ไม่ซ้ำรอย‘พ่อ-อา’ อุ๊งอิ๊งลั่นหลังรับโปรดเกล้าฯ/ชูดันไทยเป็นปท.แห่งโอกาส

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง "แพทองธาร"  นายกฯ คนที่ 31 เจ้าตัวประกาศจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ด้วยความจงรักภักดี ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ประสานพลังทุกภาคส่วนทำให้ไทยเป็นประเทศแห่งโอกาส แห่งความหวัง แห่งความสุข ของคนไทยทุกคนอย่างเท่าเทียม พร้อมเปิดกว้างรับฟังทุกความเห็น ปัด “ทักษิณ” ครอบงำ หวังให้ช่วยงานโดยไม่ผิดกฎหมาย ยันจะไม่ให้มีคดีติดตัวซ้ำรอยพ่อ-อา แจง "เงินดิจิทัล" ต้องรับฟังความเห็นเพิ่ม จ่อแถลงนโยบาย ก.ย.นี้  "ครอบครัวชินวัตร-พจมาน" หลั่งน้ำตาแห่งความตื้นตันใจ "ทักษิณ" หน้าบาน ลั่นไม่มีทางจะซ้ำรอยพ่อ "อนุทิน" ไม่การันตีโควตามหาดไทยเป็นของภูมิใจไทย บอกขึ้นอยู่กับนายกฯ หารือพรรคร่วมฯ

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระบรมราชโองการประกาศแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ด้วยความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน ได้สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรค 1 (4) ประกอบมาตรา 160 (4) (5) และประธานสภาผู้แทนราษฎรได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาว่า สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 เห็นชอบด้วยในการแต่งตั้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ.2567 เป็นปีที่ 9 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร

ที่อาคารวอยซ์สเปซ ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นที่ทำการใหม่ของพรรคเพื่อไทย (พท.) บรรยากาศคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า โดยบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม, รัฐมนตรี และ สส.ของพรรคเพื่อไทย ทยอยกันเดินทางมาร่วมรับประทานอาหารเช้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

ในส่วนของพิธีรับพระบรมราชโองการนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 นั้น ได้จัดขึ้นที่บริเวณห้องโถงกลาง อาคารวอยซ์สเปซ ซึ่งจะมีเฉพาะบุคคลสำคัญที่ได้รับอนุญาตเข้าร่วมในพิธีการดังกล่าว และอนุญาตให้เฉพาะช่างภาพจากสำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย

ต่อมาเวลา 07.49 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงด้วยรถตู้เบนซ์ ทะเบียน ขจ 995 กรุงเทพมหานคร โดยมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เมื่อสื่อมวลชนถามว่า เมื่อคืนนอนหลับฝันดีหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “หลับค่ะ รีบนอนเลยเพราะกลัวตื่นสาย”

จากนั้นครอบครัวของ น.ส.แพทองธาร ทั้ง น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ เดินทางมาสมทบ โดย น.ส.พินทองทาได้ช่วยน้องสาวจัดแต่งชุดเครื่องแบบปกติขาว พร้อมยืนรอรับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บิดา ที่เดินทางมาถึงในเวลา 07.50 น. โดย น.ส.แพทองธารได้เดินไปรับถึงหน้าประตูรถ ซึ่งทันทีที่นายทักษิณลงจากรถได้เข้าสวมกอดพร้อมกับหอมแก้มบุตรสาวเพื่อแสดงความยินดีด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

เมื่อผู้สื่อข่าวถามนายทักษิณว่า ดีใจหรือไม่ นายทักษิณยิ้มพร้อมตอบว่า “ดีใจสิ” จากนั้นทั้งสองคนได้หันมาให้สื่อมวลชนเก็บภาพอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่ น.ส.แพทองธารจะจับมือนายทักษิณพาเข้ามาทักทายบรรดารัฐมนตรี รวมถึง สส.ที่มาร่วมแสดงความยินดี โดย น.ส.แพทองธารบอกว่า ใครอยากถ่ายรูปพร้อมที่จะเซลฟี ซึ่งบรรดารัฐมนตรีและ สส.ต่างส่งเสียงแสดงความยินดีท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่น

โดยช่วงหนึ่งที่นายทักษิณเดินทางมาถึง ได้แวะเข้าห้องรับรอง สส.และสมาชิกพรรคเพื่อไทย รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาล และได้เข้ามาทักทายพูดคุยอย่างเป็นกันเองด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ซึ่งมี สส.หลายคนถ่ายภาพร่วมกับนายทักษิณด้วย จน น.ส.แพทองธารได้เดินมาเชิญนายทักษิณไปรออีกห้องหนึ่ง

ทั้งนี้ ได้มีคนแซวว่าได้กลับมาใส่ชุดขาวอีกครั้งหนึ่ง นายทักษิณจึงระบุว่า เขินอยู่ ไม่ได้แต่งมานานแล้ว ซึ่งระหว่างทางที่เดินออกไปอีกห้องหนึ่งผู้สื่อข่าวได้ถามนายทักษิณย้ำว่า ดีใจหรือไม่ นายทักษิณกล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า แน่นอนสิ จะได้เรียนรู้ว่าเป็นเรื่องใหญ่

นักการเมืองแห่ยินดี

ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับ น.ส.แพทองธาร ที่อาคารวอยซ์สเปซเช่นกัน โดยพรรคชาติไทยพัฒนา เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีในเวลา 08.00 น. นำทีมโดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค, นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค และนายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรค เช่นเดียวกับพรรครวมไทยสร้างชาติ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ก็เดินทางไปร่วมแสดงความยินดีในช่วงเวลาเดียวกัน ส่วนพรรคพลังประชารัฐ มอบหมายให้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข รองหัวหน้าพรรค, นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร, นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์

จากนั้น เวลา 09.29 น. ณ ห้องโถงกลาง อาคารวอยซ์สเปซ ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 เดินทางมาถึงที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยได้เชิญไปยังสถานที่ในการรับสนองพระบรมราชโองการฯ จากนั้น เลขาธิการสภาฯ ได้อ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี คนที่ 31

จากนั้น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวหลังรับสนองพระบรมราชโองการฯ ว่า เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้ดิฉันดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นับเป็นเกียรติยศและเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดแก่ชีวิต ดิฉัน ครอบครัว และพรรคเพื่อไทย สํานึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นล้นพ้น ทั้งจะมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ด้วยความจงรักภักดี ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ และประชาชน สนองพระราชปณิธานตามพระปฐมบรมราชโองการ และตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญทุกประการ

 ดิฉันขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ที่ได้มอบความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้ดิฉันได้มีโอกาสทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ ที่จะนำพาประเทศไทยเดินหน้า ฝ่าฟันทุกอุปสรรค แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน แก้ไขปัญหาปากท้องเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน 3 ปีที่เหลือตามวาระของรัฐสภา ดิฉันในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหาร จะขอทำหน้าที่ร่วมกับฝ่ายนิติบัญญัติ ด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง เปิดพื้นที่ในการรับฟังทุกความเห็น เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างมั่นคง

 พี่น้องประชาชนคนไทยที่รักทุกท่านคะ ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้ ไม่อาจสำเร็จได้ด้วยการทำงานของนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ดิฉันมีความมุ่งหวังที่จะประสานพลังของคนทุกรุ่น ประสานพลังของบุคคลที่มีความสามารถในประเทศไทยจากทุกภาคส่วน ทั้งคณะรัฐมนตรี พรรคร่วมรัฐบาล ข้าราชการ เอกชน และพี่น้องประชาชน ดิฉันจะส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพและทักษะของคนไทยทุกคน และทำให้ทุกตารางนิ้วบนแผ่นดินไทย เป็นพื้นที่ให้คนไทยได้กล้าฝัน กล้าสร้างสรรค์ และกล้ากำหนดอนาคตของตัวเอง

ประเทศแห่งโอกาส

 "ดิฉัน แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี จะรับผิดชอบหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งโอกาส เป็นประเทศแห่งความหวัง เป็นประเทศแห่งความสุข ของคนไทยทุกคนอย่างเท่าเทียม" นายกรัฐมนตรี คนที่ 31 กล่าวทิ้งท้าย

จากนั้น น.ส.แพทองธารได้เข้าไปไหว้ขอบคุณบรรดารัฐมนตรี รวมถึงนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี และ สส. จากนั้นได้เข้าไปสวมกอดคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ มารดา และนายทักษิณ  ชินวัตร บิดา โดยคุณหญิงพจมานถึงกับหลั่งน้ำตาร้องไห้ด้วยความยินดี ก่อนที่จะไปกอดพี่ชายพี่สาว แล้วมาสวมกอดกับนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี ซึ่งทุกคนในครอบครัวพร้อมทั้ง น.ส.แพทองธารเองถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความตื้นตันและยินดี

ภายหลังพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง น.ส.แพทองธารพร้อมแกนนำพรรคเพื่อไทย พรรคร่วมรัฐบาล และนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมแถลงข่าว  โดย น.ส.แพทองธารได้กล่าวขอบคุณสมาชิกผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนอีกครั้ง ที่เลือกให้ตนมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 และขอให้คำมั่นสัญญาว่า จะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด ขอบคุณนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจทำเพื่อประเทศชาติตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ตัวเองไม่ได้วางแผนในการที่จะมาเป็นนายกฯ ในครั้งนี้มาก่อน แต่ก็พร้อมและเต็มใจที่จะรับใช้ประชาชนอย่างสุดความสามารถ 

"ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นตำแหน่งที่มีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ ประเทศชาติผ่านอุปสรรคผ่านปัญหาต่างๆ ซึ่งประเทศไทยยังมีปัญหาเรื่องปากท้องที่รอการแก้ไข และดิฉันตั้งใจว่า การได้รับตำแหน่งนี้ มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ปากท้องของประชาชนดีขึ้น และมีความตั้งใจที่จะผลักดันนโยบายทางเศรษฐกิจทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ปัญหายาเสพติด หรือระบบสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาทรักษาทุกที่ จะยังคงผลักดันนโยบายไทยแลนด์ซอฟต์พาวเวอร์อย่างต่อเนื่องหลังเริ่มทำมาตั้งแต่ต้น"

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ยังมีความตั้งใจที่จะร่วมงานกันทุกภาคส่วนเพื่อผลักดันนโยบายเหล่านี้ให้สำเร็จลุล่วงได้ ขอให้ทุกคนได้ติดตามการแสดงนโยบายอย่างเป็นรูปธรรมในเดือน ก.ย.นี้ สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณพลังที่สำคัญที่สุด พลังอันยิ่งใหญ่คือพลังของประชาชน ทั้งที่เลือกตัวตนเองและไม่ได้เลือกตนเอง ขอสัญญาว่าจะทำหน้าที่นี้อย่างเต็มความสามารถ โดยที่ไม่มีการแบ่งแยกความแตกต่างทุกเพศทุกวัย ทุกความหลากหลาย ในฐานะนายกฯ คนที่ 31 ในฐานะแม่ ในฐานะลูก ในฐานะเพื่อน มีความมุ่งมั่นตั้งใจจะทำให้ประเทศไทยทุกตารางนิ้วเป็นพื้นที่ของโอกาสเป็นพื้นที่ที่คนไทยทุกคน จะกล้ามีความฝันกล้า มีความคิดที่สร้างสรรค์และกล้ากำหนดอนาคตของตัวเอง

น.ส.แพทองธารกล่าวชี้แจงว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่ได้สั่งให้ล้มเลิกโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ซึ่งการจะดำเนินโครงการใดก็ตาม จะต้องปรึกษากับพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเข้าใจดีว่านายทักษิณไม่สามารถลบบทบาททางการเมืองออกได้ ซึ่งในส่วนของโครงการดิจิทัลฯ มีความตั้งใจที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศ ซึ่งในปีที่แล้วพรรคเพื่อไทยหาเสียงโดยโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ได้มีการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลมาอย่างดีแล้ว แต่ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา มีเหตุเกิดขึ้นมากมาย สภาพเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไป จึงต้องมีการศึกษาและรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติม และต้องอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ซึ่งจะต้องทำต่อไป แต่ในเนื้อหารายละเอียดจะต้องมีความชัดเจน และจะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นต่อเนื่อง เพราะเป้าหมายคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ ฉะนั้นความตั้งใจนี้ยังต้องอยู่แน่นอน

ไม่ให้มีคดีซ้ำรอยพ่อ-อา

เมื่อถามถึงบทบาททางการเมืองของนายทักษิณหลังจากนี้ ซึ่งหลายคนกังวลว่าอาจจะเข้าข่ายครอบงำทางการเมือง น.ส.แพทองธารกล่าวว่า นายทักษิณไม่ได้เข้ามาครอบงำ เพราะตนและคนในครอบครัวมีความคิดเป็นของตัวเอง เรามีการปรึกษากัน แต่ก็ให้เกียรติกัน ใครอยู่บทบาทไหนก็ต้องมีความคิดเป็นของตัวเอง แต่แน่นอนว่าคนที่เราเคารพนับถือย่อมมีส่วนสำคัญ ในส่วนของตำแหน่งนายทักษิณหลังจากนี้ ยังไม่ได้คิดไว้ ตัวของนายทักษิณก็ไม่ได้อยากมีตำแหน่งอะไร ที่สำคัญจะต้องดูเรื่องข้อกฎหมายที่มีความละเอียดอ่อนด้วย ว่ามีทางไหนที่จะสามารถใช้วิสัยทัศน์ของนายทักษิณได้โดยไม่โดนคดีตามมา

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าใน ครม.ใหม่จะไม่มีนามสกุล "วงษ์สุวรรณ" น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ไม่เคยได้ยินมาก่อน การจัดทำ ครม.จะต้องร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล และยังจะมีนามสกุลไหนหรือไม่มีนามสกุลไหน

เมื่อถามถึงคำปรามาสที่เข้ามารับตำแหน่งนายกฯ ได้มาเพราะพ่อให้ และในอนาคตจะซ้ำรอยพ่อและอา น.ส.แพทองธารกล่าวว่า จะทำหน้าที่นายกฯ อย่างเต็มที่ เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประเทศ และพร้อมที่จะเข้าหาทุกภาคส่วนเข้าหาทุกคน ทั้งพรรคร่วม อดีตนายกฯ และคนที่มีความสามารถ เชื่อจากหัวใจว่าคนหนึ่งคนไม่สามารถทำงานที่ใหญ่สำเร็จได้เพียงคนเดียว จึงต้องขอคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ทั้งหมด เพื่อให้การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมีความหมาย และผลักดันนโยบายเพื่อประเทศชาติได้มากที่สุด

"ยอมรับว่าไม่มีใครอยากโดนคดี อย่างคุณพ่อและคุณอา ซึ่งทั้ง 2 คนก็ไม่ได้อยากโดนแบบนี้ จึงตั้งใจจะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด ถูกต้องที่สุด เราต้องมองที่เป้าหมาย หากนั่งกังวลทุกอย่างก็คงไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ดังนั้นจะทำให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้มีคดี"

ช่วงท้ายการแถลงข่าว น.ส.แพทองธารกล่าวถึงคติในการดำรงตำแหน่งนายกฯ คือ “ทำวันนี้ให้ดีที่สุด“

จากนั้น เวลา 11.50 น. น.ส.แพทองธารเดินทางกลับออกจากอาคารวอยซ์สเปซ โดยได้กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า จะไปหาเพื่อน และยังไม่มีกำหนดการทางการอื่น ขอให้มีการตั้ง ครม.ก่อน

เมื่อถามว่า จะสามารถเซต ครม.ได้เมื่อไหร่ ภายในสัปดาห์นี้จะแล้วเสร็จหรือไม่ น.ส.แพทองธารไม่ตอบคำถามดังกล่าว เพียงระบุว่า ไม่สัมภาษณ์แล้ว พร้อมชวนสื่อมวลชนมาถ่ายรูปเซลฟี ขณะที่ประชาชนที่มารอแสดงความยินดีก็ขอถ่ายรูปร่วม และก่อนเดินทางกลับนายกฯ ได้หันมาถามคณะทำงานว่าเป็นนายกฯ แล้วยังสามารถเดินทางไปเรียนหลักสูตรมินิ วปอ.ได้หรือไม่ ทีมงานยืนยันว่ายังสามารถเดินทางไปเรียนได้ตามปกติ

จากนั้นนายกฯ ได้เดินทางกลับออกจากอาคารวอยซ์สเปซ ระหว่างทางได้ถ่ายรูปเซลฟีกับผู้ให้การสนับสนุน รวมทั้งรับช่อดอกไม้ที่แสดงความยินดี

อย่างไรก็ตาม คณะทำงานนายกฯ ชี้แจงว่า ในวันที่ 19 ส.ค. นายกฯ จะมีการประชุมย่อยวงเล็ก ที่ SC ASSET Public Company Limited ถนนวิภาวดีรังสิต และจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหากมีอะไรที่เป็นทางการ

ด้านนายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสว่า “ดีครับ เรียบร้อยดี” วันนี้ก็รู้สึกใจเรามองไปข้างหน้าคือ ความท้าทายเรื่องบ้านเมือง ปัญหาต่างๆ เยอะ ก็ต้องช่วยกัน เพราะมีปัญหามาก เมื่อถามว่าได้แนะนำแนวทางให้ น.ส.แพทองธารอย่างไรบ้าง นายทักษิณกล่าวว่า เขาเห็นมาตลอด เขาเห็นการทำงานของตนมาโดยตลอด เพราะฉะนั้นเขาก็รู้ว่าเขาจะต้องเหนื่อย ต้องทุ่มเท ต้องดึงทุกภาคส่วนมามีส่วนร่วม

เมื่อถามถึงในพิธีได้สวมกอดกัน พูดอะไรกับ น.ส.แพทองธาร นายทักษิณกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “เมื่อ 23 ปีที่แล้ว ผมยืนข้างหน้า เขายืนข้างหลัง วันนี้เขามายืนข้างหน้า ผมยืนข้างหลัง”

เมื่อถามว่า จะเกิดความท้าทายอะไรหรือไม่  นายทักษิณกล่าวว่า ปัญหาประเทศคือสิ่งที่ต้องทำงานหนัก แต่ข้อดีของเขาคือเขาอายุน้อย สามารถเดินไปหาทุกหน่วยที่จะขอความช่วยเหลือ ร่วมมือได้ เขาไม่ถือตัว เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน

ไม่มีทางซ้่ำรอยพ่อ

เมื่อถามว่า ถ้ามีโอกาสเหมาะสมแล้วจะเข้ามาเป็นที่ปรึกษาหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ไม่จำเป็นอะไร ถ้ามีอะไรก็โทร.ถามได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว เมื่อถามย้ำว่าในฐานะทางการเมืองจะช่วยอะไรหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า “ไม่หรอกครับ แก่แล้วครับ 75 แล้ว”

เมื่อถามว่า กังวลว่าจะซ้ำรอยท่านหรือไม่ นายทักษิณกล่าวอย่างหนักแน่นว่า “ไม่มีทาง”

เมื่อถามถึงโผ ครม.ที่มีกระแสว่านายทักษิณเป็นคนจัด นายทักษิณกล่าวว่า ยัง เป็นเรื่องของนายกฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีบรรดาแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลได้ทยอยเดินลงมารับประทานอาหารร่วมกันที่อาคารวอยซ์สเปซ โดยนายภูมิธรรมปฏิเสธที่จะกล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดตั้ง ครม. เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อเท็จจริงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าการปรับ ครม.ครั้งนี้ นายทักษิณระบุว่าจะต้องไม่มีคนในตระกูลวงษ์สุวรรณ นายภูมิธรรมกล่าวว่า นายกฯ พูดไปหมดแล้ว ส่วนกระแสข่าวดังกล่าวตนไม่เคยได้ยิน และไม่มี และนายกฯ ก็ได้พูดชัดเจนไปหมดแล้ว วันนี้ น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ แล้ว ก็ขอให้ท่านเป็นผู้ดำเนินการ ยืนยันว่าไม่มีผู้จัดการรัฐบาล วันนี้นายกฯ เป็นตัวหลัก ส่วนโผ ครม.เสร็จหรือยังใครจะไปรู้ ต้องไปถามนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่า โดยขั้นตอนอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ส.ค. ยังคงดำรงตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ อยู่ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า วันที่ 20 ส.ค.เรายังทำหน้าที่รักษาการอยู่ เพราะทั้งหมดยังต้องเป็นไปตามขั้นตอน แม้วันนี้จะมีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกฯ ลงมาแล้ว แต่ก็ยังมีขั้นตอนในการถวายสัตย์ปฏิญาณ การแต่งตั้ง ครม.ยังมีอีกหลายอย่าง ขณะนี้ยังไม่มีการหารืออย่างเป็นทางการใดๆ เป็นหน้าที่นายกฯ คนใหม่

นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกดีใจที่ได้นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 แล้ว และวันนี้พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคก็มาร่วมรับพระบรมราชโองการฯ และให้กำลังใจนายกฯ ที่จะบริหารประเทศจากนี้เป็นต้นไป เมื่อถามว่าโควตาของพรรคภูมิใจไทยมั่นใจใช่หรือไม่ว่าจะยังคงจำนวนเท่าเดิม นายอนุทินกล่าวว่า "ผมไม่ชอบใช้คำว่าโควตา มันเป็นการทำงานร่วมกันในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ทุกอย่างจะดำเนินต่อไปด้วยความราบรื่น มีประสิทธิภาพ"

เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธารได้ฝากอะไรให้ได้ดูแลหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ก็คงต้องสานงานต่อ และให้สภาพความเป็นพรรคร่วมรัฐบาลดำรงอยู่ แต่ละพรรคก็จะมีนโยบาย และการทำงานที่ต่อเนื่อง ส่วน น.ส.แพทองธารจะมีนโยบายเพิ่มเติม หรือสั่งข้อราชการอะไรใหม่ เราก็พร้อมรับไปปฏิบัติ

เมื่อถามว่า การันตีใช่หรือไม่ว่าจะได้คุมกระทรวงมหาดไทยเช่นเดิม นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มีอะไรการันตี เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน ทุกอย่างก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากนี้ ส่วนการตั้ง ครม.ชุดใหม่ ก็เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว ในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลเราตอบอะไรไม่ได้

สำหรับกระแสข่าวที่จะมีพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลด้วยนั้น จะทำให้โควตาของพรรคภูมิใจไทยมีอะไรที่เปลี่ยนไปหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับพรรคเพื่อไทย เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เราไม่ทราบว่าพรรคแกนนำได้ไปหารือกับพรรคอื่นอย่างไร ก็ต้องรอการหารือก่อน

ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กทม. โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ขอเสนอ 4 นโยบาย ยกระดับสังคมไทย หากทำได้ จะได้ใจประชาชนว่า คือ 1.การศึกษา ต้องมาก่อน และเริ่มทันที 2.ขจัดยาเสพติด ทุกรูปแบบ 3.ความปลอดภัยสาธารณะ 4.รัฐบาลโปร่งใส ไม่คอร์รัปชัน

นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 เปิดเผยว่า กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 หรือกลุ่มคนเสื้อแดง มีความเชื่อมั่นในตัว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย เพราะสังคมปัจจุบันเป็นสังคมใหม่ คนอายุน้อย หรือคนรุ่นใหม่จึงมีมุมมองที่กว้างกว่าคนรุ่นเก่าที่ยังยึดติดกับจารีตประเพณี น.ส.แพทองธารเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีสไตล์การทำงานแบบลุยๆ เหมือนนายทักษิณ บิดา จึงเป็นความชอบธรรมที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกฯ ในช่วงเวลานี้

นายเพชรวรรตกล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้คนเสื้อแดงทั่วประเทศยังเป็นกำลังใจให้นายทักษิณและ น.ส.แพทองธาร หากมีกลุ่มไหนออกมาเคลื่อนไหวขับไล่ทั้งที่ยังไม่ได้ทำงาน คนเสื้อแดงก็พร้อมออกมาทันที เพราะเรายังรักและศรัทธานายทักษิณ และพร้อมออกมาต่อสู้ปกป้องหากท่านไม่ได้รับความยุติธรรม

นายเพชรวรรตยังฝากถึงนายทักษิณ น.ส.แพทองธาร และพรรคเพื่อไทย ที่จะเข้ามาเป็นแกนนำรัฐบาล ให้ช่วยแก้ปัญหาหลักๆ 2 เรื่อง คือ 1.ปัญหายาเสพติดที่บ่อนทำลายประเทศ และ 2.ปัญหาเศรษฐกิจระดับฐานราก ส่วนนโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ก็อยากให้เดินหน้าต่อ ไม่ควรยกเลิก เพราะเป็นนโยบายที่ดี แต่อาจปรับเปลี่ยนเงื่อนไขให้เหมาะสม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง