เคาะ‘กริพเพน’ แทนขับไล่F16 ออปชันจัดเต็ม

ทอ.เคาะเลือก "JAS 39 Gripen   E/F"  บินขับไล่โจมตีฝูงใหม่ หลัง “สวีเดน” จัดเต็มทั้งให้ลิขสิทธิ์ลิงก์-จรวดนำวิถีตัวเก่ง-offset policy ถึงแม้สหรัฐเสนอ Link 16 ฟรีให้ไทย

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.)   เปิดเผยความคืบหน้าในการคัดเลือกแบบเครื่องบินขับไล่โจมตีฝูงใหม่ทดแทนว่า หลังจากสหรัฐอเมริกา ประเทศผู้ผลิตเครื่องบิน F16 block  70/72 และบริษัท SAAB สวีเดน ประเทศผู้ผลิตเครื่องบิน Gripen E/F ได้ส่งเอกสารข้อเสนอมาให้กองทัพอากาศไทยเมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา  คณะกรรมการคัดเลือกแบบที่มี พล.อ.ท.วชิระพล  เมืองน้อย เจ้ากรมยุทธการทหารอากาศ เป็นประธาน ได้สรุปข้อมูลทั้งหมดและจะตัดสินเลือกแบบเครื่องบินใน 1-2 วันนี้

โดยกองทัพอากาศจะจัดทำเป็นเอกสารข่าวชี้แจงรายละเอียดเปรียบเทียบข้อมูลที่สองค่ายได้นำเสนอมา ทั้งในส่วนคุณลักษณะของเครื่องบิน  ข้อเสนอในเรื่อง direct offset policy และ indirect offset policy หรือผลตอบแทนทางหรือชดเชยทางด้านเศรษฐกิจ เพื่อให้สาธารณชนได้เห็นข้อมูลเปรียบเทียบว่าทั้งสองค่ายได้เสนออะไรบ้าง จากนั้นจะนำเรียนผู้บังคับบัญชาต่อไป

พล.อ.อ.พันธ์ภักดีกล่าวว่า เชื่อมั่นว่าการตัดสินใจคัดเลือกแบบเครื่องบินครั้งนี้มีส่วนสำคัญในการพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพอากาศ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อความมั่นคงของประเทศชาติในภารกิจป้องกันอธิปไตย  รวมทั้งมีความคุ้มค่าด้านงบประมาณและผลตอบแทนที่ได้คืนกลับมาจากนโยบายรัฐบาลในเรื่องของ offset policy

มีรายงานว่า คณะกรรมการคัดเลือกแบบได้สรุปข้อเสนอของ 2 ค่ายผู้ผลิต และสรุปว่าเลือกแบบใด โดยลงรายละเอียดในเรื่องการชดเชยผลประโยชน์ตอบแทนกลับมายังประเทศผู้ซื้อผ่านกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อม  โดยเฉพาะ Lockheed Martin สหรัฐ ที่สร้างความฮือฮาด้วยการเสนอให้ Link 16 ในการอัปเกรด F-16 ฝูงบิน 403 จำนวน 18 เครื่อง ขณะที่ บริษัท SAAB สวีเดน ผู้ผลิต Gripen ได้ให้ลิขสิทธิ์ LinkT การถ่ายทอดเทคโนโลยี การฝึกศึกษาบุคลากรให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาองค์ความรู้เพื่อต่อยอดในเรื่องระบบดังกล่าว การให้เปล่าจรวดนำวิถีอากาศสู่อากาศ  Meteor จำนวนหนึ่ง ซึ่งในแวดวงอาวุธมองว่า เป็นตัวเปลี่ยนโฉมเกมการต่อสู้ทางอากาศในระยะไกลกว่าสายตา ที่สำคัญคือมูลค่าการชดเชยทางเศรษฐกิจที่มากกว่ามูลค่าของทั้งโครงการ ซึ่งมีแนวโน้มว่า ทอ.จะเลือก Gripen  ด้วยข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิเสธได้นี้

ต่อมา กองทัพอากาศได้ส่งเอกสารชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า คณะกรรมการพิจารณาเลือกแบบฯ ได้กำหนดขั้นตอนและเกณฑ์การพิจารณาที่ละเอียดรอบคอบ โดยใช้ระยะเวลากว่า 10 เดือนในการดำเนินการ จึงสามารถสรุปได้ว่า เครื่องบินขับไล่โจมตีแบบ JAS 39  Gripen E/F มีขีดความสามารถที่ตอบสนองความต้องการทางยุทธการตามหลักนิยมและยุทธศาสตร์ของกองทัพอากาศ   ทั้งยังมีอิสระในการใช้งานและสามารถพัฒนาต่อยอดนำไปสู่การเพิ่มศักยภาพการปฎิบัติการร่วมหลายมิติ (Multi-Domain Operations) ระหว่างกองทัพอากาศร่วมกับกองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และหน่วยงานความมั่นคงต่างๆ ภายใต้แนวความคิดการปฏิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลางได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต

รวมถึงสอดคล้องกับกรอบงบประมาณที่กองทัพอากาศได้รับการจัดสรร ตลอดจนมีข้อเสนอตามนโยบายชดเชยการนำเข้ายุทโธปกรณ์ทั้งทางตรงในการสร้างโอกาสการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ นำไปสู่การพึ่งพาตนเอง เพื่อยกระดับมาตรฐานเข้าสู่ในระดับสากล และการชดเชยทางอ้อมในการให้ทุนการศึกษาแก่บุคลากรในต่างประเทศทั้งภายในกองทัพอากาศและประชาชนทั่วไป ให้มีความรู้และทักษะความชำนาญขั้นสูง รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีในด้านสิ่งแวดล้อมและด้านเกษตรกรรม ตลอดจนการสร้างศูนย์นวัตกรรมที่นำไปสู่การเสริมสร้างผลผลิตในการสร้างรายได้  และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ประเทศไทย เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในด้านต่างๆ  ในระยะยาวต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง