‘บิ๊กตู่-ทักษิณ’คุยชื่นมื่น สั่งสอบปมเทวดาชั้น14

"เศรษฐา" เผย "บิ๊กตู่" ให้กำลังใจส่วนตัวงานสวดพระอภิธรรมคุณแม่ ยันไม่ได้ตีตัวออกห่าง "ทักษิณ" ยอมรับ ส.ค.อีเวนต์การเมืองเยอะ  "วิษณุ" เชื่อ "ประยุทธ์" รู้ระเบียบวินัยกระแสหวนนั่งนายกฯ ​เหตุยังเป็นแคนดิเดต​อยู่​ "ธนกร"  ตอก "ปิยบุตร" ให้รู้จักแยกแยะถึงธรรมเนียมประเพณี อย่าโยงทุกอย่างการเมือง แกนนำพรรคร่วมย้ำการปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกฯ "ทวี" สั่งกรมคุกดูปม​ "ทักษิณ​" รักษาตัวชั้น​ 14 ละเมิดสิทธิผู้ต้องขังภาพรวมหรือไม่​ ระบุ 31 ส.ค.นี้รับใบบริสุทธิ์​เองหรือมอบอำนาจได้​

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 7 สิงหาคม  นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการพบกันกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี ในงานสวดพระอภิธรรมนางชดช้อย ทวีสิน  มารดานายกฯ เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ว่า ท่านไปเป็นงานส่วนตัว และตนก็พบปะกับท่านในหลายๆ โอกาส คุณแม่ตนเสียท่านก็มาให้กำลังใจ และท่านเองก็เจอบุคคลที่คุ้นเคยสมัยเป็นนายกฯ มา 8 ปี ตรงนี้คิดว่าทุกท่านน่าจะมีข้อคิดเห็นของแต่ละคนได้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่า การรับฟัง พล.อ.ประยุทธ์ กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะบาลานซ์ทั้งสองอย่างไร นายเศรษฐากล่าวว่า ตนเจอนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯ ตนก็รับฟัง และก็ไม่ได้รับฟังแค่อดีตนายกฯ อย่างเดียว รองนายกฯ หรืออดีตรัฐมนตรีต่างๆ ตนก็เจอ นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.การคลังเจอก็มีการพูดคุยกันตลอด แล้วแต่โอกาสมากกว่า

"ผมไม่ได้ตีตัวออกห่างใครทั้งนั้น ทำงานอย่างเดียว แต่การทำงานบางครั้งอาจไม่สามารถไปพบกับบางท่านได้ ซึ่งเชื่อว่าทุกท่านคงเข้าใจว่าผมมีหน้าที่ในฐานะนายกฯ ที่เราต้องทำงานอยู่แล้ว และผมก็ลงพื้นที่ตลอด สื่อก็เห็น วันเสาร์ก็ยังทำงานอยู่" นายเศรษฐากล่าวเมื่อถามว่าดูเหมือนนายกฯ ตีตัวออกห่างนายทักษิณ

เมื่อถามว่า ช่วงเดือน ส.ค.อาจมีหลายเรื่องที่เกี่ยวกับทางการเมือง ได้เช็กกระแสโดยเฉพาะเรื่องนักลงทุนมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้มีการเช็กกระแสอะไรทั้งสิ้น เพราะจริงๆ แล้วปัญหาของประชาชนเป็นเรื่องใหญ่ ตนใช้เวลาส่วนมากเกือบทั้งหมดเลยก็ว่าได้แก้ไขปัญหาอยู่ ส่วนกระแสจะออกมาอย่างไรก็แล้วแต่ ซึ่งอย่างที่สื่อพูด ถูกช่วงเดือน ส.ค.นี้มีอีเวนต์ต่างๆ เยอะมาก ไม่ว่าจะวันที่ 7 ส.ค.หรือ 14 ส.ค.ก็ตามที แน่นอนเป็นธรรมดานักลงทุนก็มีความกังวล

นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกฯ กล่าวถึงกรณีนายปิยบุตร​ แสงกนกกุล​ เลขาธิการคณะก้าวหน้า​ ตั้งคำถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์​ ขณะเดินทางการไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมมารดาของนายกฯ โดยมีการพูดคุยเรื่องการเมืองกับนายกฯ เหมาะสมหรือไม่ ว่า​ ไม่ขอตอบ เพราะตนไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ว่าใครแสดงความเห็นอะไรทางการเมือง

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการกล่าวอ้างว่า พล.อ.ประยุทธ์​ได้กำชับ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในเรื่องการทำงานร่วมกับรัฐบาล นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบ เนื่องจากเป็นข่าว​จะจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้​ ท่านเป็นองคมนตรี ท่านรู้กรอบ​ ระเบียบ  วินัย เพราะเขาอยู่กัน 19 คน อยู่กันได้ปกติ ภายใต้กฎระเบียบวินัย และภายใต้รัฐธรรมนูญ ไม่เป็นปัญหา​ แต่ผู้สื่อข่าวเองอาจจะเอามาสรุปว่าอย่างนั้น​

เมื่อถามถึงกรณีมีกระแสอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์กลับมา ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ยังคงเป็นองคมนตรี และเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของ รทสช.สามารถกลับมาเป็นนายกฯ ได้หรือไม่หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง นายวิษณุ​ กล่าวว่า มันไม่เชิงเป็นกระแส แต่เป็นการพูดกันไปมาเท่านั้นเอง บางคนอาจจะพูด อาจจะคิด เพราะชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังเป็นแคนดิเดตนายกฯ อยู่ จะลาออกหรือจะถอนตัวก็ไม่ได้ จะสละอะไรขณะนี้ก็ยังไม่ได้ แต่เมื่อถึงเวลาหากถูกเรื่องขึ้นมาสามารถสละตำแหน่งที่สภาเขาเลือกได้ ก่อนจะมีใครเสนอชื่อคงต้องไปถามก่อน แล้วท่านคงจะปฏิเสธตั้งแต่ตอนนั้น​ ซึ่งตำแหน่งแคนดิเดตนายกฯ จะสิ้นสุดต่อเมื่อหมดสมัยสภา​ ตามกฎหมายลาออกไม่ได้​

ดีดปาก 'ปิยบุตร' อย่าโยงมั่ว

นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค รทสช. โพสต์เฟซบุ๊กว่า อยากสื่อสารไปถึงคุณปิยบุตร ที่ตั้งคำถามกรณีที่ท่านองคมนตรี พล.อ.ประยุทธ์และภริยาไปร่วมฟังสวดพระอภิธรรมนางชดช้อย มารดาท่านนายกฯ   เป็นการแสดงออกถึงขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของคนไทย ความเอื้ออาทรของคนไทยในสังคมไทยที่มีต่อกันในวาระโอกาสต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อการสูญเสียบุคคลผู้เป็นที่รัก ท่านนายกฯ  เศรษฐา พร้อมครอบครัวก็ให้การต้อนรับอย่างดียิ่ง เป็นการเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน เป็นการให้กำลังใจในวาระที่เกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ของครอบครัวเป็นทั้งความเมตตาและมารยาททางสังคม             "ท่านองคมนตรีก็ร่วมพูดคุยกับทั้งท่านนายกฯ เศรษฐา และอดีตนายกฯ อานันท์ รวมไปถึง สส. ให้ทำงานเพื่อบ้านเพื่อเมือง ซึ่งเป็นความเมตตาของผู้หลักผู้ใหญ่ ที่เห็นว่าการทำงานเพื่อประเทศชาติประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้องดีงามแล้ว หวังว่าคุณปิยบุตรจะพอแยกแยะออกถึงธรรมเนียมประเพณีอันดีงามในสังคมไทยความเมตตาของผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ไม่ใช่นำทุกเรื่องมาโยงเป็นการเมืองไปเสียหมด" นายธนกรระบุ

นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม  กล่าวถึงกระแสปรับ ครม.ว่า ยังยิ้มได้อยู่ ซึ่งอาจจะเป็นข่าวดีก็ได้ เราก็ทำงานไป ไม่ได้ตื่นเต้น ส่วนจะมีตำแหน่ง รมช.กลาโหมเพิ่มขึ้นหรือไม่  ตนยังไม่ทราบ หากมีก็มาช่วยกันทำงาน เพราะกองทัพมีงานมาก หากมีถือว่าดี และโดยส่วนตัวตนมองว่าจำเป็นต้องมี รมช.กลาโหม งานจะเร็วขึ้น ทหารก็ได้ พลเรือนก็ดี และหากมาต่างพรรคก็สามารถร่วมงานได้ และคงไม่กระทบโผทหาร เพราะเป็นคนละเรื่องกัน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงการปรับ ครม. นายกฯ พูดคุยเรื่องนี้ในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ว่าไม่มี เป็นอำนาจของนายกฯ แต่เพียงผู้เดียว หากจะปรับเปลี่ยนในส่วนของท่าน หรือพรรคของท่าน แต่หากจะมาหารือในส่วนพรรคร่วมรัฐบาลหรือในส่วนของพรรคภูมิใจไทย เช่น จะปรับ ครม. พรรคคุณจะปรับอะไรไหม ก็เป็นเรื่องที่เราจะคุยกับนายกฯ ได้ ในส่วนของตนได้เรียนกับนายกฯ แล้วว่าภท.จะไม่มีการปรับรัฐมนตรี  ทั้งคนและตำแหน่ง เพื่อให้ท่านสบายใจไปเปลาะ

เมื่อถามว่า เสียงรัฐบาลที่มีอยู่ไม่จำเป็นต้องให้พรรคอื่นเข้ามาร่วมใช่หรือไม่   นายอนุทินกล่าวว่า เคยบอกไปแล้วว่าขณะนี้รัฐบาลมีอยู่กว่า 314 เสียง รัฐบาลมีเสถียรภาพสูงมากรัฐบาลหนึ่งในรอบ  30-40 ปี ส่วนความจำเป็นต้องมีพรรคอื่นเข้ามาร่วมอีกหรือไม่ ไม่ใช่หน้าที่ตน 

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกระแสข่าวมีชื่อถูกปรับออกจาก ครม.ว่า  ไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี เมื่อถามว่าได้รับสัญญาณในเรื่องนี้หรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า ไม่รู้ ไม่เคยได้คุยกับใคร ก็แล้วแต่

เมื่อถามว่ายังสู้ต่อใช่หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าถอดใจ เพราะมีปัญหาเรื่องสุขภาพ พล.ต.อ.พัชรวาทย้อนถาม “แล้วตอนนี้เป็นอย่างไร” พร้อมกับยกแขนแสดงความแข็งแรงของร่างกายโชว์ให้สื่อมวลชนดู

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวกรณีกระแสข่าวพรรครทสช.ขอปรับ ครม.ในโควตาของพรรคที่ว่างว่า การปรับ ครม.ถือเป็นอำนาจของนายกฯ จะปรับหรือไม่ปรับอยู่ที่ท่าน  ฉะนั้นพรรคร่วมรัฐบาลเราได้คุยกันตลอดเวลา อย่างเมื่อวันที่ 5 ส.ค. เจอกันที่กรมชลประทานเราก็นั่งคุยกัน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่มันไม่น่าจะมีการปรับในช่วงนี้ เอาตรงๆ จะเป็นการสร้างกระแส และคงเป็นเรื่องของพรรคที่โควตาเขายังขาดอยู่ ในส่วนของพรรคเรายังไม่มีการขยับอะไรอยู่แล้ว จะเห็นว่าเราสามัคคีกันไม่ได้มีความแตกแยก

สั่งกรมคุกแจงรายงาน กสม.

เมื่อถามถึงปัญหาภายใน พปชร. ตอนนี้สงบแล้วหรือยัง ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า  ปัญหาภายในพรรคเกิดขึ้นทุกพรรค ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองขนาดเล็กขนาดใหญ่ แต่จะสู่สาธารณะหรือไม่ อยู่ที่ชั้นเชิงการบริหารจัดการของพรรค พรรคไหนที่มีความเป็นเอกภาพก็จะไม่มีปัญหา แต่ถ้าพรรคไหนมีคนอยากแสดงวิสัยทัศน์ก็เป็นเรื่องปกติ ฉะนั้นเมื่อมันมีปัญหาเราก็ต้องจัดการให้มันจบด้วยการเจรจากันหรือจะจบด้วยมาตรการก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เมื่อถามย้ำว่า ปัญหาภายในได้เคลียร์เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรค  จัดการเรียบร้อยแล้ว เมื่อถามว่าสรุปแล้วไม่ได้มีการขับบุคคลที่เป็นปัญหาออกจากพรรคใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่อยากเท้าความเดิม แต่ก่อนหน้านี้พรรคมีมติเรียบร้อยแล้ว โดยกรรมการบริหารพรรคและ สส. แต่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ได้ขอร้องให้นายสันติไปนั่งคุย

พ.ต.อ.ทวี​ สอดส่อง​ รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ​ (กสม.​) ส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการเอาผิดกับเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โรงพยาบาลตำรวจ และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด กรณีเอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณ​ รักษาตัวที่ รพ.ตำรวจชั้น 14 เข้าข่ายเลือกปฏิบัติ ทุจริตต่อหน้าที่ว่า ในเบื้องต้นทางกรมราชทัณฑ์ได้ชี้แจงแล้ว​ แต่ กสม.อาจจะมองว่า​เป็นการละเมิดสิทธิ แต่ไม่ได้บอกว่าละเมิดสิทธิใคร ซึ่งตามความหมายกว้างๆ อาจจะมองว่าละเมิดสิทธิของผู้ต้องขังโดยรวมหรือไม่ ก็กำลังให้กรมราชทัณฑ์ติดตามดู ส่วนเรื่องที่ กสม.เห็นว่ากฎกระทรวงที่ใช้อยู่เป็นการละเมิดสิทธิ หากได้รับข้อมูลก็จะไปตั้งคณะทำงานเพื่อนำไปสู่การแก้ไขกฎกระทรวง ซึ่งจะต้องรับฟังความเห็นจากประชาชน เพราะเป็นกฎหมายลูก

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในวันที่ 31 ส.ค.นี้ นายทักษิณจะไปรับใบบริสุทธิ์ด้วยตัวเองหรือส่งผู้แทนไปได้หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี​ กล่าวว่า ไม่ได้ดูรายละเอียด แต่โดยหลัก ถือเป็นพื้นที่พิเศษธนบุรี ซึ่งแนวระเบียบอาจไปรับด้วยตัวเองหรือมอบอำนาจให้ผู้แทนไปรับได้ ใบบริสุทธิ์​เปรียบเสมือนใบแจ้งให้ทราบ ส่วนการนับวันพ้นโทษของนายทักษิณ​ จากที่กรมราชทัณฑ์รายงานในวันที่ 31 ส.ค.66 นายทักษิณได้รับพระราชทานอภัยโทษ เหลือโทษจำคุก 1 ปี จึงเป็นที่มาของการพ้นโทษในวันที่ 31 ส.ค.นี้

เมื่อถามว่า หลังจากที่นายทักษิณได้รับใบบริสุทธิ์แล้ว แต่ยังเหลือคดี ม.112 สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้หรือไม่ พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า เป็นคนละคดีกัน ซึ่งคดีม.112 อยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งมีกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ต้องขออนุญาตศาล  ส่วนเหตุใดนายทักษิณจึงขออนุญาตเดินทางไปดูไบ​ ตนไม่ได้ติดตามคดีนี้ ส่วนกรณีที่เตรียมขึ้นเวทีดินเนอร์ทอล์กในวันที่​ 22 ส.ค.นี้ ตนไม่ได้ตามเรื่องนั้นเลย

วันเดียวกัน เวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ในการพระราชทานเพลิงศพ นางชดช้อย ทวีสิน มารดานายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ณ เมรุหลวงวัดเทพศิรินทราวาส

โดยมีบุคคลสำคัญเข้าร่วมในพิธีดังกล่าวด้วย อาทิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี พร้อมภริยา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้บัญชาการเหล่าทัพ รัฐมนตรี สส.พรรคเพื่อไทย และ สส.พรรคร่วมรัฐบาล นอกจากนี้ยังมีภาคเอกชนและผู้บริหารภาคธุรกิจเข้าร่วมในพิธีด้วย ทั้งนี้ ระหว่างร่วมงาน พล.อ.ประยุทธ์และนายทักษิณได้มีโอกาสเจอหน้ากัน มีการทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง