ระทึก!ยุบก้าวไกล พิธาฟังศาลรธน.ชี้ชะตา ปูด‘ธ’ซื้องูเห่าส้ม30ล้าน

ระทึก! ศาล รธน.วินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล ใช้นโยบายหาเสียงแก้ ม.112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครองฯ 7 ส.ค.นี้ "ก.ก." คึกจัดสถานที่รอรับกองเชียร์ ขึ้นป้าย "ก้าวไกล ไปต่อ!"  ส่ง "พิธา" ฟังคำตัดสินศาลฯ ก่อนนัด 6 โมงเย็นแถลงข่าว "พริษฐ์" ปัดดึง 18 ทูตแทรกแซง "จิรัฏฐ์" อ้างรัฐมนตรี 'ธ' ติดต่อซื้อ สส.งูเห่าหัวละ 30 ล้าน "นายกฯ" ลั่นไทยเป็นเอกราช ไม่มีใครก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรมได้ "นฤมล" นั่งหัวหน้าพรรคกล้าธรรม พรรคเก่าธรรมนัส "ผู้กอง" ปัดเป็นพรรคสำรอง “สว.พันธุ์ใหม่” ถอยล่ารายชื่อค้านยุบก้าวไกล "นันทนา" บอกดูบรรยากาศแล้วคงไม่มีใครเห็นด้วย 

เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2567 มีรายงานว่า ในวันที่ 7 ส.ค.2567 เวลา 15.00 น. คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจา ประชุมปรึกษาหารือ ลงมติและออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย ในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยนายทะเบียนพรรคการเมือง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของบุคคลผู้เป็นคณะกรรมการบริหารพรรค  และห้ามมิให้ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหารพรรคและถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ภายในกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่ง ตามพระราชบัญญัติ​ประกอบ​รัฐธรรมนูญ​ (พ.ร.ป.)​ ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 92 วรรคสอง และมาตรา 94 วรรคสอง  

จากเหตุมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคก้าวไกลมีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันเป็นเหตุแห่งการยุบพรรค ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1)   และ (2)

ซึ่งแนวทางการวินิจฉัยของศาลออกได้ 2 ทางคือ ยกคำร้องและสั่งยุบพรรค หากมีคำสั่งยุบพรรค ก็จะสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดที่มีการกระทำผิด ให้ไม่สามารถไปจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรค มีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ภายในกำหนดเป็นเวลา 10  ปี   

โดยคณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลช่วงปี 2563-2566 พบว่า ที่เป็น สส.อยู่ในปัจจุบัน ประกอบด้วย สส.บัญชีรายชื่อ 5 คน คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคขณะนั้น, นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคขณะนั้น, น.ส.เบญจา แสงจันทร์, นายสุเทพ อู่อ้น, นายอภิชาติ ศิริสุนทร และ สส.เขต 1 คน คือ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก ซึ่งถูกขับพ้นพรรคและปัจจุบันสังกัดพรรคเป็นธรรม ส่วนกรรมการบริหารพรรคที่ไม่ได้เป็น สส.ในปัจจุบัน ประกอบด้วย น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ เหรัญญิกพรรค, นายณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตตระกูล นายทะเบียนสมาชิกพรรค, นายสมชาย ฝั่งชลจิตร และนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล

ส่วนของ สส.บัญชีรายชื่อ ก็จะไม่มีการเลื่อนบัญชีขึ้นมาทดแทน เนื่องจากบัญชีหายไปจากการถูกยุบพรรค ทำให้จำนวน สส.ของพรรคก้าวไกลจากที่มีเสียงในสภาปัจจุบันรวม 148 คน จะเหลือ 143 คน ซึ่งต้องหาพรรคการเมืองสังกัดใหม่ภายใน 60 วัน รวมถึงต้องมีการจัดการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 1 พิษณุโลก แทนนายปดิพัทธ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพรรค ก.ก. ได้ให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค เป็นตัวแทนพรรค เดินทางเข้าฟังการอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งช่วงเช้านายพิธาจะเข้าร่วมประชุมสภาก่อน พอช่วงบ่ายถึงเดินทางไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ

จากนั้น เวลา 18.00-19.00 น. ภายหลังทราบผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ นายพิธาพร้อมด้วยนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรค ก.ก. จะเดินทางไปที่ทำการพรรค ก.ก. เพื่อแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

ป้าย 'ก้าวไกลไปต่อ' ปลุกสาวก

ทั้งนี้ ตลอดวันอังคารที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของพรรค ก.ก.ได้เตรียมสถานที่บริเวณที่ทำการพรรค ก.ก. จัดกิจกรรมเพื่อให้มีประชาชนมาร่วมฟังคำตัดสินคดียุบพรรค โดยมีการติดตั้งป้ายผ้าใบ (ไวนิล) สีส้ม มีข้อความ "ก้าวไกล ไปต่อ!" หน้าที่ทำการพรรค นอกจากนี้ยังมีการแบ่งพื้นที่ลานกว้างตรงข้ามอาคารพรรคไว้รองรับประชาชนที่จะมาร่วมกิจกรรม ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่สามารถระบุจำนวนตัวเลขที่แน่ชัดได้ แต่คาดการณ์ไว้อย่างต่ำว่าจะสามารถรองรับได้เกินหลักร้อยคน และอีกส่วนหนึ่งได้แบ่งที่ไว้สำหรับจอดรถสื่อมวลชน

นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งจอ LED จำนวน 4 จอ แบ่งเป็นลานจอด 1 จอ, โถงชั้นหนึ่ง 1 จอ, ทางเข้าตึก 1 (รถโมบาย LED) ชั้นสอง 1 จอ, และชั้นเจ็ด 1 จอ เพื่อใช้ในการถ่ายทอดสดการอ่านคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ และเปิดมิวสิกวิดีโอเพลงของพรรคก้าวไกล

โดยกิจกรรมที่ที่ทำการพรรค จะเริ่มเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อขึ้นตึกอนาคตใหม่  ตั้งแต่เวลา 12.00 น.เป็นต้นไป กระทั่งเวลา 13.00-15.00 น. มีกิจกรรมเลกเชอร์สาธารณะ โดยนายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และเลขาธิการคณะก้าวหน้า เวลา 15.00 น. ผู้มาร่วมงานรับฟังการอ่านคำวินิจฉัยร่วมกันบริเวณ ชั้น 1, 2 และลานกิจกรรมหน้าพรรค และเวลา 19.00 น. พรรคและ สส.จัดกิจกรรมบริเวณลานกิจกรรม อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ สส.ของพรรค จะยังปฏิบัติหน้าที่ในการร่วมประชุมสภา เมื่อแล้วเสร็จจึงจะเดินทางมารวมกันที่พรรค

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่ 1 กล่าวถึงความกังวลการตัดสินคดียุบพรรค ก.ก.ที่เกี่ยวข้องด้วยว่า ตอนนี้ตนกำลังใจยังดีมาก ซึ่งหากมองจากข้อต่อสู้ของพรรค ก.ก.ที่ยื่นข้อต่อสู้ รวมถึงความคิดเห็นของนักวิชาการที่มีมาตรฐาน ก็เชื่อว่าคำตัดสินน่าจะเป็นคุณ ซึ่งเราก็ต้องเตรียมแผนไว้หลายฉากทัศน์ ตอนนี้ยังทำงานแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.) ก่อน แต่หากมีอะไรเกิดขึ้นเราก็พร้อมรับทุกสถานการณ์

ถามว่า จะเดินทางไปที่พรรค ก.ก.เพื่อร่วมกิจกรรมวันที่ 7 ส.ค.หรือไม่ นายปดิพัทธ์กล่าวว่า แน่นอนว่าจะต้องไปหาเพื่อนอยู่แล้ว ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร หากตามที่นายชัยธวัชได้ระบุไว้ว่าเราได้ปาร์ตี้แน่นอน ไม่ว่าผลจะเป็นบวกหรือลบ เพราะการที่เราได้ให้กำลังใจกันแล้ว การอยู่ด้วยกันในช่วงเวลาที่ยากลำบากเป็นคุณค่าที่เรายึดถือร่วมกันอยู่แล้ว

ที่พรรคก้าวไกล นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรค กล่าวถึงการโพสต์ข้อต่อสู้ในคดียุบพรรค ก.ก. ที่ถูกมองเป็นการเตรียมการหากผลคดีออกมาเป็นโทษว่า ที่ผ่านมาพรรคต้องการจะสื่อสารกับประชาชน และสื่อมวลชนอย่างตรงไปไปตรงมาว่าแนวทางการต่อสู้คดีนั้นเป็นเช่นไร และการสื่อสารนั้นก็ระมัดระวัง ยึดอยู่บนข้อเท็จจริง

ถามถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีนายพิธามีภาพถ่ายร่วมกับทูตต่างประเทศ และมีข้อมูลว่าจะเชิญทูตจำนวน 18 ประเทศมาร่วมฟังการวินิจฉัยคดียุบพรรค นายพริษฐ์ปฏิเสธว่า เรื่องการดึงทูต 18 ประเทศนั้นไม่ตรงกับข้อเท็จจริง

ซักถึงการที่นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรค ก.ก. ระบุมีคนของ 'รัฐมนตรี ธ.' มาขอซื้อตัว สส.ไปอยู่พรรคที่ตั้งขึ้นมาใหม่ โฆษกพรรค ก.ก.กล่าวว่า ยังไม่ทราบข้อมูลในส่วนนี้ แต่แน่นอนว่า สส.ทุกคนก็มีข้อมูลที่ไม่เหมือนกัน สิ่งที่ตัวเองคาดหวังคือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพรรค ทุกคนที่เป็น สส.ของพรรค ก็จะเดินหน้าร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพ และเชื่อว่าทุกคนจำได้ดีในวันที่เดินเข้ามาพรรควันแรกว่าเข้ามาด้วยเหตุผลอะไร เป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงประเทศของเราเป็นเช่นไร

"เชื่อว่าทุกคนจะใช้ความทรงจำในวันนั้น เป็นเข็มทิศในการตัดสินใจว่าจะเดินหน้าต่ออย่างไร เพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงที่เราได้ให้คำสัญญาไว้กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา" โฆษกพรรค ก.ก.ระบุ

ก.ก.ปูดราคา สส.งูเห่า 30 ล้าน

ทั้งนี้ นายจิรัฏฐ์ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ช่วยของรัฐมนตรีท่านหนึ่ง ที่มีความตั้งใจจะตั้งพรรคการเมืองใหม่ ได้ติดต่อมาที่ตนเพื่อยื่นข้อเสนอเงิน 30 ล้านบาท เพื่อให้ตนย้ายไปอยู่พรรคใหม่ของรัฐมนตรีคนนั้น แต่ตนเองได้ปฏิเสธไปในทันที

"มีการติดต่อผ่านคนในท้องถิ่นที่รู้จักผม เพื่อดึงมาเป็น สส.ของพรรค โดยบอกว่าเรื่องเงินไว้ค่อยมาคุยกัน 20-30 ล้านบาทไม่มีปัญหา ซึ่งผมได้ปฏิเสธไปแล้ว" นายจิรัฏฐ์กล่าว

ซักว่า สามารถเปิดเผยได้หรือไม่ว่าเป็นพรรคไหน หรือรัฐมนตรีคนใด นายจิรัฏฐ์กล่าวว่า “ก็คุณ ธ. ไงครับ” พอถามว่าเหตุผลที่เลือกติดต่อมามองว่าเพราะอะไร นายจิรัฏฐ์กล่าวว่า น่าจะเป็นการพูดคุยกับหลายคนในพรรค

"ยอมรับว่าได้มีการพูดคุยกันนิดๆ หน่อยๆ คนสองคนถึงเรื่องการซื้อตัวกันภายในพรรค เนื่องจากไม่ได้เจอกันบ่อย แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยถึงข้อเสนอของคนอื่นว่ามีราคาเท่าไรบ้าง" นายจิรัฏฐ์กล่าว

เมื่อถามว่า วันนี้มีการเปิดตัวพรรคใหม่ของนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ในนามพรรคกล้าธรรม จะมีความเชื่อมโยงกับกรณีดังกล่าวหรือไม่  นายจิรัฏฐ์ระบุว่า มีความเป็นไปได้ ก่อนที่จะหัวเราะและกล่าวต่อว่า เนื่องจากมีความระหองระแหงกันภายในพรรคพลังประชารัฐ

ซักว่าอาจจะมีงูเห่าเกิดขึ้น นายจิรัฏฐ์มองว่า รอบนี้น่าจะยาก เนื่องจากไม่ได้มีความต้องการไปเพิ่มตำแหน่งรัฐมนตรีให้กับตัวเอง อย่างไรก็ตาม กรณีเรื่องการถูกซื้อตัว ตนได้มีการแจ้งพรรคไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคิดว่าทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่าอะไรเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง คงไม่ต้องเอาขึ้นมาเป็นตัวอย่าง หรือมาขู่กัน ไม่อยากให้นำเรื่องดังกล่าวมาวิตกจริตว่าคนนี้จะเป็นงูเห่าหรือไม่

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีหลายฝ่ายกังวลที่นายพิธาหารือกับทูต 18 ประเทศถึงคดียุบพรรค จะเป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของไทยว่า  ก่อนอื่นต้องบอกว่าตนไม่ทราบว่ามีการคุยกันในเรื่องนี้หรือไม่ เพราะมีการพบกัน แต่ไม่ทราบเนื้อหาว่ามีการพูดคุยอะไรกันบ้าง แต่กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ส่วนตัวคิดว่าทั้ง 18 ประเทศ ระบบยุติธรรมและระบบบริหารแยกกันชัดเจน ฝ่ายบริหารไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายกับกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว และกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยก็เป็นกลางและเป็นสากล ได้รับการยอมรับจากทุกๆ ฝ่ายอยู่แล้ว

 “ผมคงพูดแทนท่านอื่นไม่ได้ แต่ส่วนตัวของผมมีความเคารพกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว ซึ่งผู้สื่อข่าวทุกคนก็คงทราบ ไม่ว่าจะเป็นกรณีของผมเอง ผมเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน ถ้าหากมีประเด็นหรือมีผู้ร้องเรียน ก็เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องแจ้งไปที่ระบบยุติธรรมและคอยการตัดสิน อย่างของผมเองก็ได้แจ้งไปแล้วว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ยื่นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็คอยวันตัดสินคือวันที่ 14 ส.ค.” นายเศรษฐากล่าว

นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงฝ่ายความมั่นคงเตรียมพร้อมรับหลังศาลตัดสินคดียุบพรรค ก.ก.อย่างไรว่า ประเทศไทยผ่านการยุบพรรคมาเยอะ และฝ่ายความมั่นคงที่ดูแลความสงบเรียบร้อยมีประสบการณ์ในเรื่องนี้มาพอสมควร ไม่น่าจะมีปัญหา ไม่ว่าจะข่าวดีใจหรือเสียใจ เชื่อว่าสามารถดูแลได้

ปัด 'กล้าธรรม' พรรคสำรอง

ด้านนายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงท่าทีทูต 18 ประเทศที่แสดงความเห็นต่อการพิจารณาคดีพรรค ก.ก. เป็นการก้าวล่วงกิจการภายในประเทศหรือไม่ว่า ไม่หรอก หน้าที่ของทูตขณะนี้คือพยายามสร้างความสัมพันธ์และหาข่าว ซึ่งเป็นธรรมดา ซึ่งทูตของไทยถ้าไปอยู่ต่างประเทศต้องหาข่าวทุกอย่าง สร้างความสัมพันธ์ ของบางอย่างทูตได้จากหนังสือพิมพ์ จากสื่อมวลชน บางอย่างได้มาจากการคบค้าสมาคม เข้าวงการเมือง เข้าเมืองสังคม เป็นเรื่องธรรมดา

วันเดียวกัน ที่ห้องจตุรทิศ แกรนด์ บอลรูม โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน กรุงเทพฯ  เวลา 09.30 น. พรรคกล้าธรรมจัดประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1/2567 เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคชุดใหม่ หลังจากนายเชวงศักดิ์ ใจคำ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม ได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค มีแกนนำพรรคและสมาชิกพรรคแต่ละจังหวัด เดินทางมาร่วมประชุมกว่า 250 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการลงคะแนนได้มีมติเลือกนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นหัวพรรคคนใหม่ ส่วนเลขาธิการพรรค ได้แก่ นายสัจจวิทย์ ลีลาวณิชย์, เหรัญญิกพรรค นายอลงกรต พรมขัตแก้ว, นายทะเบียนสมาชิกพรรค นายศุภกิต ปัญญา ส่วนกรรมการบริหารพรรค มีดังนี้ นายวิชัย เป็นพนัสสัก, นายกิจภพ กัณฑมิตร, นายธีระศักดิ์ สิทธิชัยธนะกิจ, นางสาวธัศชล บุญแสนไชย, นางสาวคำแปง ทำนา, นายประสิทธิ์ หนักตื้อ และนางพนัฐดา กันทา

นางนฤมลขึ้นเวทีกล่าวกับสมาชิกพรรคว่า รู้สึกตื่นเต้น ยินดีที่ได้รับเกียรติและได้รับเลือกจากสมาชิกพรรคทุกท่าน ในนามพรรคกล้าธรรม  เราจะดำเนินกิจกรรมทางการเมืองด้วยความซื่อสัตย์สุจริต สร้างสรรค์ และส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วม ส่งเสริมให้คนไทยมีที่ทำกิน มีที่อยู่ และมีอาชีพรองรับ และพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้เติบโต เจริญก้าวหน้า ให้ประชาชนอยู่ดี กินดี และมีความสุข ส่งเสริมและรักษาไว้ซึ่งจารีต ประเพณี ธรรมเนียมอันดีงามของชาติ ศิลปวัฒนธรรม การศึกษา ศาสนา และความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งจะส่งเสริมสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ พร้อมรักษาไว้ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอันดีตลอดไป

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคกล้าธรรมได้ถูกเปลี่ยนชื่อมาจากพรรคเศรษฐกิจไทย ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งปัจจุบันเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนางนฤมลดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคกล้าธรรมว่า เพิ่งทราบจากสื่อวันนี้เช่นกัน เนื่องจากพรรคนี้ตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง

"เป็นเรื่องของพรรคกล้าธรรม ซึ่งเป็นพรรคที่มอบหมายให้นางนฤมลบริหาร ยืนยันไม่ใช่พรรคสำรองของพรรค พปชร. และไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ก็ยอมรับว่าเป็นพรรคเดิมของพรรคเศรษฐกิจไทย ซึ่งผมลาออกมาและไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง" ร.อ.ธรรมนัสกล่าว

ถามย้ำว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคดังกล่าวใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่เกี่ยว เพราะเราอยู่ พปชร. เมื่อถามอีกว่า หากเกิดอะไรขึ้นก็พร้อมย้ายเข้าพรรคดังกล่าวใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า อย่าพูดถึงอนาคตเลย ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ถามถึงกรณีที่นางนฤมลมีความใกล้ชิดด้วยจึงถูกโยงว่ามีความเกี่ยวข้อง และจะเป็นพรรคสำรอง ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ส่วนตัวมองว่านางนฤมลเป็นคนที่เหมาะสม ซึ่งความผูกพันส่วนตัว เราเป็นเพื่อนกัน

เมื่อถามว่า พรรคดังกล่าวจะเป็นพันธมิตรกับพรรค พปชร.ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน คนละแนวทาง ถามว่าจะไม่ทำให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ไม่สบายใจใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่ทราบ และยืนยันว่าไม่ใช่พรรคสาขาเพื่อรองรับ สส.จากพรรคก้าวไกลร้อยเปอร์เซ็นต์ ถามย้ำว่าไม่เกี่ยวทั้งพรรค พปชร.และพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า พปชร.ก็คือ พปชร. เพื่อไทยยิ่งไปกันใหญ่ เพราะมีความห่าง

ทั้งนี้ ในช่วงท้ายการสัมภาษณ์ ร.อ.ธรรมนัสยังเปิดเผยว่า จะไปแสดงความยินดีกับนางนฤมลหลังจากนี้

ที่รัฐสภา น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. กล่าวว่า กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่จะไม่ล่ารายชื่อร่างแถลงการณ์แสดงจุดยืนและความเห็นต่อกรณีศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยคดียุบพรรค ก.ก.แล้ว เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่า หากทำวันนี้ (6 ส.ค.) คงไม่ทันเวลา

"เมื่อดูบรรยากาศแล้วก็คงไม่มีใครเห็นด้วย จึงปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ และเห็นว่านานาประเทศก็ออกมาพูดแสดงความเห็นเรื่องนี้แล้ว นอกจากนี้ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ใช่หน้าที่ของ สว. จึงคิดว่าการเป็น สว.ทำอะไรได้บ้าง" น.ส.นันทนากล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไปต่อหรือจอดป้าย! 'ก้าวไกล' จัดอีเวนต์ ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญชี้ชะตาคดียุบพรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของพรรคก้าวไกล กรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยในคดียุบพรรควันที่ 7 ส.ค.นี้ สำหรับการจัดเตรียมสถานที่ ณ ที่ทำการพรรคก้าวไกล โดยเจ้าหน้าที่ได้เริ่มเตรียมความพร้อมในการจัดกิจกรรม เพื่อให้มีประชาชนมาร่วมฟังคำตัดสินคดียุบพรรค