ทรงเปิดงานโครงการหลวง55

วธ.จัดงาน "แพรพัสตรา บรมราชินีนาถ" น้อมสำนึกพระมหากรุณาธิคุณพระพันปีหลวง ขณะที่  "ในหลวง-พระราชินี" เสด็จฯ เปิดงาน “โครงการหลวง 55” สืบสานพระราชปณิธานพระบรมชนกาธิเบศร ด้าน ผบ.ทร. ให้โอวาทกำลังพลฝีพายขบวนพยุหยาตราทางชลมารค 2,200 นาย ย้ำเป็นความภาคภูมิใจของคนทั้งชาติ ขอให้ทำอย่างสมพระเกียรติ “พระราชินี” ทรงเปิดงานวันสตรีไทย มีพระราชดำรัสชื่นชมสตรีไทยดูแลครอบครัวให้อบอุ่น แม้ต้องทำงานสร้างตัว

เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2567 ที่หอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จัดแถลงข่าวงานแพรพัสตรา บรมราชินีนาถ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 ส.ค.2567 น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า วธ.ร่วมกับศูนย์การค้าสยามพารากอน หน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน และภาคีเครือข่ายทางวัฒนธรรม  จัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในชื่องาน “แพรพัสตรา บรมราชินีนาถ” ระหว่างวันที่ 12-18 ส.ค.2567 เวลา 11.00-20.30 น. โดยจะมีพิธีเปิดงานและพิธีถวายราชสักการะสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชินีพันปีหลวง ในวันที่ 12 ส.ค. เวลา 11.30 น. ณ ลานพาร์ค พารากอน ชั้นเอ็ม ศูนย์การค้าสยามพารากอน

รมว.วธ.กล่าวอีกว่า ภายในงานประกอบด้วยนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  นิทรรศการ “วันผ้าไทยแห่งชาติ” การแสดงระบำชุดไทยพระราชนิยม การแสดง “วิจิตราอาภรณ์ของแผ่นดิน ภูษาศิลป์จากท้องถิ่นสู่สากล” การแสดงโขนเด็ก เป็นต้น ขณะที่กรมการศาสนาจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  วันที่ 20 ส.ค.2567 ณ วัดสาลโคดม จ.สิงห์บุรี และกรมศิลปากร จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เช่น นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 1-31 ส.ค. ณ หอสมุดรัชมังคลาภิเษก กาญจนบุรี นิทรรศการหนังสือ “ผ้าไหมไทย” เฉลิมพระเกียรติฯ   วันที่ 1-31 ส.ค. ณ หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ กิจกรรมจิตอาสา อนุรักษ์และพัฒนาโบราณสถานอุดรโคปุระปราสาทพิมาย อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย

วันเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงาน “โครงการหลวง 55” โดยมูลนิธิโครงการหลวง ร่วมกับ ม.เกษตรศาสตร์ และ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) จัดขึ้น ตั้งแต่วันนี้ถึง 13 ส.ค.2567 ภายใต้แนวคิด “Love for the Earth สัมผัสทุกไออุ่น คุณความรักจากแผ่นดิน” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  เนื่องในปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค.2567 ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงสืบสานงานโครงการหลวง ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ โซนเซ็นทรัล คอร์ท ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

วันเดียวกัน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปทรงเปิดงานวันสตรีไทย ประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด “น้อมเกล้าฯ ถวายความภักดี ปวงสตรีสืบสานการพัฒนา” โดยมีนายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี, นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, น.ส.สุกัญญา ประจวบเหมาะ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ พร้อมคณะกรรมการจัดงาน เฝ้าฯ รับเสด็จ ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กราบบังคมทูลรายงานความเป็นมาของวันสตรีไทย ประจำปี 2567 จากนั้น น.ส.สุกัญญา ประจวบเหมาะ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์การจัดงานวันสตรีไทย และกราบบังคมทูลเบิกคณะบุคคลต่างๆ ได้แก่ ผู้ทำคุณประโยชน์ เข้าเฝ้าฯ  รับพระราชทานเข็มที่ระลึก จำนวน 100  ราย และสตรีไทยดีเด่น เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานเข็มสตรีไทยดีเด่น ประจำปี 2567 จำนวน 143 ราย จากนั้นขบวนเชิญเทียนชนวนพิธีเปิดงาน “วันสตรีไทย ประจำปี 2567” เคลื่อนเข้าสู่ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม

เมื่อขบวนอัญเชิญเทียนถึงหน้าที่ประทับ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงรับเทียนชนวนจากประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ และทรงจุดเทียนเปิดงาน “วันสตรีไทย ประจำปี 2567”  จากนั้น น.ส.สุกัญญา ประจวบเหมาะ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ กล่าวนำถวายสัตย์ปฏิญาณของสตรีไทย จบแล้ว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี  พระราชทานพระราชดำรัส ความว่า 

“ข้าพเจ้ามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมในพิธีเปิดงานวันสตรีไทย ประจำปีพุทธศักราช 2567 ขอแสดงความชื่นชมกับสตรีไทยดีเด่นทุกท่านที่ได้ประกอบคุณงามความดี ต่อครอบครัว ชุมชน และสังคม อย่างต่อเนื่องตลอดมา จนนำมาสู่รางวัลเกียรติยศในวันนี้ สตรีไทยนั้นมีบทบาทหน้าที่ที่หลากหลายนับตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน บทบาทหน้าที่อย่างหนึ่งซึ่งสำคัญมาก คือ บทบาทหน้าที่ในครอบครัว ทั้งในฐานะที่เป็นหลักในการผดุงครอบครัวให้อบอุ่น เข้มแข็ง และในฐานะที่เป็นผู้ดูแลสมาชิกในครอบครัวให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ไม่ว่าสตรีไทยจะทำงานในสาขาอาชีพใดก็ตาม แต่ความสำคัญที่มีต่อครอบครัวตามบทบาทหน้าที่ดังกล่าวนั้นก็ยังคงอยู่ และสตรีไทยจำนวนมากก็ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อครอบครัวได้อย่างดียิ่ง แม้ว่าจะต้องทำงาน สร้างตัว สร้างฐานะ ไปด้วยพร้อมกัน จึงเป็นที่น่าชื่นชมที่ท่านทั้งหลายได้จัดการประชุมครั้งนี้ขึ้นในหัวข้อ "น้อมเกล้าฯ ถวายความภักดี ปวงสตรีสืบสานการพัฒนา” เพราะหากสตรีไทยสามารถจรรโลงรักษาบทบาทหน้าที่ในครอบครัว ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของบุคคลและสังคมได้แล้ว ชาติบ้านเมืองเราก็ย่อมมีความผาสุกมั่นคงและพัฒนาก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นได้อย่างแน่นอน

ที่บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เชิงสะพานพระราม 8 เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค (คจร.) เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค โดยมีกำลังพลในขบวนพยุหยาตราทางชลมารค และฝีพายเรือพระราชพิธี จำนวน 2,200 นายร่วมในพิธี

ผู้บัญชาการทหารเรือได้มอบโอวาทแก่กำลังพลตอนหนึ่งว่า “ขอให้กำลังใจกำลังพลทุกนายในการซ้อมเป็นขบวนเรือครั้งแรก จากนี้ไปจะซ้อมอีก 10 ครั้ง และการซ้อมใหญ่ 15 และ 22 ต.ค.นี้ และวันเสด็จพระราชดำเนินจริง 27 ต.ค.นี้ ซึ่งทุกคนคือความภูมิใจของกองทัพเรือ ทุกคนคือความภูมิใจของประชาชนคนไทยทั้งชาติ  ที่จะได้ถวายงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอให้ทุกคนมีความภาคภูมิใจ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีอันสำคัญยิ่งใหญ่นี้ และจงทำหน้าที่ของตนให้เต็มที่ เพื่อให้การจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เป็นไปด้วยความเรียบร้อยเรียบร้อยสง่างามและสมพระเกียรติ ขอให้ดูแลเรื่องอุบัติเหตุ อย่าให้เกิดขึ้น ให้มีความระมัดระวัง และขอให้รักษาสุขภาพอนามัย และยิ่งช่วงใกล้งานพระราชพิธีก็ขอให้ดูแลสุขภาพร่างกาย ป้องกันโรคระบาดต่างๆ ขอให้ผู้เกี่ยวข้องเตรียมการป้องกัน ให้มีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์”

 โดยการฝึกซ้อมเป็นขบวน จะเริ่มทำการซ้อมย่อยเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 10 ครั้ง ดังนี้ วันที่ 1 ,8 ,15 ,22 สิงหาคม วันที่ 3, 12, 19, 26 กันยายน วันที่ 1 และ 10 ตุลาคม สำหรับการซ้อมใหญ่ จำนวน 2 ครั้ง ในวันที่ 15 และ 22 ตุลาคม และซ้อมเก็บความเรียบร้อยในวันที่ 24 ตุลาคม โดยพระราชพิธีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 27 ต.ค.2567 ทั้งนี้ ประชาชนสามารถรับชมการฝึกซ้อมได้ตลอดเส้นทางที่ขบวนเรือแล่นผ่าน โดยพื้นที่สาธารณะที่สามารถรับชมได้อย่างใกล้ชิด มีดังนี้ ฝั่งธนฯ บริเวณใต้สะพานพระราม 8 ด้านพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 8 สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ข้างโรงพยาบาลศิริราช ท่าน้ำวัดระฆังโฆษิตาราม และวัดอรุณราชวราราม ฝั่งพระนคร ที่สวนสันติชัยปราการ ข้างป้อมพระสุเมรุ ท่ามหาราช และท่าช้าง ตั้งแต่เวลา 15.00 น. ที่เรือพระราชพิธีเริ่ม เคลื่อนขบวนบริเวณสะพาน พระราม 8 จนเสร็จพิธีที่วัดอรุณราชวราราม.