แห่ป้องแอปทางรัฐ เลื่อนแถลงร้านค้า!

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยช่วยประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิ์ดิจิทัลทะลุ 24 ล้านคน "ภูมิธรรม" อ้างเลื่อนแถลงลงทะเบียนร้านค้าไม่ให้ ปชช.สับสน ย้ำเริ่ม ต.ค.ยังทันเข้าระบบใช้เงิน “จุลพันธ์” โต้ดรามาข้อมูลรั่ว ยันแอป “ทางรัฐ” ปลอดภัย 100% ดึงทีมต่างประเทศซัพพอร์ตป้องแฮ็กระบบ แบงก์ไม่สามารถสั่งเบิก-ถอน-โอนเงินจากบัญชีได้ "DGA" การันตีปลอดภัยมาตรฐานโลก “จิราพร” ยันคดี “เศรษฐา” ไม่กระทบโครงการ ปชป.ซัดรัฐบาลพิรุธ กั๊กเบิกจ่ายงบ 67 เหลือเงินไว้แจกหมื่น

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ขอบคุณความร่วมมือของทุกหน่วยงาน รวมทั้งภาคเอกชน ช่วยอำนวยความสะดวกประชาชนในการลงทะเบียนรับสิทธิ์ดิจิทัลวอลเล็ต โดยข้อมูลล่าสุดมีคนลงทะเบียนตรวจสอบตัวตนแล้วกว่า 24 ล้านคน ซึ่งกระแสตอบรับยอดลงทะเบียนของประชาชน เป็นกำลังใจในการเดินหน้าทำงาน สู้กับเสียงคัดค้าน ด้อยค่า หวังผลทางการเมือง โดยขณะนี้หน่วยงานจากทุกภาคส่วนร่วมอำนวยความสะดวกในการลงทะเบียนให้กับประชาชนกลุ่มผู้ที่มีสมาร์ทโฟนที่อาจประสบปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือจากเดิมมีกว่า 5,000 จุด ปัจจุบันเพิ่มเติมที่ธนาคารกรุงไทย 900 จุด รวมเป็นกว่า 6,000 จุด ทางด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการเลื่อนแถลงข่าวลงทะเบียนร้านค้าเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จากที่กำหนดไว้ 5 ส.ค.ว่า ได้มีการเตรียมร้านค้ามาอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่สิ่งที่เราประเมินคือไม่อยากให้ประชาชนสับสน  เพราะตอนนี้อยู่ในช่วงให้ประชาชนลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต จนถึงวันนี้กว่า 20 ล้านคนแล้ว และยังมีความสนใจลงทะเบียนจำนวนมาก ขณะเดียวกันได้รับคำถามต่างๆ ผ่านสายด่วน 1111

"เราคิดว่าควรให้ผ่านช่วงลงทะเบียนประชาชนไปก่อน ซึ่งกว่าเงินดิจิทัลวอลเล็ตจะออกประมาณเดือน พ.ย. และไทม์ไลน์ลงทะเบียนร้านค้า เริ่ม 1 ต.ค. ยังมีเวลาเหลืออีก 2 เดือน เราเลื่อนไปก่อนจะได้ไม่ให้สับสน รับเป็นเรื่องๆ ไป เอาเรื่องคนลงทะเบียนให้จบ และจากนี้เอาเรื่องร้านค้ามาทีเดียว ขณะนี้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์  เดินเรื่อง มีการสอบถามหน่วยงานเอกชนต่างๆ  รวมทั้งร้านค้าแล้ว ขณะนี้แสดงตนสนใจเข้าโครงการแล้วกว่า 1 ล้านรายแล้ว หลังจากที่เคลียร์ชัดเจนเราจะบอกว่าประเภทร้านค้าแบบไหนอยู่ในลำดับที่เท่าไร และจะซื้ออะไรได้บ้าง  ภายใน 1 เดือนทุกอย่างจะชัดเจนมากขึ้น" นายภูมิธรรมระบุ

ขณะเดียวกัน เพื่อให้ร้านค้าสามารถเข้าใจและดำเนินการได้โดยพี่น้องประชาชนได้เข้าใจด้วย เพราะคนที่มาจ่ายเราจะใช้โลโก้ให้เกิดความชัดเจน ขอเวลาอีก 1 เดือน หากลงทะเบียนบุคคลเรียบร้อย พร้อมจะชี้แจงได้เลย ซึ่งกำลังเตรียมจัดทำคลิปวิดีโอหลายเรื่องเพื่อทำความเข้าใจทุกขั้นตอน โดยจะผ่านสื่อออนไลน์ สื่อทีวี สื่อหลักทั้งหมด ทำให้เกิดความชัดเจนไม่สับสน  กระทรวงพาณิชย์มีความพร้อม ทั้งนี้ จากที่สอบถามร้านค้าภายในตลาดสนใจเข้าโครงการ และส่วนใหญ่มีระบบโอนเงินชำระค่าสินค้าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ อย่างบาร์โค้ด ดังนั้นการใช้เงินดิจิทัล เชื่อว่าเป็นสังคมที่ประชาชนเข้าถึงได้

โต้ดรามาข้อมูลรั่ว

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงถึงกรณีมีการแชร์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยระบุว่า “อย่าเพิ่งลงทะเบียนรับสิทธิ์โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เนื่องจากมีความเสี่ยงข้อมูลส่วนบุคคลในแอปพลิเคชันทางรัฐ รั่วไหล” จนสร้างความกังวลให้กับประชาชน ว่าข้อมูลจะตกอยู่ในมือของ Call Center ว่า ยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง เนื่องระบบรักษาความปลอดภัยของแอปพลิเคชันทางรัฐเป็นระบบมาตรฐานสากล โดยขณะนี้รัฐบาลมีทีมงานจากต่างประเทศที่มีความเชี่ยวชาญสูง มาช่วยซัพพอร์ตระบบเพื่อป้องกันโจมตีระบบข้อมูลทั้งหมด ดังนั้นจึงยืนยันว่าแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" มีความมั่นคง และปลอดภัย100% แน่นอน

ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนที่ลงทะเบียนในแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” นั้น ไม่ใช่ข้อมูลใหม่ แต่เป็นข้อมูลพื้นฐานที่ภาครัฐมีอยู่แล้ว ขณะที่กลไกการตรวจสอบข้อมูลของผู้ลงทะเบียนในประเด็นต่างๆ ของรัฐ เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการ เช่น ข้อมูลด้านการชำระภาษีของสรรพากร ซึ่งยืนยันว่า รัฐไม่ได้ถือตัวเลข หรือข้อมูลที่มีความสุ่มเสี่ยงกับเลขบัญชี แต่เพียงส่งข้อมูลไปยังกรมสรรพากรเพื่อสอบถามว่า บุคคลนั้นๆ มีสิทธิเข้าโครงการตามเงื่อนไขหรือไม่ ซึ่งกรมสรรพากรมีหน้าที่ตอบว่าใช่หรือไม่ใช่เท่านั้น

นอกจากนี้ ในเรื่องของการเชื่อมต่อระบบการเงินของธนาคาร หรือระบบ Open-loop ตรงนี้ระบบธนาคารจะมาเชื่อมต่อกับระบบแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” โดยแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ไม่สามารถส่งคำสั่งไปยังธนาคารให้ทำธุรกรรมการ เบิก ถอน หรือโอนเงินออกจากบัญชีได้ และภาครัฐไม่ได้มีอำนาจในการดำเนินการ หรือเปิดดูบัญชีการเงินส่วนบุคคลได้

 “ยืนยันว่าแอปทางรัฐมีความปลอดภัย 100% ไม่มีประตูเข้าไปสั่งให้เบิก ถอน และโอนเงินจากบัญชีเงินฝากได้แน่นอน เราเกี่ยวข้องกับระบบธนาคารแค่เพียงตัวบัญชีการเปลี่ยนแปลงของตัว Wallet เท่านั้น การเชื่อมต่อระบบนี้มีข้อดีคือ เพิ่มความง่าย เพราะในอนาคตประชาชนจะเปิดบัญชีธนาคารในมือถือได้ ซึ่งหน้าจอแสดงแท็บใหม่ขึ้นมาว่า “Digital Wallet” ก็เท่านั้น โดยไม่ได้ไปยุ่งกับบัญชีธนาคารอย่างที่เข้าใจกัน” รมช.การคลังระบุ

อย่างไรก็ตาม ภาครัฐได้มีการส่งข้อมูล รายละเอียด และเทคนิคที่จะใช้การเชื่อมระบบจ่ายเงินดิจิทัลให้กับธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ นอนแบงก์ และกลุ่มธุรกิจ Wallet ต่างๆ ไปแล้ว ถ้าระบบการเชื่อมต่อ “ทางรัฐ” ที่ส่งไปมีช่องโหว่ หรือมีความไม่ปลอดภัย สถาบันการเงินต่างๆ คงไม่มีทางเข้ามาร่วมโครงการ ที่สำคัญไม่มีธนาคารพาณิชย์ไหนเปิดให้เข้าระบบบัญชีเงินฝากของลูกค้าได้ขนาดนั้น  สถาบันการเงินก็ต้องระวังตัวเช่นกัน ดังนั้นขอให้มั่นใจว่ากลไกที่รัฐบาลทำมีความปลอดภัยระดับสูงสุด และหากประชาชนมั่นใจในการใช้แอปพลิเคชันของธนาคารพาณิชย์เท่าใด แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ก็มีความปลอดภัยเท่านั้น

'ทางรัฐ' มาตรฐานโลก

สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA ชี้แจงว่า แอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" แอปพลิเคชันของภาครัฐที่พัฒนาขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางบริการภาครัฐสำหรับประชาชนที่มีการเชื่อมข้อมูล และบริการจากส่วนราชการต่างๆ มาไว้ในที่เดียวกัน โดยมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบและข้อมูลต่างๆ ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ และพัฒนาระบบที่มีการเข้ารหัสข้อมูลและใช้เทคโนโลยีการยืนยันตัวตนที่ทันสมัยโดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญของ DGA ร่วมกับทีมงานผู้เชี่ยวชาญจากภาคเอกชนที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาระบบที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก โดยเน้นเรื่องความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลและระบบเป็นหลัก มีการตรวจสอบและทดสอบระบบอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการทดสอบเจาะระบบและแก้ไขช่องโหว่ต่างๆ ทั้งก่อนให้บริการและระหว่างการให้บริการเพื่อป้องกันการแฮ็กและการเข้าถึงข้อมูลและบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรฐานสากล

อีกทั้งยังมีการใช้เทคโนโลยีป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ในระดับสูง ตลอดจนการบริหารจัดการและจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้แนวทางที่สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) กำหนด และเป็นไปตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 และ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ.2562 รวมถึงตามมาตรฐานที่ DGA ได้รับการรับรอง เช่น ISO 27001 (Security Management) เป็นต้น

นอกจากนี้ แอปทางรัฐมีการติดตั้งอยู่บนผู้ให้บริการระบบคลาวด์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีเสถียรภาพแล้ว ยังมีการตั้งวอร์รูมเฝ้าระวังระบบและภัยคุกคามทางไซเบอร์ด้วยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญของ DGA ร่วมกับ สกมช. และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตลอด 24 ชั่วโมง

น.ส.จิราพร สินธุไพร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยคุณสมบัตินายเศรษฐา แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน  เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมถึงมีการปล่อยกระแสข่าวว่าอาจส่งผลให้มีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี และอาจกระทบต่อการดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า คดีในศาลรัฐธรรมนูญของนายกฯ ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อการดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เนื่องจากเป็นโครงการที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา จะยังเดินหน้าต่อไปเช่นเดิมจนสำเร็จ

ขณะที่ นายสรรเพชญ บุญญามณี  สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ภาพรวมการเบิกจ่ายงบประมาณในปี 2567 ไม่ตรงตามเป้าที่ควร สิ้นเดือน ก.ย.นี้ จะปิดปีงบประมาณ 2567 สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ เรื่องของการเบิกจ่ายงบลงทุน ในวงเงิน 7.2 แสนล้านบาท แต่กลับมีการเบิกจ่ายเพียง 3 แสนกว่าล้านบาท  หรือคิดเป็นร้อยละ 42.36 ซึ่งเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีงบประมาณ 2566 มีการเบิกจ่ายร้อยละ 60 แสดงว่าลดลงจากปีที่แล้วถึงร้อยละ 18 อีกทั้งยังเป็นที่น่าสงสัยในสังคมว่า รัฐบาลพยายามดึงการเบิกจ่ายให้ล่าช้า เพราะจะนำงบประมาณที่เหลือจ่ายจากปี 2567 มาใช้จ่ายในโครงการแจกเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ต.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' เรตติ้งพุ่ง! กำลังแซงทางโค้งเข้าวิน 'นายกฯ คนที่ 31'

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ว่า นิด้าโพล : อนุทิน กำลังจะแซงโค้งเข้าวิน

รทสช. ส่งชื่อ 'เอกนัฏ' นั่ง รมช. ถึงมือนายกฯ รอเวลาปรับ ครม.

'รทสช.' ทำหนังสือถึงนายกฯ ระบุชัด 1 เก้าอี้ รมช. โควตาพรรคที่ว่าง หากปรับ ครม. พร้อมส่ง 'เอกนัฏ' นั่ง หลังสร้างผลงานเลือกตั้ง-ทำงานสภาฯได้ดี