชน์ ผลงาน สว.ออกมาดี ต้องพิจารณาเลือกคนจากความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ แต่ถ้าจะเอาแค่มาเอาตำแหน่งได้เกียรติยศก็คงสู้ไม่ได้ แต่ทางกลุ่มยืนยันเคยทำงานด้านที่ต้องการมาก็อยากทำงานต่อ แต่ถ้าสู้ไม่ได้ก็ต้องให้ประชาชนจับตามอง

นางอังคณากล่าวถึงท่าทีประธาน สว.ว่า ดูเวลาโหวต สว.เสียงข้างน้อยก็แพ้ตลอด คนเป็นประธาน กมธ.มีห้องทำงาน มีงบรับรอง ได้เครื่องราชฯ ทุกปี ใครก็อยากเป็น  แต่อยากบอกว่าถ้าเอาประโยชน์เป็นที่ตั้ง ต้องดูความสามารถเป็นหลัก คนที่จะมาเป็นประธาน กมธ.ต้องดูตัวเองด้วย ไม่ใช่เหมือนที่ได้ยินมาว่าผลัดกันเป็นคนละปี ได้ฟังแล้วเป็นการเสนอประโยชน์กันเลย ไม่เหมาะสม เป็นผู้ใหญ่กันแล้วไม่ควรเป็นแบบนี้ จึงต้องรอดูการประชุมในวันพรุ่งนี้

 “ดิฉันดูแล้วเป็นเสียงข้างน้อยตลอด ถ้าเขาเอาคนของกลุ่มใหญ่มารวมอยู่ในกลุ่มที่ต้องการ พอลงมติเสียงข้างน้อยก็แพ้อยู่ดี และได้ยินมาว่าจะไม่ให้ สว.เสียงข้างน้อยได้เป็นประธาน กมธ.เลยแม้แต่คณะเดียว สว.กลุ่มเสียงข้างน้อยก็ต้องออกมาช่วยกันยืนยันว่า พวกเรามีความรู้ความสามารถ ถ้าไม่ให้เป็นประธาน กมธ.เลยขอเรียกร้องให้ประชาชนช่วยจับตามอง” นางอังคณากล่าว

ด้านนางประทุม วงศ์สวัสดิ์ สว. กล่าวว่า ได้ยินข่าวมาเหมือนกันว่าจะมีการล็อกประธาน กมธ. ได้ยินมาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา ซึ่งมองว่าเป็นธรรมชาติ เพราะถ้าคุณเจ๋งจริงเราหมอบได้ ยอมให้ทำงานตามที่ต้องการ แต่ถ้าคุณเอาหมอฟันมาทำคลอด แบบนี้เราไม่ยอมถือว่าผิดฝาผิดตัว  เป็น สว.มาจากภาคการท่องเที่ยว แต่ถ้าจะเอาคนมาเป็นประธาน กมธ.ท่องเที่ยวและกีฬา เอาตำรวจหรือเอาคนหัวสี่เหลี่ยมมาเป็นก็ไม่ยอม เพราะงานจะไม่ไปถึงไหนวนอยู่ที่เดิม เอาคนเดิมความคิดแบบเดิม งานก็จะได้แบบเดิมๆ ไม่ยอม

นางประทุมกล่าวว่า คนที่จะมาทำงานจะต้องมีความรู้ความสามารถ ขอวิงวอนการเมืองละเอาไว้ก่อน เพราะการทำงานต้องจริงจัง เคยบอกว่ากีฬากับการท่องเที่ยวต้องแยกคณะ กมธ.กัน แต่ในที่สุดก็ไม่แยกเอามารวมกัน จะผิดฝาผิดตัว ก็ต้องแปรญัตติ แต่การเลือกประธาน กมธ. 21 คณะ ถ้าจะล็อกเอาไว้ทั้งหมดก็ไม่แฟร์ พวกเราต้องส่งเสียงดังทำอะไรสักอย่าง คิดว่าพวกเขาต้องฟัง แต่ทุกอย่างลงเอยที่การโหวต สว. หลายคนเห็นด้วยกับแนวคิดตนเอง แต่ก็ต้องดูว่าเขาจะมีอิสระในการลงมติแค่ไหน ก็หวังว่าในวันโหวต สว.จะมีอิสระ อนาคตต้องทำงานร่วมกัน ถ้าเอาคนไม่รู้เรื่องมาทำงานก็จะเสียหาย คนเราต้องทำงานร่วมกัน 5 ปี จะมองหน้ากันไม่ติด

 “กมธ. 21 คณะทราบว่าเขาจะแบ่งประธาน กมธ.มาให้ สว.กลุ่มอิสระบ้าง เช่น กมธ.ต่างประเทศ เขาบอกว่าเขาไม่เอาเพราะไม่มีคน หาคนมาเป็นประธาน กมธ.ไม่ได้  สำหรับตัวเราเองมาจากกลุ่มท่องเที่ยว ถ้าเอาคนที่ไม่ผิดฝาผิดตัวมาคัดเลือกเป็นประธาน กมธ.ก็รับได้ ก็จะลงแข่งด้วยตามกติกา ไม่ใช่เอาหมูหมากาไก่ที่ไหนมาแข่งไม่รู้ ประชาธิปไตยถ้าแข่งขันกันและมีการโหวต แพ้ก็ยอมรับได้ตามกติกาประชาธิปไตย”

 ด้าน ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ สว.กลุ่มผู้สูงอายุ กล่าวว่า ได้ยินมาเหมือนกันว่ามีการล็อกประธาน กมธ. ซึ่งตำแหน่งประธาน กมธ.ควรสรรหาคนที่เหมาะกับงาน เลือกคนมีศักยภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนมากที่สุด ดีกว่าเลือกใครพวกใคร สำหรับกระบวนการเลือกประธาน กมธ. ถ้าปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติสามารถทำได้ ใครสนใจสมัคร คณะไหน คนที่อยู่ในกลุ่มก็จะรู้ว่าใครมีความสามารถ แต่เมื่อเรามาอยู่ในระบบแบบนี้กังวลไปก็ไม่เกิดประโยชน์ เพราะกลุ่มที่เขาเข้ามาเป็นกลุ่มเป็นก๊วน เขาก็มีวิธีการของเขา

 “ผมอยากให้คิดว่าได้เข้ามาเป็น สว.กันแล้ว มามองประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลักดีกว่า พวกเราต้องกู้ชื่อเสียงที่คนมองว่ามีกลุ่มก๊วนเข้ามายึดสภาสูง จริงเท็จเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ผมขอให้ สว.ทั้ง 200 คนได้พิจารณาเอาประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง หาคนที่เหมาะสมในแต่ละ กมธ. ท้ายสุดประโยชน์จะย้อนกลับมาที่ สว.เอง” ศ.ดร.ชาญณรงค์ระบุ.