นายกฯคิกออฟ อนุรักษ์หาดไทย ขยะทำสัตว์ตาย

นายกฯ คิกออฟ Phuket Sandbox ต้นแบบอนุรักษ์หาดไทยเฉลิมพระเกียรติ นำร่องลดขยะ 14 หาดภูเก็ต ก่อนขยายไปทั่วประเทศ อึ้ง!  สัตว์ทะเล 40% ตายเพราะขยะ จากความสะเพร่ามักง่ายของคน แนะสร้างจิตสำนึกให้คนรับรู้  สั่งดูแลบ้านพัก จนท. ให้อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี กำชับเร่งทำแผนรับมือพื้นที่เสี่ยงดินถล่ม

เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม เวลา 09.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมนายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายจตุพร บุรุษพัฒน์  ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ  ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต เพื่อตรวจติดตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาดินโคลนถล่ม

ต่อมาเวลา 11.10 น. นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเดินทางมายังศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากสิรีธาร ตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต โดยได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ภาพรวมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และดูเต่ากระ เต่าตนุ เต่าหญ้า ที่บาดเจ็บจากขยะในทะเล ประมาณ 40%  โดยมีสัตวแพทย์อธิบายถึงการรักษา และแจ้งว่าส่วนใหญ่มาจากกิจกรรมทำการประมง รวมถึงพลาสติกต่างๆ ซึ่งสร้างความเสียหายจากการเสียดสี ขูดขีดและเป็นรอยถลอก โดยเฉพาะเต่าที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก

โอกาสนี้ นายกฯ ยังได้เยี่ยมชมบ้านพักของเจ้าหน้าที่ โดยระบุว่า รัฐบาลมีความเป็นห่วงเป็นใยข้าราชการ โดยคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณบ้านพักให้กับข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ขณะเดียวกันกรมราชทัณฑ์มีพนักงานที่อยู่ตรงนี้ จึงอยากให้มีการก่อสร้างที่อยู่อาศัย เท่าที่เห็นบ้านพักเก่ามากแล้ว การที่เราต้องสร้างขวัญกำลังใจให้ข้าราชการเป็นเรื่องสำคัญ ที่นี่อยู่กันร้อยกว่าครอบครัว อยากให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ เพื่อให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น ให้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี สร้างให้เสมอภาคเท่าเทียมกัน และส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ได้ จึงขอฝากไว้เป็นนโยบาย ทุกอย่างต้องค่อยๆ ทยอยทำ เพื่อเป็นตัวอย่าง

จากนั้น นายกฯ ได้ประชุมพิจารณามาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาดินโคลนถล่ม  ณ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามันตอนบน (ภูเก็ต) พร้อมกล่าวว่า ขอบคุณที่เรามาอยู่ตรงนี้ ซึ่งเป็นโครงการในองค์อุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ดูแล้วน่าประทับใจ หลายๆ อย่าง นับว่าเป็นเรื่องที่เราสามารถมาเรียนรู้อะไรหลายอย่าง มีผลกระทบในระยะยาว เช่นเต่าทะเล ไม่ทราบเลยว่า 40% ของเต่าและสัตว์ทะเลที่บาดเจ็บเสียชีวิตเกิดมาจากขยะทั้งนั้น หากสามารถนำเสนอสร้างการรับรู้ได้ดี และปกป้องได้ดี เรื่องพวกนี้จะเกิดขึ้นยาก สัตว์ทะเลจะแพร่พันธุ์ได้ง่ายขึ้นและมีชีวิตยืนยาว

"เดินผ่านมาเห็นพิพิธภัณฑ์ที่กำลังก่อสร้างเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวและสนับสนุนการท่องเที่ยว เหนือสิ่งอื่นใดต้องปลูกฝังจิตใต้สำนึก สัตว์ทะเลที่หายาก เพราะเสียชีวิตจากความสะเพร่าหรือมักง่ายของมนุษย์ ฉะนั้นต้องปลูกฝังเรื่องการทิ้งขยะ ถือเป็นเรื่องสำคัญ อยากให้เร่งให้ความรู้กับประชาชนทั่วไป" นายกฯ ระบุ

ส่วนเรื่องการป้องกันดินโคลนถล่ม ได้รับฟังข้อเสนอแนะและปัญหาต่างๆ ถือเป็นปัญหาที่ใหญ่พอสมควร จึงขอสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดี อธิบดีกรมชลประทานได้เสนอแผนงานมาแล้ว ต้องทำความเข้าใจประชาชนในพื้นที่ให้ดี รวมถึงพื้นที่สีแดงที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งภูเก็ตมี 3 พื้นที่ มีมาตรการเร่งด่วนหรือไม่ที่จะต้องโฟกัส เพราะตอนนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูฝนแล้ว เป็นช่วงอันตรายที่เราต้องดูแลกันต่อไป และให้กรมทรัพยากรธรณี ตั้งอุปกรณ์แจ้งเตือนภัย ที่ต้องมีการซักซ้อม เพื่อให้เข้าถึงประชาชนทุกครัวเรือน ทั้งน้ำป่า ภัยพิบัติ โคลนถล่ม พร้อมกันนี้ ให้ร่วมกันออกแบบการเฝ้าระวังและเตือนภัย ทั้งในจังหวัดภูเก็ตและพื้นที่อื่นที่เป็นพื้นที่สีแดง โดยใช้ข้อมูลทางเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพราะความเป็นอยู่ของประชาชน และเรื่องสำคัญไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก

ต่อมาเวลา 13.00 น. นายเศรษฐาเดินทางเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ วัดไชยธาราราม (วัดฉลอง) อำเภอเมืองภูเก็ต เพื่อความเป็นสิริมงคล เมื่อมาถึงได้กราบพระมหาพงษ์ศักดิ์ เตชวัณโณ เจ้าอาวาสวัดฉลอง ที่มายืนรอต้อนรับบริเวณหน้าอุโบสถ ก่อนเข้าไปกราบพระประธานในพระอุโบสถ พร้อมสนทนาธรรมกับเจ้าอาวาส โดยเจ้าอาวาสเล่าว่า ที่วัดแห่งนี้ได้มีการทำพิธีตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และวัดแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเป็นจำนวนมาก มีตำรวจท่องเที่ยวเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวก จากนั้นได้มอบหลวงพ่อแช่ม วัดฉลององค์จำลอง ให้นายกฯ เป็นที่ระลึก   หลังจากนั้น นายกฯ ได้ลงมาจุดประทัดจำนวน 6,000 นัด เพื่อถวายหลวงพ่อแช่ม และเพื่อความเป็นสิริมงคล ภายหลังจุดประทัดเจ้าหน้าที่ได้นำหางประทัดมาให้ดู โดยนายเศรษฐาได้โชว์ต่อสื่อมวลชนพร้อมบอกว่า มีเลข 87 และ 829 ซึ่งเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ต่างเข้ามาถ่ายรูปเพื่อนำไปเสี่ยงโชค ต่อ จากนั้นนายกฯ ได้ทักทายตำรวจท่องเที่ยวที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในวัดฉลอง รวมถึงอาสาสมัครที่สถานทูตแต่ละประเทศส่งมาร่วมปฏิบัติงานอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

โดยระหว่างที่อยู่ภายในวัด มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูปขอจับมือกับนายกฯ ทั้งชาวสเปน จีน มาเลเซีย อินเดีย โปแลนด์ ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวโปแลนด์บอกว่ารู้สึกโชคดีที่ได้เจอกับนายกฯ ในวันนี้ จากนั้นเวลา 13.50 น. ที่หาดป่าตอง นายกฯ เปิดโครงการรักษ์ 72 หาดไทย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยได้เดินเยี่ยมชมนิทรรศการ “Phuket Sandbox ต้นแบบอนุรักษ์หาดไทยเฉลิมพระเกียรติฯ” ซึ่งจัดโดยหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) มีการรายงานสถานการณ์ขยะทะเลของจังหวัดภูเก็ต และมาตรการจัดการขยะทางทะเล ซึ่งมีระยะเวลาการดำเนินโครงการ 3 ปี ในพื้นที่ 14 หาดของ จ.ภูเก็ต เพื่อเป็นต้นแบบในการลดขยะชายหาด ส่งเสริมการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสร้างความร่วมมือกับกลุ่มผู้ค้าตามชายหาดและนักท่องเที่ยว เพื่อจัดการขยะที่ถูกต้อง ก่อนขยายไปยัง 72 หาดทั่วประเทศ

ทั้งนี้ นายกฯ ได้สอบถามว่า หากโครงการดำเนินการจนประสบความสำเร็จแล้วจะมีการขยายโครงการไปยังพื้นที่อื่นๆ อย่างไร พร้อมแนะให้ประเมินผลการดำเนินโครงการในช่วง 2-3 เดือน ก่อนปรับให้ครอบคลุม 6 จังหวัดชายฝั่งทะเล ประกอบด้วย กระบี่ ตรัง สุราษฎร์ธานี ชลบุรี ระยอง ตราด โดยมีภูเก็ตเป็นต้นแบบ นายเศรษฐายังได้เยี่ยมชมบูธของอุทยานแห่งชาติสิรินาถ โดยมีจิตอาสาจากแอฟริกาใต้และเยาวชนจากหมู่บ้านไม้ขาว ร่วมกับอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ที่ได้นำสินค้าซึ่งผลิตจากขยะทะเล เช่น พวงกุญแจ งานศิลปะจากทะเล ซึ่งนายเศรษฐาได้อุดหนุนพวงกุญแจที่ทำมาจากขยะ จำนวน 4,000 บาท เพื่อเป็นกำลังใจให้อาสาสมัครและเยาวชนในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมขอบคุณอาสาสมัครที่เข้ามาทำโครงการนี้ในเมืองไทย

จากนั้น นายกฯ ได้เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ โดยระบุว่า รัฐบาลได้น้อมนำแนวพระราชดำริ แนวพระราชปณิธาน และพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกี่ยวกับการพัฒนาสิ่งแวดล้อมมาเป็นแนวทางการดำเนินงาน โดยประเทศไทยได้ถูกจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ประเทศ ที่มีขยะหลุดลอยลงทะเลมากที่สุดของโลก รัฐบาลจึงเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมอบหมายให้ ทส.ดำเนินโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ต้นแบบอนุรักษ์หาดไทยฯ  เพื่อสร้างความตระหนักให้ประชาชนช่วยกันอนุรักษ์ ดูแลรักษาความสวยงามของชายหาดและท้องทะเลไทย ซึ่งเป็นก้าวสำคัญนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน

ก่อนที่นายเศรษฐาจะทำกิจกรรม “ร่อนทรายคัดแยกขยะ” ร่วมกับเยาวชน อาสาสมัคร นักท่องเที่ยว และกลุ่มก้าวพลาด ท่ามกลางความสนใจจากบรรดานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เข้ามาทักทายและขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เอาแล้ว! เกษตรกรขอนแก่นบอกรัฐบาลอุ๊งอิ๊งไม่จริงใจช่วยเหลือชาวนาสู้ยุคลุงตู่ไม่ได้

เกษตรกรขอนแก่น ระบุ รัฐบาล 'อุ๊งอิ๊ง' ไม่จริงใจ หลังอนุมัติช่วยเหลือชาวนาไทยเหลือ 10 ไร่ต่อครัวเรือน พร้อมระบุสู้รัฐบาล 'ลุงตู่' ไม่ได้ เพราะเคยได้ถึงครัวเรือนละ 20,000 บาท