หมูเป็นพิษ! "เฉลิมชัย" ลงนามคำสั่งปลัดเกษตรฯ ตั้งคณะกรรมการสอบสอบข้อเท็จจริง "กรมปศุสัตว์" อ้างไม่ได้รับหนังสือภาคีคณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์ฯ ให้จบภายใน 7 วัน ยันไม่เคยปกปิดข้อมูล อ้างที่ผ่านมามีแต่คนชมมาตรการป้องกันเยี่ยม เพื่อไทยจองกฐินไปด่าในสภา ที่ปรึกษาจุรินทร์ยืนยัน "มาม่า" ไม่ขึ้นราคา
เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2565 หลังสถานการณ์โรคระบาดและการควบคุมโรคในสุกร โดยสถาบันการศึกษาสัตวแพทยศาสตร์ในประเทศไทย พบเชื้อไวรัสอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (Afican Swine Fever : ASF) ในซากสุกรที่ส่งชันสูตรโรค และได้รายงานการตรวจพบโรคต่อกรมปศุสัตว์ บานปลายกลายเป็นประเด็นปกปิดข้อมูล และประชาชนได้รับผลกระทบจากเนื้อสุกรราคาแพงนั้น
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ เปิดเผยว่า ล่าสุดตนได้ลงนามคำสั่งให้ นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และขอให้กรมปศุสัตว์ดำเนินการตามมาตรการเพื่อควบคุมโรคโดยเร็ว ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร โดยจะตรวจสอบกรมปศุสัตว์ทำไมถึงไม่ได้รับหนังสือ ทำไมหนังสือถึงไม่ถึงอธิบดีด้วย โดยต้องสรุปผลการสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดภายใน 7 วัน เพื่อพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
เขายืนยันว่า ที่ผ่านมาทางกระทรวงเกษตรฯ มีการดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง โดยหลายประเทศทั่วโลกมีการแพร่ระบาดของโลกจนต้องทำลายสุกรจำนวนมาก แต่ไทยยังสามารถควบคุมโรคได้มาโดยตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา
"รอบบ้านเราที่ผ่านมา 3-4 ปีก็มีการระบาด ที่ผ่านมาเราได้มีมาตรการป้องกันที่ดีเยี่ยม จนกลุ่มสมาคมผู้เลี้ยงสุกรทั้งรายเล็ก รายย่อย และรายใหญ่ ก็มามอบโล่ให้ผม และขอบคุณว่าผมได้มีการดำเนินการมาตรการและป้องโรค ASF ได้ดีเยี่ยม ทุกคนตัองกลับไปดู อย่าลืมตรงนี้สิ นั่นมันหมายถึงว่าเราได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและได้ผล จนระยะสุดท้ายนี่เราก็ได้สั่งการให้เข้าไปตรวจสอบเข้มงวด จนมีกลุ่มพ่อค้าออกมาเรียกร้องว่าเราเข้มงวดเกินไป แต่ทุกอย่างที่เราทำก็เพราะเราต้องการควบคุมโรคให้ได้ ยืนยันว่าไม่มีการปกปิดข้อมูลอย่างแน่นอน"
นายเฉลิมชัยกล่าวว่า โรค ASF ถือเป็นโรคระบาดในสุกรที่เกิดขึ้นมากว่า 100 ปีแล้ว และยังไม่มีวัคซีนป้องกัน โดยมีมาตั้งแต่ปี 2464 ขณะนี้ได้มอบหมายให้พัฒนาวิจัยแก้ปัญหาโรคที่เกิดขึ้นแล้ว ทีมวิชาการกรมปศุสัตว์ได้ร่วมกับทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ลงนามร่วมกันในการศึกษาวิจัยพัฒนาผลิตวัคซีนในการป้องกันโรค ASF ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการทดลองระยะที่สอง หากทำสำเร็จประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกที่สามารถผลิตวัคซีนป้องกันการระบาดของโรคได้ ยืนยันว่าที่ผ่านมาดำเนินการตามขั้นตอน ไม่มีการปกปิดข้อมูล ทุกอย่างในเรื่องการระบาด ได้ดำเนินการจนองค์การสุขภาพสัตว์โลก (OIE) ชมเชยว่าไทยป้องกันโรคได้ยอดเยี่ยม
นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรฯกล่าวว่า ในที่ประชุม ครม. วันที่ 12 ม.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความห่วงใย จึงมอบหมายให้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ดำเนินมาตรการป้องกัน ควบคุม และกำจัดโรค ASF อย่างเต็มที่ตามที่กำหนดเป็นวาระแห่งชาติตั้งแต่ปี 2562 สำหรับมาตรการสำคัญที่เน้นย้ำคือ ให้สอบสวนโรคจากที่ตรวจพบเชื้อที่โรงฆ่า 1 แห่ง เพื่อให้ทราบถึงแหล่งที่มาของสุกร แล้วพิจารณาทำลายเป็นคอกๆ ตามหลักวิชาการ แต่ขอให้ผู้เลี้ยงไม่ต้องกังวลว่าจะทำลายสุกรทั้งหมด รวมทั้งก่อนเคลื่อนย้ายสุกรจากฟาร์มเข้าโรงฆ่า ต้องมอบหมายให้ปศุสัตว์อำเภอตรวจหาเชื้อก่อน เพื่อจะไม่ทำให้โรคแพร่กระจาย
ทั้งนี้ ในปี 2564 ครม.อนุมัติงบกลางเพื่อเป็นเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นในการป้องกันโรค ซึ่งรวมถึงค่าชดใช้กรณีทำลายสุกรที่มีความเสี่ยงต่อโรคมาแล้ว กระทั่งเมื่อวันที่ 11 ม.ค. ครม. อนุมัติงบกลางปี 2565 จำนวน 574 ล้านบาท เพื่อป้องกันโรค ASF และโรคระบาดร้ายแรงในสุกรหรือหมูป่า ซึ่งจะจ่ายเป็นค่าชดใช้ราคาสุกรที่ถูกทำลายระหว่างวันที่ 23 มี.ค.64-15 ต.ค.64 ใน 56 จังหวัด โดยมีเกษตรกรที่กรมปศุสัตว์ได้ทำลายสุกรไปแล้ว 4,941 ราย ซึ่งยังไม่ได้รับเงินค่าชดใช้ราคาสุกรที่ถูกทำลายรวม 159,453 ตัว เป็นเงิน 574 ล้านบาท
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยแถลงว่า จะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลสาเหตุจากโรค ASF นั้น เข้าใจดีว่าเป็นการทำหน้าที่ของผู้แทนราษฎร ซึ่งห่วงใยประชาชน รัฐบาลพร้อมรับฟังการสะท้อนปัญหา แต่ไม่ใช่ต่อว่ากันรุนแรงอย่างเดียว ควรให้ข้อแนะนำด้วย เพื่อที่จะช่วยกันแก้ไขความเดือดร้อนทั้งของผู้เลี้ยงและผู้บริโภค
นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการติดตามนโยบายลดค่าครองชีพให้ประชาชนของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดผู้บริหารของบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ตรา “มาม่า” ได้ยืนยันกับกระทรวงพาณิชย์ว่าจะไม่มีการปรับขึ้นราคามาม่าซองประเภทซึ่งเป็นสินค้ามวลชน และเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมในท้องตลาดทั้งประเทศ เพื่อเป็นการร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ในการลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนคนไทยในสถานการณ์ปัจจุบัน
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า การประชุมร่วมระหว่างกรมการค้าภายในกับสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยภาคกลาง สมาคมผู้ผลิตผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ ผู้ผลิตรายใหญ่ และกรมปศุสัตว์ เกี่ยวกับแนวทางในการลดภาระค่าครองชีพของผู้บริโภคเกี่ยวกับราคาไข่คละหน้าฟาร์มที่สมาคมต่างๆ ได้ขอขึ้นราคาไข่คละหน้าฟาร์มเป็นฟองละ 3 บาท เมื่อวันที่ 11 ม.ค. โดยกระทรวงพาณิชย์เห็นว่าอยากให้สมาคมต่างๆ ปรับลดให้เหลือ 2.90 บาทต่อฟอง เพื่อช่วยเหลือลดผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนด้วยนั้น ซึ่งยังตกลงกันไม่ได้ จึงได้นัดหมายประชุมร่วมกันอีกครั้งในวันที่ 13 ม.ค.นี้ ที่กรมการค้าภายใน
พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งต่อเกษตรและประชาชนผู้บริโภคเนื้อสุกร เป็นผลโดยตรงจากการบริหารราชการแผ่นดินที่ล้มเหลวของรัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ซึ่งกำกับดูแลกรมปศุสัตว์ ที่ไม่บอกความจริงกับประชาชน พรรคจึงขอตั้งข้อสังเกตว่า เหตุผลที่ต้องปกปิดข้อเท็จจริงการระบาดของเชื้อไวรัสอหิวาต์แอฟริกาในสุกรนั้น เพื่อไม่ต้องการให้ส่งผลกับผลประโยชน์ของผู้เลี้ยงสุกรรายใหญ่ที่จะไม่สามารถส่งออกเนื้อสุกรไปยังต่างประเทศได้ หรือเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของรัฐบาลต่อปัญหาที่เกิดขึ้นนี้
ซึ่งเรื่องดังกล่าวพรรคเห็นว่าจะต้องมีผู้รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยพรรคจะนำปัญหานี้อภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร ขณะเดียวกันก็จะรวบรวมข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงและดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์สอบตกในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ไม่เคยแก้ปัญหาเศรษฐกิจหรือยกระดับเศรษฐกิจให้ดีขึ้นในขณะที่ทีมงานเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการคลัง พลังงาน พาณิชย์ อุตสาหกรรมและเกษตร ไม่มีความรู้ความสามารถเพียงพอ ดังนั้นจึงสอบตกทั้งทีม
“หากพลเอกประยุทธ์ไม่อวดฉลาดและฟังคำแนะนำของพรรคฝ่ายค้าน จะสามารถแก้ปัญหาได้ พรรคฝ่ายค้านเคยให้คำแนะนำว่าหากรัฐบาลทำให้ราคาข้าวมีราคาที่ดีขึ้น ก็จะสามารถสร้างเศรษฐกิจในภาพรวมดีขึ้น เพราะเมื่อชาวนามีรายได้ที่ดี ก็จะมีการซื้อขายและมีการหมุนของเงินในหลายรอบ จะช่วยให้เศรษฐกิจดีขึ้นตามไปด้วย ต่างจากการที่พลเอกประยุทธ์แก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยการแจกเงิน ยิ่งประจานว่าไร้ความสามารถในการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาล” นายประเสริฐกล่าว
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แย้งว่า พล.อ.ประยุทธ์พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศเสมอ จึงมีผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านเข้ามาช่วยงานมากมาย ซึ่งต่างจากฝ่ายค้านที่ยังคงอวดฉลาด คิดว่าสิ่งที่ตัวเองแนะนำเป็นประโยชน์ต่อประเทศอยู่ฝ่ายเดียว โดยไม่เคยหันกลับไปมองความเสียหายจากการทุจริตที่รัฐบาลตัวเองเคยทำไว้
"พฤติกรรมแบบนี้ต่างหากที่เรียกว่าสอบตกและไร้ความรับผิดชอบ หากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยในขณะนั้นตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนจริง เศรษฐกิจของประเทศคงดีกว่านี้ไปนานแล้ว เข้าทำนองว่าดีแต่พูด แต่พอสมัยที่ตัวเองได้บริหารประเทศ กลับทำไม่ได้อย่างที่ปากพูด เป็นการประจานว่าพรรคเพื่อไทยไร้ความสามารถในการบริหารเศรษฐกิจของประเทศโดยสิ้นเชิง ซึ่งหากเป็นแบบนี้ต่อไป อย่าว่าแต่เอาชนะรัฐบาลในการเลือกตั้งสมัยหน้าเลย แค่เอาชนะพรรคฝ่ายค้านด้วยกันเองก็ยังลำบาก" โฆษกรัฐบาลกล่าว
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายปิยะ ลือเดชกุล ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบเรื่องร้องเรียน เพื่อขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบกรณีหน่วยงานภาครัฐปกปิดข้อมูลการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอหิวาต์หมู
ด้านนายปิยะกล่าวว่า ทางสำนักงานตรวจสอบเรื่องร้องเรียนจะเร่งนำเรื่องของนายศรีสุวรรณเสนอต่อผู้ตรวจการแผ่นดินในวันนี้ แต่ทั้งนี้ก็เป็นดุลยพินิจของผู้ตรวจการแผ่นดินในการพิจารณาต่อไป เพราะถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ประชาชนกำลังได้รับความเดือดร้อน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตั้งกก.สอบผกก.บางซื่อ ทนายปาเกียวเล็งทิ้งตั้ม
“ดีเอสไอ” เตรียมสรุปสำนวนคดี 18 บอสดิไอคอนเสนออัยการคดีพิเศษภายใน 20 ธ.ค.นี้
นิกรหักเพื่อไทย เตือนส่อผิดกม. ให้กมธ.ตีความ
“นิกร” หักข้อเสนอ “ชูศักดิ์” เลยช่วงเวลาแปลงร่างประชามติเป็นกฎหมายการเงินแล้ว
‘สนธิ’ลั่นการเมืองใกล้สุกงอม!
“อุ๊งอิ๊ง” เมินปม กกต.สอบครอบงำต่อ เด็ก พท.ยันเป็นการดำเนินการตามปกติ
จ่อส่งคดีหมอบุญให้DSI
ตร.สอบปากคำอดีตภรรยา-ลูกสาว “หมอบุญ” เพิ่มเติม
ทักษิณรอดคลุมปี๊บ! ส้มเหลวปักธงอุดรธานี ‘คนคอน’ตบหน้า‘ปชป.’
เลือกตั้ง อบจ. 3 จังหวัด “เพชรบุรี-อุดรธานี-นครศรีธรรมราช” ราบรื่น
ล่า ‘หมอบุญ’ เมียแค้นเอาคืน
ออกหมายจับ "หมอบุญ" พร้อมพวก 9 คน ร่วมหลอกลวงประชาชนร่วมลงทุนธุรกิจ รพ.ขนาดใหญ่หลายโครงการ เสียหายกว่า 7,500 ล้านบาท