อนุกมธ.งบ68ปัดไร้ใบสั่ง ไฟเขียวกองทัพช็อปอาวุธ

ผ่านงบฯ ซื้อเครื่องบินรบ 1.95 หมื่นล้าน  อนุ กมธ.งบฯ เผยแจงตั้งแท่นปี 68 วงเงิน 3.9 พันล้านบาท ประธานอนุ กมธ.แจง ราบรื่นกว่าทุกปี  รับรู้ความจำเป็น-สถานการณ์โลกเปราะบาง เชื่อรัฐบาลให้เกียรติกองทัพเป็นผู้เลือกระหว่างกริพเพน-เอฟ 16 เองในฐานะผู้ใช้งาน

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2567 นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ICT  และทุนหมุนเวียน ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมาธิการพิจารณางบฯ กระทรวงกลาโหมของ 6 หน่วยรับงบประมาณ เมื่อวันที่ 8 ก.ค.67 มีการปรับลดงบประมาณในภาพรวมลงไปกว่า 580 ล้าน และโครงการที่เป็นไฮไลต์คืองบจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ทดแทนระยะที่ 1 ของกองทัพอากาศ (ทอ.) ซึ่งมี 2 ค่ายอยู่ในข่ายการพิจารณาคือ กริพเพนของสวีเดน และเอฟ 16 สหรัฐอเมริกา

ส่วนเหตุผลที่กรรมาธิการเห็นชอบ เพราะเมื่อเห็นตัวเลขคำขอรับงบประมาณ 1.95 หมื่นล้าน โดยปี 68 เป็นงบตั้งต้น 3.9 พันล้านบาท คิดเป็น 20% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด และคำชี้แจงของ ทอ. ทางกรรมาธิการทุกคนเห็นถึงความจำเป็น และทราบดีถึงสถานการณ์โลกว่าเปราะบาง สงครามเกิดขึ้นได้ในทุกภูมิภาค และคู่ขัดแย้งลามไปหลายแห่ง การจะซื้อเครื่องบินสมรรถนะสูงต้องใช้ระยะเวลาและเข้าคิว ถ้าไม่คิดตั้งแต่ตอนนี้ ท้ายที่สุดจะส่งผลต่อศักยภาพในการป้องกันการรุกล้ำชายแดน การป้องกันชายแดน ถ้าไม่มีการเริ่มต้นกระบวนการจัดซื้อ เราจะอ่อนแอ ตนเชื่อว่าคนไทยคงไม่อยากให้ประสิทธิภาพตรงนี้หย่อนลง ทำให้ กมธ.ทุกพรรคเห็นตรงกันว่าควรจะจัดหา

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเจรจานโยบาย offset policy ทั้งทางตรงและทางอ้อม จึงต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่าง ทำให้ กมธ.ไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ ยังเป็นความลับ เพราะเป็นช่วงของการแข่งขันกัน ถ้าไปเปิดเผยของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไทยในฐานะประเทศผู้ซื้อก็จะเสียเปรียบ เพราะเราไม่ได้มีอำนาจเหนือกว่าผู้ผลิต แต่เราก็ได้สอบถามหลายเรื่องว่า ทั้งทางตรงและทางอ้อมควรจะประกอบด้วยอะไรบ้าง ซึ่งกองทัพอากาศให้ความร่วมมือในการชี้แจงเป็นอย่างดี

โดย ทอ.ยืนยันว่า การจัดซื้อครั้งนี้ได้คำนึงถึงยุทธศาสตร์และความคุ้มค่าด้านงบประมาณ ในระยะสั้น กลาง ยาว โดยดูภาระงบประมาณของประเทศด้วย เพราะฉะนั้น offset policy จึงเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นในการพิจารณา แต่หมายความว่าจะต้องมีมากกว่าวงเงินที่ให้ไป เช่น สิ่งที่ได้รับตอบแทนมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคโนโลยี การฝึกคน และผลประโยชน์ทางอ้อม รวมถึงความร่วมมือต่างๆ จะต้องเกินมูลค่างบประมาณที่อนุมัติไป สำหรับกรอบเวลาในการตัดสินใจเลือกแบบนั้น ต้องรอนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่ามีความคืบหน้าอย่างไร แต่ในท้ายที่สุดฝ่ายนโยบายก็จะให้เกียรติกองทัพในฐานะผู้ใช้ ซึ่งการประสานงานอย่างใกล้ชิด เบื้องต้นคงต้องใช้เวลาในการพิจารณาอีกระยะหนึ่ง เพราะเป็นเรื่องใหญ่และเป็นเรื่องระหว่างประเทศ คงต้องให้เวลากองทัพอีกสักพักหนึ่ง

ทั้งนี้ ในส่วนของ offset policy ทางตรง ตนได้ให้ความเห็นไปว่า เราควรได้อุปกรณ์ต่างๆ data link ถ้าบริษัทผู้ผลิตเปิดโอกาสให้เราพัฒนาระบบเองก็จะเป็นอิสระ ในความร่วมมือต่างๆ และเป็นอิสระจากการควบคุมจากบริษัทผู้ผลิตด้วย ขณะที่ระบบ MBDA Meteor จรวดนำวิถีอากาศ-สู่-อากาศ ซึ่งเป็นอาวุธที่ยังไม่เห็นศัตรู ก็สามารถต่อสู้ได้ระยะหลายร้อยกิโลเมตร จึงบอก ทอ.ไปว่าถ้าได้เป็นของแถมจะดีมาก เพราะราคาต่อลูกสูงถึง 10 กว่าล้านบาท ซึ่งทางกองทัพอากาศก็รับไป แต่ก็เชื่อมั่นว่ากองทัพอากาศจะเจรจาภายใต้สิ่งที่เราจะได้ประโยชน์สูงสุด และคำนึงถึงปัจจัยรอบด้วยมาเกี่ยวข้อง เมื่อวานจึงทำให้การพิจารณาเป็นไปด้วยความราบรื่นและเรียบร้อยดี

นายสรวุฒิกล่าวว่า ขั้นตอนจากนี้ ตนจะไปชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญงบประมาณชุดใหญ่วันที่ 19 สิงหาคมนี้ ซึ่งก็จะถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายของคณะ กมธ. จากนั้นก็จะเข้าสู่การเห็นชอบในวาระที่ 2 และ 3 ของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมไม่ได้มีการพูดถึงโครงการเรือดำน้ำของกองทัพเรือ (ทร.) แต่พูดเฉพาะในภาพรวมที่กองทัพเรือขอรับงบฯ 6 โครงการเข้ามา ซึ่งมีการปรับลดไป 111 ล้านบาท ในประเภทครุภัณฑ์ที่มีความเร่งด่วนเล็กน้อย เช่น เครื่องมือทันตกรรม เป็นต้น

เมื่อถามว่า ส่วนที่มองว่ารัฐบาลไฟเขียวโครงการซื้ออาวุธ ต่างจากปีที่แล้วที่คว่ำงบซื้อเรือฟริเกต 2 ลำ ประธานอนุ กมธ.ชี้แจงว่า คงไม่ใช่ ยืนยันว่าไม่ได้มีใบสั่งหรือคำสั่ง หรือได้รับการประสานงานมาจากที่ไหน แต่ดูความจำเป็น ในฐานะเราเป็นขั้นตอนแรกของการอนุมัติงบโครงการ เป็นขั้นตอนที่สำคัญ เพราะได้ใกล้ชิดข้อมูลมากที่สุด เมื่องบประมาณปี 67 ที่มีการเสนอโครงการเรือฟริเกตเข้ามา ตนไม่ได้อยู่ด้วย แต่ถ้าเข้ามาปีนี้ ก็คิดว่าเวลาจะเหลื่อมกัน จึงมีการขอเข้ามาไม่ทัน จึงเชื่อว่าถ้าในปีหน้ากองทัพเรือเห็นว่ามีความสำคัญ และรัฐบาลคิดว่ามีความจำเป็นก็ขอเข้ามาใหม่ได้

ส่วนที่มองว่าโครงการอาวุธผ่านฉลุยเพราะรัฐบาลบริหารจัดการงบโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจบแล้วใช่หรือไม่ นายสรวุฒิกล่าวว่า คิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกันเลย ปีที่แล้วตนทำหน้าที่ กมธ.บริหาร ก็ดูทุกอย่างตามสิ่งที่เห็น เช่น เบิกจ่ายไม่ทัน มีการตั้งงบซ้ำซ้อนไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ หรือราคาสูงไป จึงไม่แน่ใจว่า กมธ.ที่พิจารณาเรื่องเรือฟริเกตของงบปี 2567 เห็นประเด็นอย่างไร หรืออาจจะมีความคลาดเคลื่อนในเรื่องความเข้าใจ ทำให้ไม่ได้รับการพิจารณาในปีนั้น แต่ในปีนี้เราก็สนับสนุนภารกิจของทุกเหล่าทัพ เพราะเห็นว่าสถานการณ์เปราะบางมากๆ ถ้าประเทศไทยไม่สามารถเสริมขีดความสามารถให้ประชาชนอุ่นใจได้ และบ้านเรารั้วจะไม่แข็งแรง ก็คงมีความเสี่ยง ปีนี้ราบรื่นมากๆ เพราะรัฐบาลกองทัพและประชาชนให้การสนับสนุนทุกด้าน ต่างจากตอนที่พิจารณาเรื่องเรือดำน้ำและเอฟ 35 ในปีผ่านมา

ที่ลานอเนกประสงค์ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (ศรีสมาน) นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ได้ลงมาพบกับกลุ่มพี่น้องเพื่อนนักรบไทยทุกหมู่เหล่า นำโดยนายอิศรพงค์ ณ เชียงใหม่ ซึ่งได้นัดหมายจัดกิจกรรมให้กำลังใจ และกล่าวขอบคุณนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ในฐานะนายกสภาทหารผ่านศึก ที่ช่วยดำเนินการผลักดันพระราชบัญญัติองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก พ.ศ…. (เงินผดุงเกียรติทหารผ่านศึกผู้ถือบัตรชั้น 2, 3 และ 4 เดือนละ 3,000 บาท                  

จากนั้นนายสุทินได้กล่าวกับกลุ่มทหารผ่านศึกว่า ทางรัฐบาลและกระทรวงกลาโหมได้ตระหนักถึงความเสียสละของทหารผ่านศึกมาโดยตลอด และทราบว่าการดูแลทุกคนของทางราชการ แม้จะดูแลอย่างดี แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของทหารผ่านศึกได้ และในขณะเดียวกัน ตนยังได้รับข้อมูลมาว่ากลุ่มได้เสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาคือ

 “การเสนอกฎหมาย เรื่องเงินผดุงเกียรติเดือนละ 3,000 บาท ซึ่งประเด็นนี้ผมก็พูดคุยกับหลายหน่วยงาน เช่น กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ก็พบว่าไม่มีหน่วยงานใดที่คัดค้านในเรื่องการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับทหารผ่านศึก”

อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มีแรงคัดค้าน แต่ทุกหน่วยงานที่แสดงความคิดเห็นก็ชี้แจงไปในทิศทางเดียวกันว่า ขาดเรื่องงบประมาณที่จะนำมาใช้ ดังนั้นจึงต้องมาพูดคุยร่วมกันอีกครั้งว่าจำนวนเงินที่กลุ่มเสนอมา กับจำนวนเงินที่เหมาะสมที่จะนำมาช่วยเหลือจะอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่

นายสุทินเผยว่า สำหรับเรื่องพระราชบัญญัติฯ ที่ทางกลุ่มได้ยื่นมานั้น ซึ่งตอนนี้มีกระแสข่าวว่านายกรัฐมนตรีได้ปัดตกไปแล้วนั้น ตนจะไปดูในรายละเอียดอีกครั้ง หากปัดตกจริง ตนก็จะไปดูเรื่องการออกระเบียบต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง