หุ้นร่วง! ตกใจศาลตัดสิน "เศรษฐา" หลุดเก้าอี้นายกฯ เอกชนช็อกหวั่นลงทุนชะงักซ้ำ กระทบเศรษฐกิจระยะสั้น หวังเร่งเลือกนายกฯ-ครม.ใหม่ การเมืองกลับมามีเสถียรภาพโดยเร็วที่สุด
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ความเคลื่อนไหวหุ้นไทยช่วงบ่าย ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยคดียื่นถอดถอนนายเศรษฐา ทวีสิน จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ขาดคุณสมบัติในความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ ปรากฏว่าดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงกว่า 15 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,292.69 จุด ลดลง 5.10 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.39% มูลค่าซื้อขาย 53,352.88 ล้านบาท
บล.เอเซีย พลัส (ASPS) ระบุว่า กรณีนายกรัฐมนตรีถูกถอดถอน รองนายกรัฐมนตรี คนที่ 1 คือ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ทำหน้าที่รักษาการนายกฯ ส่วน ครม. สามารถรักษาการต่อได้จนกว่าจะมีนายกฯ คนใหม่ ซึ่งจะจัดให้มีการโหวตเลือกในสภาผู้แทนราษฎรภายใน 45-60 วัน ซึ่งเชื่อว่าช่วงเวลาที่จะเกิดสุญญากาศทางการเมือง น่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ทั้งนี้ ประเมินจากการจับมือของพรรคร่วมรัฐบาลที่ยังเข้มแข็ง และไม่น่าจะเห็นการปรับเปลี่ยนแนวนโยบายที่สำคัญ
ด้านนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า คำวินิจฉัยถอดถอนนายกฯ ทำให้นักลงทุนต่างช็อกและชะงักการลงทุน สำหรับปัจจุบันประเทศไทยมีปัญหาทางเศรษฐกิจที่รุมเร้า รวมถึงมีความท้าทายมากมายที่เกิดขึ้นในโลก และประเทศไทยยังอยู่ในช่วงที่จะต้องรีบเร่งในการที่จะสร้างความเชื่อมั่น สร้างการลงทุนใหม่ๆ เชิญชวนนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ
“ผมคิดว่าช่วงนี้เป็นช่วงจังหวะที่สำคัญ และปัจจัยที่เป็นตัวที่พิจารณาสำหรับนักลงทุน ก็คือเรื่องของการเมือง เราต้องมีการเมืองที่มีเสถียรภาพ หรือว่ามีความนิ่ง และต่อเนื่อง เพราะที่ผ่านมาไม่มีความต่อเนื่องมานาน การเปลี่ยนขั้วพรรคการเมืองตลอดเวลาก็จะทำให้นโยบายที่รัฐบาลเคยขับเคลื่อนนั้นหยุดชะงักไป มันก็ขาดความต่อเนื่อง” ประธาน ส.อ.ท.ระบุ
นายเกรียงไกรกล่าวว่า ต้องยอมรับว่าตั้งแต่มีคดี ตลอดระยะเวลากว่า 80 วัน ทุกคนชะลอการลงทุนอยู่แล้ว และรอดูกันอยู่ว่าสถานการณ์จะเป็นยังไง ทุกฝ่ายมีการมอนิเตอร์ติดตามผล แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกอุตสาหกรรมจะหยุดหมด เพราะขึ้นอยู่กับความต้องการของอุตสาหกรรมนั้นๆ ด้วย ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศฝั่งอเมริกา ยุโรป อาจจะให้น้ำหนักในเรื่องนี้มาก เรียกว่าซีเรียสเลยก็ว่าได้ ทำให้มีนักธุรกิจหลายรายต้องการความชัดเจน นอกจากนี้ ยังมีการสอบถามพูดคุยกับทาง ส.อ.ท.อยู่ตลอดเวลา แต่ว่านักลงทุนทั้งโซนเอเชียเองอย่างนักลงทุนจากญี่ปุ่น ที่ถือว่าเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดของไทย และอยู่ในประเทศมา 40-50 ปี อาจจะเริ่มเรียนรู้และสามารถปรับตัวได้
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในมุมมองของหอการค้าฯ ต่อผลการตัดสินของศาลที่ออกมา เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องน้อมรับ แต่ในส่วนของเศรษฐกิจ ต้องบอกว่ากระทบความเชื่อมั่นของประเทศระยะสั้น โดยเฉพาะโครงการและแผนงานต่างๆ ที่กำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศในขณะนี้
"หอการค้าฯ เชื่อว่าในช่วงที่จะต้องรอเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ พร้อม ครม.ชุดใหม่ ซึ่งมีกระบวนการไม่น้อยกว่า 1 เดือน คงจะมีการเร่งกระบวนการ เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไป เชื่อว่าจะไม่กระทบประมาณการเศรษฐกิจปีนี้ ซึ่งการท่องเที่ยวก็ยังเดินหน้าต่อไปได้ และช่วงนี้ก็อยากให้มีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ เพื่อจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ต่อเนื่อง พร้อมสภาก็ยังสามารถพิจารณางบประมาณปี 68 ได้ต่อ" นายสนั่นระบุ
หอการค้าฯ อยากเห็นการเมืองที่กลับมาเดินหน้าอย่างมีเสถียรภาพโดยเร็วที่สุด เพราะต้องยอมรับว่าปัญหาปากท้องของประชาชนในภาวะเช่นนี้เป็นเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไขปัญหา โดยหวังว่าฝ่ายการเมืองโดยระบบรัฐสภาจะได้ช่วยกันในการที่จะดำเนินตามกระบวนการของประชาธิปไตย เพื่อให้ประเทศไทยกลับมาสู่การรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มในการบริหารด้านประเทศ ให้เติบโตได้ตามศักยภาพต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ย้อนเจ็บ ไม่ปฏิเสธเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชา เป็นนายกฯและรมว.กลาโหมของไทยหรือกัมพูชา
ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊ก พร้อมแชร์คลิปการให้สัมภาษณ์ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม ว่า
จงรักภักดีจนชีวิตหาไม่
"ในหลวง" เสด็จฯ ไปในพิธีสวนสนามของทหารรักษาพระองค์
‘บุญทรง’พ้นคุก คุมตัวที่บ้าน3ปี ชื่นชมลูกผู้ชาย
"บุญทรง" ได้พักโทษ พ้นคุก ใส่กำไลอีเอ็มกลับบ้านที่เชียงใหม่
รุมดีดปาก‘เชิดชัย’ขู่ยุบสภา
"ภูมิธรรม" โบ้ย "หมอเชิดชัย" ให้ไปยุบสภาเอง ยันอำนาจอยู่ที่นายกฯ
เมินเปิดเวทีถกMOU รอทีบีซีช่วยคนไทย
“ภูมิธรรม” ปัดทิ้งข้อเสนอ พปชร.เปิดเวทีสาธารณะถก MOU 44
ชูแม่สายโมเดลแก้ท่วมใต้ เพิ่มงบผู้ว่าฯ-เร่งเยียวยา
"ในหลวง" โปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรีเชิญสิ่งของพระราชทานมอบแก่ผู้ประสบภัย