ปชช.ขานรับแจกเงินสด1หมื่น

คนขอนแก่นเห็นด้วยรัฐบาล  "อุ๊งอิ๊ง" แจกเงินสด 1 หมื่นบาทแทนเงินดิจิทัล จะมีอิสระในการใช้จ่าย ไม่จำกัดขอบเขต เสียค่าน้ำ-ค่าไฟ ให้ลูกไปโรงเรียนได้ เชื่อกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้าได้จริง พร้อมแนะจ่ายรายงวด   เพราะขนาดคนถูกรางวัลที่ 1 ยังใช้เงินหมด  ปชช.-ร้านชำบุรีรัมย์ขานรับแจกเงินสดนำไปใช้จ่ายที่จำเป็น เกิดประโยชน์โดยตรงไม่เอื้อนายทุน

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ภายในตลาดสดเทศบาล 1 เขตเทศบาลนครขอนแก่น  เพื่อสำรวจความคิดเห็นประชาชนชาวขอนแก่น   หลังจากมีกระแสข่าวมาว่ารัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งจะเปลี่ยนจากเงินดิจิทัลเป็นเงินสด 10,000 บาท ให้กลุ่มเปราะบาง วงเงิน 1.22 แสนล้าน เป็นเงินสดจ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

โดยนางตุ๊กตา สรีอภัย อายุ 57 ปี แม่ค้าขายปลา กล่าวว่า ถ้าได้เป็นเงินสดจริงๆ จะดีมาก เพราะเงินส่วนนี้จะได้เอาไปเสียค่าน้ำค่าไฟ ให้ลูกไปโรงเรียน เพราะเมื่อดูตามข้อเท็จจริงแล้ว ถ้าได้เป็นเงินดิจิทัล 10,000 บาท น่าจะใช้ได้ยาก  แต่ถ้าเป็นเงินสดจะใช้ง่าย และจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีขึ้นด้วย เพราะจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจจริงๆ สามารถใช้เติมน้ำมันได้ ให้ลูกไปโรงเรียนได้

"เดี๋ยวนี้ประชาชนกำลังเดือดร้อน เศรษฐกิจไม่ดี ทุกคนต้องการเงินสด ถ้าได้เงินส่วนนี้มาจะนำไปเสียค่าน้ำ ค่าไฟ เพราะติดมา 2 เดือนแล้ว เพราะขาดสภาพคล่องที่จะนำเงินไปใช้จ่าย ขายของก็ยากลำบาก คนซื้อก็ซื้อยาก พฤติกรรมคนซื้อเปลี่ยนไปไม่เหมือนก่อน ตอนนี้ยังไม่ค่อยเชื่อมั่นว่าจะได้เงิน 10,000 บาท ถ้าทำสำเร็จและได้เงินจริงๆ ตอนนั้นถึงจะเชื่อมั่นในตัวรัฐบาลจริงๆ  ตราบใดที่ยังไม่เห็นเงินก็ไม่มีทางเชื่อ ถ้าได้เงินสดอยากจะได้เป็นงวดเดียว ไม่ต้องแบ่งจ่าย ค่าน้ำก็แพง ค่าไฟก็แพง ค่าน้ำมันรถ ให้ลูกไปโรงเรียน เงิน 10,000 บาทใช้ได้ไม่กี่วันก็หมด"

ขณะที่ นางเพ็ชรัตน์ กองพล อายุ 58 ปี แม่ค้าขายไส้กรอก กล่าวว่า เงินสดที่รัฐบาลจะให้ ตนคิดว่าดี เพราะทุกคนมีรายจ่ายครอบครัวตนเอง คนแก่อยู่บ้านก็ถามมาว่าจะได้จริงไหม ตนก็ได้แต่บอกให้ใจเย็นๆ จะพาทำ และเชื่อว่าจะต้องได้อย่างแน่นอน เพราะรายจ่ายก็มีมาก ถ้าได้เงินตัวนี้เข้ามาจะสามารถช่วยเหลือคนเฒ่าคนแก่เหล่านี้ได้อย่างมาก ที่ผ่านมาในรัฐบาลลุงตู่สามารถทำได้มาแล้ว ไม่ว่าใครเข้ามาเป็นรัฐบาลก็น่าจะทำได้

"หากได้เงินจริง อันดับแรกจะนำไปซื้อข้าวสารไว้ในครัวเรือน รวมทั้งของใช้จำเป็น เพราะเงินที่ได้มาแม้ว่ามีข้อแม้ก็จะไปซื้อของใช้จำเป็นเหล่านี้ เงินอื่นๆ ที่เราหาเองก็ค่อยนำไปซื้อสิ่งของอื่นๆ แทน เพราะเงินที่ให้มาเป็นเงินที่ทางรัฐบาลให้มาใช้จ่ายในการดำรงชีพ อาจจะจ่ายแบบรายงวดก็ได้ ถ้าเป็น 2 งวดก็จะดี ถ้าได้ก้อนเดียวลูกหลานก็จะมาขอไปหมด ทำให้ไม่ได้ใช้" นางเพ็ชรัตน์กล่าว

ด้านนางทิวารัตน์ สร้อยสุวรรณ์ อายุ 42 ปี  แม่ค้าขายผลไม้ กล่าวว่า ไม่ได้ลงทะเบียนไว้ตอนที่จะแจกเป็นเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เพราะกลัวว่าไม่มีสิทธิ์ไปซื้อร้านค้าที่ต้องการซื้อ เพราะอาศัยอยู่ในเมือง แต่ทะเบียนบ้านอยู่นอกเมือง ก็ต้องกลับบ้านไปซื้อของ มันทำให้เกิดความลำบากในการซื้อของ ไม่เหมือนเงินประชารัฐ แม้ซื้อของข้ามจังหวัดขอแค่มีธงฟ้าติดอยู่ก็จะสามารถซื้อได้ทุกร้าน และสามารถซื้อเป็นของฝากหรือซื้อขนมให้ลูกหลานได้ในแต่ละที่

"พอมีกระแสข่าวว่าจะมีการแจกเป็นเงินสด ก็จะลงทะเบียนด้วย ถ้าได้เป็นเงินสดจะดีมาก  จะดีทั้งคนซื้อ คนขาย เป็นอิสระในการซื้อของ ไม่จำกัดขอบเขต ไม่จำกัดระยะทาง ไม่จำกัดสถานที่ซื้อ ถ้าคนใช้เงินเป็นก็จะถูกวัตถุประสงค์ แต่ถ้าคนใช้ไม่ถูกหลักก็คงนำไปซื้อของที่ไม่จำเป็น เช่น ซื้อหุ้น ซื้อหวย ถ้าตนได้เงินมาก็จะนำไปซื้อของเข้าร้านมาค้าขาย เพราะตอนนี้เงินไม่มีหมุน ถ้าได้จริงก็อยากให้จ่ายเป็นงวด งวดละ 2,000 บาท  เพราะคนไทยใช้เงินไม่เป็น ขนาดคนถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 ก็ยังกลับมาจนเหมือนเดิมได้ ถ้าได้เป็นก้อนก็คงแป๊บเดียวหมด" นางทิวารัตน์กล่าว

ส่วนที่ชุมชนการเคหะเขตเทศบาลนครขอนแก่น นางสมลักษณ์ ชินเวียง อายุ 49 ปี  กล่าวว่า ดีใจที่รัฐบาลยังให้ความสำคัญกลุ่มรากหญ้าที่จะได้เงิน 10,000 บาท ถ้าได้จริงจะขอบคุณมาก ถ้าได้มาจะนำไปใช้จ่ายในครัวเรือน ซื้อของใช้ ซื้อกับข้าว สิ่งของที่จำเป็น เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะทำสำเร็จและช่วยเหลือคนกลุ่มเปราะบาง ยังไงก็เชียร์รัฐบาล เงินส่วนนี้จะช่วยได้เยอะมาก ที่หาได้แต่ละวันก็ไม่เพียงพอ ถ้าได้ส่วนนี้มาเติมจะดีขึ้น จะใช้จ่ายสะดวกขึ้น

ขณะที่ นางวิไลย์ ภูสูง อายุ 46 ปี กล่าวว่า  ถ้าโอนเงินเข้ามาเป็นเงินสดเข้าบัตรที่กำลังจะทำแบบนี้ยิ่งดี เพราะต้องไปจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ซื้อข้าวสารอาหารแห้ง เพราะไปซื้อตามร้านค้าเล็กๆ ได้  เพราะครั้งแรกที่จะทำให้ไปใช้ตามภูมิลำเนาไปต่างจังหวัดมันลำบาก ก็คงซื้อได้แค่ตามห้างใหญ่ๆ แต่ที่รัฐบาลกำลังจะเปลี่ยนใหม่ เป็นอะไรที่ดีมาก สามารถใช้ที่ใดก็ได้ ไปซื้อร้านค้าปลีกได้   ร้านค้าเล็กๆ ได้ เพราะเป็นเงินสด ไม่จำเป็นต้องไปซื้อที่ห้างใหญ่ๆ มันจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจเยอะกว่าแบบเดิม ถ้ามีเงินส่วนนี้มาช่วยประชาชนจะดีมาก เพราะคนกลุ่มเปราะบางเยอะกว่าคนมีเงิน

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และร้านขายสินค้าประเภทต่างๆ ที่ตั้งอยู่ต่างริมถนนและฟุตปาธในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ว่าค่อนข้างเงียบเหงา มีคนมาเดินจับจ่ายซื้อของน้อยลง ทำให้บางร้านต้องปิดไปประกอบอาชีพอื่น เพราะรายได้ไม่เพียงพอค่าเช่า สะท้อนให้เห็นถึงสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่  การค้าขายไม่คล่องตัว

จากการสอบถามทั้งบรรดาพ่อค้าแม่ค้าและประชาชน รวมถึงร้านขายของชำในหมู่บ้าน ต่างก็มีความหวังว่านายกรัฐมนตรีคนที่ 31 และ ครม.ชุดใหม่ จะยังสานต่อโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เพื่อมาช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว และกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการหมุนเวียน แต่มองว่าควรจะปรับรูปแบบจ่ายเป็นเงินสด และไม่ควรจำกัดการซื้อ ถึงจะเกิดประโยชน์กับประชาชนได้อย่างแท้จริง เพราะสามารถนำไปใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็น เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเทอมลูกหลาน รวมถึงซื้อสิ่งของอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชน และจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้าได้มากกว่า ในรูปแบบดิจิทัลที่จำกัดการใช้ค่อนข้างเอื้อนายทุนและผู้ประกอบการรายใหญ่ 

นายบุญส่ง เดชพร และนางสุดารัตน์   ภะสุรัมย์ พ่อค้าแม่ค้าขายของริมถนนในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ บอกตรงกันว่า ทุกวันนี้ค้าขายลำบาก กำไรน้อย เพราะของราคาแพง ต้นทุนสูงขึ้น ก็มีความหวังว่านายกรัฐมนตรีและ ครม.ชุดใหม่ จะสานต่อโครงการดิจิทัลฯ และอยากให้พิจารณาปรับรูปแบบการจ่ายเป็นเงินสด ก็จะเกิดประโยชน์กับประชาชนผู้มีรายได้น้อยอย่างแท้จริงมากกว่า และจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนด้วย แต่หากเป็นรูปแบบดิจิทัลและจำกัดการซื้อเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ ก็จะเอื้อประโยชน์นายทุน ไม่เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชน จึงอยากให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนด้วย

ขณะที่แม่ค้าร้านขายของชำในหมู่บ้านชุมทอง ต.ชุมเห็ด อ.เมืองฯ จ.บุรีรัมย์ รายหนึ่งบอกว่า อยากให้ปรับรูปแบบโครงการดิจิทัลฯ  เป็นเงินสดมากกว่า เพราะจะสะดวกและเกิดประโยชน์ทั้งกับคนซื้อและคนขาย โดยเฉพาะร้านค้าขนาดเล็กในชุมชน ที่อาจจะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ และเชื่อว่าหากจ่ายเป็นเงินสด จะกระจายรายได้มากกว่าระบบดิจิทัล.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชัยชนะยกแรก“ทักษิณ” บ้านป่าฯแตก-ผู้เฒ่ากระอัก

พลิกสถานการณ์กลับมาชนะสำหรับ “นายใหญ่เพื่อไทย”-ทักษิณ ชินวัตร หลังจาก “เศรษฐา ทวีสิน” อดีตนายกฯ ถูกสอยปมตกเก้าอี้ จากการขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 160 ในเรื่องความซื่อสัตย์และจริยธรรม

'บิ๊กต่าย' ยันไม่คาดหวังตำแหน่ง ผบ.ตร. หลังนายกฯอิ๊งค์เรียกเข้าพบ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยกรณีกระแสข่าวว่ามีการเดินทางเข้าพบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ว่า ตนถูกเรียกไป ขับเคลื่อนเรื่องยาเสพติดเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น