พร้อมสู้ ‘ธนกร’ ขวางแก้112 ‘นันทิวัฒน์’ เชื่อหยุดที่คุก!

ไม่ลดเพดานเจอกันแน่! "ธนกร" ลั่นหากพรรคประชาชนยังคิดแก้ ม.112 อีก คงต้องมาสู้กัน พร้อมสู้เต็มที่ สู้ตามวิถีทางของสภา แนะคิด  วิเคราะห์ แยกแยะ และทบทวนให้ดีก่อนจะเริ่มนับหนึ่ง เพราะถือเป็นความเสี่ยงต่ออนาคตทางการเมือง ด้าน "นันทิวัฒน์" ยุส่ง ไปให้สุด หยุดที่คุก  ใครโง่เข้าเร็วหน่อย

เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2567 นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังพรรคก้าวไกลตั้งพรรคใหม่ในชื่อพรรคประชาชน มีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เป็นหัวหน้าพรรค โดยได้แสดงวิสัยทัศน์ไม่ลดเพดานการเคลื่อนไหวแก้ไขมาตรา 112 ว่า ก่อนอื่นก็ขอแสดงความยินดีด้วยกับนายณัฐพงษ์ ที่เป็นผู้นำคนใหม่ พรรคประชาชน  ต่อจากนายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ มีความสามารถ แต่ตนมองว่าควรใช้ความรู้ความสามารถที่มี สร้างนโยบายใหม่ๆ ที่ดีมีประโยชน์พัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนมาเป็นอันดับแรก แข่งขันกับพรรคอื่นด้วยนโยบายใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์แก้ปัญหาปากท้อง ความยากจน  แก้เศรษฐกิจ พัฒนาคุณภาพชีวิตและการศึกษาของเด็กเยาวชนก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หัวหน้าพรรคประชาชนประกาศเดินหน้าแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ต่อเนื่องจากพรรคก้าวไกลที่ทำไว้เดิมแบบไม่ลดเพดาน นายธนกรตอบว่า นายณัฐพงษ์ ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ตนมองว่าสมควรจะต้องถอดบทเรียนคดีที่ถูกยุบพรรคก้าวไกลให้ละเอียด และนำไปกำหนดยุทธศาสตร์การทำงานของพรรคประชาชนเสียใหม่ ว่าการกระทำที่ผ่านมานั้นบกพร่องผิดพลาดจริงตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาอย่างละเอียด ชัดเจนตามกรอบของกฎหมายแล้ว ไม่ใช่การดื้อแพ่ง พยายามหาช่องที่จะเดินหน้าแก้กฎหมายดังกล่าวต่ออย่างต่อเนื่องแบบไม่ลดเพดาน แม้จะบอกว่าไม่ประมาทและต้องปรับวิธีการก็ตาม ตนมองว่าล้วนแต่เป็นความเสี่ยงในทางการเมืองทั้งสิ้น ที่สำคัญกฎหมายมาตรา 112 เป็นการปกป้องไม่ให้ผู้ใดละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นความมั่นคงของชาติมิได้ จึงขอเรียกร้องให้พรรคประชาชนคิด  วิเคราะห์ แยกแยะ และทบทวนให้ดีก่อนจะเริ่มนับหนึ่ง เพราะถือเป็นความเสี่ยงต่ออนาคตทางการเมือง

“เจอผมแน่ ถ้าไม่ลดเพดาน ขอบอกไว้ตรงนี้ชัดๆ เลยว่า ไม่แก้ ไม่ยกเลิก ไม่แตะต้อง ม.112 เด็ดขาด ถ้าใคร พรรคไหนยังคิดจะแก้อีก ก็คงต้องมาสู้กัน พร้อมสู้เต็มที่ สู้ตามวิถีทางของสภา สู้ตามกฎหมาย ยืนยัน คนรักเทิดทูนสถาบันพร้อมออกมาปกป้อง ไม่ยอมแน่นอน ผมว่าทำเรื่องอื่นเถอะครับ เรื่องดีๆ นโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ผู้มีรายได้น้อย แก้ปัญหาปากท้อง ทำเศรษฐกิจให้ดี ดีกว่าตั้งเยอะ” นายธนกรระบุ

ด้านนายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ระบุว่า แกนนำอดีตก้าวไกลบอกว่า ยักไหล่ แล้วไปต่อ แปะป้ายชื่อใหม่ พรรคประชาชน หัวหน้าใหม่มั่นหน้า จะเดินหน้า ม.112 ต่อไป อ้างศาลรัฐธรรมนูญไม่ห้าม

ศาลฯ ชี้ชัดเจน อยากบอกว่า โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง พฤติการณ์ความเคลื่อนไหวผ่านทางกิจกรรม รณรงค์ผ่านสื่อที่เป็นการบ่อนแซะ ทำลาย พยายามแยกสถาบันออกจากความเป็นประเทศไทย เป็นอันตรายต่อความมั่นคงแห่งชาติอย่างมีนัยสำคัญ และความพยายามทำให้สถาบันเสื่อมพระเกียรติ ไม่ต้องด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 6 รวมทั้งความพยายามดึงสถาบันเป็นคู่ขัดแย้งกับประชาชน

อยากบอกว่า คนบ้านนี้อ่านหนังสือไม่แตก ไม่เข้าใจ หรือแกล้งโง่กับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าจะไม่ลดเพดานเรื่อง ม.112 อยากบอกว่าเอาเลย ไปให้สุด หยุดที่คุก ใครโง่เข้าเร็วหน่อย เพราะถูกที่ปรึกษากฎหมายหลอก ฉลาดมีตังค์หนีไปเมืองนอกสิ รอทำไม

อยากบอกว่า จะเปลี่ยนกี่สิบชื่อก็ไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้น หากยังหลงละเมอกับวัฒนธรรมและค่านิยมตะวันตก ทั้งๆ ที่แกนนำตาตี่ทุกคนหลงใหลได้ปลื้มกับตะวันตก แล้วมองไม่เห็นการแบ่งแยกกีดกันเชื้อชาติ สีผิว รังแกคนเอเชียในดินแดนตะวันตก

คำสามคำ ที่มีมาหลังปฏิวัติ 1789 เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ ที่จำขี้ปากฝรั่ง ถามจริงๆ ไม่เห็นการล่าอาณานิคม ขูดรีด ตักตวงทรัพยากรของเมืองขึ้น ซื้อขายทาส นี่คือเสมอภาค เสรีภาพหรือ อย่าโง่ พูดกันอยู่ได้

ประเทศนี้ทรุดฮวบมาตั้งแต่ 2475 เมื่อนักการเมืองที่อ้างประชาธิปไตย มาจากการเลือกตั้ง เข้ามากอบโกย คอร์รัปชัน ฮุบป่าไม้ จ้องแต่จะยึดฉกฉวยทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์เข้ากระเป๋าตัวเอง และสมบัติรัฐเข้ากระเป๋าตัวเอง นักการเมืองไม่เคยคิดถึงผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน  อย่าสนับสนุนนักการเมืองที่เป็นทาสรับใช้ตะวันตก  มุ่งเปลี่ยนแปลงค่านิยม วัฒนธรรมไทยให้เป็นตะวันตก.