ไปข้างหน้าเพื่อชาติ! อิ๊งค์วอนเสื้อแดงให้เข้าใจ ราชทัณฑ์ดิ้นโต้เสรีพิศุทธ์

"นายกฯ อิ๊งค์" เผย ครม.นิ่งแล้ว รอตรวจประวัติเสร็จทำงานได้ทันที แจงจับมือ "ประชาธิปัตย์" เพื่อเสถียรภาพรัฐบาล บอกเข้าใจหัวอกคนเสื้อแดง วอนก้าวไปข้างหน้าเพื่อชาติ ชี้ ปชป.ยุคนี้เปลี่ยนไปแล้ว เมินปม "เสรีฯ" ขอโฟกัสเรื่องสำคัญ "ปชป." ดี๊ด๊ายื่นมติ กก.บห.ร่วม รบ. "ลูกอัศวิน" ไขก๊อกพ้นพรรคอีกราย "หน.พรรคเสรีรวมไทย" ปัดข่าวลือ พท.ง้อ "อธิบดีกรมคุก" ยันไม่เคยอนุญาต "เสรีพิศุทธ์" เยี่ยม "ทักษิณ" อึ้ง! "เลขาฯ  ป.ป.ช." แฉ "ราชทัณฑ์-รพ.ตำรวจ" ยังยื้อไม่ส่งภาพวงจรปิดชั้น 14 ลั่นเตรียมสรุปหลักฐานชี้ในมูลไต่สวนคดีได้หรือไม่ "เรืองไกร" ท้านายกฯ โชว์ใบลาออก 20 บริษัท พิสูจน์ลาออกก่อนรับตำแหน่งหรือไม่

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2567 น.ส.แพทองธาร  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ค่อนข้างลงตัว นิ่งแล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบคุณสมบัติ ส่วนจะเสร็จเมื่อไหร่นั้น คิดว่าใกล้แล้ว เพราะตรวจมาประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว

"เราส่งไปแล้ว ขอให้ใจเย็นนิดนึง เพื่อรอการตรวจสอบคุณสมบัติให้แล้วเสร็จ ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะยื่นทูลเกล้าฯ ได้เลยหรือไม่ ก็หากฝ่ายที่ตรวจสอบตอบกลับมาแล้วรายชื่อลงตัว เราก็จะทำโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะไม่เช่นนั้นการทำงานจะติดปัญหาต่างๆ เช่นการลงพื้นที่ติดเรื่องที่เป็นรัฐบาลที่ยังไม่ได้แถลงนโยบาย เราจะได้บอกประชาชนได้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่" น.ส.แพทองธารกล่าว

ถามถึงการเตรียมนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภาใกล้เสร็จหรือยัง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ใกล้เสร็จแล้ว

ซักถึงการดึงพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.แพทองธารกล่าวว่า รัฐบาลที่ดี รัฐบาลที่จะช่วยเหลือประชาชนได้ เสถียรภาพเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อพรรค พท.ไม่ได้เชิญพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เข้าร่วม การแก้กฎหมายต่างๆ ต้องมีเสียงมากพอ ไม่เช่นนั้นการแก้กฎหมายช่วยเหลือประชาชนอาจสะดุดได้

"วันนี้ฝ่ายบริหารพรรคประชาธิปัตย์ไม่เหมือนในหลายทศวรรษ การที่เราร่วมรัฐบาลกัน ไม่ได้แปลว่าพรรคเพื่อไทยยอมรับการกระทำของผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ในอดีต วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปเยอะมาก เราต้องการรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ การได้เสียงของพรรคประชาธิปัตย์คือปัจจัยที่ทำให้เรามีเสียงมากพอ" น.ส.แพทองธารกล่าว

เมื่อถามว่า คนเสื้อแดงไม่ค่อยเห็นด้วยกับการร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ น.ส.แพทองธารชี้มือมาที่ตัวเองแล้วพูดว่า "นี่คือคนเสื้อแดง" ก่อนกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีเป้าหมายอย่างชัดเจนว่าต้องแก้ไขปัญหาให้ประชาชนให้ได้ และผลักดันนโยบายต่างๆ ให้สำเร็จ นี่คือความตั้งใจ เราทำนโยบายสำเร็จมาเยอะ ในเรื่องของการเมืองมีส่วนหนึ่งที่เราต้องทำให้มีเสถียรภาพให้ได้

"ผ่านมาแล้ว 10-20 ปี หลายอย่างเปลี่ยนไป ผู้บริหารก็เปลี่ยนไป แม้ชื่อจะยังเป็นประชาธิปัตย์เหมือนเดิม แต่หลายอย่างในนั้นเปลี่ยนไปมาก คิดว่าเราต้องเดินหน้าต่อไป ถ้าเรามัวแต่คิดเรื่องการเมืองกันต่อไปก็จะถ่วงหลังประเทศ และการฟ้องร้องอะไรต่างๆ ที่เป็นเรื่องเล็กๆ มากมาย มันไม่ได้จำเป็นสำหรับการบริหารประเทศ" น.ส.แพทองธารกล่าว

อิ๊งค์ขอเสื้อแดงก้าวไปข้างหน้า

ถามอีกว่า จะบอกคนเสื้อแดงอย่างไรที่เห็นต่าง น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ในฐานะนายกฯ ตนสัญญาจะเป็นนายกฯ ของคนไทยทุกคน นี่คือสิ่งที่ต้องเกิดขึ้น ตนมาอยู่ตรงนี้จะทำเพื่อประชาชนทุกคน เข้าใจความรู้สึกของคนเสื้อแดงดี เรื่องเสื้อแดงจะพูดไม่ได้เลยว่าไม่เข้าใจ ตนเข้าใจ แต่วันนี้เราพร้อมหรือยังที่จะก้าวไปข้างหน้า เห็นประเทศชาติที่ดีขึ้นเตรียมไว้ให้ลูกหลาน วันนี้เราต้องเป็นผู้ใหญ่ที่เราต้องพร้อมด้วย นี่คือสิ่งสำคัญ

เมื่อถามถึงกรณีพรรค พปชร.เตรียมยื่นฟ้องนายกฯ ต่อองค์กรอิสระ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า  เราคงไปห้ามเขาไม่ได้ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นภายในพรรค พปชร.ก็ให้เป็นปัญหาของเขา และตนไม่ได้มีส่วนในการตัดสินใจ เมื่อซักว่าเหตุผลที่ไม่เอาพรรค พปชร. เป็นเพราะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า มีเหตุผลหลายอย่างที่ไม่สามารถร่วมงานกับพรรค  พปชร.ได้

ถามว่า ได้คุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะบิดาบ้างหรือไม่ กรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ออกมาระบุได้ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลตำรวจถึง 2 ครั้ง น.ส.แพทองธารกล่าวว่า อยากให้โฟกัสที่เรื่องสำคัญค่ะ

ถามต่อว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์น้อยใจที่ไม่ได้ตำแหน่ง เลยออกมาแฉว่านายทักษิณครอบงำพรรคร่วมรัฐบาล โดยเรียกพรรคร่วมรัฐบาลไปประชุมที่บ้านจันทร์ส่องหล้า น.ส.แพทองธารกล่าวติดตลกว่า อาจจะเป็นตนมากกว่าที่ครอบงำนายทักษิณ ข้อเท็จจริงคือนายทักษิณไม่ได้ครอบงำ  การปรึกษากันคือเรื่องธรรมดา

"ถ้าหากจะหาเรื่องกันเช่นนั้น มันก็เป็นอย่างนั้น แต่ความจริงไม่มีการครอบงำอะไร ทุกคนมีตัวตน มีความคิดเป็นของตัวเอง มีคำปรึกษาจากทุกคนที่สามารถช่วยกัน ทำงานให้ประเทศต่อ ก็แค่นั้นเอง" น.ส.แพทองธารกล่าว

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รายชื่อรัฐมนตรีอยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติและพิจารณาปรับวางตัวบุคคลเพื่อให้เกิดความเหมาะสม และลดปัญหาให้มากที่สุด

"รายชื่อ ครม.ทั้งหมดใกล้เสร็จเรียบร้อย เมื่อทุกอย่างแล้วเสร็จก็จะเป็นกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลตามขั้นตอนของกฎหมายครบถ้วน ครม.ชุดใหม่ก็จะสามารถเริ่มปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที" นายภูมิธรรมกล่าว

ด้านนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ส่งมาให้ตรวจสอบว่า ป.ป.ช.เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ สลค.ส่งมาสอบถาม ซึ่งเราจะรายงานว่ามีเรื่องที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบหรือไม่ แต่จะขาดคุณสมบัติหรือไม่อย่างไร เป็นเรื่องของข้อกฎหมาย เรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับ ป.ป.ช.

"ป.ป.ช.ไม่ได้มีหน้าที่ในการวินิจฉัย เพียงแค่ว่ามีเรื่องที่อยู่ระหว่างการพิจารณาหรือไม่ และเขากระทำความผิดตามข้อกล่าวหาหรือไม่ หรือ ป.ป.ช.ยังไม่ได้ชี้มูล รวมไปถึงแจ้งว่าศาลยังไม่ได้พิจารณาคดี ซึ่งมีความจำเป็นต้องแยกแยะ เพราะใครก็สามารถที่จะถูกร้องมาที่ ป.ป.ช.ได้ หากตรวจสอบแล้วไม่มีมูลความผิด ก็ถือว่าเขาไม่ใช่ผู้ที่กระทำความผิด ดังนั้นจึงเป็นฐานข้อมูลที่เราแจ้งให้ทราบ ส่วนจะนำข้อมูลไปใช้ ก็เป็นอำนาจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง" เลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าว

ปชป.เลือดไหล 'ลูกอัศวิน' ไขก๊อก

ที่อาคารชินวัตร 3 ซึ่งเป็นที่ทำการพรรคเพื่อไทยชั่วคราว เวลา 11.40 น. นายนริศ ขำนุรักษ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เดินทางมายื่นหนังสือที่พรรค พท. ภายหลังที่ประชุมกรรมการบริหารและ สส.พรรค มีมติเห็นชอบเข้าร่วมรัฐบาล โดยจะส่งรายชื่อรัฐมนตรี 2 คน ในสัดส่วนของพรรค ปชป.

นายนริศกล่าวว่า ในที่ประชุม กก.บห.และ สส.พรรคเมื่อคืนวันที่ 29 ส.ค. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคในฐานะประธานในที่ประชุม ได้แจ้งว่าพรรค ปชป.ได้รัฐมนตรี 2 ตำแหน่ง ประกอบด้วย รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ รมช.สาธารณสุข

ถามว่า การร่วมงานทางการเมืองระหว่าง พท.กับ ปชป. จะเข้าคำโบราณที่ว่า ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวรหรือไม่ นายนริศกล่าวว่า ไม่เป็นเช่นนั้น  คิดว่าการร่วมรัฐบาลครั้งนี้ก็จะช่วยผลักดันนโยบายของพรรค ซึ่งเชื่อว่าถ้ารัฐบาลทำงานได้เป็นไปตามนโยบายและประชาชนพึงพอใจ คิดว่าโอกาสที่จะไปได้จนครบวาระก็เป็นไปได้

ขณะที่ นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรค ปชป. กล่าวว่า เมื่อการประชุม กก.บห.และ สส.มีมติพรรคออกมา เมื่อคัดค้านการร่วมรัฐบาลและผลออกมาเป็นเช่นนี้ ถือว่าทุกคนได้แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา เชื่อว่าประชาชนจะเป็นคนตัดสินในอนาคต แต่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครผิดหรือถูก ทุกคนอยากเห็นพรรคไปข้างหน้า และมีเอกภาพ ดังนั้นการได้แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา จึงได้มีการลงมติและเห็นชอบว่าจะเข้าร่วมรัฐบาล 

นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลาและอดีตสมาชิกพรรค ปชป. ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงเหตุผลลาออกจากพรรค ปชป. ยอมรับว่า เราไม่สามารถลืมอดีตในการต่อสู้กับระบอบทักษิณในนามพรรค ปชป. พรรคอื่นไม่ได้ว่าอะไร เพราะเขามีแนวทางการทำการเมืองของเขา แต่สำหรับพรรค ปชป. สู้กับระบอบทักษิณมาโดยตลอด แต่วันหนึ่งบอกว่าระบอบทักษิณดีแล้วให้คนไปเห็นด้วย คิดว่าเป็นการทรยศประชาชน เราจูงใจบอกประชาชนมานาน มีการต่อสู้ผ่านการชุมนุมประท้วง แต่สุดท้ายเสมือนว่าเขาโดนหลอก ตนรู้สึกเสียใจ และสภาพแบบนี้ไม่เหมาะกับตน สุดท้ายอยู่ที่ประชาชนจะพิพากษาพรรคอย่างไร

               ส่วนนายพงศกร ขวัญเมือง อดีต สส.กทม.พรรค ปชป. โพสต์เฟซบุ๊กระบุได้ยื่นลาออกจากสมาชิกพรรค ปชป.แล้ว โดยตอนหนึ่งบอกว่า วันนี้พรรค ปชป.ไม่ได้ทำให้ตนมีความเชื่อมั่นว่าการทำงานร่วมกับพรรค ปชป. จะทำให้สามารถใช้ความรู้ความตั้งใจและความสามารถทำประเทศให้ดีขึ้นได้ จึงขอยุติการร่วมงานกับพรรค ปชป.

วันเดียวกัน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ออกมาชี้แจงกรณีมีกระแสข่าวจะได้ดำรงตำแหน่งรองนายกฯ ใน ครม.อิ๊งค์ เพื่อแลกกับการหยุดแฉว่า ไม่มีการติดต่อทาบทามมา แม้จะมีการติดต่อมาก็ไม่สนใจ ยังคงยืนยันในจุดยืนที่ได้แถลงไปแล้วเมื่อวันที่ 29 ส.ค. ในการถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล และมาทำหน้าที่เป็นพรรคฝ่ายค้านอิสระในการตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล

"เชื่อว่ารัฐบาล น.ส.แพทองธาร จะไม่มีการติดต่อมา เพราะเลยช่วงระยะเวลาการพูดคุยการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีมาแล้ว" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าว

ที่กรมราชทัณฑ์ นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เปิดหลักฐานมีบุคคลนัดหมายพาเข้าเยี่ยมนายทักษิณระหว่างคุมขังรักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจว่า กรมราชทัณฑ์พร้อมชี้แจงหากมีข้อกล่าวหาใด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใดเรียกตรวจสอบ ก็พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมดูแลนายทักษิณเข้าให้ข้อมูล

"กรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยืนยันกรมราชทัณฑ์ไม่เคยอนุญาตให้เข้าไปเยี่ยม โดยรายชื่อผู้ที่เข้าเยี่ยมนายทักษิณมีแค่ 10 รายชื่อ ซึ่งเป็นญาติและทนายความ ส่วนข้อความแชตไลน์เราก็ไม่สามารถไปบอกได้ว่าเป็นไปได้อย่างไร กรมราชทัณฑ์มีหน้าที่ดูแลผู้ป่วย และควบคุมให้เป็นตามระเบียบทั้งหมด และไม่เคยอนุญาตให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เข้าเยี่ยม" นายสหการณ์กล่าว

กรมคุกลั่นเสรีฯ ไม่เคยขึ้นชั้น 14

ถามว่า หากมีบุคคลอื่นหรือบุคคลใน 10 รายชื่อพาเข้าเยี่ยมสามารถทำได้หรือไม่ อธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าวว่า ต้องมีการขออนุญาตต่อเจ้าหน้าที่ผู้คุมก่อน ซึ่งจากรายงานไม่เคยมีการอนุญาตให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เข้าเยี่ยม โดยช่วงที่นายทักษิณอยู่ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ มีการจัดเจ้าหน้าที่ผลัดเวรยาม 24 ชั่วโมง ก็ต้องดูว่าที่ พล.ต.อ.เสรีศุทธ์จะเปิดเผยเพิ่มเติมคืออะไร แต่กรมราชทัณฑ์ยืนยันได้และพร้อมชี้แจง

ด้านนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบกรณีนายทักษิณรักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจว่า ขณะนี้ ป.ป.ช.ตรวจสอบไปมากแล้ว มีข้อมูลมาพอสมควร เดี๋ยวจะมีการสรุปว่ามีมูลในการไต่สวนได้หรือไม่

"หลักฐานภาพวงจรปิดในชั้น 14 นั้น ทาง ป.ป.ช.ได้ขอไปนานแล้ว แต่ยังไม่ได้ ซึ่ง ป.ป.ช.ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจอยู่ตลอด" นายนิวัติไชยกล่าว

ถามว่า การขอไปแล้วแต่หน่วยงานไม่ได้ให้ภาพมา ถือว่าผิดปกติหรือไม่ เลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าวว่า อาจจะต้องเข้าไปตรวจสอบว่ามีภาพกล้องวงจรปิดหรือไม่ หากมีแล้วใช้ได้หรือไม่ รวมถึงได้ขอข้อมูลเวชระเบียนของนายทักษิณ และข้อมูลอื่นๆ  ไปอีกหลายเรื่อง แต่ยังได้มาไม่ครบ

ซักว่าการที่หน่วยงานภาครัฐยังไม่ให้เอกสารมา ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของ ป.ป.ช.หรือไม่ เลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าวว่า กฎหมายให้อำนาจ ป.ป.ช.ในการตรวจสอบ หากไม่ได้รับความร่วมมือ ป.ป.ช.มีสิทธิ์เข้าไปตรวจสอบถึงเหตุผลว่าทำไมจึงไม่ให้ และมีข้อเท็จจริงอย่างไร ตามหลักการหน่วยงานนั้นต้องชี้แจงเป็นไปตามระเบียบการทำงานของหน่วยงาน

ถามถึงกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เปิดเผยรายละเอียดถึงการไปเยี่ยมนายทักษิณที่ชั้น 14 จำเป็นต้องเชิญมาเป็นพยานหรือไม่ เลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าวว่า ต้องดูว่าการจะเชิญนั้นจะสอบถามในเรื่องอะไร และมีความจำเป็นจะต้องเชิญมาหรือไม่ ซึ่งต้องให้เจ้าหน้าที่พิจารณา เรื่องนี้ตนยังไม่สามารถตอบได้

"ประเด็นที่ คปท.เคยร้องขอให้ ป.ป.ช.เชิญ  พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์มาเป็นพยานนั้น เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่พิจารณาว่ามีความจำเป็นหรือไม่ การเชิญมาให้ข้อมูลนั้นมีน้ำหนักหรือไม่ ไม่เช่นนั้นทุกคนบอกว่าให้เชิญใครมาก็ต้องเชิญมาหมด ต้องพิจารณาน้ำหนักและข้อเท็จจริงที่เพียงพอ เพราะหากมีการฟ้องร้องทางคดี จะต้องนำไปเป็นพยานและหลักฐานด้วย" เลขาธิการ ป.ป.ชกล่าว

เมื่อถามถึงกรณีผลสอบของกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ (กสม.) ที่พบว่านายทักษิณได้รับสิทธิการรักษาพยาบาลดีกว่าผู้ต้องขังรายอื่น ที่มีการส่งเรื่องต่อให้กับ ป.ป.ช.นั้น นายนิวัติไชยกล่าวว่า ได้รับข้อเสนอของ กสม.แล้ว ซึ่งจะนำมาพิจารณาเป็นความเห็นประกอบ เป็นไปตามหน้าที่ขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรอบเวลาในการดำเนินงานสอบสวนเรื่องนี้จะใช้เวลาเท่าไหร่ นายนิวัติไชยกล่าวเพียงว่า ต้องดูข้อเท็จจริงที่ได้รับว่าได้ข้อมูลครบถ้วนหรือไม่

มีรายงานว่า เมื่อครั้งที่มีการควบคุมดูแลนายทักษิณที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ได้มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกว่า 100 นาย ที่จะต้องเข้าให้ปากคำกับ ป.ป.ช. รวมถึงผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ด้วย

ด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า วันนี้ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้แสดงหลักฐานต่อสาธารณะเกี่ยวกับการลาออกจากกรรมการบริษัทต่างๆ รวม 20 บริษัท ของ น.ส.แพทองธาร เมื่อวันที่ 15 ส.ค.2567 ก่อนได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 ส.ค.2567 ว่า น.ส.แพทองธารได้ลงนามในหนังสือลาออกทั้ง 20 บริษัทจริงหรือไม่ มีสำเนาใบลาออกที่ลงรับโดยแต่ละบริษัทโดยถูกต้องตามวันและเวลาหรือไม่

นายเรืองไกรกล่าวว่า การไปจดทะเบียนว่าบริษัททั้ง 20 แห่งได้รับหนังสือลาออกในวันเดียวกัน คือวันที่ 15 ส.ค.นั้น น่าสงสัยว่าหนังสือลาออกที่แต่ละบริษัทระบุได้รับเมื่อวันที่ 15 ส.ค.2567 จริงหรือไม่ เหตุใดจึงไปจดทะเบียนวันที่ 19 ส.ค.2567 จึงควรมีการนำหลักฐานมาแสดงให้ดูว่าแต่ละบริษัทได้รับหนังสือลาออกอย่างไร มีการลงเลขที่รับและวันเวลาไว้หรือไม่

"หากการลาออกถูกต้องตามวันเวลาดังกล่าวจริง ก็ไม่มีปัญหาต่อการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่หากการลาออกมีการทำเอกสารย้อนหลัง หรือลาออกจริงหลังจากวันที่ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็อาจมีประเด็นให้ กกต. ตรวจสอบว่าความเป็นนายกรัฐมนตรีจะต้องสิ้นสุดลงเฉพาะตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (5) ประกอบมาตรา 187 หรือไม่" นายเรืองไกรระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กกต.จับตาศึก ‘อบจ.ราชบุรี’

ประธาน กกต.ยันจับตาเลือกตั้ง อบจ.ราชบุรีวันอาทิตย์นี้ เตือนอย่าทำอะไรผิดกฎหมาย “2 ผู้สมัคร” แห่หาเสียงโค้งสุดท้าย โดยเฉพาะเด็กค่าย ปชน.

โผ ครม.แพทองธาร ลงตัวแล้ว 'ภูมิธรรม' นั่งรองนายกฯ ควบกลาโหม

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าการจัดคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใต้การนำของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย ซึ่งตอนนี้กระแสข่าวการจัดครม.นิ่งแล้วนั้น โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย

'หัวหน้าเท้ง' ไม่สนหน้าตารัฐบาลเป็นแบบใด ลั่นทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้ดีที่สุด

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย จะทำให้การทำงานของฝ่ายค้านอ่อนแอลงหรือไม่ ว่า ตนเองคิดว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบอะไร