ปปช. เล็งสอบ 44 อดีตสส. พท.-พปชร. ฮั้วเลือกซ่อม

ประธาน ป.ป.ช.เผยจ่อเรียก 44 สส.อดีตก้าวไกลมาชี้แจง ผิดจริยธรรมหรือไม่​หลังลงชื่อแก้​ ม.112 พร้อมส่งศาลฎีกาตามขั้นตอนต่อไป ด้าน "หมอวรงค์" ตามขยี้เซ้งพรรคสิ้นสภาพ จี้ กกต.สอบย้อนหลังสาขาพรรคถิ่นกาขาวฯ 4 ภาคถึงปี 60 “เทพไท” ดึงสติจองล้างจองผลาญอาจสร้างแนวร่วมมุมกลับ ได้คะแนนสงสารเพิ่มกระแสนิยม “พีระพันธุ์” ไม่เปลี่ยนใจเก้าอี้ 2 รมต.พร้อมส่ง "ขิง" ขึ้นแท่น รมต. เลือกตั้งซ่อมพิษณุโลกเดือด พท.เล็งหารือ พปชร.สู้ "ณฐชนน”

เมื่อวันจันทร์ ที่ท้องสนามหลวง พล.ต.อ.วัชรพล​ ประสารราชกิจ​ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีการพิจารณาคดี 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกล ที่ลงชื่อแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112​ ว่า​ เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรม ต้องให้มีการไต่สวน​ให้ปากคำชี้แจงไป ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องมาตรฐานจริยธรรม โดย ป.ป.ช.จะยื่นต่อศาลฎีกาโดยตรง หลังจากนั้นศาลฎีกาจะดำเนินการไต่สวน  และหลังจากนั้นหากศาลพิจารณาแล้วอาจมีการไต่สวนพยานเพิ่มเติม

เมื่อถามว่า ป.ป.ช.มีความเป็นห่วงคดีดังกล่าวหรือไม่​ พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า ไม่เป็นห่วงเพราะทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายและข้อเท็จจริง ซึ่งต้องมีการชี้แจง ยืนยันว่า ป.ป.ช.จะให้ความเป็นธรรม ส่วนจะเรียกให้ 44  สส.มาชี้แจงเมื่อใดนั้น​ ตนคิดว่าคงไม่ช้า ซึ่งจะต้องเป็นไปตามกระบวนการ

 เมื่อถามว่า ไม่รู้สึกกดดันใช่หรือไม่​กับการพิจารณา​คดีดังกล่าว พล.ต.อ.วัชรพล​กล่าวว่า​ ไม่กดดัน​ เรามีหน้าที่ก็ทำไป แต่ข้อสำคัญทำแล้วต้องตอบได้ในกระบวนการไต่สวนเพื่อให้ความเป็นธรรม

เมื่อถามว่า จะส่งเรื่องให้ศาลฎีกาได้เมื่อใด พล.ต.อ.วัชรพล​กล่าวว่า ไม่สามารถตอบได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องของสำนักไต่สวน ป.ป.ช. แต่ถึงอย่างไรก็คาดว่าไม่น่าทันช่วงที่ตนยังดำรงตำแหน่งอยู่ เนื่องจากจะหมดวาระในช่วงอีก 4 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งยังมีอีกหลายเรื่องที่อยู่ระหว่างการพิจารณาก่อนที่ตนจะหมดวาระ ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้ามาตามวาระ ไม่อยากให้มองว่าใกล้เกษียณแล้วจะไม่ต้องเร่งรีบการพิจารณาคดี​

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ยื่นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบการมีสาขาย้อนหลังของพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ประเด็นที่ต้องตรวจสอบคือ เราไม่ได้ตรวจสอบตอนปัจจุบัน “ตอนนี้คุณมีครบ แต่ย้อนหลังคุณอาจจะมีไม่ครบ” กกต.ต้องตรวจสอบการมีสาขาย้อนหลังของพรรคนี้ ไปจนถึงวันที่กฎหมายพรรคการเมืองมีผลบังคับ  นั่นคือต้องตรวจสอบการมีสาขาครบ 4 ภาคไปถึงปี 2560 เพราะเลขาธิการ กกต.ออกมายอมรับเองว่าเพิ่งมีการจัดตั้งจนครบ

“ถ้าหากพรรคการเมืองไปเซ้งพรรคที่สิ้นสภาพ เพราะมีสาขาไม่ครบ 4 ภาคติดต่อกัน 1 ปี ต่อไปพรรคนี้จะเป็นเช่นไร จะสิ้นสภาพตามหรือไม่ พรรคการเมืองต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ต้องเป๊ะ เพื่อความโปร่งใส พรรคไทยภักดีจะไปยื่นให้ กกต.ตรวจสอบการมีสาขาของพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล จากระบบฐานข้อมูลพรรคการเมืองย้อนหลัง ในวันอังคารที่ 13 ส.ค. 67 เวลา 10.30 น. ที่สำนักงาน กกต.” นพ.วรงค์ระบุ

ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช  โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าติเรือทั้งโกลน จ้องเล่นงานพรรคประชาชน จนเกิดกระแสสงสารและพรรคเริ่มคึกคักขึ้นมาทันที ในขณะเดียวกันก็มีผู้เตรียมร้องยุบพรรคประชาชน และประกาศขัดขวางต่อต้านนโยบายแก้ไขมาตรา 112 พรรคประชาชน ที่ประกาศไม่ลดเพดานลง ซึ่งเรื่องนี้อยากให้ทุกฝ่ายได้ตั้งสติใจเย็นๆ

“อย่าให้สังคมมองว่าพรรคประชาชนถูกรังแก จนได้รับคะแนนสงสารมากขึ้น น่าจะเปิดโอกาสให้พรรคประชาชนได้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองไปก่อนสักระยะหนึ่ง ดีกว่าตั้งหน้าตั้งตาขัดขวาง จองล้างจองผลาญกันตั้งแต่วันเริ่มต้นเลย เมื่อถึงวันนั้นถ้าหากพรรคประชาชนเคลื่อนไหวทางการเมือง มีประเด็นที่ขัดต่อกฎหมาย ก็สามารถยื่นตรวจสอบและยุบพรรคได้ แต่ตอนนี้เหมือนเป็นจุดเริ่มต้น ไม่ควรติเรือทั้งโกลน ในฐานะที่เป็นนักการเมืองมาก่อน อยากให้พรรคประชาชนได้เคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย อย่าเคลื่อนไหวแบบท้าทายผู้มีอำนาจ” นายเทพไทระบุ 

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ตอบคำถามถึงการเสนอชื่อปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรค รทสช.ยังเหมือนเดิมหรือไม่ ที่จะดึงนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค เข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี และ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ยังอยู่เหมือนเดิม โดยนายพีระพันธุ์เพียงแต่พยักหน้ารับ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงเรื่องตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ว่า เรื่องนี้ในพรรคมีการคุยกันแล้วและเสนอชื่อนายภราดรไป เมื่อถามว่า พรรคประชาชนยังคงยืนยันที่จะเสนอชื่อคนชิงตำแหน่งรองประธานสภาฯ เพราะอ้างว่ามีเสียงมากที่สุด นายอนุทินกล่าวว่า ก็เป็นไปตามกระบวนการของระบอบประชาธิปไตย ใครก็เสนอได้

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะรองประธานสภาฯ คนที่ 2 กล่าวว่า  เป็นเรื่องของคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลหรือวิปรัฐบาล ที่จะหารือกันเองเป็นการภายในว่าจะให้ สส.จากพรรคไหนมาดำรงตำแหน่งดังกล่าว ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่ติดใจและไม่คิดว่าจะต้องขยับขึ้นไปนั่งเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1

ที่โรงแรมหรรษนันท์ อ.เมืองพิษณุโลก นายณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุมไพรมารีโหวตพร้อมใจกันเลือกตนเป็นตัวแทนเข้าไปสมัครเลือกตั้งซ่อม สส.เขต1 พิษณุโลก โดยหลังจากนี้มีการคาดการณ์กันไว้ว่า จะมีการเปิดรับสมัครเลือกตั้งซ่อมในวันที่ 21 ส.ค.นี้ และจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 15 ก.ย. โดยตนและทีมงานมีความพร้อมมากขึ้น ได้เตรียมตัวมาหลายปีแล้ว ซึ่งตนก็เป็นคนพิษณุโลก โตที่นี่ก็จะรู้ปัญหาดี รู้ช่องทางดีในการทำงานมากับหมออ๋อง จึงมั่นใจว่าจะไม่ทำให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวพิษณุโลกผิดหวัง

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า เราจะยึดความพร้อมของผู้สมัครเป็นหลัก โดยเราจะเร่งเคาะว่าจะส่งผู้สมัครลงแข่งหรือไม่เร็วๆ นี้

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยต้องคุยกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งได้คะแนนเป็นลำดับที่ 2 ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาหรือไม่ เพื่อไม่ให้พรรคร่วมรัฐบาลตัดคะแนนกันเอง นายสรวงศ์กล่าวว่า ต้องมีการพูดคุยกัน  อาจจะเป็นในคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล  (วิปรัฐบาล) หรือในที่ประชุมพรรคร่วมวันเดียวกันนี้ ซึ่งขอย้ำเรื่องความพร้อมของผู้สมัครเป็นหลัก เพราะหากเราส่งไปแล้วก็อยากจะชนะ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พรรคร่วมฯงง ‘ภูมิธรรม’ พลิ้ว ยื้อถก ‘กาสิโน’

"ภูมิธรรม" เปิดตึกไทยคู่ฟ้า แม้ไร้เงานายกฯ หารือพรรคร่วม รบ.ปม "กาสิโน" เลขาฯ พท.เผยอยากให้คุยตกผลึกก่อนชง ครม. มั่นใจ “พรรครัฐบาล-ฝ่ายค้าน"

'อนุทิน' ไม่ว่าง ส่ง 'ไชยชนก' ถก 'กาสิโน' ชง 'ภราดร' นั่งรองปธ.สภาฯ

'อนุทิน' ติดงาน ส่ง 'ไชยชนก' หารือกฎหมาย 'กาสิโน' แทน รับ ภท. เสนอชื่อ 'ภราดร' นั่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ไม่เกี่ยง 'พรรคประชาชน' ส่งแข่ง