เหมือนคอมมิวนิสต์ ‘คารม’ดุซัดพฤติกรรมก้าวไกล/ยังบลัดก.ก.ลั่นไม่เป็นงูเห่า

เลขาฯ พท.ยันไม่ดึง สส.ก.ก.ร่วมงานหากถูกยุบพรรค "คารม" จัดหนัก! ไม่เคยมีพรรคใดท้าทายสถาบันพระมหากษัตริย์แบบ  ก.ก. นอกจาก พคท. อันตรายดึงต่างประเทศมากดดันศาล ต่อไปอาจมีการหาเสียงให้ยกเลิกสถาบันฯ-แบ่งแยกประเทศ "วิโรจน์" จี้ถาม "เศรษฐา" ส่ง "คารม" ชี้นำศาล ต้องรับผิดชอบ  เชื่อ "ซื้องูเห่า" ไม่สำเร็จ แฉหมาหยอกไก่เอาถุงขนมมาล่อแต่ไม่หลงกล "ยังบลัด-ก้าวไกล" ลั่นหากโดนยุบพรรค 143 สส.ไม่มีแตกแถว  "ชำนาญ" ขู่ศาล รธน.อย่าแกว่งเท้าหาเสี้ยน จะแบกหน้าลำบากเวทีศาล รธน.โลกที่ กทม.-พลาดเก้าอี้ในยูเอ็น เตือนเพิ่มความคับแค้นส่งผลชนะเลือกตั้่งทุกระดับ  

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม นายสรวงศ์ เทียนทอง  สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.)  ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ระบุว่ามีความพยายามจากพรรคร่วมรัฐบาลติดต่อดึง สส.พรรคก้าวไกลไปร่วมงานด้วยหากพรรคถูกยุบว่า ไม่ขอก้าวล่วงพรรคอื่น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละคน แต่ในส่วนของพรรคเพื่อไทยตนในฐานะเลขาธิการพรรคยืนยันว่าไม่มี

เมื่อถามว่า จะมีผลอะไรกับรัฐบาลหรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า ไม่น่ามีอะไร หากพรรคร่วมรัฐบาลมีเสียงเพิ่มขึ้น ก็ต้องว่าไปตามข้อตกลงที่เคยพูดคุยกันตอนร่วมตั้งรัฐบาล

เมื่อถามถึงกรณีที่หากพรรค ก.ก.ถูกยุบ อาจจะมีปรับเปลี่ยนเรื่องเก้าอี้ประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ พรรคร่วมรัฐบาลจะต้องมีการพูดคุยกันใหม่หรือไม่ เลขาธิการพรรค พท.กล่าวว่า  จะต้องมีการพูดคุยกันแน่นอน แต่เบื้องต้นตนไม่อยากให้มีข่าวร้ายในการยุบพรรคใดๆ ทั้งสิ้น

ขณะที่ นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการที่ศาลรัฐธรรมนูญได้กำหนดให้วันที่  7 สิงหาคม 2567 เป็นวันนัดฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณี กกต.ยื่นคำร้องให้มีการยุบพรรคก้าวไกล ตามคำร้องของคุณธีรยุทธ สุวรรณเกษร  กรณีการหาเสียงแก้ไขมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญานั้น ต้องยอมรับว่าไม่เคยมีปรากฏการณ์ที่พรรคการเมืองใดที่กล้าท้าทายสถาบันพระมหากษัตริย์แบบพรรคก้าวไกล เราทราบดีว่าพรรคก้าวไกลนั้นก็มาจากพรรคอนาคตใหม่ ก่อนนี้มีเพียงพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) เท่านั้นที่เคยเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันฯ เป็นที่รับทราบกันทั่วไปว่าคนของพรรคก้าวไกลทั้งในและนอกสภา ว่ามีการกระทำที่ทำให้คนอาจเข้าใจว่ามีลักษณะอาจเป็นการบ่อนเซาะ ทำลาย กัดกร่อนสถาบันฯ แบบมีนัยสำคัญ  และเป็นขั้นตอน  

"คนของพรรคก้าวไกลในสภาได้ใช้สถานะความเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ พยายามจะแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งเป็นรั้วป้องกันสถาบันฯ เพื่อให้สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ความคิดริเริ่มแบบนี้หลายคนสงสัยว่าเป็นความคิดริเริ่มที่ถูกหรือผิด สร้างสรรค์หรือทำลายกับสถาบันฯ  เพราะแม้คนธรรมดาก็ยังมีมาตรา 326 ปอ. เป็นกฎหมายป้องกันสิทธิส่วนบุคคล"

นายคารมกล่าวว่า ก่อนที่ศาลจะมีคำวินิจฉัย  สังคมจับตาคนของพรรคก้าวไกลว่ามีการแสดงออกอย่างไร การที่มีการแสดงละครนอกศาลรัฐธรรมทำนองว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจยุบพรรคการเมืองจะถูกยุบไม่ได้ ถ้าประชาชนไม่เลือกพรรคๆ นั้น จะถูกยุบเอง   กรณีการกระทำดังกล่าว หากเป็นคดีอยู่ในกระบวนการของศาลยุติธรรม และคดีกำลังพิจารณา การแสดงละครดังกล่าวหรือการแสดงออกต่อการพิจารณาคดีของศาลแบบนี้  อาจเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาลได้ นอกจากนั้นยังมี สส.ของพรรคการเมืองบางพรรคที่เป็นเครือข่ายของพรรคก้าวไกล ส่งข้อความผ่านไปถึงต่างประเทศ ให้เข้ามาจับตาการวินิจฉัยคดียุบพรรคของศาลรัฐธรรมนูญว่าไม่เป็นสากล ซึ่งแปลเป็นอย่างอื่นไม่ได้ว่า นี่คือการเอาสถาบันต่างประเทศทั้งที่เป็นเพียงกรรมาธิการเล็กๆ ตามชื่อเมืองเมืองหนึ่ง แต่นำมาใช้ในทำนองกดดันศาล 

"ในความคิดของผมที่เป็นนักกฎหมาย ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะคิดอย่างไรต่อกรณีที่มี สส.พรรคฝ่ายค้านที่กระทำแบบนี้ แต่นี้คือการไม่เคารพองค์กรศาลที่ทำหน้าที่ตามกฎหมาย คนที่เป็น สส.ต้องเข้าใจระบบการพิจารณาของศาลว่ามีขอบเขตอำนาจอย่างไร แต่ถ้าทราบแล้วยังแสดงออกในลักษณะดังกล่าว อาจแสดงถึงเจตนาที่จะนำองค์กรต่างประเทศเข้ามากดดัน ศาล ซึ่งเป็นเรื่องอันตราย อันที่จริงการยุบพรรคการเมืองนั้น โดยหลักการแล้ว ถ้าพรรคการเมืองไม่ทำผิดกฎหมาย การยุบพรรคการเมืองก็ไม่ควรเกิดขึ้น เหมือนที่ศาลก็ไม่ควรตัดสินจำคุกหรือประหารชีวิตคนที่ไม่ได้กระทำผิด

หาเสียงยกเลิกสถาบันฯ

  รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรม (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา  92 บัญญัติเรื่องการยุบพรรคการเมืองไว้  4 กรณี ดังนั้น กกต.จึงมีสิทธิยื่นยุบพรรคการเมืองได้ โดยเฉพาะ (1) และ ( 2) นั้น เป็นเรื่องการกระทำของพรรคการเมืองที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครองฯ เป็นเรื่องการทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง ซึ่งแทบไม่มีพรรคการเมืองไหนเคยทำ  

"เมื่อมีการยุบพรรคการเมือง สมาชิกพรรคการเมืองซึ่งไม่ใช่กรรมการบริหารพรรค สามารถย้ายเข้าไปยังสังกัดพรรคใหม่ได้ เชื่อว่ามีการตั้งพรรคไว้รอแล้ว หากศาลรัฐธรรมนูญไม่กล้ายุบพรรคการเมือง หากพรรคการเมืองทำผิดกฎหมาย ทั้งที่กฎหมายให้อำนาจไว้ เพราะกลัวความกดดัน กลัวกระแสสังคมที่เขาสร้างขึ้น หรือกลัวสายตาต่างประเทศที่มองมาที่เรา ต่อไปอาจเกิดปรากฏการณ์ให้พรรคการเมืองหาเสียงแบบไม่รับผิดชอบต่อบ้านเมือง ต่อสังคม อาจมีการหาเสียงแบบให้แบ่งแยกประเทศไทย ให้ยกเลิกสถาบันกษัตริย์ ให้เด็กไม่ต้องเคารพพ่อแม่     อาจหาเสียงแบบไร้ความรับผิดชอบ ออกนโยบายที่เป็นอันตรายต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม บ้านเมือง แล้วใช้กระแสคนบางกลุ่มมากดดันให้ศาลไม่กล้ายุบพรรคที่กระทำแบบนี้ กรณีแบบนี้  เชื่อประเทศไทยจะวุ่นวายแน่นอน เชื่อว่าวันที่ 7 สิงหาคม เป็นวันรพี วันบิดาแห่งกฎหมายไทย  มั่นใจการตัดสินของศาลจะมีข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายรองรับอย่างมีเหตุมีผล เป็นที่ยอมรับของสังคมแน่นอน" นายคารมกล่าว

ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวตอบโต้นายคารมว่า ในข่าวมีการลงตำแหน่งรองโฆษกรัฐบาลชัด ต้องถามนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่านั่นเป็นการพูดในนามโฆษกรัฐบาลหรือในนามส่วนตัวของนายคารม สมควรหรือไม่ที่รัฐบาลจะมอบหมายให้รองโฆษกฯ ออกมาชี้แจงในลักษณะชี้นำศาลรัฐธรรมนูญอย่างนี้ โดยจะเห็นว่า การแถลงพรรคก้าวไกลแต่ละครั้งเราเน้นเนื้อหาสาระ ชี้แจงในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อการชี้นำศาลหรือขู่เลย ตัวอย่างคำพูดการชี้นำศาล อาทิ การไปบอกว่าศาลควรจะต้องตัดสินหรือมีคำวินิจฉัยอย่างนั้นอย่างนี้ หรือไม่ก็มีพฤติกรรมข่มขู่ศาลว่า ถ้าศาลมีคำวินิจฉัยในลักษณะนั้นลักษณะนี้จะเจออย่างนั้นจะเจออย่างนี้ พรรคก้าวไกลเตือนตัวเองตลอดว่าอย่าทำ

"คงไม่เรียกร้องจากนายคารม แต่เรียกร้องหัวหน้ารัฐบาลชี้แจง เพราะมีการระบุชัดว่า ถ้าศาลไม่มีคำวินิจฉัยยุบพรรค จะมีเงื่อนไขใดบ้างตามมา ในฐานะนายกฯ จะรับผิดชอบอย่างไร ถ้านายเศรษฐาไม่ตอบ หมายความว่ามีเจตนามอบหมายให้ผู้ใต้บังคับบัญชาในตำแหน่งรองโฆษกฯ ออกมาชี้นำศาลรัฐธรรมนูญในนามของรัฐบาล ซึ่งอันตรายมากๆ เท่ากับว่ารัฐบาลเห็นด้วยกับการแถลงเช่นนี้ ที่อาจเข้าข่ายว่าเป็นการชี้นำศาลและดูหมิ่นศาลได้หรือ หัวหน้ารัฐบาลจะรับผิดชอบอย่างไร ถ้านายเศรษฐาไม่มีคำตอบเรื่องนี้ ก็เท่ากับว่าเห็นดีเห็นงามกับเรื่องนี้ใช่หรือไม่ ถ้าไม่มีมาตรการใดๆ อย่างเป็นรูปธรรม ก็เท่ากับว่าเห็นดีเห็นงามกับพฤติกรรมอย่างนี้ใช่หรือไม่"

หมาหยอกไก่ขายขนมจีบ

นายวิโรจน์ยังกล่าวถึงข่าวลือเรื่องพรรครัฐบาลจ้องดูด สส.งูเห่าพรรคก้าวไกลว่า มีข่าวกระเส็นกระสายมาเป็นระยะๆ แต่เชื่อไม่น่ามี สส.คนไหนย้ายไป เพราะว่าเลือกตั้งปี 2566 สภาพการเมืองเปลี่ยนไปแล้ว ที่นักการเมืองยุคก่อนบอกว่าอย่างไรก็ต้องเอาเงินไปซื้อต้องเอาเงินไปแจกไม่อย่างนั้นประชาชนไม่เลือก มันไม่เป็นความจริงแล้ว เพราะในยุคปัจจุบันไม่มีเงินมาแจก แต่เอางานไปแลก ประชาชนเห็นคุณค่า ประชาชนเปลี่ยนจากการเป็นแค่ผู้เลือก กลายเป็นผู้สนับสนุน เรียกว่าหัวคะแนนธรรมชาติชาวบ้าน ต้องขอบคุณความตื่นตัวของประชาชนที่ทำให้โอกาสในการเปลี่ยนแปลงประเทศนั้นเกิดขึ้น ดังนั้นเลยไม่เชื่อการซื้อขายงูเห่าจะสำเร็จ หรือถ้ามี ก็น้อยมากๆ อย่างไม่มีนัยสำคัญทางการเมือง  เชื่อว่าคนที่เป็นงูเห่าจะถูกลงโทษจากประชาชนไม่แตกต่างจากงูเห่ารอบที่แล้ว

 “เพราะมีพวกหมาหยอกไก่ โยนหินถามทาง ขายขนมจีบ แต่พวกเราไม่ไป บางคนไปโดนทาบทามตามงานลงพื้นที่ กมธ.ต่างๆ จนเอามาเล่าเป็นเรื่องโจ๊กกัน มาเป็นเรื่องแซวขำๆ เล่าสู่กันฟังในพรรค สส.เรารู้ทัน ตัวอย่างเช่นมีมาชวนไปกินข้าว บอกว่ามีของขวัญ มีขนมมาฝากด้วย สส.เราก็รู้ทัน ถ้าไปคุยก็โดนถ่ายรูปแบล็กเมล์คู่กับถุงขนมสิ คิดว่าโง่รึไง ก็มาเล่ากันแบบสนุกปากมากกว่า ในพรรคไม่มีใครหลงกลหรอก ก็เหมือนเขามาขายขนมจีบ พอเจอเบือนหน้าหนีบ่อยๆ อีกฝ่ายเขาก็คงท้อแล้วมั้ง” นายวิโรจน์กล่าว

น.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ สส.สมุทรปราการ เขต 1 พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีหากพรรคก้าวไกลถูกยุบพรรค จะมี สส.แตกแถวหรืองูเห่าว่า    สส.ทั้งหมดของพรรคก้าวไกลที่เกาะกลุ่มเกาะเกี่ยวกันไว้ ด้วยการยึดโยงทางจิตวิญญาณและอุดมการณ์ของพวกเรา เราเชื่อมั่นว่าส่วนใหญ่จะเดินหน้าต่อไปด้วยกัน เชื่อว่าสถานการณ์จะไม่เป็นแบบตอนมีการยุบพรรคอนาคตใหม่ ที่ตอนนั้นเหมือนกับว่าทุกคนงง ไม่รู้จะจัดการกันอย่างไร ก็อาจมีแพแตกบ้างเป็นบางช่วง แต่ครั้งนี้เรารู้อยู่แล้วว่าเราจะเดินหน้าไปในทิศทางใด เรากำลังจะเจอกับอะไร และทุกคนก่อนที่จะเข้ามาทำงาน เป็น สส.ของพรรคก้าวไกล ต่างก็รู้อยู่แล้วว่าตั้งแต่สมัยยังเป็นพรรคอนาคตใหม่ เราเคยโดนกับอะไรมา

นส.พนิดากล่าวว่า หากจะมีการยุบพรรคจริง ก็ยืนยันได้ว่าจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ กับ สส.และการทำงานของพรรคเพราะอย่าง สส. ก็มีแพลนการทำงานของเราล่วงหน้าไว้เป็นเดือนๆ ดังนั้น จึงไม่มีผลกระทบทั้งการทำงานในพื้นที่และการทำงานในสภาผู้แทนราษฎร งานสร้างพรรคและงานท้องถิ่นที่เรากำลังเดินหน้าอย่างเต็มที่

 เมื่อถามถึงกรณีมีคนพูดกันว่า หากพรรค ก.ก.ถูกยุบพรรค จะยิ่งทำให้ยิ่งยุบยิ่งโต คนจะเห็นใจพรรคและกลายเป็นบัตรลงคะแนนให้กับผู้สมัครของ ก.ก. น.ส.พนิดากล่าวว่า เรื่องยิ่งยุบยิ่งโต เราคงไม่การันตี แต่ว่ายิ่งทำกับเรา ประชาชนยิ่งเห็นความผิดปกติของสังคมนี้ เพราะมันขัดกับความรู้สึกของประชาชนอย่างมาก สิ่งที่เราเดินหน้าทำตามกระบวนการทางกฎหมาย กลายเป็นผลออกมาว่ายุบพรรค โดยที่พรรค ก.ก.ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากว่า 14 ล้านเสียง เรากำลังแบกความหวังของประชาชนกว่า 14 ล้านเสียง อาจทำให้ประชาชนได้เห็นความผิดปกติมากขึ้น และอาจทำให้รู้สึกถึงความจำเป็นต่อการออกมาใช้สิทธิใช้เสียงและมอบความไว้วางใจให้เข้าไปทำหน้าที่ในการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้จริง

  นายชำนาญ จันทร์เรือง แกนนำคณะก้าวหน้า อดีตรองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า  พรรคก้าวไกลมีโอกาสรอดจากการถูกยุบพรรค จากเหตุผลทั้งบริบทการเมือง-ข้อกฎหมาย และเรื่องของเวทีต่างประเทศ เพราะในเดือนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญของไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสมาคมศาลรัฐธรรมนูญและสถาบันเทียบเท่าแห่งเอเชีย (AACC) ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 17-21 กันยายน 2567 ที่กรุงเทพมหานคร (มีประธานศาลรัฐธรรมนูญและสถาบันเทียบเท่า จากประเทศสมาชิก 18-19 ประเทศ เดินทางมาเยือนประเทศไทย โดยคาดว่าจะมีมาร่วมงานประมาณเกือบ 400 คน) หากศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกล ก็ไม่รู้ว่าจะแบกหน้าไปคุยกับเขาได้อย่างไร นอกจากนี้ รัฐบาลไทยกำลังรณรงค์อย่างหนัก เพื่อสมัครเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) ในวาระปี ค.ศ.2025-2027 หากจะมายุบพรรคการเมือง ที่ชนะการเลือกตั้งได้คะแนนเสียงมากที่สุด ถ้าแบบนี้ก็ปิดประตูตายเรื่องนี้ได้เลย ไม่ต้องไปลุ้นให้เหนื่อย

เพิ่มความคับแค้นชนะทุกระดับ

แกนนำคณะก้าวหน้ามองว่า ผลการลงมติของ 9 ตุลาการศาล รธน.วันที่ 7 ส.ค.นี้ จะไม่ออกมาแบบเอกฉันท์แบบตอนลงมติตัดสินคดีที่ 3/2567 หรือคดีล้มล้างการปกครองฯ โดยอาจจะออกมา 5 ต่อ 4 หรือ 6 ต่อ 3 ประมาณนี้ ซึ่งจะมีแค่สองแนวทางเท่านั้นคือ หนึ่ง ไม่ยุบพรรคก้าวไกล และสอง คือตัดสินยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งหากจะเป็นแบบนี้ ก็แค่อิงคำวินิจฉัยคดีล้มล้างฯ เมื่อ 31 ม.ค.2567 ก็พอ 

"อีกเหตุหนึ่งที่ทำให้เชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะรอดในคดียุบพรรค ก็เพราะหากก้าวไกลโดนยุบพรรค จะยิ่งแปรเป็นความคับแค้น ความเห็นใจ  อย่างคนที่อยู่กลางๆ เองเขาจะมีความเห็นใจ จนกลายเป็นคะแนนให้มาอย่างท่วมท้นในการเลือกตั้งระดับต่างๆ เริ่มตั้งแต่การเลือกตั้งท้องถิ่น กับการเลือกตั้งนายก อบจ.ทั่วประเทศในช่วงมกราคม-กุมภาพันธ์ปีหน้า และตามด้วย เทศบาล, อบต., กรุงเทพมหานคร, เมืองพัทยา ถ้ายิ่งไปทำแบบนี้ คนก็จะยิ่งเลือกผู้สมัครท้องถิ่นของพรรคใหม่ที่มาแทนพรรคก้าวไกลมากยิ่งขึ้น"

นายชำนาญกล่าวด้วยว่า หากศาลยุบพรรคก้าวไกล จะทำให้การเมืองไทยเหลือเพียงขั้วเดียว ซึ่งประสบการณ์ในอดีต ก็เห็นอยู่แล้วว่าเป็นอย่างไร เกิดเหตุการณ์อะไร หากการเมืองขั้วที่เหลืออยู่ เห็นหมดเสี้ยนหนาม ถ้าก้าวไกลหายไประยะหนึ่งจะยิ่งลำพองใจ สมัยก่อนก็เคยเห็นกันแล้ว ได้มา 377 เสียง ใครพูดอะไรก็ไม่ฟัง แต่หากยังคงให้มีพรรคก้าวไกลอยู่ ก็ยังทำให้เกิดการคานกัน การถ่วงดุลกันได้อยู่ ทำให้จึงเชื่อว่าฝ่ายผู้มีอำนาจทั้งหลายก็คงคิดเก็บพรรคก้าวไกลไว้ก่อน 

 “เชื่อว่าไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะต้องมีการไปแกว่งเท้าหาเสี้ยนด้วยการจะไปยุบพรรคก้าวไกล มองว่าศาลรัฐธรรมนูญน่าจะยกคำร้อง ทางศาลรัฐธรรมนูญก็มีคำวินิจฉัยที่ 3/2567 ค้ำคอพรรคก้าวไกลอยู่ ทำให้ถ้าไม่มีการยุบพรรคก้าวไกล ทำให้พรรคก้าวไกลไม่สามารถทำอะไรได้อีกต่อไปในเรื่อง 112 แต่หากมีการยุบพรรคก้าวไกล แล้วมีการไปตั้งพรรคการเมืองมาแทนก้าวไกล  พรรคการเมืองตั้งใหม่ก็จะไม่ใช่คู่กรณีหรือคู่ความตามคำวินิจฉัยคดีล้มล้างการปกครองอีกต่อไปแล้ว" นายชำนาญกล่าว 

นายสมชาย ปรีชาศิลปกุล หัวหน้าศูนย์วิจัยและพัฒนากฎหมาย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ประเด็นที่นำมาเป็นข้อกล่าวหามีปัญหาอยู่มาก ซึ่งหากตัดสินตามหลักกฎหมาย คิดว่าเป็นเรื่องยากที่จะยุบพรรคก้าวไกล แต่ปัญหาคือ เราเชื่อกันจริงหรือว่า การตัดสินคดียุบพรรคก้าวไกลครั้งนี้เป็นเรื่องของหลักการทางกฎหมายล้วนๆ โดยไม่เกี่ยวกับเรื่องทางการเมือง ซึ่งตนไม่เชื่อ ดังนั้นก็มีโอกาสเป็นไปได้ที่จะมีการยุบพรรคก้าวไกล แต่หากดูจากหลักการทางกฎหมาย หลักการตามระบอบประชาธิปไตย มันเป็นสิ่งที่แทบเกิดขึ้นไม่ได้เลย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง