ยี้ปชป.ผสมพันธุ์พท. เสื้อแดง-ชวนซัดทรยศปชช./เด็กป้อมจองเวรอิ๊งค์

"เพื่อไทย" ส่งเทียบเชิญ "ประชาธิปัตย์" ร่วมรัฐบาล อ้างผลประโยชน์ชาติ "สรวงศ์" ระบุทิ้งความขัดแย้งไว้ข้างหลังเดินหน้า ปท. ชี้ ปชป.ยุคนี้จับมือกันได้ "เดชอิศม์" หวานบอกเรารักให้อภัยกัน นัดประชุม กก.บห.พรรคขอมติ 29 ส.ค. แย้มได้ 2 เก้าอี้ รมต. "ชวน" ลั่นไม่ทรยศ ปชช. ควงผู้อาวุโสค้านร่วม รบ. ยอมรับจับมือ พท.กระทบฐานเสียงภาคใต้ กรีดบางกลุ่มเข้ามาใช้ตำแหน่งแสวงหาผลประโยชน์ "เสื้อแดง" เสียงแตก "ก่อแก้ว" รับได้ ปชป.ไม่ใช่ชุดสลายชุมนุม "ธิดา" อัดยับ "ทักษิณ" คิดแต่ปูทางให้น้องกลับ "บิ๊กป้อม" นัดประชุม กก.บห.พฤหัสฯ นี้ "ชัยวุฒิ" พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ฮึ่ม! ต่อไปตรวจสอบไม่เกรงใจใคร "เรืองไกร" ยื่น กกต.สอบ "แพทองธาร" ปมถือหุ้น​-ลาออก​จากบริษัทตาม รธน.หรือไม่

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2567 เวลา 09.20 น.  น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าอาคารชินวัตร 3 ซึ่งเป็นที่ทำการพรรคเพื่อไทย  (พท.) ชั่วคราว โดยได้หันมาทักทายสื่อมวลชนด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส มีคณะทำงานมารอรับ แต่ยังไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด

ส่วนนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี  ซึ่งไปร่วมงานครบรอบ 80 ปี เฉลิมฉลอง 8  ทศวรรษของความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างอินเดียและไทย ได้กล่าวสุนทรพจน์ตอนหนึ่งว่า แม้สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทยช่วงที่ผ่านมามีปัญหาด้านเสถียรภาพ แต่ก็ยังเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศ และเชื่อใจว่า น.ส.แพทองธารเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง มีความสามารถ และมีวิสัยทัศน์ทางธุรกิจที่เฉียบแหลม จะสามารถสานต่อรากฐานความร่วมมือระหว่างไทยและอินเดียให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ที่รัฐสภา เวลา 11.25 น. นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ยื่นหนังสือเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เข้าร่วมรัฐบาลแก่นายเดชอิศม์ ขาวทอง  สส.สงขลา ในฐานะเลขาธิการพรรค ปชป. พร้อมกันนี้ได้มี สส.ของทั้ง 2 พรรคร่วมเป็นสักขีพยาน

นายสรวงศ์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา  พรรค พท.ได้พูดคุยกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ปชป. และนายเดชอิศม์ ว่าวันนี้จะยื่นหนังสืออย่างเป็นทางการให้กับพรรค ปชป. เป็นส่วนหนึ่งของการบริหารประเทศและเป็นรัฐบาลร่วมกัน

ถามถึงโควตารัฐมนตรีของพรรค ปชป. ได้ รมว. 1 ตำแหน่ง รมช. 1 ตำแหน่งหรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีที่จะแต่งตั้งและทูลเกล้าฯ ถวายต่อไป ตนไม่ขอก้าวล่วงในเรื่องนี้ เมื่อถามอีกว่าพรรค พท.และพรรค ปชป.จะทำงานร่วมกันได้จริงหรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า อย่างที่นายเดชอิศม์เคยกล่าวไว้ เมื่อก่อนก็คือเมื่อก่อน แต่ปัจจุบันมั่นใจว่าในสภาผู้แทนราษฎรทุกคนมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือทำให้ประชาชนและประเทศชาติไปได้ด้วยดี

"ไม่มี สส.พรรค พท.คัดค้าน ขอให้นำคำสัมภาษณ์ของนายเดชอิศม์เป็นที่ตั้งว่าประเทศชาติต้องเดินหน้าต่อ ทุกอย่างผ่านไปแล้ว ประเทศชาติต้องเดินหน้าต่อ พรรคของพวกเราร่วมต่อสู้กันมานาน แต่วันนี้มาถึงคนรุ่นใหม่ที่มาดูแลพรรค ส่วนอุดมการณ์ทางการเมืองก็เป็นเรื่องของอุดมการณ์   แนวทางการทำงานเราไปด้วยกันได้แน่นอน" นายสรวงศ์กล่าว

ซักว่า มีการวิจารณ์ว่าทั้ง 2 พรรคหักหลังประชาชน เพราะเคยพาประชาชนออกไปชุมนุมแล้วเกิดการบาดเจ็บล้มตาย สุดท้ายมาจับมือกัน  เลขาฯ พรรค พท.กล่าวว่า ในอดีตอุดมการณ์ทางการเมืองของ พท.และ ปชป.ไม่เหมือนกันเลย แต่วันนี้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารพรรค หัวหน้าทั้ง 2 พรรค รวมถึงเลขาฯ และสมาชิกพรรคทุกคนมุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกันว่าปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนต้องได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้น เพราะประเทศชาติถอยหลังไปมาก ดังนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่จะต้องเดินหน้าร่วมกัน ความขัดแย้งต้องทิ้งไว้ข้างหลัง

พอถามว่า พี่น้องเสื้อแดงได้สะท้อนความคิดเห็นถึงการเข้าร่วมรัฐบาลในครั้งนี้หรือไม่ เลขาฯ พรรค พท.กล่าวว่า พี่น้องเสื้อแดงวันนี้ก็ได้มีการพูดคุยกันอยู่ และเห็นตรงกันว่าถ้าเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมทุกคนเข้าใจได้

ถามต่อว่า เป็นแผนปิดสวิตช์ 3 ป.ใช่หรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า ไม่ใช่แผน ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้เกิดขึ้นด้วยความตั้งใจ แต่พอถึงวันนี้เราทำงานร่วมกัน 1 ปีแล้ว เราเห็นถึงคำอภิปรายต่างๆ ของพรรค ปชป. เราก็ดูการทำงานของผู้บริหารพรรคปชป.ในยุคนี้ คิดว่าก็สามารถทำงานร่วมกับพรรค พท.ได้

ปชป.ดี๊ด๊านัดประชุม กก.บห.

ด้านนายเดชอิศม์กล่าวว่า ขอบคุณพรรค พท. ที่ให้ความไว้วางใจพรรค ปชป. และเห็นความสำคัญของพรรคในการที่จะช่วยกันดูแลประเทศ  หลังจากนี้พรรค ปชป.จะต้องนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคและที่ประชุม สส. ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 29 ส.ค.นี้

ถามถึงการทำความเข้าใจกับผู้สนับสนุนพรรค ปชป.ในภาคใต้ นายเดชอิศม์กล่าวว่า วันนี้ประชาธิปัตย์ไม่มีความขัดแย้ง เรามีแต่ความรักความเข้าใจและการให้อภัยกัน อย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจว่าเหตุการณ์เมื่อ 20-30 ปีที่ผ่านมากับปัจจุบันไม่เหมือนกัน ปัญหาของประเทศ แนวคิด การพัฒนาประเทศไม่เหมือนกัน ดังนั้นพอถึงเวลาที่เราพูดคุยกันได้ ที่เรารักกันเป็นสิ่งที่ดีงาม

เมื่อถามว่า กลุ่มของนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรค ปชป. คัดค้านการร่วมรัฐบาลกับพรรค พท. นายเดชอิศม์กล่าวว่า  ก่อนหน้านี้อาจมีความคิดเห็นเป็น 2 ฝ่าย แต่เมื่อมีมติของพรรคก็ต้องปฏิบัติตาม จากนี้ถ้ามีคนในพรรคโหวตแตกต่างจากมติของพรรคคงทำเช่นนั้นไม่ได้

ซักว่า กังวลหรือไม่จะมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี นายเดชอิศม์กล่าวสั้นๆ ว่า ไม่กังวล และตนก็ยังไม่ทราบเลยว่าเรื่องใน ป.ป.ช.ของตนคือเรื่องอะไร น่าจะไม่เกี่ยวอะไรกับตน ถ้ามีเรื่องร้องเรียนทุกคนก็ไม่มีใครเป็นกันได้ เพราะคนนั้นคนนี้ก็ไปร้องเรียน ส่วนรายชื่อบุคคลที่พรรคจะส่งไปเป็นรัฐมนตรีนั้นต้องรอที่ประชุมพรรคก่อน

"จากนี้ไปอีก 3 ปี ภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ผมขออย่างเดียว ให้โอกาสนายกฯ และ ครม.ชุดใหม่ได้ทำงาน ถ้าทำอะไรผิดหรือไม่ดีค่อยร้องเรียน ไม่ใช่ออกมาพูดเพียงอย่างเดียว ขอให้ดูที่ผลงาน" นายเดชอิศม์กล่าว

ที่พรรคประชาธิปัตย์ น.ต.สุธรรม ระหงษ์ รองหัวหน้าพรรค ปชป. ในฐานะ ผอ.พรรค กล่าวว่า ขณะนี้พรรคได้ลงรับหนังสือเชิญเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้จะเข้าสู่กระบวนการตามข้อบังคับพรรค ซึ่งได้หารือกับนายเฉลิมชัย คาดว่าจะประชุมกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค ในวันที่ 29 ส.ค. เวลา 17.00 น. และประชุมร่วม กก.บห.กับ สส.พรรค เวลา 19.30 น. เนื่องจากมีประชุมร่วมรัฐสภาและประชุมสภาในวันที่ 29 ส.ค. จึงต้องรอให้ สส.ได้ประชุมเสร็จก่อนถึงจะประชุมร่วม กก.บห.ได้ โดยองค์ประชุมร่วม แบ่งเป็น กก.บห. 38 คน สส. 25 คน แต่ก็มีในส่วนที่ซ้ำซ้อน เป็น กก.บห. และ สส.จำนวน 10 คน ดังนั้นองค์ประชุมทั้งหมดจึงมีจำนวน 53 คน

"การประชุมจะมีวาระเดียวคือการเข้าร่วมรัฐบาล และการเสนอชื่อบุคคลไปดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งจะเป็นไปตามข้อบังคับพรรคทั้งหมด อย่างไรก็ตาม คาดว่าน่าจะใช้เวลาการพิจารณาพอสมควร ส่วนชื่อบุคคลที่จะไปเป็นรัฐมนตรีนั้น อยู่ที่ที่ประชุมว่าจะเสนอไปกี่คน เช่นเดียวกับผลกระทบที่จะตามมาจากการเข้าร่วมรัฐบาล ก็ต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมว่าใครจะหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมา แต่คิดว่าคงจะมีการพูดกันอย่างกว้างขวางในทุกมิติถึงการเข้าร่วมรัฐบาล" น.ต.สุธรรมกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังให้สัมภาษณ์ น.ต.สุธรรมได้นำหนังสือเชิญจากพรรค พท.มาแสดงต่อสื่อมวลชน

ต่อมาเวลา 12.10 น. นายเดชอิศม์เดินทางเข้าที่ทำการพรรค พร้อมกล่าวว่า มารายงานหัวหน้าพรรค ส่วนเรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์เรียบร้อยไปนานแล้ว ทางพรรคก็ตรวจสอบคุณสมบัติในส่วนของพรรคอยู่แล้ว

นายเดชอิศม์กล่าวว่า ในส่วนตำแหน่งของรัฐมนตรีหัวหน้าพรรคเป็นคนคุย ตนไม่ได้คุยในเรื่องนี้ วันนี้ทราบข่าวมาคือได้ 2 เก้าอี้รัฐมนตรี ส่วนจะเป็นกระทรวงไหน เป็นรัฐมนตรีว่าการหรือรัฐมนตรีช่วยว่าการนั้น เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี และพรรคจะคัดใครอยู่ที่ที่ประชุม กก.บห.และ สส.  ตนไม่อยากก้าวล่วง

ส่วนนายเฉลิมชัยกล่าวถึงเรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรีว่า ไม่กังวลอะไรเลย รอให้ที่ประชุมพรรคมีมติอย่างเดียว มติที่ประชุมระบุว่าอย่างไรก็ตามนั้น ถามว่าได้พูดคุยกับนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อและอดีตหัวหน้าพรรค ปชป.แล้วหรือไม่  นายเฉลิมชัยเลี่ยงตอบคำถาม โดยกล่าวสั้นๆ ว่า “พรุ่งนี้เจอกันครับ” ก่อนจะนั่งรถยนต์ออกไปจากที่ทำการพรรค

ขณะที่นายชวนให้สัมภาษณ์ว่า ในวันที่ 29 ส.ค. มีการนัดประชุม กก.บห.พรรค ปชป.และ สส.พรรค ในเวลา 19.30 น. ส่วนตัวขอยืนยันในจุดยืนเดิม ไม่เห็นด้วยกับการเข้าร่วมรัฐบาลพรรค พท. ที่มีตั้งแต่วันแรกที่การตั้งรัฐบาลชุดของนายเศรษฐา ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพราะไม่สามารถทรยศประชาชนได้

ชวนควงผู้อาวุโสค้านร่วม รบ.

นายชวนกล่าวว่า ตนเป็นคนขอร้องประชาชนไม่ให้เลือกพรรคไทยรักไทย พรรคเพื่อไทย ไม่ใช่เพราะความขัดแย้งส่วนตัว แต่เป็นเพราะพรรคเหล่านั้นประกาศชัดเจนที่จะพัฒนาจังหวัดที่เลือกเขาก่อน ส่วนจังหวัดอื่นไว้ทีหลัง วิธีเหล่านี้เราไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมา 90 ปี ไม่เคยมีรัฐบาลชุดไหน ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้ง หรือมาจากการยึดอำนาจ ยิ่งพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล จะให้ความเป็นธรรมกับทุกภาคอย่างยุติธรรมโดยไม่สนใจว่าใครจะเลือกใครเป็นรัฐบาล แต่จัดการบ้านเมืองด้วยความเป็นธรรม

ถามว่า หากในวันที่ 29 ส.ค. มติของพรรคเห็นด้วยในการร่วมรัฐบาลเพื่อไทย นายชวนกล่าวว่า คงไม่ใช่การเห็นด้วย เพราะมีการติดต่อกันแล้ว ที่มาถามว่าเขามาเชิญ ความจริงตนคิดว่าคนของเราไปติดต่อเขาก่อนเขาเชิญ หรือสงสัยว่าไปขอให้เขามาเชิญด้วยซ้ำ แต่ตามมารยาทก็มาเชิญด้วยวิธีนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะก่อนหน้าที่จะมีหนังสือเชิญ คนของเราบางคนก็ไปประสานติดต่อ จึงถูกสื่อมวลชนเรียกว่าพรรคอีแอบ พรรครอเสียบ  จึงอยากขออย่าเรียกพรรค ปชป.แบบนี้ เพราะเป็นพฤติกรรมของคนส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่คนส่วนใหญ่ การเรียกแบบนี้ทำให้พรรคเสื่อมเสีย

"ผมอยากปกป้องเกียรติภูมิของพรรค เราไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจที่ตั้งขึ้นมาเพื่อให้คนใดคนหนึ่งได้เป็นนายกฯ อยู่สัก 1-2 สมัยแล้วล้มไป แต่พรรค ปชป.อยู่มาเกือบ 80 ปี ปฏิบัติตามอุดมการณ์ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดมั่นหลักประชาธิปไตยมาอย่างยาวนาน ไม่อยากให้เสื่อมเสียด้วยการกระทำของ กก.บห.พรรคชุดปัจจุบัน ยอมรับว่าผมเป็นเสียงข้างน้อยในพรรคที่ชัดเจนตั้งแต่มีการลงมติเลือกนายเศรษฐาเป็นนายกฯ และผมได้หารือกับนายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ และนายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา ว่าอย่างน้อย 4 คน จะยังคงยืนยันในจุดยืนเดิม แต่ไม่ว่ามติของพรรคเป็นอย่างไร ก็พร้อมจะเคารพ เพียงแต่ไม่เห็นด้วยที่จะร่วมกับพรรคการเมืองที่เคยกลั่นแกล้งประชาชน และเชื่อว่าการตัดสินใจร่วมรัฐบาลในครั้งนี้จะส่งผลต่อฐานเสียงภาคใต้ไม่น้อย” นายชวนกล่าว

ถามว่า หลายคนมองพรรค ปชป.อาจสูญพันธุ์ได้ นายชวนกล่าวว่า ความดีของพรรคยังมีอยู่ ผลงานก็มี แต่คนไม่ค่อยพูดถึง แต่คนที่รู้เขาจะยังระลึกถึง คงต้องใช้เวลาในการพัฒนาพรรคให้กลับมาน่าเชื่อถือเหมือนเดิม เพราะในสมัยก่อนไม่เคยคิดว่าจะต้องร่วมรัฐบาลทุกครั้ง ไม่จำเป็นต้องไปเหมา ไปซื้อพรรคเพื่อเป็นเสียงข้างมากเหมือนอย่างในสมัยของนายทักษิณทำ แต่เข้าใจว่านักการเมืองรุ่นหลังไม่คิดที่จะเติบโต คิดเพียงว่าจะเป็นรัฐมนตรีสัก 2-3 คนก็พอแล้ว

ซักว่าคนรุ่นใหม่มองหมดยุคของนายชวนแล้ว  นายชวนกล่าวว่า มันไม่มีกำหนดอายุ มีคนคิดเหมือนกันว่าตนเป็นขวากหนามของเขา ทำให้ไปร่วมรัฐบาลไม่ได้ จึงพยายามพูดว่าหมดยุคของผู้อาวุโส แต่ในความจริงแล้วตนเป็นผู้สร้างมากกว่าผู้ทำลาย และคนที่พูดเหล่านั้นอาศัยบารมีพรรคที่พวกตนทำเอาไว้ แต่คนเหล่านั้นยังไม่เคยทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับพรรคเลย เพียงแต่อาศัยชื่อพรรคเพื่อเข้ามาเป็นนักการเมือง

"เขาก็เพิ่งเข้าพรรค มาอาศัยบารมีของพรรคที่คนรุ่นก่อนเขาสะสมสร้างมา นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน  เป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 9  ยังไม่ได้สร้างความน่าเชื่อถือให้พรรคเท่ากับรุ่นก่อน ดังนั้นใครที่คิดจะปลดต้องดูกฎหมาย ซึ่งไม่ได้กำหนดอายุ ผมยังคงทำหน้าที่ของตัวเองอยู่ ผมกลายเป็นคนหัวคัดค้าน ทั้งที่มีหลายคนไม่เห็นด้วย แต่เขาไม่อยากเปลืองตัว เป็นการกระทำของคนบางกลุ่ม ทำให้คนทั่วไปยังเข้าใจว่าประชาธิปัตย์ยังพอใช้ได้อยู่ เพียงแต่คนบางกลุ่มเท่านั้นที่เข้ามาใช้ตำแหน่งในพรรคเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ของตัวเอง ซึ่งคนกลุ่มนั้นไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับผม จนพยายามจะบอกว่าขัดแย้งมาแล้ว 20 ปี จึงอยากถามว่าขัดแย้งเรื่องอะไร ไม่ได้ทะเลาะเพื่อประโยชน์ส่วนตัวกัน แต่เป็นเรื่องของประชาชน” นายชวนกล่าว

นายชวนยังกล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาเคลื่อนไหวหลังหายไป 17 ปี โดยมีการลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม อีกทั้งยังเป็นบิดาของนายกรัฐมนตรี จะเป็นการครอบงำพรรคหรือไม่ว่า มันก็เหมือนที่ท่านพูดว่าไม่ได้ครอบงำ แต่เป็นการครอบครอง พูดง่ายๆ คือเหมือนเป็นเจ้าของพรรค ดังนั้นเจ้าของสามารถกำหนดได้ว่าใครจะเป็นหัวหน้า ใครจะเป็นนายกฯ หรือใครจะเป็นรัฐมนตรี โดยต้องยอมรับบารมีของนายทักษิณเปลี่ยนแปลง สมาชิกก็ต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลง

รทสช.ปรับส่งบิ๊กเล็ก รมช.กห.

นายสัมพันธ์ ทองสมัคร อดีต สส.นครศรีธรรมราช 13 สมัย พรรคประชาธิปัตย์ และอดีต รมว.ศึกษาธิการ เจ้าของฉายา "หมอผี" ได้โพสต์รูปภาพตัวเองพร้อมกับข้อความสั้นๆ ในกลุ่มไลน์อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่มีสมาชิกอยู่กว่า 50 คนว่า "ปชป.ไปร่วม พท. กรรมการบริหารพรรค น่าติดยาบ้า ต้องหาสถานที่บำบัด"

ด้านนายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ  พรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)  ยอมรับว่า พี่น้องเสื้อแดงยังมีความติดใจในพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นองค์กรที่บริหารโดยมีกรรมการบริหารพรรคมาหลายยุคหลายสมัย แต่ปัจจุบันนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้บริหาร รวมถึงกรรมการบริหารพรรคก็ไม่ใช่กลุ่มคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปี 53 แต่อย่างใด

 “ทีมที่เป็นปัญหาคือทีมที่ออกคำสั่งใช้การสลายการชุมนุม แต่วันนี้ไม่อยู่แล้ว วันนี้เป็นการผลัดใบของคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาทำหน้าที่บริหาร เท่าที่สัมผัสกันโดยส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าพรรค หรือเลขาธิการพรรค ก็มีมุมมองในการเมืองที่ดี ไม่ฝักใฝ่ทหาร ไม่ฝักใฝ่อำนาจนอกระบบ และมีความตั้งใจที่จะจับมือกับพรรคการเมืองในการขับเคลื่อน  ผมไม่ได้ติดใจเลย แต่ถ้าเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปี 53 แล้วเข้ามาเป็นรัฐมนตรี คงไม่เห็นด้วย” อดีตแกนนำ นปช.กล่าว

อย่างไรก็ตาม นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธาน นปช. แสดงความไม่เห็นด้วยที่พรรค พท.ส่งเทียบเชิญพรรค ปชป.ร่วมรัฐบาลว่า ขณะนี้พรรค พท.ตั้งแต่นายทักษิณกลับมาก็หน้ามืดหมดแล้ว คิดแต่ว่าทำอย่างไรก็ได้ให้ได้เป็นรัฐบาล โดยไม่คิดว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร คิดแต่ว่าตัวเองต้องได้กลับมา หรืออาจนึกไปถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะได้กลับมาด้วย วิธีคิดของพรรค พท.ในตอนนี้ใช้โมเดลพรรคไทยรักไทยที่คิดว่าอย่างไรคนก็เลือกเขา ถ้าเขาทำเศรษฐกิจได้ดี แต่ต้องไม่ลืมว่าปัจจุบันประชาชนเปลี่ยนไปหลายตลบแล้ว

 “คนเสื้อแดงคิดว่าแม้พรรค ปชป.ไม่ได้มาร่วมรัฐบาล ก็คงไม่เอาพรรค พท.อยู่แล้ว ตั้งแต่เอา 2 ลุงมาสืบทอดอำนาจ ทั้งที่ทั้ง 2 ลุงมีส่วนสำคัญในการเข่นฆ่าประชาชน และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาการเมือง แต่ก็กลายมาเป็นพวกเดียวกัน และกลายเป็นเครื่องมือของอำมาตย์ แต่ดิฉันก็เข้าใจได้ว่าเขาไม่ใช่พรรคที่ต่อสู้ในการพัฒนาการเมือง แต่เป็นพรรคที่ต้องการเป็นรัฐบาลเท่านั้น” นางธิดากล่าว

ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวในส่วนโควตารัฐมนตรีของพรรค 4 ตำแหน่งตามเดิมที่มีกระแสข่าวมาตลอด โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ควบ รมว.พลังงาน, นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค นั่ง รมว.อุตสาหกรรม, นายสุชาติ ชมกลิ่น ดำรงตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ และ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมช.การคลัง

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีกระแสข่าวว่าได้มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของโควตา น.ส.พิมพ์ภัทรา  โดยมีชื่อของ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขานุการ รมว.กลาโหม และที่ปรึกษา รมว.กลาโหม อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ  (สมช.) มานั่งเป็น รมช.กลาโหม ซึ่งเป็นคนนอก แต่ 1 เก้าอี้ รมช.นี้ยังเป็นโควตาของพรรค รทสช.

ทั้งนี้ พล.อ.ณัฐพลมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งแต่ครั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ทำงานใกล้ชิดและถือเป็นน้องรัก ทั้งนี้ ในยุครัฐบาลนายเศรษฐา ชื่อ พล.อ.ณัฐพลติดโผนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีมาโดยตลอด

พปชร.ลั่นตรวจสอบไม่เกรงใจ

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ได้ทำหนังสือเรียกประชุม กก.บห.พรรค ในวันที่ 29 ส.ค.67 เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมชั้น 5 ที่ทำการพรรค โดยขอให้เข้าร่วมประชุมพร้อมเพรียงกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การนัดประชุม กก.บห.ครั้งนี้ เกิดขึ้นภายหลังพรรค พท.มีมติไม่ดึงพรรค พปชร.เข้าร่วมรัฐบาล ทำให้พรรค พปชร.ในฝั่งของ พล.อ.ประวิตรต้องไปเป็นฝ่ายค้าน

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า เมื่อพรรค พท.มีมติออกมาเช่นนี้ก็ชัดเจน เราก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เพราะจริงๆ เหตุผลที่ พล.อ.ประวิตรไม่ให้ความร่วมมือ ไม่ไปลงมติให้น.ส.แพทองธาร เราได้มีการชี้แจงไปแล้วว่าในวันดังกล่าวหัวหน้าพรรคติดภารกิจ ไม่สามารถไปโหวตได้ แต่ สส.ของพรรค 39 เสียงไปโหวตให้หมด จึงคิดว่าไม่น่าใช่สาระสำคัญในการไม่นำเข้าไปร่วมรัฐบาล

"สส.ของพรรค พปชร.ในฝั่ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคนั้น คงยังไม่มีการดำเนินการอะไร พล.อ.ประวิตรยังถือว่าทุกคนยังเป็นสมาชิกพรรค อย่าทะเลาะกัน ซึ่งพรรคจะอยู่อย่างนี้ไปก่อนอีกสักระยะ จะยังไม่ขยับอะไร วันนี้เราทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ก็มีหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล นำเสนออะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน พร้อมทำหน้าที่ดังกล่าวอยู่แล้ว" นายชัยวุฒิกล่าว

รองหัวหน้าพรรค พปชร.กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรสบายใจดี และเข้าใจสถานการณ์การเมือง เตรียมพร้อมเดินหน้าทำงานต่อ และไม่ได้มีความเครียดอะไร แต่อาจจะเสียความรู้สึก เพราะได้ตกลงกันแล้ว มาเปลี่ยนทีหลัง ถ้าไม่อยากให้ร่วมรัฐบาลหรือไม่อยากให้ส่งรายชื่อรัฐมนตรีไปน่าจะบอกกันก่อนที่จะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี  ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตรพร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน พรรคอยู่ตรงไหนต้องทำงานให้ได้ ไม่มีปัญหา และยืนยันว่าไม่เคยได้ยินว่า พล.อ.ประวิตรจะลาออกจาก​ สส.​

ถามว่า มองมีความตั้งใจจะปิดสวิตช์ ป.ประวิตรหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า​ แค่นี้ปิดไม่ได้หรอก ยังคงทำงานอยู่ และชัดเจนว่าถ้าไม่ร่วมรัฐบาลกันเราก็เป็นฝ่ายค้าน ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างเต็มที่ ตรงไปตรงมา ไม่ต้องเกรงใจกัน​

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรมีแผนที่จะเอาคืนหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า คงไม่เอาคืน เพราะไม่ได้แค้นอะไรขนาดนั้น เพื่อไทยก็ทำหน้าที่ไป เราก็ทำหน้าที่ไป ถามอีกว่า มองว่าเป็นการตระบัดสัตย์หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า ไม่เป็นไปตามข้อตกลงในการร่วมรัฐบาล ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงควรจะมีการบอกกันก่อน

ถามถึงกรณีนายเรืองไกร​ ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นร้อง กกต.ปมถือหุ้นและเป็นกรรมการบริษัทเอกชนของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะถูกมองเป็นการเอาคืนหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า แล้วแต่คนจะมอง ตนไม่สามารถตอบแทนได้

วันเดียวกัน นายเรืองไกรส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ กกต.ตรวจสอบ น.ส.แพทองธาร ว่าได้มีหนังสือลาออกจากกรรมการบริษัทต่างๆ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.2567 จริงหรือไม่ เหตุใดจึงจดทะเบียนกรรมการออกในวันที่ 19 ส.ค.2567 หลังจากที่ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกฯ เมื่อวันที่ 16 ส.ค.2567 แล้ว และกรณีดังกล่าวจะเข้าข่ายเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (5) ประกอบมาตรา 187 หรือไม่

"ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีก ซึ่งรอให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องส่งข้อมูลมาให้ และจะนำมาตรวจสอบเพื่อส่งให้ กกต.พิจารณาต่อไป" นายเรืองไกรระบุ

นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช สมาชิกพรรค พปชร. กล่าวว่า ภายหลังจากที่นายเศรษฐาถูกถอดถอนจากศาลรัฐธรรมนูญ แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคเดินทางไปบ้านจันทร์ส่องหล้า ซึ่งมีข้อมูลมารายงานถึง พล.อ.ประวิตร ว่าจะให้นายชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกฯ 3 เดือน และจะให้ทุกคนอยู่ตำแหน่งเดิม แต่สุดท้ายกลับเป็นข่าวเป็น น.ส.แพทองธาร และเมื่อพรรคร่วมมีมติโหวตให้นายกฯ จากพรรคเพื่อไทย ก็ไม่มีการเสนอแข่ง แม้คนอภิปรายก็ไม่มี เพราะทุกพรรคเชื่อคำมั่นสัญญาลูกผู้ชาย ไม่คิดว่าจะมีการเบี้ยวหรือหักหลังกัน

ถามว่าจะมีการเอาคืนหรือไม่ นายสามารถกล่าวว่า ไม่เอาคืน แต่ใช้กระบวนการกฎหมาย ลุงป้อมก็ดูดไปป์ อารมณ์ดี  เมื่อวานก็ดูข่าว ท่านไม่ได้เครียดอะไร เมื่อถามว่ามองเรื่องนี้เป็นแผนปิดสวิตช์ 3 ป.หรือไม่ นายสามารถกล่าวว่า ปิดไม่ได้อยู่แล้ว เพราะ พล.อ.ประวิตร ยังเป็น สส.และแคนดิเดตนายกฯ อยู่ เมื่อถามย้ำว่า พล.อ.ประวิตรยืนยันใช่หรือไม่ว่าจะไม่ลาออกจาก สส. นายสามารถกล่าวว่า ยังไม่เห็นบอกว่าลาออก ท่านยังยืนยันว่าไม่ลาออก

เมื่อถามว่า มีคนมองว่าบุคคลนิรนามที่ไปยื่นยุบพรรคเพื่อไทย มีความเกี่ยวข้องกับ พล.อ.ประวิตร นายสามารถกล่าวว่า อย่าโยงแบบนี้ ไม่เป็นธรรมกับ พล.อ.ประวิตร ทั้งนี้ หากการกระทำใดของนายกฯ ไม่ชอบธรรมหรือไม่ถูกต้อง  ประชาชนก็ไปยื่นได้อยู่แล้ว

 “ถ้าเราไม่ทำผิด ใครจะไปยื่นตรวจสอบเราได้” นายสามารถกล่าว

ในส่วนพรรคประชาชน (ปชน.) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ปชน. ปฏิเสธแสดงความเห็นการจับมือกันระหว่างพรรค พท.กับพรรค ปชป. ระบุว่า ขอทำหน้าที่ในตำแหน่งฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ และเตรียมความพร้อมที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งปี 70 และระหว่างนี้ก็มีสนามเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นสิ่งสำคัญ

"สิ่งที่พรรคการเมืองต้องถูกตัดสินคือประชาชน ฉะนั้นในอดีตทำอะไรมา และฟังรัฐบาลมาจับขั้วอะไรแบบนี้ ตนคิดว่าดีไม่ดีอย่างไรก็ต้องให้ประชาชนตัดสินดีที่สุด" นายณัฐพงษ์กล่าว

เมื่อถามว่า ต้องมีการพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตรหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า คิดว่าต้องทำหน้าที่เหมือนคุยกับพรรคอื่นตามปกติในสภาเวลาอภิปรายมีการประชุมร่วมกับทุกพรรคอยู่แล้ว และคงไม่แตกต่างอะไรจากเดิม.