“จุลพันธ์” มั่นใจคดี “เศรษฐา” ไม่กระทบแจกเงินหมื่น ยันมีกลไกตรวจสอบยิบ รับกู้ ขาดดุลเพิ่มดันหนี้สาธารณะพุ่ง แต่จะบริหารงานอย่างระมัดระวัง "ศรีสุวรรณ" ยื่นฟ้องศาลปกครองเอาผิดนายกฯ-ครม. พร้อมขอสั่งระงับ-คุ้มครองชั่วคราว
เมื่อวันที่ 9 ส.ค. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลยังมั่นใจว่าสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมือง โดยเฉพาะการพิจารณาคดีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 14 ส.ค.นี้ จะไม่มีผลกับตัวโครงการดิจิทัลวอลเล็ตอย่างแน่นอน เพราะรัฐบาลมั่นใจอยู่แล้วว่าจะผ่านไปได้ ไม่มีอะไร และมองว่าหากสถานการณ์การเมืองมีความชัดเจนมากขึ้น น่าจะมีผลดีกับตลาดทุน นักลงทุนจะคลายความกังวลลง ส่งผลให้สถานการณ์ในตลาดทุนปรับตัวดีขึ้น แต่ส่วนหนึ่งต้องบอกว่า ปัจจัยที่มีผลกับตลาดทุนไทยในขณะนี้ยังมีปัจจัยภายนอกจากต่างประเทศเข้ามากดดัน และสร้างความผันผวนให้การลงทุน โดยเฉพาะเรื่องสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐ
นายจุลพันธ์กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งรายงานถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) แนะให้รัฐบาลระวังโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ยืนยันว่าที่ผ่านมารัฐบาลได้รับความคิดเห็นของทุกหน่วยงานที่ส่งเข้ามาทุกครั้ง เพื่อนำไปพิจารณาดูว่าจะสามารถดำเนินการในประเด็นใดได้บ้าง สะท้อนจากที่ผ่านมามีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดและข้อจำกัดต่างๆ ในโครงการ ซึ่งเป็นไปตามกลไกเพื่อให้ล้อไปกับข้อสังเกตที่เป็นประโยชน์จากทุกหน่วยงานต่างๆ ที่รัฐบาลรับมาและดำเนินการแล้ว
นายจุลพันธ์กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายมองว่าร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่น อีเลฟเว่น และมินิบิ๊กซี สามารถเข้าร่วมโครงการได้นั้น ยืนยันว่าร้านสะดวกซื้อดังกล่าวเข้าร่วมโครงการได้จริง แต่ในคำว่าร้านสะดวกซื้อไม่ได้มีแค่ร้านดังกล่าว เพราะตามข้อเท็จจริงรัฐบาลมีลิสต์รายชื่อร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศในปัจจุบันเยอะมาก ส่วนใหญ่อยู่ตามชนบท ดังนั้น การจะไปตัดสิทธิ์ร้านสะดวกซื้อทั้งหมดอาจจะต้องมาพิจารณากันอย่างละเอียด
สำหรับความคิดเห็นและข้อสังเกตของ ธปท. เกี่ยวกับการพิจารณาสั่งการของคณะรัฐมนตรี (ครม.) การกำหนดนโยบาย หลักเกณฑ์และเงื่อนไขของคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต และคณะอนุกรรมการกำกับการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต รวมถึงการดำเนินงานของหน่วยรับงบประมาณ ต้องเป็นไปด้วยความรอบคอบและระมัดระวังนั้น นายจุลพันธ์ระบุว่า รัฐบาลมีกลไกหลายกลไกที่ดำเนินการในเรื่องนี้ เช่น เรื่องการบังคับการใช้จ่าย 2 รอบ รวมถึงการตัดร้านค้าขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการ ก็เป็นอีกกลไกที่ตอบสนองโจทย์ดังกล่าวเช่นเดียวกัน เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายที่กระจายตัว ไม่กระจุกตัว
ส่วนความเห็นของสภาพัฒน์ที่ระบุว่า ยังไม่มีความจำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการบริโภคเพิ่มเติม แต่ควรให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาที่เป็นสาเหตุของการขยายตัวในเกณฑ์ต่ำของเศรษฐกิจ ทั้งปัญหาในระยะสั้นและระยะยาวนั้น นายจุลพันธ์ให้ความเห็นว่า อาจจะเป็นมุมมองที่แตกต่างกัน
รมช.การคลังกล่าวว่า กลไกนี้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ แต่ไม่ใช่มิติเดียว โดยรัฐบาลยังเร่งดำเนินการในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ การพัฒนาอุตสาหกรรม s-curve การพัฒนาฝีมือแรงงาน การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ส่วนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น เป็นเพียงมาตรการระยะสั้น แต่ยังเป็นกลไกในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลในระยะยาวด้วย
รมช.การคลังระบุว่า ยืนยันว่าการดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ตยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง แม้จะต้องยอมรับว่าโครงการจะต้องมีการกู้เงิน 5 แสนล้านบาท ซึ่งส่วนนี้จะเข้ามาเติมในหนี้สาธารณะ เป็นการขาดดุลเพิ่มเติม แต่รัฐบาลจะบริหารงานอย่างระมัดระวัง โดยปัจจุบันหนี้สาธารณะอยู่ที่ 11.5 ล้านล้านบาท แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หนี้สาธารณะก็ปรับเพิ่มขึ้นจาก 5 ล้านล้านบาท เป็น 10 ล้านล้านบาท แต่ไม่มีกลไกในการบริหาร พัฒนาหรือปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจเลย ขณะนั้นควรเตือนกันบ้าง แต่ทำไมไม่เตือน
วันเดียวกัน ที่ศาลปกครองกลาง นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี รมว.การคลัง และคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ฐานใช้อำนาจโดยมิชอบ และละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ ตามมาตรา 9 (1) (2) ของ พ.ร.บ.จัดตั้งและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 โดยขอให้ระงับโครงการ พร้อมขอสั่งคุ้มครองชั่วคราว
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า มีประชาชนบางส่วนไม่เห็นด้วย เนื่องจากเป็นโครงการที่ใช้จำนวนเงินมหาศาล ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าว หากไปใช้ในโครงการพัฒนาอื่นๆ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่า แต่หากนำมาแจกเงินให้กับบุคคลที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป จะทำให้ผู้ที่ได้รับเงินและผู้ที่ไม่ได้รับจ่ายเงิน จะต้องมาร่วมชดใช้หนี้สิน เพราะเงินดังกล่าวนอกจากจะมาจากภาษีประชาชนแล้ว ยังมาจากเงินกู้ ที่จะต้องชำระดอกเบี้ยด้วย ทั้งที่สถานภาพทางเศรษฐกิจตอนนี้ทุกคนต้องแบกรับภาระหนี้ครัวเรือนสูงกว่า 70% ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมฯ รวมถึงหลายหน่วยงาน ออกมายืนยันว่าการดำเนินการโครงการดิจิทัลฯ 10,000 บาท จะทำให้เศรษฐกิจโตได้ 0.6 ถึง 0.9% เท่านั้น และเกิดในระยะเวลาที่สั้นๆ แต่หลังจากนั้นภาระหนี้สินของประเทศจะเพิ่มมากขึ้น
นายศรีสุวรรณกล่าวด้วยว่า การที่รัฐบาลไม่ฟังเสียงท้วงติงของนักเศรษฐศาสตร์ และนักวิชาการ รวมถึงหน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรง แต่กลับพยายามจะผลักดันโครงการอย่างถูลู่ถูกัง ทำให้หลายคนมองว่าเรื่องนี้ส่อว่าจะขัดต่อกฎหมาย โดยเฉพาะ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง และ พ.ร.บ.เงินตรา รวมทั้งกฎหมายเกี่ยวกับเงินสำรองงบประมาณ หากไม่หยุดโครงการนี้ คนไทยทุกคนก็จะร่วมกันรับผิดชอบ
“ขอให้ศาลสั่งระงับโครงการดังกล่าว หรือหากรัฐบาลเดินหน้าโครงการนี้ต่อ ก็ให้ไปปรับเงื่อนไขตามคำแนะนำของหลายองค์กร โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง คนยากคนจน ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีประมาณ 10 ล้านคน ซึ่งจะใช้เม็ดเงินไม่มาก และไม่เป็นภาระสำหรับงบประมาณที่จะใช้ไปพัฒนาโครงการอื่นๆ” นายศรีสุวรรณระบุ
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า แม้รัฐบาลจะมีการปรับที่มาของเงิน โดยออกเป็น พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2567 ที่เพิ่งผ่านสภา งบประมาณ 1.22 แสนล้านบาท บางส่วนเป็นเงินกู้ ไม่ใช่มาจากงบประมาณเพียงอย่างเดียว แต่รัฐบาลพยายามใช้เทคนิคในการสอดไส้ และอ้างว่าไม่ใช่เงินกู้ แต่ความเป็นจริงแล้วมันคือเงินกู้ ซึ่งสถาบันการเงินหลายแห่งได้ทำวิจัย เพราะว่าคนที่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้แท้ที่จริงแล้วอาจไม่ใช่ผู้ค้ารายเล็ก แต่จะเป็นประโยชน์ต่อร้านสะดวกซื้อ ที่กระจายตัวอยู่นับหมื่นแห่งทั่วประเทศ ซึ่งเป็นของนายทุนใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังพรรคการเมืองหรือนักการเมืองมาโดยตลอด โครงการนี้จึงอาจไม่ได้เป็นไปอย่างที่รัฐบาลได้โฆษณาชวนเชื่อมาโดยตลอด
นายศรีสุวรรณกล่าวทิ้งท้ายว่า หากศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว จะทำให้โครงการแจกเงินจะต้องสะดุดหยุดลงเหมือนกับกรณีที่เคยยื่นฟ้องโครงการเงินกู้ 3.5 แสนล้านบาทในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งศาลปกครองก็ให้การคุ้มครองชั่วคราว จนสุดท้ายโครงการนี้ก็ต้องยุติลง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เดินหน้าแก้‘ม.112’ ‘เท้ง’ลั่นอุดมการณ์‘พรรคประชาชน’ฟุ้ง2570ตั้งรัฐบาล!
เปิดตัว "พรรคประชาชน" ใช้โลโก้สามเหลี่ยมมุมกลับสีส้ม ตั้ง กก.บริหารพรรคเพียง 5 ราย "ณัฐพงษ์" นั่งหัวหน้าพรรค ปชช.
อนุกมธ.งบ68ปัดไร้ใบสั่ง ไฟเขียวกองทัพช็อปอาวุธ
ผ่านงบฯ ซื้อเครื่องบินรบ 1.95 หมื่นล้าน อนุ กมธ.งบฯ เผยแจงตั้งแท่นปี 68 วงเงิน 3.9 พันล้านบาท
อึ้ง!ค่าต๋งกาสิโน5พันล.30ปี
อึ้ง! “ภูมิธรรม” เปิดทำเนียบฯ วันแม่แห่งชาติ เรียกหัวหน้าและเลขาธิการพรรคร่วมฯ
นายกฯคิกออฟ อนุรักษ์หาดไทย ขยะทำสัตว์ตาย
นายกฯ คิกออฟ Phuket Sandbox ต้นแบบอนุรักษ์หาดไทยเฉลิมพระเกียรติ
ฟ้องศาลปค.ระงับเงินดิจิทัล
“จุลพันธ์” เร่งเครื่องดัน "ดิจิทัลวอลเล็ต" การันตีอีก 1 เดือนรู้ชัดวันใช้จ่ายเงิน