เดือด!ระบอบปชต.กลายพันธ์

"ด้อมส้ม" ร่ำไห้ "ก้าวไกล" ถูกยุบ  "ชัยธวัช" นำทีมแต่งดำแถลงจุดยืน ยักไหล่แล้วไปต่อ ชี้คำตัดสินไม่ส่งผลดีในระยะยาว เหตุอาจสร้างบรรทัดฐานตีความ กม.ใหม่ ทำระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขกลายพันธุ์ไปเป็นระบบอื่นใด "ศิริกัญญา"  อุบเปิดชื่อ "พรรคใหม่" นัด 9 ส.ค.รู้แน่ ลั่นไม่เช็กชื่องูเห่า มั่นใจ สส.ร่วมอุดมการณ์ไปบ้านหลังใหม่ทุกคน "พิธา" ไม่วางมือ ขอทำงานนอกสภา ดันเพื่อนอดีต สส.ขึ้นเป็นรัฐบาลสมัยหน้า "สส.ก้าวไกล" กอดกันอำลาสภา "หมออ๋อง" พ้นเก้าอี้ "รอง ปธ.สภาฯ" นายกฯ เชื่อทุกฝ่ายเคารพกติกาไม่วุ่นวาย

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2567 บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญกำหนดนัดแถลงด้วยวาจา  ปรึกษาหารือ และลงมติเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล (กก.) และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของบุคคลผู้เป็นคณะกรรมการบริหารพรรคนั้น เจ้าหน้าที่มีมาตรการการรักษาความปลอดภัยรอบอาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคาร A)  ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีการติดตั้งจอทีวีพร้อมลำโพงไว้เพื่อถ่ายทอดการอ่านคำวินิจฉัยที่บริเวณโถงกลาง ชั้น 2

จนเวลา 12.30 น. ได้เกิดความวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย เมื่อแฟนคลับพรรคก้าวไกล เป็นผู้หญิง 2 คน เดินทางมาชูป้ายเขียนว่า เป็น "กำลังใจพรรคก้าวไกล"# คัดค้านยุบพรรคก้าวไกล ถึงโถงด้านในหน้าศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุม จนเจ้าหน้าที่ตำรวจขอความร่วมมือให้ออกมาด้านนอกอาคาร รวมทั้งยังมีแฟนคลับพรรคก้าวไกลอีก 4 คน นำช่อดอกไม้เดินทางมารอให้กำลังใจนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล 

เวลา 13.00 น. กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) นำโดยนายอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานกลุ่ม ได้เดินทางมาติดตามสถานการณ์ที่ศาลรัฐธรรมนูญเช่นกัน แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้เข้ามายังอาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ A เนื่องจากเป็นพื้นที่ควบคุมเช่นกัน

ที่พรรคก้าวไกล อาคารอนาคตใหม่ ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ ตั้งแต่ช่วงเช้ามีมวลชนทยอยเดินทางกันมาอย่างต่อเนื่องตามที่พรรคได้แจ้งการจัดกิจกรรมตลอดทั้งวัน เพื่อรอฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญร่วมกัน โดยมีการนำป้ายไวนิลที่มีข้อความว่า "ก้าวไกลไปต่อ!' เสื้อโลโก้พรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล มาแขวนริมรั้วตรงบริเวณลานกิจกรรม และยังมีประชาชนนำมาผ้าสีส้มมาให้มวลชนได้เขียนข้อความเพื่อให้กำลังใจ

เวลา 13.30 น. นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า บรรยายพิเศษในหัวข้อ ศาลรัฐธรรมนูญกับการยุบพรรคการเมือง ตอนหนึ่งได้ตั้งคำถามว่า อนาคตศาลรัฐธรรมนูญไทยควรจะไปต่อหรือยกเลิก หากจะไปต่อ ไปต่ออย่างไร ตนมองว่าได้เวลาปฏิรูปศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีข้อเสนอดังนี้ 1.เปลี่ยนองค์ประกอบและกระบวนการได้มาซึ่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยมี 9 คน แบ่งเป็น 3-3-3 โดยสามแรกให้ฝ่ายรัฐบาลเป็นคนเสนอ สามที่สองให้ฝ่ายค้านเสนอ และอีกสาม ให้ศาลปกครองเป็นผู้เสนอ 2.ตีกรอบเขตอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญให้ลดลงและเคร่งครัด 3.ยกเลิกความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ และ 4.สร้างระบบตรวจสอบถ่วงดุลศาลรัฐธรรมนูญ

ช่วงท้ายนายปิยบุตรกล่าวว่า หากพรรคก้าวไกลถูกยุบ คนที่ไม่ถูกตัดสิทธิก็จะเดินหน้าต่อ สร้างพรรคใหม่ และกลับมาได้คะแนนเสียงจำนวนมาก ในการเลือกตั้งปี 2570 ส่วนคำที่บอกว่าเป็นการล้มล้างนั้น สุดท้ายแล้วการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความหมายอย่างไรกันแน่ ที่ผ่านมาตอนถูกกล่าวหาว่าไม่มีความจงรักภักดี จนถึงวันนี้ตนยืนยันว่าประเทศไทยต้องมีสถาบันพระมหากษัตริย์

คำวินิจฉัยทำ ปชต.กลายพันธุ์

กระทั่งเวลาา 15.00 น. องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟัง ใช้เวลาประมาณ 53 นาที ปรากฏว่าศาลมีมติเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 สั่งยุบพรรคก้าวไกล ตัดสิทธิการเมืองกรรมการบริหารพรรค 5 ปี ตัดสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค 10 ปี ห้ามรวมตั้งพรรคใหม่ภายใน 10 ปี โดยรายชื่อกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลทั้งชุดที่ 1 และ 2 ที่ดำรงตำแหน่งระหว่างวันที่ 25 มี.ค.2564 จนถึงวันที่ 31 ม.ค.2567 รวมทั้งสิ้น 11 คน เป็นเวลา 10 ปี

ประกอบด้วย 1.นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรค สส.บัญชีรายชื่อ 2.นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตเลขาธิการพรรค สส.บัญชีรายชื่อ 3.น.ส.นธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ เหรัญญิกพรรค 4.นายณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตตระกูล นายทะเบียนสมาชิกพรรค 5.นายปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตกรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคเหนือ 6.นายสมชาย ฝั่งชลจิตร กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคใต้ 7.นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคกลาง 8.นายอภิชาติ ศิริสุนทร กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สส.บัญชีรายชื่อ 9.น.ส.เบญจา แสงจันทร์ กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคตะวันออก สส.บัญชีรายชื่อ 10.นายสุเทพ อู่อ้น กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนปีกแรงงาน สส.บัญชีรายชื่อ และ 11.นายอภิสิทธิ์ พรมฤทธิ์ กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคเหนือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนที่มาร่วมรับฟังคำวินิจฉัยต่างส่งเสียงโห่ร้องแสดงความไม่พอใจต่อต้านคำวินิฉัย และบางส่วนร้องไห้

ขณะเดียวกัน แฟนเพจเฟซบุ๊กพรรคก้าวไกลก็ได้เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ ขีดคำว่า 'พรรค' ออก พร้อมระบุข้อความว่า "พรรคก้าวไกล ถูกยุบโดยคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ก้าวไกลไปต่อโดยคำสั่งของประชาชน" และเปลี่ยนรูปปกเป็นพื้นหลังส้ม พร้อมข้อความระบุว่า "ก้าวไกล ไปต่อ" ทำให้ต่างมีคนมาร่วมแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ ยังได้โพสต์คลิปวิดีโอซึ่งมีภาพสัญลักษณ์สื่อความหมายการถูกทำลายและเกิดใหม่ โดยในช่วงท้ายคลิปปรากฏรูปภาพโคลสอัปเห็นเพียงดวงตา สส.บางส่วนของพรรคก้าวไกล ซึ่งคาดว่าจะเป็นแกนนำพรรครุ่นต่อไป พร้อมระบุข้อความว่า "ในโลกนี้มีบางอย่าง ที่ไม่อาจถูกทำลาย ไม่สูญสลาย มีแต่จะเติบโตต่อไปไม่หยุดยั้ง การเดินทางครั้งใหม่เริ่มขึ้นแล้ว เดินต่อไปด้วยกัน ประชาชน"

กระทั่งเวลา 18.15 น. นายชัยธวัชพร้อมด้วยนายพิธาและ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ, สส.และอดีตกรรมการบริหารพรรค สวมใส่เสื้อสีดำ มีข้อความบริเวณอกขวาว่า "ก้าวไกล ยักไหล่แล้วไปต่อ" ซึ่งเป็นเสื้อที่พรรคผลิตมาจำกัด ร่วมกันแถลงข่าวถึงมติยุบพรรคก้าวไกล โดยนายพิธาได้สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเนกไทสีเทาเพียงคนเดียว

นายชัยธวัชกล่าวว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ส่งผลเป็นที่ชัดเจนว่า พรรคก้าวไกลถูกยุบ และกรรมการบริหารพรรคชุดที่ 1 และชุดที่ 2 จำนวน 11 คน ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี แม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยเห็นว่า พรรคก้าวไกลกระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อระบบการปกครองก็ตาม ขอยืนยันว่าทั้งทางข้อเท็จจริงและหลักกฎหมายที่ควรจะเป็น เราไม่ได้กระทำการล้มล้างการปกครอง หรือเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองอย่างที่ศาลเห็น

ประเด็นที่สอง เราเห็นว่าผลของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ มีผลกระทบที่สำคัญกว่าการดำรงอยู่ของพรรคก้าวไกล และสิทธิทางการเมืองของคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งคือคำวินิจฉัยในวันนี้ จะส่งผลอย่างสำคัญเป็นการวางบรรทัดฐานในการตีความรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ที่อันตรายสุ่มเสี่ยงกระทบต่อหลักการสำคัญ และคุณค่าพื้นฐานที่ควรจะเป็นของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของพวกเราในอนาคต

"ผลของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ สุ่มเสี่ยงที่จะทำให้ในระยะยาว ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของพวกเรากลายพันธุ์ไปเป็นระบอบอื่นได้ นี่คือนัยสำคัญที่พวกเราเห็นว่า ส่งผลกระทบสำคัญยิ่งกว่าการยุบพรรคก้าวไกล" นายชัยธวัชกล่าว

นัด 9 ส.ค.เปิดตัวพรรคใหม่

ด้านนายพิธากล่าวเสริมว่า แม้ว่าวันนี้ตนต้องอำลาในฐานะนักการเมือง ในฐานะผู้แทนราษฎร และการเดินทางบนนั้นของตนได้จบลง แต่ในขณะเดียวกันตนจะเริ่มต้นในทางการเมือง ในฐานะพลเมืองคนหนึ่ง และจะไม่ทิ้งประชาชนไปไหน ตราบใดที่ประชาชนยังไม่ทิ้งตน และยังต้องการตน รวมถึงจะทำทุกวิถีทางในฐานะพลเมืองคนไทยคนหนึ่ง ในการทำให้บ้านเมืองดีขึ้น และช่วยพาหนะใหม่ของเพื่อนอดีตพรรคก้าวไกล ตามที่กฎหมายอนุญาต เพื่อทำให้พวกเขาสามารถจัดตั้งรัฐบาลที่ดีที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีมา

"ผมเข้าใจดีว่าท่านอาจจะรู้สึกผิดหวัง อาจจะรู้สึกโกรธแค้น หรือมีน้ำตา ไม่ว่ากันครับ วันนี้หนึ่งวัน เรามาเศร้าเสียใจ โมโหได้เต็มที่ พรุ่งนี้เราขีดเส้นต่อหน้า และเราก็ก้าวข้ามมันไป เราจะเอาความแค้นใจ ความโมโห และพลังงานที่มีอยู่ตอนนี้ เราจะไม่ปล่อยให้มันกัดกินพวกเรา เราจะผลักมันแล้วไประเบิดในทุกคูหาทุกการเลือกตั้งต่อจากนี้ไป ผมไม่ท้อครับ" นายพิธากล่าว

นอกจากนี้ นายพิธากล่าวว่า "พี่น้องประชาชนที่กำลังฟังอยู่ ท่านไม่ต้องรอนาน เพื่อนของผม นายปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง ก็เป็นกรรมการบริหารพรรคที่ไม่ได้ไปต่อ เพราะฉะนั้น จะมีเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 1 จังหวัดพิษณุโลก ผมในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ทำถูกต้องตามกฎหมาย ก็สามารถเป็นผู้ช่วยหาเสียงได้ รวมถึงการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี ที่จะเป็นสองจังหวัดแรก ให้พี่น้องสามารถใช้กำลังที่อาจจะรู้สึกว่า กำลังกัดกร่อนหัวใจของท่านอยู่นั้น ผลักดันให้มีพลังงานเชิงบวก แล้วไประเบิดคูหาให้ถล่มทลายในสองการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ ตลอดจนไปถึงปี 2570 ผมไม่ทิ้งพวกคุณแน่นอนครับ"

ขณะที่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า เรารับรู้ถึงความไม่เป็นธรรมที่มันเกิดขึ้น เรารู้สึกร่วมกับทุกคนว่ามีความเจ็บปวดเกิดขึ้น แต่เราก็จะไม่ละทิ้งความฝัน ไม่ละทิ้งภารกิจหน้าที่ที่เราได้รับมอบมาจากประชาชนทุกคน ตราบใดที่ประชาชนทุกคนยังอยู่เคียงข้างเรา อยู่หนุนหลังเรา ให้เราเดินต่อไปข้างหน้า ทำภารกิจเปลี่ยนประเทศนี้ต่อ เราก็จะเดินหน้าต่อไป

"ในวันที่ 9 ส.ค.นี้ พวกเราจะย้ายไปที่บ้านใหม่ด้วยกันทุกคน ขอให้ประชาชนร่วมติดตามและสนับสนุนพวกเราและพรรคใหม่ต่อไป ซึ่งวันนี้ที่เราถูกยุบเป็นวันที่สมาชิกพรรคก้าวไกลครบ 100,000 คนพอดี เราอยากขอร้อง 100,000 คนนี้ ให้ไปต่อกับเราในบ้านหลังใหม่ ไปด้วยกันให้มากกว่าเดิม" น.ส.ศิริกัญญากล่าว

ถามถึงตำแหน่งหัวหน้าพรรคใหม่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ให้รอดูวันที่ 9 ส.ค.นี้ เมื่อถามย้ำว่าหัวหน้าพรรคคนใหม่ใช่ น.ส.ศิริกัญญาหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ให้รอดูวันที่ 9 ส.ค.นี้ ซึ่งจะมีความชัดเจนทั้งในเรื่องหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค และวิธีขั้นตอนต่างๆ ทั้งนี้ ในเรื่องสเปกหัวหน้าพรรคนั้น ก็ขึ้นอยู่กับ สส.ว่าอยากเห็นหัวหน้าพรรคคนใหม่มีหน้าตาอย่างไร ขอให้ใจเย็นๆ ขั้นตอนรายละเอียดต่างๆ จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

เมื่อถามว่า สส.ของพรรคกว่า 100  คน จะยังอยู่ร่วมกับพรรคใหม่ใช่หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ยังไม่ได้เช็กชื่อ แต่ด้วยความที่เรามั่นใจมากว่าทุกคนจะไปต่อกับเราค่ะ

ถามถึงอนาคตของนายพิธาจากนี้ นายพิธากล่าวว่า จะทำงานเพื่อบ้านเมืองต่อไป แม้ไม่ได้อยู่ในสภาและทำเนียบฯ ก็สามารถรณรงค์กฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้ และเสนอแนะท้วงติงในสิ่งที่รัฐบาลทำไม่ถูกได้

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวเลข สส.ของพรรคก้าวไกล ที่มีจำนวน 151 คน ถูกขับออกจากพรรค 3 คน ได้แก่ นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี, นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. และนายปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำให้เหลือจำนวน 148 คน ภายหลังศาลรัฐธรรมมีคำวินิจฉัย จะมี สส.บัญชีรายชื่อ พ้นจากสภาพ สส. อีก 5 คน ได้แก่ นายพิธา, นายชัยธวัช, นายอภิชาติ, น.ส.เบญจา และนายสุเทพ ส่งผลให้ขณะนี้ สส.พรรคก้าวไกลเหลือจำนวน 143 คน  และอดีต สส.ทั้งหมดจะต้องหาพรรคใหม่สังกัดให้ได้ภายใน 60 วัน

'หมออ๋อง' ลาเก้าอี้รอง ปธ.สภาฯ

ที่รัฐสภา ระหว่างที่ที่ประชุมสภาฯ กำลังพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ.....  ปรากฏว่า ในเวลา 15.50 น. ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล ทำให้นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งอยู่ในที่ประชุม สส. ได้ลุกขึ้นกล่าวลาที่ประชุมว่า พวกเราและกรรมการบริหารพรรค รวมถึงนายพิธา ซึ่งเป็นอดีตหัวหน้าพรรค คงไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ สส.ได้อีกต่อไป ต้องขอบคุณประธานและสมาชิกทุกคนที่ได้ทำงานร่วมกันมา และถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่พวกตนได้ใช้ช่วงเวลาในระยะ สส. ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อผลักดันสิ่งที่เราคิดว่าเป็นอนาคตของประเทศ

"สุดท้ายพวกผมไม่มีโอกาสร่วมทำงานกับทุกท่านอีกต่อไปอย่างน้อย 5 ปี 10 ปี แต่หวังว่าหลังจากนี้เพื่อน สส.จะสามารถใช้อำนาจหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติ ในฐานะที่ประชาชนเลือกเข้ามาเป็นสถาบันการเมืองเดียวในประเทศที่แต่งตั้งโดยประชาชนอย่างคุ้มค่า ทำให้ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของพวกเรา เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน" นายชัยธวัชกล่าว

ต่อมา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ซึ่งกำลังทำหน้าที่ประธานการประชุมอยู่นั้น ได้กล่าวว่า ส่วนตัวมีชื่ออยู่คณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลในปี 66 ด้วย เพราะฉะนั้นสภาพการเป็น สส.ของตนจึงสิ้นสุดเช่นเดียวกัน ตนรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ทำงานร่วมกับทุกคน และอยากบอกข้าราชการรัฐสภาว่า ตนเคารพและขอบคุณทุกคนจริงๆ และสุดท้ายอยากจะบอกว่าอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน

จากนั้นนายปดิพัทธ์พร้อมกับนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่สอง ที่นั่งอยู่ด้วย ลุกขึ้นยืนพร้อมกล่าวปิดประชุมสภาในเวลา 15.54 น. และได้เดินลงจากบัลลังก์ไปทันที โดยบรรดา สส.พรรคก้าวไกลได้ยืนสองข้างทาง พร้อมสวมกอดคอให้กำลังใจ ชูกำปั้น และทุกคนต่างรวมตัวให้กำลังใจซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะนายชัยธวัช หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่มีสีหน้าเศร้าโศกและปาดน้ำตา ซึ่งระหว่างเดินทางออกจากรัฐสภานายชัยธวัชให้สัมภาษณ์สั้นๆว่ า “แล้วผมจะกลับมาใหม่”

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความบน X  ระบุว่า ไม่ว่าพรรคใหม่เราจะชื่ออะไร 2570 สีส้มทั้งแผ่นดิน นอกจากนี้นายรังสิมันต์กล่าวว่า เราต้องช่วยกันยืนยันว่านโยบายของพรรคก้าวไกลคือสิ่งที่สังคมนี้ต้องการ ต้องช่วยกันยืนยันว่าสิ่งที่ก้าวไกลทำมาโดยตลอดเพื่อแก้ปัญหาคือสิ่งที่คนไทยต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเปิดโปงระบบตั๋ว ส่วย การละเมิดสิทธิมนุษยชน การทุจริต รวมถึงนโยบายที่ก้าวหน้าจำนวนมาก คือสิ่งที่ประเทศไทยต้องการ

"ยืนยันว่าเราในฐานะประชาชน จะเป็นคนที่ช่วยกันพัดโหมสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง และทำให้พรรคก้าวไกลไม่เป็นเพียงพรรคการเมือง แต่จะทำให้พรรคก้าวไกลคือผู้คนและการเดินทางของเราทุกคนเสมอ" นายรังสิมันต์กล่าว

วันเดียวกัน เวลา 16.16 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติยุบพรรคก้าวไกลและตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปีว่า ได้มีรายงานข่าวเรื่องของคดีพรรคก้าวไกล เชื่อว่าทุกฝ่ายเคารพกับคำตัดสินของศาล และเชื่อว่าทางพรรคก้าวไกลเองก็คงมีวิธีที่จะดำเนินการเดินหน้าทางการเมืองต่อไป

ถามว่า มีมาตรการและการบริหารอารมณ์ของมวลชนที่สนับสนุนพรรคก้าวไกลอย่างไร  นายเศรษฐากล่าวว่า เชื่อว่าทุกฝ่ายเคารพการตัดสินใจของศาล และฝ่ายความมั่นคงก็ดูแลความมั่นคงอยู่แล้ว เมื่อถามว่ามีการมองกันว่ารัฐบาลจะทำงานง่ายขึ้น เนื่องจากฝ่ายค้านอ่อนกำลังลง นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่เลย ปัญหาของประชาชนเยอะขนาดนี้ มันไม่เกี่ยวและไม่ได้มีผลอะไรต่อการทำงานของรัฐบาล ปัญหาไม่ได้หายไปหรือเพิ่มมากขึ้น

ซักว่า ในฐานะที่เคยก่อตั้งรัฐบาลมาด้วยกัน จะให้กำลังใจพรรคก้าวไกลอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า เชื่อว่าพรรคก้าวไกลมีแผนการที่จะดำเนินการจากที่จะต้องเดินอยู่แล้ว แต่ขอให้เคารพการตัดสินของศาลก็แล้วกัน เมื่อถามว่า มองการตรวจสอบของรัฐบาลจะเข้มข้นน้อยลงไปหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า   เชื่อว่าระบบการตรวจสอบของรัฐบาลเข้มข้นอยู่แล้ว และมั่นใจ และการทำงานของเราว่าเดินไปในทิศทางที่ควรจะเป็น และเมื่อใครก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือองค์กรอิสระจะตรวจสอบ เราก็พร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กต. ออกแถลงการณ์กรณียุบพรรคก้าวไกล ย้ำศาลไทยมีอิสระตามหลักแบ่งแยกอำนาจ

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ อ่านแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศของไทย กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล

'จิรัฏฐ์' ยันมี สส.อดีตก้าวไกล กำลังโดนซื้อตัว อยู่ระหว่างตกลงราคาสูงสุด 30 ล้าน

นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ อดีต สส.ฉะเชิงเทราพรรคก้าวไกล กล่าวถึงความเห็นของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กรณีซื้อตัว อดีต สส.ก้าวไกล ระบุ ถ้ามีจริง

ป.ป.ช.ปัดใบสั่ง เชือด 44 สส.ก้าวไกลลงชื่อแก้มาตรา 112

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการพิจารณาคดี 44 สส.พรรคก้าวไกล ที่ลงชื่อแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา

นักวิชาการ มข.ฟันธงแรงกระเพื่อมยุบก้าวไกลทำให้มีเสียงหนุนเกิน 20 ล้าน

นักวิชาการ มข.ชี้แรงกระเพื่อมยุบพรรคก้าวไกล ส่งผลให้คนไทยทั่วโลกพร้อมหนุนทะลุกว่า 20 ล้านคน ชิมลาง เลือก นายก อบจ.ราชบุรี และเลือกตั้งซ่อมพิษณุโลก