ครม.อิ๊งค์จบในส.ค. ภูมิธรรมวางไทม์ไลน์15ก.ย.ทำงาน/เดือดซัด‘ขิง’เปลี่ยนไป

"ภูมิธรรม" เผยเร่งกระบวนการตั้ง ครม.ให้แล้วเสร็จภายใน ส.ค. คาดรัฐบาลใหม่ทำงานได้ ก.ย. รับส่งชื่อเกินเกือบทุกพรรค ยังกั๊ก ปชป.ร่วมรัฐบาล "หมอมิ้ง" แจง "แพทองธาร" ทำงานได้จริงหลังแถลงนโยบาย การจัดโผ ครม.ต้องทำให้รอบคอบไม่เกี่ยวรายชื่อเกิน “นราพัฒน์” ยัน  ปชป.ยังไม่ได้รับเทียบเชิญร่วม รบ. ย้ำต้องผ่านมติพรรคก่อน "เทพไท" ถามคนสงขลาแล้วไม่เห็นด้วย  ปชป.ร่วมรัฐบาลระบอบทักษิณ หวั่นทำให้ ปชป.เสื่อมและตกต่ำ "วัชระ" สวน "อรรถวิชช์" ถ้า "ทักษิณ" ไม่อ้างชื่อ "เอกนัฏ" ตร.จะออกหมายเรียกไปเป็นพยานได้อย่างไร "นิพิฏฐ์” ซัดเมื่อผลประโยชน์หล่นใส่ นักการเมืองก็พร้อมที่จะทรยศประชาชน

เมื่อวันอาทิตย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี และในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย  (พท.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีแพทองธาร 1 ที่มีกระแสข่าวว่าจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย วันที่ 26 ส.ค.นี้ว่า ยังไม่ได้ระบุถึงขั้นนั้น อยู่ที่ความพร้อมทั้งหมด แต่กำลังเร่ง เพราะต้องการเห็นการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งได้ทำงานเต็มที่ ขออย่ากังวล  เพราะเราทำหน้าที่เสมือนรัฐบาลจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ จึงจะพ้นจากหน้าที่ตามระเบียบข้อบังคับ แต่ก็อยากให้ทุกอย่างเสร็จภายในสิ้นเดือนส.ค.นี้ เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ส่วนจะมีการโปรดเกล้าฯ เมื่อใด อยู่ที่กระบวนการขั้นตอนการตรวจสอบ

เมื่อถามถึงการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา  นายภูมิธรรมกล่าวว่า ได้มีการเตรียมคู่ขนานไว้แล้ว  ทันทีที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งก็จะสามารถเรียกประชุมได้ คาดว่าภายในต้นเดือน ก.ย. หรือไม่เกินกลางเดือน ก.ย. รัฐบาลชุดใหม่จะสามารถทำหน้าที่ได้

เมื่อถามถึงกรณีที่จำนวนคนเกินกว่าตำแหน่งรัฐมนตรีได้เคลียร์เรื่องนี้หรือยัง นายภูมิธรรมกล่าวว่า เกินเกือบทุกพรรค เพราะไม่รู้ตามดุลยพินิจใหม่ที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความคำว่าจริยธรรมไว้กว้างมาก จึงต้องระมัดระวัง

เมื่อถามถึงพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีข้อสรุปที่ชัดแล้วหรือไม่ หลังมีกระแสข่าวส่งชื่อมา 2 บัญชี นายภูมิธรรมกล่าวว่า ต้องขออนุญาต เพราะตามมารยาทไม่ควรพูดถึงพรรคอื่น แต่เชื่อว่าแต่ละพรรครู้ดีอยู่แล้ว ต้องรีบดำเนินการให้ทันกับสถานการณ์ของประเทศ เพราะภัยพิบัติต่างๆ รออยู่ ไม่อยากให้ช้าถึงขั้นกระทบต่อภัยพิบัติที่ประชาชนได้รับ ต้องดำเนินการไปตามกระบวนการ

เมื่อถามถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะนับรวมเป็นพรรคร่วมรัฐบาลครั้งนี้หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลมันพูดชัดเจนไม่ได้ จนกว่าสุดท้ายจะตกลงและมีชื่อยื่น และมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ลงมา เพราะในกระบวนการต่างๆ เราไม่รู้ว่าใครจะมีปัญหาหรือไม่ หรือแต่ละพรรคจะได้ตามโควตาที่เป็นอยู่หรือไม่  หรือเกิดปัญหาภายในพรรคที่จัดการไม่ได้หรือไม่ เราไม่รู้ข้อเท็จจริง

เมื่อถามว่า การเชิญ ปชป.ร่วมรัฐบาลจะต้องมีการเทียบเชิญหรือไม่ หรือสามารถส่งชื่อเข้ามาได้เลย นายภูมิธรรมกล่าวว่า ขณะนี้เราไม่ควรดำเนินการแบบนี้ เพราะจะทำให้เกิดความไม่มั่นใจหรือไม่มั่นคงในพรรคร่วมรัฐบาล เป็นไปตามขั้นตอน หรือ step by step ถ้าเกิดปัญหาตรงไหนค่อยคลี่คลายไปตามสภาพ เพราะวันนี้เราได้ร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาล และทุกคนได้เสนอตัวมาแล้ว ขึ้นอยู่กับว่ารายละเอียดจะลงตัวอย่างไร

เมื่อถามอีกว่า ถ้า ปชป.เข้าร่วมจะต้องแจ้งให้พรรคอื่นที่ร่วมรัฐบาลทราบใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น ขอคิดในขั้นตอนปัจจุบัน และขอคิดเรื่องเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนก่อน ยังไม่ได้ยื่นใบกรอกประวัติ และยังไม่ได้รับแจ้งว่าจะดำรงตำแหน่งกระทรวงใด

ถามย้ำว่า จะได้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ในวันที่ 15 ก.ย.ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมตอบในระหว่างลงพื้นที่่ จ.น่าน ว่าเป็นเพียงการคาดการณ์ของตน เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและกฎหมาย

ตรวจโผ ครม.อย่างรอบคอบ

นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีกระแสข่าวว่ารายชื่อเกินจำนวนจริง ในฐานะพรรคแกนนำจะมีการเคลียร์ให้ลงตัวโดยเร็วหรือไม่ ว่าไม่เกี่ยว เราก็ตัดสินใจในส่วนของเรา ส่วนจะได้ข้อสรุปและจบก่อนสิ้นเดือนนี้หรือไม่นั้น จะต้องมีการตรวจสอบก่อน หากคนที่ได้รับการเสนอชื่อก็จะต้องกรอกรายละเอียดต่างๆ ที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) แล้วไปดำเนินการ โดยทาง สลค.ก็จะต้องทำอย่างรอบคอบที่สุด

เมื่อถามว่า ขณะนี้แม้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ จะยังไม่เริ่มทำงานอย่างเป็นทางการ แต่กลับมีเสียงวิจารณ์แล้ว นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า คนต้องเข้าใจกฎหมายก่อนว่าผิดเรื่องรัฐธรรมนูญ และมีคนคอยจ้องจับผิดอยู่ตลอดเวลา ในช่วงที่ผ่านมาเราจึงต้องทำให้ถูกต้องที่สุด อะไรที่เราสามารถดำเนินการได้ในขอบเขตที่กฎหมายอนุญาต เราก็ดำเนินการ ซึ่งขณะนี้ น.ส.แพทองธารยังไม่สามารถบริหารราชการแผ่นดิน แต่เป็นนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แล้ว

"ฉะนั้นจึงต้องรอดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนต่างๆ ซึ่งขั้นตอนที่สำคัญคือการแต่งตั้ง และรอโปรดเกล้าฯ ครม.ก่อน หลังจากนั้นจะต้องมีการแถลงนโยบายต่อสภา จึงจะสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ คาดว่าน่าจะเป็นช่วงสัปดาห์ที่ 2-3 ของเดือน ก.ย." นพ.พรหมินทร์กล่าว

ด้านนายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการจัดตั้ง ครม.ในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการส่งเทียบเชิญอย่างเป็นทางการให้ ปชป.เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรค พท. และยังไม่มีการประชุมร่วมระหว่างกรรมการบริหารและ สส.ของพรรค โดยยืนยันว่าการเข้าร่วมหรือไม่นั้น มีข้อบังคับกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า หากมีการเทียบเชิญหรือมีข้อเสนอ จะต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคและ  สส.

"หากท้ายที่สุดไม่มีการเทียบเชิญเข้าร่วมรัฐบาล ปชป.ก็พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เพราะเป็นพรรคที่สามารถทำงานได้ทั้งการเป็นฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล และหากมีการนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณา คงต้องถกเถียงกันว่าถ้าเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลจะทำประโยชน์อะไรให้ประชาชนได้อย่างไร  ซึ่ง ปชป.เป็นพรรคเดียวที่มีการถกเถียงกันแบบนี้ ในการตัดสินใจทางการเมืองไม่มีใครสามารถตัดสินใจได้เพียงคนเดียว" นายนราพัฒน์กล่าว

เมื่อถามถึงข้อกังวลเรื่องฐานเสียงหากถูกเทียบเชิญเข้าร่วมรัฐบาล เพราะเป็นขั้วตรงข้ามกันมาตลอดนั้น นายนราพัฒน์กล่าวว่า เรื่องของการเมืองต้องเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง หากสามารถทำอะไรแล้วประชาชนได้ประโยชน์ ก็ทำตรงนั้นดีกว่า เรื่องความบาดหมางหรือเกี่ยงกันว่าพรรคนั้นพรรคนี้เป็นอย่างนั้น เพราะวันนี้สังคมมองว่าพรรคไหนที่สามารถทำงานให้ประชาชนได้ และวันนี้ ปชป.ก็เตรียมตัว เรามีความพร้อม จัดยุทธศาสตร์และระบบของพรรค เพื่อที่จะรองรับในอนาคตว่าเราอยากกลับมาเป็นทางเลือกให้กับประชาชน ดังนั้นไม่ว่าจะอยู่ในฝ่ายค้านหรือรัฐบาล  เราพร้อมทำหน้าที่

คนใต้ค้าน ปชป.ร่วมระบอบทักษิณ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรค ปชป. โพสต์เฟซบุ๊กว่า เมื่อวาน (24  สิงหาคม) ผมได้เดินทางไปร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพของคุณแม่ใจ สามารถ มารดาของคุณสาโรจน์ สามารถ ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.พัทลุง ที่วัดหาดใหญ่ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้พบปะกับพี่น้องประชาชนในหลากหลายอาชีพ ได้ถือโอกาสสอบถามความคิดเห็นเรื่องที่ ปชป.จะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยที่มี น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯ ทุกคนไม่เห็นด้วยและคัดค้านการเข้าร่วมรัฐบาลกับ พท.ทั้งสิ้น เพราะเป็นการละทิ้งอุดมการณ์และจุดยืนของพรรค ที่เคยต่อสู้กับระบอบทักษิณมายาวนาน ซึ่งประชาชนคนภาคใต้ส่วนใหญ่ ได้เข้าร่วมเดินขบวนขับไล่ระบอบทักษิณมาก่อนทั้งนั้น

"การเข้าร่วมรัฐบาลกับระบอบทักษิณ ทำให้ ปชป.เสื่อมเสียชื่อเสียง เกียรติยศ และอุดมการณ์ของพรรค ในการต่อสู้กับเผด็จการทุกรูปแบบมายาวนาน มีประชาชนหลายคนตำหนิคณะกรรมการบริหารพรรคและ สส.รุ่นใหม่ที่ไม่ยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรค เห็นแต่ประโยชน์เฉพาะหน้า และประโยชน์ส่วนตัว จึงพร้อมใจกันสนับสนุนการเข้าร่วมรัฐบาลกับระบอบทักษิณ โดยไม่ฟังเสียงของสมาชิกพรรคและประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งอาจจะทำให้ ปชป.ตกต่ำไปมากกว่านี้อีก หลายคนเตรียมทำใจ และเข้าใจว่า ปชป.เป็นสถาบันทางการเมือง มีระบบพรรคที่เข้มแข็ง มีผู้อาวุโสไม่กี่คน ลงมติโหวตกันก็ไม่ชนะ เหมือน “น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ”"  นายเทพไทระบุ

นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "ผมเพิ่งได้ยินว่ามีผู้แบ่ง สส.ปชป.ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่ง “พูดเก่ง ตำหนิเก่ง แต่ทำงานไม่เก่ง” อีกกลุ่ม “พูดไม่เก่ง ตำหนิไม่เก่ง แต่ทำงานเก่ง” กลุ่มที่อ้างว่าทำงานเก่งบอกว่ารอเข้าร่วมรัฐบาล เพราะจะได้มีโอกาสสร้างผลงานให้กับประเทศชาติและประชาชน เท่ากับสร้างผลงานให้กับพรรคด้วย แต่เขาคงลืมไปว่าฝ่ายค้านก็สามารถสร้างผลงานให้กับประเทศชาติ ประชาชนและพรรคได้ด้วย ถ้าเขามุ่งมั่น “ค้านอย่างสร้างสรรค์” ด้วยการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนอย่างเต็มที่ ซึ่งมีหลายเรื่องที่ควรทำ ไม่วางเฉย ด้วยลักษณะท่าที “เกรงใจรัฐบาล”

"ครั้งนี้ จะได้เป็น รมต.ตามปรารถนาแล้ว ขอให้สร้างผลงานตามที่ได้ประกาศก้องไว้ อย่าลืมว่าจะต้องเร่งสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติและประชาชน และนำผลงานเหล่านั้นกลับมากอบกู้พรรคให้ได้ ผมจะติดตามและเป็นกำลังใจให้ ที่สำคัญ การเข้าร่วมรัฐบาลจะต้องเข้าร่วมอย่างมี “เกียรติและศักดิ์ศรี” ไม่ปล่อยให้พรรคถูกตราหน้าว่าเป็นเพียงแค่พรรค “อะไหล่-รอเสียบ” เท่านั้น" นายสามารถระบุ          

นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรค ปชป.  กล่าวว่า ตามที่นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยอมรับว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีหมายเรียกให้นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ไปให้ปากคำคดี ม.112 ที่นายทักษิณ ชินวัตร พูดที่ประเทศเกาหลีใต้นั้น ต้องถามนายเอกนัฏว่าไปในฐานะอะไร เป็นราชบัณฑิต เป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ หรือเป็นตัวพยานที่นายทักษิณกล่าวอ้างในหนังสือขอความเป็นธรรมให้สอบพยานเพิ่มเติมฝ่ายนายทักษิณ ถ้าอ้างว่าไปตามหน้าที่ตามกฎหมาย เหตุไฉนจึงไม่เปิดเผยต่อสาธารณชนตั้งแต่ต้น และเหตุใดจึงไปให้การเข้าข้างนายทักษิณ ถ้านายทักษิณ ผู้ต้องหาไม่ระบุชื่อนายเอกนัฏ ตำรวจจะออกหมายเรียกให้ไปเป็นพยานหรือ ทำไมไม่เรียกนายวัชระ เพชรทอง ไปเป็นพยานบ้าง

จี้ 'เอกนัฏ' แจง ปชช.เป็นพยานทักษิณ

"แสดงว่านายทักษิณกับพวกมีการเตรียมรายชื่อพยานทั้งหมดมาก่อน ตำรวจจึงออกหมายเรียกนายเอกนัฏไปให้การต่อหน้าตำรวจและอัยการ เพราะเป็นคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร และเมื่อนายเอกนัฏไปให้การ ก็สามารถไม่ให้การหรือบอกไม่รู้ไม่เห็นก็ได้ แต่ที่น่าสงสัยในพฤติกรรมคือเหตุใดไปให้การเข้าข้างทักษิณ เป็นประโยชน์อย่างมากกับทักษิณ บอกว่าคำพูดของทักษิณไม่เข้ามาตรา 112"

นายวัชระกล่าวว่า นายเอกนัฏต้องตอบคำถามประชาชนที่สงสัยว่ามีสิ่งใดไปดลบันดาลใจให้นายเอกนัฏไปให้ปากคำเช่นนั้น ทั้งที่นายเอกนัฏเป็นเลขาธิการ กปปส. ผู้นำเป่านกหวีดต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และระบอบทักษิณ จนมีคนตาย 25 คน บาดเจ็บสุทธิ 782 คน วิญญาณของผู้บริสุทธิ์ที่ตายไปเพราะระเบิดและอาวุธปืนจะเป็นสุขหรือ การที่นายอรรถวิชช์มาพูดว่า มิใช่การเสนอตัวไปให้การเองนั้น นายอรรถวิชช์ไปโกหกที่อื่นเถอะ ถ้าไม่ใช่การเสนอตัวหรือถูกครอบงำสมยอมมาตั้งแต่ต้น จะมีชื่อนายเอกนัฏในหนังสือขอความเป็นธรรมของนายทักษิณได้อย่างไร

ส่วนคดี กปปส. นายอรรถวิชช์ควรกลับไปอ่านระเบียบการดำเนินคดีอาญาของสำนักงานอัยการสูงสุด ว่ากรณีศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต่างกัน ต้องฎีกาต่อศาลสูงให้วินิจฉัยชี้ขาด แม้แต่ประชาชนทั่วไปยังรู้เลยว่าต้องรอศาลฎีกาตัดสิน  ไม่ใช่หยุดอยู่ที่ศาลอุทธรณ์เท่านั้น ส่วนเรื่องการไปต่อรองตำแหน่งทางการเมืองตนไม่ได้พูด นายอรรถวิชช์ออกมาพูดเอง ไม่รู้นำมาพูดให้เป็นประเด็นทำไม

"นายอรรถวิชช์จึงควรดูเรื่องนี้ให้ลึกซึ้งและรอบด้าน จะได้ไม่พลาดเหมือนสมัยที่ ปปง.เคยประกาศยึดที่ดินของนายอรรถวิชช์ 2-3 แปลง ผมก็จำไม่ได้เสียแล้วว่า ปปง.ยึดที่ดินนายอรรถวิชช์ด้วยมูลเหตุใด เพราะเรื่องอยู่ที่ ป.ป.ช.นานมากแล้ว"  นายวัชระกล่าวทิ้งท้าย

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พรรค ปชป.  ได้โพสต์ข้อความระบุว่า เมื่อผลประโยชน์หล่นใส่  นักการเมืองก็พร้อมที่จะทรยศประชาชน ผมอ่านข่าวคุณเอกณัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช.  ไปเป็นพยานในคดี ม.112 ให้คุณทักษิณ คุณเอกณัฏคนเดียวกับคนที่เป็นแกนนำ กปปส. คุณเอกณัฏคนเดียวกับคนที่เป็นเลขาธิการพรรค รทสช.  คนเดียวกับคนที่แถลงว่าไม่เห็นด้วยกับการแก้ไข ม.112 และไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมความผิดตาม ม.112 และเป็นคนเดียวกับคนที่จะไปเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลลูกสาวคุณทักษิณ เป็นเวลาเดียวกับข่าวที่ออกมาว่า ปชป.ที่เคยต่อสู้กับคุณทักษิณและถูกกล่าวหามาตลอดว่า เป็นอะไหล่ให้คุณทักษิณ กำลังจะเข้าร่วมรัฐบาลกับรัฐบาลลูกสาวคุณทักษิณ

"จะทำอะไรได้หรือไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ผมไม่ทรยศต่อการต่อสู้ของประชาชน ยังอยู่ที่เดิม คือไม่เอาระบอบทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว ทำมาหากิน เอาตัวให้รอดกันเถอะ อย่าเป็นทาสนักการเมือง" นายนิพิฏฐ์ระบุ

นางทยา ทีปสุวรรณ ภรรยานายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีตแกนนำ กปปส.  โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า อย่าเหมารวม กปปส.ทุกคน ส่วนตัวยังยึดมั่นในอุดมการณ์ และไม่เคยคิดจะก้มหัวให้ความไม่ถูกต้อง ทิศทางลมเปลี่ยน อุดมการณ์ไม่เคยเปลี่ยน

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. ในฐานะประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้เป็นช่วงที่อยู่ในระหว่างการคัดเลือกบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เข้าใจว่าพรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรคยังจะมีปัญหาในเรื่องนี้ ก็ถือเป็นปัญหาภายในแต่ละพรรคที่ต้องไปจัดการกันเอง เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประชุมสภาในการพิจารณากฎหมายต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องของการรักษาองค์ประชุม ในการประชุมวิปรัฐบาลในวันที่ 26 ส.ค.ที่สภา ตนคงจะได้หารือเรื่องดังกล่าว  รวมทั้งขอความร่วมมือพรรคร่วมรัฐบาลในเรื่องของการรักษาองค์ประชุม เชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลยังสามารถทำงานและฝ่าฟันอุปสรรคร่วมกันไปได้ ไม่มีปัญหา และยังไม่ถึงขั้นวิกฤต.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘อุ๊งอิ๊ง’ แจ้นตรวจนํ้าท่วม ชาวบ้านลำบากแต่ยิ้มได้

นายกฯ อิ๊งค์ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมภาคเหนือ เสียงสั่นเครือเห็นใจชาวบ้านยังคงลำบากไม่มีไฟฟ้าใช้ แต่ชาวบ้านยังยิ้มแย้ม ดีใจและโบกมือให้

โวเลือกตั้งซ่อม ‘เพื่อไทย’ มาแน่ กระแส ‘อิ๊งค์’ พุ่ง

"สมศักดิ์" โวลั่น! เลือกตั้งซ่อมพิษณุโลกเขต 1 กระแสเพื่อไทยสูง เป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ หลัง "อุ๊งอิ๊ง" เป็นนายกฯ ตอนนี้มันเปลี่ยนแล้ว กระแสพรรคประชาชนหดหาย