ช่วยนักโทษติดคุกหมด เสรีพิศุทธ์ถอนตัวงัดหลักฐานมัดแก๊งชั้น14/ปชป.มีมติร่วมรบ.

"นายกฯ อิ๊งค์" อารมณ์ดีนัดสื่อให้สัมภาษณ์เรื่องการเมือง 30 ส.ค. "ภูมิธรรม" มั่นใจเสถียรภาพรัฐบาล หลังดึง "ปชป.-ก๊วนธรรมนัส"  ร่วม ลั่นไม่กลัวเหนื่อย อ้อน ปชช.จับตาพวกจองกฐิน ร้องมั่วไร้หลักฐาน "ผู้กอง" เลี่ยงตอบกลุ่มได้ 3  เก้าอี้ "บิ๊กป้อม" ยังยิ้มได้นัดประชุมใหญ่ พปชร. 6  ก.ย. แต่งตั้ง กก.บห.เพิ่ม "ไพบูลย์" ยก กม.แพ่งสะกิดนายกฯ ไม่รักษาคำมั่นต่อสาธารณะ เสี่ยงไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ "วิรัช" เหน็บพวกทิ้งลุงไม่สำนึกบุญคุณ "ปชป." แตกยับ! "ศิริโชค" ไขก๊อกพ้นพรรค "มาดามเดียร์" ซัดผู้บริหารชุดใหม่ "จุรินทร์" ยี้ระบบทักษิณ 20 ปีไม่จางหาย สุดท้ายไร้ผล "กก.บห.ปชป." มีมติ 34 เสียงร่วมรัฐบาลอิ๊งค์ "เสรีพิศุทธ์" รับน้อยใจ "แม้ว" ตัดสัมพันธ์ 51 ปี ถอนตัวร่วม รบ. งัดแชตไลน์วันขึ้นชั้น 14 รพ.ตำรวจ เชื่อคนเกี่ยวข้องติดคุกระนาว

เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 11.25 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าอาคารชินวัตร 3 ซึ่งเป็นที่ทำการชั่วคราวพรรคเพื่อไทย  (พท.) ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ทักทายสื่อมวลชนอย่างอารมณ์ดี โดยเมื่อถูกขอสัมภาษณ์ในประเด็นต่างๆ  รวมถึงเรื่องการเมือง

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เอาไว้พรุ่งนี้ (30 ส.ค.) นะสัมภาษณ์ พรุ่งนี้นะเรื่องการเมือง เมื่อถามว่าแต่ในวันที่ 30 ส.ค. นายกฯ จะลงพื้นที่เรื่องน้ำท่วม  น.ส.แพทองธารกล่าวย้ำว่า ได้

จากนั้น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี พร้อม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เข้าหารือกับ น.ส.แพทองธาร โดยนายภูมิธรรมกล่าวถึงเสถียรภาพรัฐบาลว่า เสถียรภาพรัฐบาลตอนนี้แน่นมาก ไม่น่ากังวล

ถามว่า กังวลหรือไม่กับการที่ไปเชิญพรรคการเมืองมาร่วมรัฐบาล หรือบางกลุ่มที่มาไม่เต็มร้อย  นายภูมิธรรมกล่าวว่า ที่ผ่านมาการตั้ง ครม.ของทุกครั้งมีมามีไป และมีไปมีมา มีหลวมมีแน่น ก็มีอย่างนี้มาตลอด เป็นเรื่องธรรมชาติที่เคยมีมาแล้ว ไม่มีอะไรต่างหรือพิเศษไปจากเดิม เมื่อถามว่าแสดงว่าไม่ได้ห่วงเสถียรภาพรัฐบาลว่าวันข้างหน้าจะเหนื่อยหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า พวกเราตัดสินใจเข้ามาแล้ว เราพร้อมทำงานไม่กลัวเหนื่อย เราพยายามจะทำหน้าที่ให้ได้ เราพยายามทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อให้พี่น้องประชาชนสบายใจ

"พวกจองกฐินจริงๆ ต้องยอมรับว่าความเป็นจริงมันเป็นอย่างนี้ แต่ผมคิดว่าประชาชนต้องช่วยดู  อย่าปล่อยให้มีการร้องโดยที่ไม่มีสาระ หรือไม่มีหลักกฎหมายหรือข้อเท็จจริงมาเป็นตัวหลักหลักฐาน ไม่เช่นนั้นจะบั่นทอนการทำงานของคนที่ตั้งใจทำงาน เราก็ยินดีเข้าตามกระบวนการ จริงๆ น่าจะมีกฎหมาย มันไม่ควรจะเปิดให้มีโอกาสนำเงื่อนไขนี้มาร้องเรียนเรื่อยๆ ที่ไม่มีเหตุมีผล มีหลักฐานที่เพียงพอ ผมคิดว่าน่าจะมีการทบทวน" นายภูมิธรรมกล่าว

ส่วน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวถึงความชัดเจนในการร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยว่า เรื่องพวกนี้สื่อก็ทราบอยู่แล้ว คงไม่ต้องให้ตนพูดซ้ำ ซึ่งกลุ่มตนประกาศชัดเจนสนับสนุนรัฐบาล

ถามว่า ได้โควตารัฐมนตรี 3 เก้าอี้ใช่หรือไม่  ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า รอให้มีการโปรดเกล้าฯ ลงมาก็จะทราบ เมื่อซักถึงโควตา 3 เก้าอี้ ร.อ.ธรรมนัสรีบปฏิเสธทันทีว่า ไม่ใช่ 3 เก้าอี้ของตน ตนไม่ได้ส่งใคร

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีการประชุมกรรมการบริหารพรรค พปชร.ครั้งแรก หลังจากพรรคเพื่อไทยมีมติไม่ให้พรรคพลังประชารัฐร่วมรัฐบาล

นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมว่า วันนี้มาด้วยความรักความผูกพันกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พวกเราเห็นว่าตอนเลือกตั้งกว่าจะได้มาเหนื่อยเลือดตาแทบกระเด็น เหนือ ใต้ ออก ตก มีหัวหน้าพรรค มีตน มีเลขาธิการพรรค 2-3 ที่ประจำอยู่ แต่วันนี้พอแยกกัน มันก็มีความรู้สึกว่าใจหาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ตั้งอกตั้งใจในการที่จะทำอย่างไรให้พรรคพลังประชารัฐคงอยู่

 “ผมก็มาคิดถึงเรื่องอดีตเดิมๆ และคิดว่า เอ๊ะ ตอนเลือกตั้งก็อีกแบบนึง พอหลังเลือกตั้งก็มีความรู้สึกว่า เงินก็เงินลุง ซื้อเหล้ามากิน กินเสร็จ เมาก็เตะลุง ผมมีความรู้สึกแค่นั้น” นายวิรัชกล่าว

พปชร.ยก 'กม.แพ่ง' เตือน 'อิ๊งค์'

ต่อมาเวลา 09.34 น. พล.อ.ประวิตรสวมชุดสีน้ำเงินมีตราสัญลักษณ์พรรค เข้าร่วมประชุมด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ทักทายผู้สื่อข่าว ซึ่งกรรมการบริหารพรรคในสัดส่วนของ พล.อ.ประวิตร 13 คน จากทั้งหมด 19 คน มากันอย่างพร้อมเพรียง ขาดแต่ กก.บห.ในกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส 6 คน ที่ไม่ได้เดินทางมาร่วมประชุม

ภายหลังการประชุม นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พปชร. แถลงว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบกำหนดการประชุมใหญ่สามัญของพรรคครั้งที่ 2/2567 ในวันที่ 6 ก.ย. เวลา 10.30-13.00 น. ที่ห้องประชุมใหญ่ อาคารสำนักงานใหญ่พรรคพปชร. โดยมีวาระพิจารณาคือ แต่งตั้งกรรมการบริหารพรรคเพิ่มเติม และแต่งตั้งกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งเพิ่มเติม นอกจากนี้จะมีเรื่องแจ้งเพื่อทราบอีกเล็กน้อย

นายไพบูลย์กล่าวว่า เรื่องของพรรค พปชร.ไม่เกี่ยวอะไรกับพรรค พท. เรื่องของพรรค พปชร.เกี่ยวกับนายกฯ โดยตรง ในเรื่องที่นายกฯ ได้มีสัญญาประชาคมเสมือนหนึ่งเป็นคำมั่นกับพรรค พปชร. แสดงออกต่อสาธารณะอย่างครบถ้วนแล้ว พรรคได้เห็นชอบให้ น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ และ น.ส.แพทองธารได้ให้คำมั่นว่า จะให้พรรค พปชร.มีที่นั่งใน ครม.ตามสัดส่วนเดิมและตำแหน่งเดิม หลังจากให้คำมั่นทางพรรค พปชร.ได้ให้ สส.ไปออกเสียงสนับสนุนให้ น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ ทั้งหมด 39 เสียง อาจจะมีหัวหน้าพรรคคนเดียวที่ติดภารกิจ มีเหตุจำเป็น จึงเป็นเรื่องที่นายกฯ ต้องดำเนินการตามคำมั่นที่ให้ไว้

นายไพบูลย์กล่าวว่า อยากจะให้ความรู้ทางกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 362 ซึ่งบัญญัติไว้ว่า “บุคคลออกโฆษณาให้คำมั่นว่าจะให้รางวัลแก่ผู้ซึ่งกระทำการอันใด ท่านว่าจำต้องให้รางวัลแก่บุคคลใดๆ ผู้ได้กระทำการอันนั้น แม้ถึงมิใช่ว่าผู้นั้นจะได้กระทำเพราะเห็นแก่รางวัล” ซึ่งนายกฯ ให้คำมั่นแล้ว และหลังจากนั้นนายกฯ ก็บอกว่าพรรค พปชร.เป็นรัฐบาล มีการโฆษณาเผยแพร่ผ่านสื่อ ยืนยันว่าไม่มีอะไรที่เราไปเกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย แต่เกี่ยวกับนายกฯ โดยเฉพาะ

"พรรค พปชร.ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วง ที่ท่านควรจะห่วงควรจะห่วงท่านนายกฯ มากกว่า เพราะการไปให้คำมั่นมาแล้ว ทำครบถ้วนสมบูรณ์แบบนั้นแล้ว และนายกฯ เล่นไม่ปฏิบัติตามคำมั่น วิญญูชนโดยทั่วไป เขาก็จะว่าได้ว่านายกฯ อาจจะมีปัญหา จะโดนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ อาจจะขาดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ เรื่องความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์เป็นเรื่องสำคัญ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 14 ส.ค." นายไพบูลย์กล่าว

ถามว่า ในการประชุมใหญ่พรรค จะมีการขับ สส.ในกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัสหรือไม่ นายไพบูลย์ยืนยันว่า ไม่มี ใครจะไปขับครอบครัว เป็นครอบครัวเรา

 วันเดียวกัน นายศิริโชค โสภา อดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ภาพหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรค ปชป. มีผลตั้งแต่ 29 ส.ค.2567 พร้อมข้อความตอนหนึ่งระบุว่า เมื่อพรรค ปชป.ในปัจจุบันมีอุดมการณ์ที่ต่างไปจากพรรคประชาธิปัตย์ในอดีตเป็นอย่างมาก จึงมีความจำใจต้องเดินจากไป แม้จะมีความอาลัยอาวรณ์ต่อพรรคมากก็ตาม เพราะเชื่อเสมอว่านักการเมืองต้องมีสัจจะวาจาและอุดมการณ์ที่ต้องรักษา หากปราศจากทั้งสองสิ่งนี้ ก็เป็นได้แค่นักเลือกตั้ง

ส่วน น.ส.วทันยา บุนนาค สมาชิกพรรค ปชป. โพสต์เฟซบุ๊กแสดงท่าทีหลังพรรค พท.มีหนังสือเทียบเชิญพรรค ปชป.เข้าร่วมเป็นรัฐบาล หัวข้อ "ก้าวข้ามความขัดแย้ง หรือก้าวข้ามหัวประชาชน?" ตอนหนึ่งระบุว่า การตัดสินใจของผู้บริหารพรรคชุดนี้ไม่เพียงซ้ำเติมทำลายวิกฤตศรัทธาของพรรคที่ชาวประชาธิปัตย์ในอดีตเพียรสร้างมาอย่างสิ้นเชิง หากแต่คือการทำลายวิกฤตศรัทธาของการเมืองไทย ที่สุดท้ายนักการเมืองไม่อาจเป็นความหวัง การเลือกตั้งเป็นเพียงพิธีกรรม ให้นักการเมืองเข้ามาร่วมกันแสวงหาประโยชน์ของตนเอง

มติ ปชป.ร่วม รบ.เพื่อไทย

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป. ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมกรรมการบริหาร (กก.บห.) และ สส.ของพรรคว่า เราต้องยืนอยู่ในจุดที่รักษาไว้ คือเมื่อเลือกปฏิบัติกับเรา เราก็จะอย่าไปเลือกเขา ยืนยันว่าไม่มีเรื่องขัดแย้งส่วนตัว ตนเป็นนายกฯ มา 2 สมัย ไม่เคยเลือกปฏิบัติ นี่เป็นจุดแตกต่างระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย

"เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องปกป้องผลประโยชน์ประชาชน ถ้าผมบิดเบือนเจตนารมณ์ คนอื่นต้องไม่เกี่ยวเป็นเรื่องส่วนตัวผม จึงขอยืนยันว่าไม่สามารถยอมรับวิธีที่เลือกปฏิบัติต่อพื้นที่ ดังนั้นผมต้องแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่ผมไปบอกประชาชน ดังนั้นสำหรับผม คนอื่นไม่เกี่ยว ต้องยืนยันว่าอย่าทรยศประชาชน” นายชวนกล่าว

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรค ปชป. ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม กก.บห.และ สส.พรรคเช่นกัน ยืนยันว่า ไม่เห็นชอบร่วมรัฐบาลเพื่อไทย ตนไม่เอาระบอบทักษิณ มีความชัดเจนในตัวของมันว่าเหตุผลคืออะไร ไม่อยากวิจารณ์อะไรมาก ที่สำคัญที่สุดคือไม่ใช่เรื่องอดีตเมื่อ 20 ปีที่แล้ว แต่เป็นระบอบที่ยังอยู่ในปัจจุบัน นี่คือเหตุผลบางส่วนที่ตนจะนำไปพูดในที่ประชุมพรรค

"ในสถานการณ์ปัจจุบัน ประชาชนอยากหวังพึ่งพรรคประชาธิปัตย์เพื่อทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เพื่อเป็นปากเสียง ตรวจสอบรัฐบาลแทนประชาชน เท่าที่ติดตามถือว่ามีมากและไม่น้อย โดยทั้งหมดนี้จะไปพูดในที่ประชุมพรรค เพื่อชั่งน้ำหนักว่าเหตุผลเป็นอย่างไร" นายจุรินทร์กล่าว

ถามว่า บทบาทของนายจุรินทร์ในสภาจะไม่เปลี่ยนไปเลย และจะอภิปรายรัฐบาลอย่างหนักหน่วงหรือไม่ นายจุรินทร์หัวเราะก่อนกล่าวว่า ตนก็จะทำหน้าที่ สส. เพราะประชาชนเลือกมา เราก็ต้องตอบแทนบุญคุณประชาชนที่เขาเลือกเรามา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุม กก.บห.พรรค ปชป. ได้มีป้ายปริศนาโผล่ที่หน้าอาคาร ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ซึ่งเป็นอาคารที่ใช้ประชุม กก.บห. โดยมีข้อความว่า “เพียงเพื่อสนองตัณหาของคนสองสามคน เราจะยอมคบคนชั่วเป็นมิตรโดยไม่รู้จักแยกดี แยกชั่ว เลยหรือ”

ต่อมาเวลา 17.30 น. ได้เริ่มประชุม กก.บห.พรรค มีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค และนายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค เป็นประธานการประชุม พิจารณาวาระการเข้าร่วมรัฐบาลพรรค พท. โดย กก.บห.มีทั้งหมด 38 คน แต่มาประชุม 35 คน ลาประชุม 3 คน เนื่องจากติดภาระ คือ น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร รองหัวหน้าพรรค, นายชนินทร์ รุ่งแสง รองเลขาธิการพรรค และนางกันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์ กก.บห.

มีรายงานว่า ในการประชุม กก.บห.พรรค ปชป. มีบางส่วนมองว่าการเข้าไปเป็นรัฐบาลคุ้มหรือไม่ เพราะอนาคตไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร หากรัฐบาลอยู่ไม่ยาว การเข้าร่วมรัฐบาลครั้งนี้ก็ไม่คุ้ม  และเมื่อเข้าไปร่วมรัฐบาลแล้วก็ต้องทำงานเต็มที่   แต่ก็อาจจะถูกรวมไปเป็นผลงานของพรรคแกนนำรัฐบาล ในขณะที่การทำหน้าที่ฝ่ายค้านในเวลานี้ ถึงจะทำหน้าที่ได้แต่ก็ไม่เต็มที่ เพราะเสนอประเด็นอะไรไปพรรคแกนนำฝ่ายค้านก็ไม่เห็นด้วย

หลังจากที่ กก.บห.ต่างแสดงความเห็นกันอย่างกว้างขวาง ที่ประชุมได้มีการลงมติเอกฉันท์  34 เสียง เห็นด้วยกับการร่วมรัฐบาล ส่วนนายเฉลิมชัยไม่ลงคะแนนตามข้อบังคับพรรค

จากนั้นได้เข้าสู่ที่ประชุมร่วม กก.บห.และ สส.เพื่อพิจารณาในเวลา 19.30 น.

เสรีฯ โชว์แชตขึ้นชั้น 14 รพ.ตร.

ที่พรรคเสรีรวมไทย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย แถลงถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลกับพรรค พท. โดยระบุว่า ขณะนี้พรรคเสรีรวมไทยทำหน้าที่พรรคร่วมรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว แม้ยังต้องการทำงานให้ประเทศ แต่เมื่อไม่มีโอกาสก็ขอไปทำงานด้านอื่นก็ได้ ที่ผ่านมานายเศรษฐาตั้งนักโทษมาเป็นรัฐมนตรี แต่ปัจจุบันนักโทษมาตั้งรัฐมนตรีเอง จะอยู่ร่วมกันต่อไปได้อย่างไร จึงได้ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเมื่อวันที่ 27 ส.ค. และมีมติ 7 เสียงต่อ 4 เสียง ให้ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ไปเป็นฝ่ายค้านอิสระ

  ถามว่า เหตุผลที่ถอนตัวเพราะน้อยใจใช่หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ตนโกหกใครไม่เป็น ตนน้อยใจ เมื่อถามว่านายทักษิณรับปากจะให้ตำแหน่งหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า พูดกับตนไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งว่าเป็นหนี้บุญคุณตน แต่พูดแล้วก็เฉย แม้กระทั่งตอนตนไปเยี่ยมที่ รพ.ตำรวจ ก็พูดว่าต้องตอบแทน แต่ก็เฉย ไม่เป็นไร เพราะการจัดตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องของ น.ส.แพทองธาร เป็นอำนาจนายกฯ แต่ลืมตนทุกที ไม่รู้ว่าคิดอย่างไร อาจคิดว่าพรรคเสียงเดียว

 “ขอยืนยันว่าผมเคยไปเยี่ยมนายทักษิณ 2 ครั้ง ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ คือช่วงเดือน พ.ย.2566 และเดือน ก.พ.67 และมีหลักฐานยืนยันเป็นข้อความสนทนาในแชตไลน์ การพูดคุยระหว่างตัวแทนของนายทักษิณกับผม เพื่อนัดวันเวลาที่จะให้ผมเข้าไปพบนายทักษิณที่ รพ.ตำรวจ ครั้งแรกนัดพบกันเดือน พ.ย.66 ครั้งที่สอง ตัวแทนของนายทักษิณได้ส่งแบบฟอร์มการขอให้ถอนคำฟ้องที่ผมฟ้องนายเศรษฐาต่อ ป.ป.ช.มาให้ผมลงนาม พร้อมกับนัดเวลาอีกครั้งในวันที่ 4 ก.พ.67 เวลา 10.00 น. มีหลักฐานการไปพบนายทักษิณจริงๆ ส่วนตัวแทนนายทักษิณที่เจรจาทางแชตเป็นใคร ยังไม่ขอเปิดเผย รวมถึงอาการของนายทักษิณระหว่างที่ไปเยี่ยมที่ชั้น 14 มีอาการเป็นอย่างไร ยังไม่ขอพูด ขอชี้แจงเป็นสเต็ปๆ ยังไม่อยากปล่อยข้อมูลทั้งหมดว่าคุยอะไรกันบ้าง ขณะนี้ผมหันหลังให้นายทักษิณ ถือว่าหมดเวลาแล้ว” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าว 

 ถามว่า ถ้าตอนนี้มีการต่อรองให้เก้าอี้รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง จะเอาหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ไปก็โง่สิ เดินมาขนาดนี้ มันก็รบกันท่าเดียว แน่นอนว่าขอตัดสัมพันธ์นายทักษิณ คบมา 51 ปีแล้ว ทำได้แค่นี้ จะคบต่อไปทำไม หลังจากนี้ให้รอดู ป.ป.ช.จะเชิญตนไปให้ข้อมูลหรือไม่ ขอบอกเลยว่าจะต้องติดคุกกันทั้งหมด ตั้งแต่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผบ.เรือนจำ และแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ

 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยังเชื่อว่า นายกฯ แพทองธารอยู่ได้ไม่ถึงปี สั้นกว่านายเศรษฐา จะตายด้วยเรื่องของนายทักษิณเอง รวมถึงเรื่องคดีของ น.ส.แพทองธารด้วย แต่เราคงไม่ถึงขั้นไปยื่นร้อง น.ส.แพทองธาร 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหลักฐานในแชตไลน์ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ได้ยกรายละเอียดตอนหนึ่งมา เช่น เมื่อวันที่ 7 ม.ค.2567 อีกฝ่าย ระบุว่ามี sms จาก “นายกปู” มา อีกทั้ง วันที่ 9 ม.ค.2567 มีการส่งไฟล์ PDF มา หัวข้อเขียนว่า "หนังสือถอนร้องเรียน" โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า เป็นการขอให้ถอนเรื่องร้องเรียนนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ก่อนที่ต่อมาเมื่อวันที่ 22 ม.ค.2567 จะทวงถามว่า "ท่านเซ็นหนังสือส่ง ป.ป.ช.หรือยังครับ"

ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ว่า ถ้าเอากันจริงๆ แล้ว กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ตนเชื่อว่ามีภาพถ่ายและเรื่องราวหลักฐานอย่างอื่นครบถ้วน ดังนั้นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ควรเร่งดำเนินการ อย่าให้ชักช้า

 “คนที่มีหน้าที่ทำเรื่องนี้ คุณรู้เต็มอกอยู่แล้ว ตั้งแต่ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เขา (นักโทษ) เข้าประเทศด้วยการสร้างจินตนาการหลอกมาจัดการก้าวไกล แต่เห็นอยู่แล้วว่า เขาไม่ได้มาจัดการอะไร สิ่งที่เขาจัดการคือชาติ ละเลงความตกต่ำให้ประเทศ กร่อนเซาะทำลายพรรคการเมืองทุกพรรคเละเทะจนศรัทธาเสื่อมย่อยยับกันหมด” นายจตุพรกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ไพบูลย์' ลั่นครอบครัว พปชร.มีความสุขดีไปห่วงนายกฯอิ๊งค์ เรื่องความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ดีกว่า

เคาะประชุมใหญ่พลังประชารัฐ 6 ก.ย. แต่งตั้ง กก.บห.เพิ่ม ไม่ขับก๊วนธรรมนัส 'ไพบูลย์' บอกสื่อไม่ต้องห่วง พปชร. ให้ห่วง 'แพทองธาร' พร้อมยก กม.แพ่งสอน ระวังไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ตีมึนปมคลิปบ้านจันทร์ส่องหล้า