ป้อมวัดใจยกสุดท้าย ส่ง4ชื่อเดิมให้อุ๊งอิ๊งตัดสิน/‘ชวน’กรีดพวกกระสันทรยศ!

ทำเนียบฯ คึกคัก!  ขน "โซฟา-โต๊ะไม้" สมัย "ทักษิณ" เป็นนายกฯ  คืนตึกไทยคู่ฟ้า รับ "แพทองธาร" นายกฯ  หญิงคนที่สอง "อิ๊งค์" ขอเวลาเช็กคุณสมบัติ รมต. ยัน "พปชร." ยังอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล โผเพื่อไทย "ชูศักดิ์" แรงนั่งรองนายกฯ หรือ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ช่วยงานนายกฯ "เสริมศักดิ์" เบียด "บิ๊กอ้วน" ชิงกลาโหม วางคิวแถลงนโยบายช่วง 16 ก.ย. มติ กก.บห.พปชร.ส่ง 4 ชื่อเดิมนั่ง รมต. งัดข้อบังคับบีบพวกแตกแถว ชื่อมีปัญหาต้องแจ้งพรรค เปลี่ยนสำรอง "บิ๊กป้อม" ต้องอนุมัติ "ชวน" กรีดพวกกระสันอยากร่วม รบ. บอกค้านเหตุไม่อยากทรยศ ปชช. คลื่นใต้น้ำ "รทสช." บีบเปลี่ยนตัว "พิมพ์ภัทรา"

 ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 23 สิงหาคม  2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงสายเจ้าหน้าที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้เริ่มขนย้ายโซฟา 1 ชุด และ โต๊ะทำงาน 1  ชุด มาที่ตึกไทยคู่ฟ้า โดยเป็นการขนย้ายจากที่นำไปเก็บไว้  ซึ่งโต๊ะเหล่านี้เป็นโต๊ะทำงานเดิมของนายกรัฐมนตรีในสมัยอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร และใช้ต่อมาในสมัย พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา แต่ในช่วงที่นายเศรษฐา ทวีสิน มารับตำแหน่งได้ย้ายออกไปเก็บ  เพราะใช้ชุดโต๊ะทำงานของตัวเอง วันนี้จึงมีการขนย้ายโต๊ะทำงานนายกฯ กลับมาที่เดิม ส่วนของใช้หรืออุปกรณ์สำนักงานอื่นๆ เช่น ตู้เก็บเอกสาร ยังไม่ได้มีการนำมาเพิ่มหรือปรับเปลี่ยนใดๆ เพราะในช่วงที่นายเศรษฐาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่ได้มีการปรับเปลี่ยน 

ทั้งนี้ การตกแต่งบนตึกไทยคู่ฟ้าขึ้นอยู่กับคณะทำงานของนายกรัฐมนตรีว่าจะมีการปรับเปลี่ยนส่วนใดเพิ่มเติม                  นอกจากนี้มีรายงานว่า ในส่วนของห้องนอนที่นายเศรษฐาเคยทำไว้ก็ถูกปรับเป็นห้องพักคอยและห้องแต่งตัวเหมือนเดิม

เวลา 14.30 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่ตึกชินวัตร 3 พร้อมให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ต้องตรวจสอบคุณสมบัติก่อน ตอนนี้อยู่ในช่วงนั้น

เมื่อถามว่า ตอนนี้รายชื่อมาครบหรือยัง นายกฯ นิ่งก่อนจะหัวเราะและตอบว่า  "ครบค่ะ" เมื่อถามต่อว่าตอนนี้มาครบทุกพรรคแล้วใช่หรือไม่ รวมถึงพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่มีปัญหาก็มาแล้วใช่หรือไม่ และพรรค พปชร.ยังอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายกฯ นิ่งอมยิ้มก่อนจะตอบว่า "อยู่ค่ะ"

ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย  รักษาการรองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์  กล่าวถึงการตั้ง ครม.ว่า ตนยังไม่มั่นใจเลยว่าจะได้เป็นรัฐมนตรีหรือเปล่า รอให้ทุกฝ่ายไปเจรจากันให้เรียบร้อยก่อน

ถามว่า พรรคเพื่อไทยให้เป็นบิ๊กอ้วนยังเหมือนเดิมหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า "ผมอ้วนอยู่แล้ว ไม่ต้องรอให้มีตำแหน่งก็เป็นบิ๊กอ้วน อยู่ตรงไหนก็เป็นบิ๊กอยู่แล้ว จริงโดยร่างกายโดยกายภาพอ้วน ส่วนในการทำงานเราสามารถยึดเป้าหมายพี่น้องประชาชนและทำงานให้ถูกใจข้าราชการที่ทำงานกับเราได้หรือเปล่า"

เมื่อถามว่า ตอนนี้โควตาของพรรคพลังประชารัฐสรุปได้หรือยัง นายภูมิธรรมกล่าวว่า รู้สึกยังไม่ลงตัว เท่าที่ดูตนไม่กล้าเข้าไปก้าวล่วง แต่เรามีเดดไลน์บอกไปแล้ว ขณะนี้เราดำเนิน process ทุกอย่างไปแล้ว ถ้าถึงเวลาที่เราต้องดำเนินการ เรารอใครไม่ได้ ถ้าไม่สามารถลงตัวได้ก็ต้องเลือกว่าจะเลือกข้างใดข้างหนึ่ง หรือไม่เลือกทั้งสองข้างเลยก็ได้

ซักว่าแสดงว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเข้ามาร่วม นายภูมิธรรมตอบว่า ต้องดูความเป็นจริง หาทางแก้ไขปัญหา ได้แบบไหนก็ไปแบบนั้น ให้รัฐบาลทำงานได้จริงและเร็ว

ชูศักดิ์แรงนั่ง รมต.ช่วยงานอิ๊งค์

มีรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่ารายชื่อรัฐมนตรีในสังกัดนั้น ล่าสุดมีกระแสข่าวว่านายภูมิธรรมจะนั่งรองนายกฯ ควบ รมว.กลาโหม แต่กระแสข่าวชื่อของนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ที่จะนั่ง รมว.กลาโหม ก็มาแรงเช่นกัน ส่วนรายชื่อบุคคลที่จะนั่งรัฐมนตรีคนใหม่ คือนายสรวงศ์ เทียนทอง  เลขาธิการพรรคเพื่อไทย คาดนั่ง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ส่วนกระแสว่า ใครจะมานั่ง รมว.พาณิชย์แทนนายภูมิธรรมนั้น คือนายประเสริฐ จันทรรวงทอง

ในส่วนของกระทรวงการคลังยังเป็นคนเดิมทุกตำแหน่ง ในกระทรวงคมนาคมก็เช่นกัน ส่วน รมต.ประจำสำนักนายกฯ ตอนนี้คาดว่าเป็น น.ส.ธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์ สส.กทม.เพียงหนึ่งเดียวของพรรคเพื่อไทย และ น.ส.จิราพร สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด ส่วนนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ ที่เป็นกระแสแรงว่าจะนั่งตำแหน่งรองนายกฯ หรือนั่ง รมต.ประจำสำนักนายกฯ เพราะต้องมาช่วยงานด้านกฎหมาย

นอกจากนี้ รายชื่อที่หลุดออกจากตำแหน่งยังไม่ขยับไปไหนคือนายสุทิน คลังแสง และนายจักรพงษ์ แสงมณี อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีการแถลงนโยบายรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ในวันที่ 16 ก.ย.เป็นต้นไป

ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายก ฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า การตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี หากทางเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาก็ได้รับมอบหมายให้ไปตรวจคุณสมบัติ และถ้ามีข้อสงสัยใดๆ ก็คงจะถามไปยังเจ้าตัว เจ้าตัวก็จะต้องชี้แจง

"หากตรวจสอบประวัติเสร็จเร็วก็เป็นเรื่องดี จะได้มีรัฐบาลใหม่ นายกฯ แพทองธารก็จะได้เข้ามาปฏิบัติราชการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เราต้องไม่ทำให้ช้า ดังนั้นคำถามหรืออะไรต่างๆ จะต้องมีขีดว่าถามแค่นี้แล้ว ถ้าแค่นี้เขาตอบได้ก็ต้องไม่สงสัยแล้ว" นายอนุทินกล่าว

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เวลา  09.25 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. เดินทางถึงที่ทำการพรรค เพื่อประชุมกรรมการบริหารพรรค พปชร. พิจารณาวาระการลงมติเห็นชอบบุคคลให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี  โดยมี กก.บห.เข้าร่วม 12 คน ประกอบด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค, นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค,  น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รองหัวหน้าพรรค,  พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ นายทะเบียนพรรค, นายสุธรรม จริตงาม สส.นครศรีธรรมราช, นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย, นายอภิชัย เตชะอุบล, นายยงยุทธ สุวรรณบุตร, น.ส.กาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ, นายอัครวัฒน์ อัศวเหม ร่วมประชุม

ส่วน กก.บห.ที่ไม่ได้มาร่วมประชุมมี 7 คน ซึ่ง 6 ใน 7 คนอยู่ฝั่ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค พปชร. มี ร.อ.ธรรมนัส, นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รักษาการ รมช.เกษตรและสหกรณ์, นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร, นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส, นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์, นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สส.ราชบุรี นอกจากนี้ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ก็ไม่ได้เดินทางมาร่วมประชุมด้วย

การประชุม กก.บห.พรรค พปชร. ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์สั้นๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า  เดี๋ยวจะให้คนลงมาแถลง ขอให้รอฟัง เดี๋ยวรอการแถลงข่าว เมื่อถามว่าได้มีการส่ง 4 รายชื่อในโควตาพรรคใช่หรือไม่  พล.อ.ประวิตรไม่ได้ตอบคำถาม เดินทางออกจากพรรคทันที

กก.บห.พปชร.สกัดโผแตกแถว

มีรายงานว่า ที่ประชุม กก.บห.พปชร.ได้หารือ 2 ประเด็นคือ 1.ยืนยันรายชื่อบุคคลเป็นรัฐมนตรี 4 รายชื่อ ตามแถลงการณ์ก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย 1. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2.ร.อ.ธรรมนัส รมว.เกษตรและสหกรณ์ 3.นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข 4.นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ ส่วนประเด็นที่ 2 จะส่งรายชื่อเหล่านี้ให้กับนายกฯ ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพื่อพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม หากมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติให้แจ้งกลับมาทางพรรคพลังประชารัฐ

ทั้งนี้ กก.บห.ทำตามข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ พ.ศ.2561 ข้อ 17 กรรมการบริหารพรรคการเมืองแต่ละตำแหน่งมีหน้าที่และอำนาจดังนี้ (1) หัวหน้าพรรคการเมืองมีหน้าที่และอำนาจดังต่อไปนี้ (ฉ) ในกรณีที่มีความจำเป็นในการดำเนินการทางการเมืองให้มีอำนาจปฏิบัติการในนามของพรรคการเมือง ได้โดยความเห็นชอบของกรรมการบริหารพรรคการเมือง ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนคณะกรรมการบริหารพรรคเท่าที่มีอยู่ในขณะนั้น และให้ถือว่าการดำเนินการนั้นเป็นมติพรรคการเมือง และหมวด 10 หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้อบังคับที่ 92 กรณีที่จะแต่งตั้งบุคคลเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้พรรคการเมืองประกาศให้สมาชิกทราบเป็นการทั่วไป เพื่อเชิญชวนเสนอชื่อบุคคลที่เห็นสมควร จะเสนอให้ได้รับการพิจารณาแต่งตั้ง เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อคณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง ภายในระยะเวลาที่กำหนด และให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง พิจารณาคัดเลือกบุคคล ซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนด และเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรมจริยธรรม เพื่อแต่งตั้งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า พรรคได้ส่งรายชื่อผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีไปครบถ้วนแล้ว และที่ประชุมเห็นชอบ เพราะมีการเจรจาตกลงและโหวตไปแล้ว โดยจะต้องรอพรรคเพื่อไทยและนายกรัฐมนตรีดำเนินการตามรายชื่อที่พรรคส่งไป

"หากรายชื่อไหนมีปัญหาหรือขาดคุณสมบัติ หรือมีการเปลี่ยนแปลงเป็นคนอื่น ก็ต้องขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารพรรค แต่ถ้าไม่ตรงตามนั้นก็ถือว่าเป็นไปตามข้อตกลง เมื่อเราร่วมรัฐบาลในนามพรรคพลังประชารัฐ จึงอยากให้เป็นไปตามข้อตกลง ไม่อยากให้เป็นการแบ่งขาย ไปก็ไปทั้งตัว เอาครึ่งตัวไม่ได้ ต้องไปทั้งพรรค ไม่อยากให้ใช้เล่ห์เหลี่ยมหรือหักกัน ไม่เช่นนั้นทั้งพรรคและรัฐบาลจะเกิดความขัดแย้งกันได้” นายชัยวุฒิกล่าว

ถามว่า พล.อ.ประวิตรได้บอกหรือไม่ว่าได้พูดคุยกับ ร.อ.ธรรมมนัสหรือยัง นายชัยวุฒิกล่าวว่า ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้เลย เป็นแค่การประชุมเรื่องร่วมรัฐบาล  ตนยืนยันว่าอยากให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาตามมติของพรรค ไม่อยากให้มีการครอบงำจากบุคคลภายนอกพรรค ครอบงำอื่น ครอบพรรคได้ แต่อย่ามาครอบงำข้ามพรรคมันไม่ดี

เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า “ผมไม่ได้พูด แค่พูดหลักการ ครอบงำพรรคอื่นก็ทำไป แต่ครอบงำพรรคพลังประชารัฐ ผมว่าไม่ถูกต้อง”

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรค พปชร. แถลงว่า พรรคได้เสนอรายชื่อบุคคลต่อนายกฯ ผ่าน นพ.พรหมินทร์ไปแล้วเมื่อวันที่ 20 ส.ค.67 ที่ผ่านมา เพื่อให้นายกฯ พิจารณาแต่งตั้งตามข้อตกลงในการร่วมรัฐบาล หากรายชื่อที่ส่งไปแล้วปรากฏว่า มีบุคคลใดบุคคลหนึ่งไม่ผ่านคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ทางพรรคเพื่อไทยควรต้องแจ้งกลับมาให้พรรค พปชร.ทราบ เพื่อให้หัวหน้าพรรค ซึ่งได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณาเปลี่ยนแปลงรายชื่อและเสนอไปใหม่เพื่อทดแทนเท่านั้น

"หากมีการเสนอแต่งตั้งรายชื่อบุคคลอื่นบุคคลใดที่ไม่ได้มาจากรายชื่อที่พรรค  พปชร.เสนอเป็นรัฐมนตรี ทางพรรคขอปฏิเสธรายชื่อดังกล่าว และจะถือว่าไม่เป็นไปตามข้อตกลงที่ทางพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลควรยึดถือและปฏิบัติตามต่อไป" พล.ต.ท.ปิยะกล่าว

 ถามว่า รายชื่อที่คุณสมบัติไม่ผ่าน หัวหน้าพรรคสามารถเสนอชื่อให้ทางพรรคเพื่อไทยโดยไม่ต้องผ่าน กก.บห.ใช่หรือไม่ พล.ต.ท.ปิยะกล่าวว่า ใช่ มติที่ประชุมยืนยันชัดเจนว่า กก.บห.ได้มอบอำนาจให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ  แต่หากหัวหน้าพรรคจะมีความเห็นควรจะผ่านกรรมการบริหารพรรคอีกครั้งก็คงจะนำรายชื่อเข้าที่ประชุม กก.บห.

 เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า พล.อ.ประวิตรจะลาออกจากหัวหน้าพรรค พล.ต.ท.ปิยะกล่าวว่า ไม่มี หัวหน้าพรรคอยู่กับพวกเราตลอด หากเราไม่ทิ้งท่าน  ท่านก็ไม่ทิ้งพวกเรา

ชวนกรีดพวกกระสันร่วม รบ.

ด้านความเคลื่อนไหวจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรค ปชป. กล่าวถึงกรณีนายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา ในฐานะเลขาธิการพรรค ปชป. ระบุประชาชนจังหวัดสงขลาเกือบทั้งหมดต้องการให้ไปร่วมรัฐบาลว่า ไม่สามารถตอบแทนพี่น้องชาวสงขลาได้หมด จะไปตอบแทนหรือเหมารวมพี่น้องชาวสงขลาไม่ได้

 “เป็นระยะเวลา 1 ปีแล้วที่ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่เราจะเข้าร่วมรัฐบาลนี้ เพราะตัวเลขของรัฐบาลมีเสถียรภาพพอสมควรแล้ว สิ่งที่พี่น้องตั้งตารอคือการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจของรัฐบาล ให้รัฐบาลใช้อำนาจของประชาชนอย่างโปร่งใสที่สุด เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพ และเรียกความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนคืนมา นั่นคือแนวทางในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นและศรัทธา” นายสรรเพชญกล่าว

ถามถึงท่าที สส.ส่วนใหญ่ของพรรคแสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการเข้าร่วมรัฐบาล นายสรรเพชญกล่าวว่า ถ้าจะไปคงมีการเทียบเชิญและพูดคุยกันภายในพรรค ซึ่งเป็นประเพณีของพรรค ปชป. การที่มีสมาชิกหลายคนแสดงความคิดเห็นก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลที่สามารถทำได้  แต่สุดท้ายก็ไปจบที่มติพรรคจะว่าอย่างไร ทุกคนพร้อมที่จะเคารพมติพรรค

ส่วนนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป. ชี้แจงกรณีไม่เห็นด้วยพรรคเข้าร่วมรัฐบาลว่า เนื่องจากเคยไปรณรงค์ให้ประชาชนในภาคใต้ไม่เลือกพรรคเพื่อไทย เพราะถูกเลือกปฏิบัติไม่พัฒนาภาคใต้ คนใต้ไม่เลือก จึงไม่อยากทรยศ แต่หากเสียงส่วนใหญ่มีมติให้เข้าร่วมรัฐบาลก็ต้องว่ากันไปตามมติของพรรค

"ไม่มีปัญหา เพราะผมไม่ใช่ตัวปัญหาของพรรค ซึ่งผมอยู่กับพรรคมาเกือบ 60 ปี มีส่วนร่วมล้มลุกคลุกคลานตกทุกข์ได้ยากมาด้วยกัน ฟื้นฟูพรรคจนกระทั่งได้เป็นรัฐบาล หากอยากเป็นก็บอกตรงๆ ว่าอยากเป็นรัฐบาล อย่าไปอ้างคนอื่น เราควรพูดเรื่องจริงว่าเพราะอยากเป็น เราก็ไม่ว่าอะไร และหากมติส่วนใหญ่ให้เป็น เราก็ไม่ว่าอะไร แต่ถ้าไปหลอกไปอ้างเหตุผลอะไรมาที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ก็ทำให้คนที่ติดตามเราอยู่จะมีความรู้สึกในทางลบกับพรรคไป" นายชวนกล่าว

ถามถึงกระแสข่าวหากร่วมรัฐบาลนายชวนจะลาออก นายชวนกล่าวว่า ไม่เคยพูด และตนเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น เป็นคนที่ไม่ค่อยพูดมาก ซึ่งเคยบอกว่าใครชนะเลือกตั้งได้ที่ 1 เป็นรัฐบาล ตอนนั้นตนแพ้ไป 2 เสียง และรวมเสียงได้มากกว่าด้วยซ้ำ แต่ต้องรักษาคำพูด ตนเป็นนักการเมืองที่อยู่มาได้เพราะประชาชนเลือก เพราะความเชื่อถือ คำไหนคำนั้น อะไรทำได้ก็ทำ อะไรทำไม่ได้ก็บอกตรงๆ ตนจึงไม่พูดว่าจะลาออก เพราะถ้าพูดต้องลาออก

ถามย้ำว่า จะเป็นฝ่ายค้านในรัฐบาลหรือไม่ นายชวนยืนยันว่า ไม่แน่นอน เพราะตนเป็นนักการเมืองตัวจริง ไม่ใช่นักฉวยโอกาส ไม่ใช่นักกินเมือง ไม่ใช่นักปล้นเมืองโกงเมือง ตนรู้ในกติกา จึงไม่เป็นฝ่ายค้านในรัฐบาล แต่จะใช้สิทธิ์โดยชอบธรรมที่มี เช่น กฎหมายที่ดีของรัฐบาลก็พร้อมที่จะสนับสนุน ยกเว้นบางเรื่อง เช่น หากมีกรณีพฤติกรรมที่ทุจริตหากมีข้อมูลหลักฐานชัดเจนก็ไม่ควรที่จะยกขบวนกันไปยอมรับสิ่งเหล่านี้

นายชวนยังกล่าวถึงกรณีที่นายเดชอิศม์ระบุนักการเมืองมี 2 ประเภท และมีพวกที่พูดเก่งชอบตำหนิแต่ทำงานไม่เก่งว่า อยู่สภามากว่า 50 ปี ไม่เคยได้ยินว่าแบ่งกันเช่นนี้ และเห็นว่านายเดชอิศม์เป็นฝ่ายค้านมาเกือบ 1 ปี แทบไม่เคยพูดในสภาเลย หรือจะพูดเพียง 1 ครั้ง ในขณะที่ลูกชายพูดเก่ง ซึ่งหากพูดอย่างนี้อยากย้อนถามว่าลูกชายทำงานไม่เก่งหรืออย่างไร เพราะลูกชายนายเดชอิศม์อภิปรายงบประมาณได้ดีมาก ตนอยู่สภามาเคยได้ยินแต่ว่ามีนักการเมืองที่โกงกับไม่โกง และคนที่เป็นคนอภิปรายได้ดีในสภา เป็นเพราะเตรียมตัวมา ดังนั้น จึงไม่ควรพูดเช่นนี้

พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีรายงานว่า กรณีมีข่าวพรรค รทสช.ส่งรายชื่อให้ตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี 4 คน  หนึ่งในนั้นยังมีชื่อของ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ที่ดำรงตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรมมาครบ 1 ปีนั้น ปรากฏว่ามีสส.หลายคนตั้งข้อสังเกตถึงการได้ทำงานต่อในตำแหน่งรัฐมนตรีของ น.ส.พิมพ์ภัทราว่าความจริงน่าจะถึงเวลาเหมาะสมที่จะเปลี่ยนให้เพื่อน สส.คนอื่นได้มีโอกาสมาทำงานในนามพรรคหรือไม่

ที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ยื่นหนังสือขอแจ้งข้อมูลบุคคลที่ถูกเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีให้นายกฯ เพื่อประกอบการตัดสินใจ กรณีนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ดำรงตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรม มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์อันเป็นคุณสมบัติของรัฐมนตรีหรือผิดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ เพราะเคยเป็นเลขาฯกปปส. แต่ไปเป็นพยานช่วยนายทักษิณในคดี 112

เช่นเดียวกับ นายสันติ พร้อมพัฒน์ จากพรรค พปชร. มีข่าวเคยถูกมหาวิทยาลัยรามคำแหงลงโทษลบชื่อออกจากทะเบียนนักศึกษา ได้ให้บุคคลอื่นเข้าสอบแทน เป็นการฝ่าฝืนและผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งขนาดการศึกษายังกระทำการทุจริต ดังนั้นการบริหารงานให้ประเทศชาติและประชาชนจึงเป็นเรื่องน่าสงสัยในความซื่อสัตย์สุจริตโดยพลัน.