เมินนายกฯสำรอง ชงรื้อกม.ยุบพรรค

"เศรษฐา" น้อมรับคำตัดสินศาลปมตั้ง "พิชิต" มั่นใจทำด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เมินข่าวนายกฯ สำรอง "พท." ลั่นไม่มีใครคิดหาคนแทนเสี่ยนิด "วิสุทธิ์” โวพรรคฮึกเหิมไม่กลัวใครเปลี่ยนตัวนายกฯ ชี้ไม่แปลกศาลไม่ให้ "ทักษิณ" ไปนอกเหตุอยู่ในเงื่อนไขประกันตัวคดี 112 "ศาล รธน." ประกาศพื้นที่ควบคุมช่วงวินิจฉัย 2 คดีใหญ่ "กมธ.การเมือง" ชงแก้พ.ร.ป.พรรคการเมือง ปรับกรอบยุบพรรคเลิกการตัดสิทธิเลือกตั้ง "ชัยธวัช" หนุนรีบทำป้องกันอำนาจฉ้อฉลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งครอบงำระบอบประชาธิปไตย "กมธ." เตรียมส่งผลการพิจารณานิรโทษกรรมรายงานสภาฯ

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 1 ส.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ จากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในวันที่ 14 ส.ค.ว่า คดีนี้ได้เซ็นและส่งคำแถลงปิดคดีไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา ถือเป็นการปิดสำนวนเรียบร้อย

"เรื่องนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรมแล้ว ผมไม่อยากไปก้าวล่วงที่จะบอกว่ามั่นใจหรือไม่มั่นใจ แต่ส่วนตัวมั่นใจว่าทำทุกอย่างด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและบริสุทธิ์" นายเศรษฐากล่าว

ถามถึงกระแสข่าวการเตรียมหานายกฯ สำรอง นายเศรษฐายิ้มพร้อมกล่าวว่า แล้วแต่จะคิดกันไป แต่วันนี้ตนทำงานเต็มที่ และยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ ส่วนวันที่ 14 ส.ค. ศาลตัดสินออกมายังไงก็น้อมรับ

"ผมเชื่อว่ากระบวนการการเมืองก็มีขั้นตอน ก็ให้เดินหน้าตามเรื่อง แต่วันนี้ตราบใดที่ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ ก็ยังทำงานเต็มที่” นายเศรษฐากล่าว

ซักว่า พรรคร่วมรัฐบาลยังให้กำลังใจในการทำงานอย่างเต็มที่ใช่หรือไม่   นายกฯ กล่าวว่า ก็คุยกันดี เมื่อคืนวันที่ 31 ก.ค.ได้เจอกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า  รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ก็มีการพูดคุยกันดี

พอถามถึงกระแสข่าวจะปรับพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาล  นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่เคยคุยเรื่องนี้ วันนี้เรามาโฟกัสที่ปัญหาบ้านเมืองดีกว่า  อย่างวันนี้ตนก็จะเดินทางไปดูปัญหาน้ำท่วม เมื่อถามถึงกรณีที่มีสมาชิกพรรค พปชร.ออกมาแซะนายกฯ ทำให้หวั่นไหวต่อการทำงานหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า  “ไม่เลยครับ เป็นเรื่องภายในของพรรคพลังประชารัฐเขา ผมไม่เคยรู้จักท่านมาก่อน และอย่างที่บอกว่าคำว่าแซะ มันก็มีนัยเยอะแยะไปหมด ส่วนตัวผมโฟกัสที่เนื้อหาสาระมากกว่า แต่ถ้าท่านเข้ามาแนะนำในเรื่องที่ดี ไม่ว่าจะเป็นพรรคเดียวกันหรือพรรคฝ่ายค้านผมยินดี และผมยินดีรับฟังและรับไปแก้ไขปฏิบัติ แต่ถ้าเป็นอะไร อย่างที่สื่อบอกว่าเป็นการแซะ หรือเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุและผล ผมก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาครับ”

ถามต่อว่า ร.อ.ธรรมนัสได้มาเคลียร์กับนายกฯ ในประเด็นดังกล่าวหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่ครับ เพราะ ร.อ.ธรรมนัสรู้จักตนดีอยู่แล้วว่าเป็นคนอย่างไร เราไม่มาเสียเวลาคุยเรื่องพวกนี้ มาคุยเรื่องปลาหมอคางดำ คุยเรื่องน้ำท่วม คุยเรื่องกรมชลประทาน ที่จะต้องเข้าไปดูแลดีกว่า ส่วนตัวผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมากกว่า

 "เชื่อว่า ร.อ.ธรรมนัสรู้ใจผมดี และผมก็รู้ใจท่านดีว่าเรื่องอะไรสำคัญ เรามายืนตรงนี้เพื่ออะไร เรามายืนเพื่อประชาชน แต่ก็อย่างที่บอกว่าเผื่อมีการแนะนำที่เป็นประโยชน์ พร้อมรับฟัง และเมื่อรับฟังแล้วเป็นเรื่องที่ดี ก็จะไปติดต่อพูดคุยกับตัวแทนพรรคต่อไป” นายเศรษฐากล่าว

ขณะที่ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ปฏิเสธกระแสข่าวนายกฯ สำรองว่า ใครจะคิดจะหวังเรื่องนายกฯ สำรองก็ว่าไป แต่ สส.พรรคเพื่อไทยเชื่อมั่นและมั่นใจในความบริสุทธิ์ของนายเศรษฐา การแต่งตั้งรัฐมนตรี นายกฯ ได้หารือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว การแต่งตั้งเป็นไปด้วยเจตนาบริสุทธิ์ ดำเนินการตามคำแนะนำของทุกภาคส่วน ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการและข้อกฎหมายครบถ้วนทุกประการ

"เรื่องนายกฯ สำรอง ในพรรค พท.ไม่เคยคิด ไม่เคยคุยกันในเรื่องนายกฯ สำรองนี้เลย มั่นใจว่าจะไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองใดๆ จึงไม่มีการพูดคุยหรือเตรียมการอะไรไว้ทั้งสิ้น” นายอนุสรณ์กล่าว

ห้ามทักษิณไปนอกไม่มีนัย

ส่วนนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. กล่าวถึงกรณีศาลไม่อนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางออกนอกประเทศว่า ตนมองว่าตั้งแต่ครั้งแรกที่ศาลอนุญาตให้ประกันตัวในคดี 112 ก็มีข้อแม้ว่าไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศ ก็คงไม่มีอะไรมาก เป็นเรื่องที่ศาลท่านได้บอกไว้แล้ว เป็นเรื่องปกติ ไม่มีอะไร ไม่มีใครตื่นเต้น ในสภาในพรรคก็ไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์กันในเรื่องนี้ มีแต่คนที่กำลังดีใจกดไลก์ให้เราที่เงินดิจิทัลกำลังจะออกไปสู่ประชาชน สส.แฮปปี้มาก มีแต่คนให้ความสนใจจำนวนมาก ซึ่งตรงนี้เป็นบวกกับพรรคมาก เลยไม่ค่อยได้สนใจเรื่องของอดีตนายทักษิณ

 “คงไม่ใช่เรื่องศาลไม่เชื่อถือ แต่เป็นที่เมื่อครั้งศาลให้ประกันตัว ได้เขียนเงื่อนไขไว้แล้ว ไม่มีอะไร พวกเราไม่ได้ตื่นเต้นอะไร คนในพรรคเพื่อไทยยังมีกำลังใจเต็มเปี่ยม ฮึกเหิมด้วยพลังใจที่แน่วแน่ ไม่มีปัญหา ไม่กลัวพรรคไหน ไม่มีพรรคไหนจะมาเปลี่ยนนายกฯ หรือเปลี่ยนรัฐบาลได้ เงินกำลังจะออกไป ประชาชนกำลังจะมีความสุข มั่นใจว่านายเศรษฐารอดแน่นอน” นายวิสุทธิ์กล่าว

ด้านนายวันชัย สอนศิริ อดีต สว. กล่าวถึงการปลี่ยนตัวนายกฯ หากนายเศรษฐาถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งว่า นายอนุทินไม่มีสิทธิ์เป็นนายกฯ ได้ เพราะพรรค พท.และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่มีทางยอมให้นายอนุทินได้เป็น เพราะนายกฯ มีอำนาจยุบสภา ปรับ ครม. ปรับพรรคร่วมรัฐบาล แต่หากนายอนุทินเข้าสังกัดพรรคเพื่อไทยแทนอยู่กับนายเนวิน ชิดชอบ อาจมีความเป็นไปได้ที่จะได้เป็นนายกฯ

ถามว่า หากนายอนุทินไม่ใช่นายกฯ คนต่อไป แล้วใครจะมาแทนกรณีที่นายเศรษฐาถูกถอดถอน นายวันชัยกล่าวว่า  ต้องเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แต่คงไม่ใช่ตอนนี้ เพราะมีปัจจัยที่ต้องพิจารณาคือ รอทำผลงานให้พร้อม รวมถึงปรับ ครม.และปรับพรรคร่วมรัฐบาลก่อน

วันเดียวกัน นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์   ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ลงนามในประกาศศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องอาณาบริเวณหรือพื้นที่ที่กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญและสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติงาน รักษาความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อย 

ประกาศตอนหนึ่งระบุว่า ในวันพุธที่ 7 ส.ค. ที่จะมีการประชุมและอ่านคำวินิจฉัยคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งส่งคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยสั่งยุบพรรคก้าวไกล และวันพุธที่ 14 ส.ค. ที่จะมีการประชุมและอ่านคำวินิจฉัยคดีที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา เพื่อให้กระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เห็นออกประกาศกำหนดให้อนาบริเวณหรือพื้นที่ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ เป็นพื้นที่ชั้นนอกในการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในที่ทำการศาล บุคคลและยานพาหนะที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในพื้นที่ต้องผ่านการตรวจของเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน ซึ่งมีหน้าที่ด้านการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย เป็นพื้นที่ควบคุม ซึ่งประกาศนี้ใช้บังคับวันพุธที่ 7-14 ส.ค. เวลา 00.01 ถึง 23.59 น. สำหรับการอ่านคำวินิจฉัย 

ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณารายงานศึกษาของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง  การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน เรื่อง ข้อเสนอในการส่งเสริมสถาบันพรรคการเมืองให้ยึดโยงกับประชาชน

กก.ชงแก้ พ.ร.ป.พรรคการเมือง

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธาน กมธ.การพัฒนาการเมืองฯ กล่าวรายงานตอนหนึ่งว่า ในแนวทางการศึกษามีโจทย์ คือให้พรรคการเมืองเกิดได้ อยู่ได้ ตายยาก เพื่อสร้างระบบการเมืองที่มีประสิทธิภาพ และทำให้พรรคสามารถจัดตั้งได้ง่ายโดยลดเงื่อนไขการจัดตั้ง

นายพริษฐ์กล่าวว่า ประเด็นการทำให้พรรคการเมืองตายยากนั้น 17 ปี มีพรรคการเมืองที่ถูกยุบโดยศาลรัฐธรรมนูญถึง 5 พรรค ดังนั้นข้อเสนอคือ ปรับรายละเอียดให้เหมาะสม สมดุลและได้สัดส่วน นอกจากนั้นทบทวนเงื่อนไขการยุบพรรคให้สอดคล้องกับหลักสากล และเป็นมาตรการสุดท้ายสำหรับกรณีร้ายแรง ไม่ใช่ใช้กลั่นแกล้งทางการเมือง ส่วนกรณีข้อหาล้มล้างการปกครองให้ยุบพรรคเฉพาะกรณีที่พรรคได้ทำการล้มล้างการปกครองที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าทำผิดอาญาว่าด้วยล้มล้างการปกครอง รวมทั้งให้ยกเลิกบทลงโทษว่าด้วยการเพิกถอนสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ที่เป็นสิทธิพื้นฐานของประชาชน

"ข้อเสนอขอกมธ.นั้นเพื่อทำให้พรรคการเมืองยึดโยงพับประชาชน และมีกติกากำกับที่เสรี เป็นธรรม ทันสมัยและสากล  หลังจากรับฟังอภิปายและข้อเสนอแนะของ สส. หวังว่าทุกพรรคร่วมกันเสนอร่างแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองฉบับกลาง เพื่อผลักดันให้ให้เกิดขึ้น" นายพริษฐ์กล่าว

ส่วนนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค ก.ก. กล่าวว่า รายงาน กมธ.ฉบับนี้ไม่ได้ทำขึ้นเพื่อพวกตน ไม่มีผลกระทบต่อชะตาชีวิตพวกตน เป็นเรื่องทุกพรรค และผลประโยชน์ประชาธิปไตยไทย ปัญหาใหญ่คือ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พยายามออกแบบให้ดูดี ควบคุมให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันของประชาชน แต่ไม่บรรลุเจตนารมณ์ เพราะออกแบบจากฐานคิดต่อต้านประชาธิปไตยโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว ไม่ไว้วางใจนักการเมือง และอำนาจจากการเลือกตั้ง มองพรรคการเมืองเป็นความเลวร้ายของการเมืองไทย ทุกอย่างจึงกลับตาลปัตรไปหมด เจตนารมณ์ที่อยากให้พรรคการเมืองเป็นของประชาชนไม่เกิดขึ้น

"รายงานฉบับนี้ไม่ควรเป็นจุดเริ่มต้นไปสู่การแก้ พ.ร.บ.พรรคการเมืองเท่านั้น แต่ควรไปสู่การออกแบบสถาบัน กติกาการเมืองทั้งหมดที่มีปัญหาจากฐานคิดชุดเดียวกันที่พยายามทำให้สังคมไทยเชื่อโดยไม่รู้ตัวว่า ปัญหาการเมืองไทยเกิดจากพรรคการเมือง นักการเมือง อำนาจการเลือกตั้ง แต่ปิดซ่อนเร้นอำนาจฉ้อฉลที่ไม่เคยถูกตรวจสอบจากอำนาจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง สถานการณ์ปัจจุบันกำลังต่อสู้กับความพยายามสถาปนาระบอบการเมืองที่ทำให้อำนาจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งอยู่เหนืออำนาจการเลือกตั้ง นี่คือปัญหาใจกลางสำคัญของรัฐธรรมนูญและ พ.ร.ป.พรรคการเมือง รวมถึงความคิดปลูกฝังต่อประชาธิปไตยแบบไม่รู้ตัว โดยโยนความผิดให้พรรคการเมือง" นายชัยธวัชกล่าว

หัวหน้าพรรค ก.ก.กล่าวว่า ส่วนการยุบพรรคนั้น อยากสื่อสารว่าพัฒนาการยุบพรรคน่ากลัวมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่การทำลายสถาบันการเมืองของประชาชน แต่ยังเริ่มเห็นอาการยุบพรรคการเมืองที่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามสถาปนาระบอบอำนาจนิยม หรือเผด็จการแบบไทยๆ ที่เรียกว่า นิติรัฐแบบไทยๆ แปลกแยกออกจากออกหลักการพื้นฐานจากระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมากขึ้นทุกวัน เป็นอันตรายที่หลายคนอาจไม่สังเกต

กระทั่งเวลา 17.30 น. หลังจากที่สมาชิกอภิปรายครบถ้วนทุกคนแล้ว นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จากการอภิปราย ทุกคนเห็นไปในแนวทางเดียวกัน จึงไม่จำเป็นต้องลงมติ ขอให้ส่งรายงานไปยัง ครม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป

ด้านนายนิกร จำนง ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม  แถลงผลการพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ก่อนเสนอรายงานต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยมีการสรุปผลการพิจารณาศึกษาและข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ ทั้งหมด 9 ข้อ ที่น่าสนใจอยู่ที่ข้อ 7 ความผิดตามมาตรา 110 และ มาตรา 112

นายนิกรกล่าวว่า กรรมาธิการฯ ได้มีการแสดงความเห็นออกเป็น 3 แนวทาง ดังนี้ แนวทางที่ 1 ไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมคดีที่มีความอ่อนไหว 2.เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมคดีที่มีความอ่อนไหวโดยมีเงื่อนไข 3.เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมคดีที่มีความอ่อนไหวโดยไม่มีเงื่อนไข. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นับหนึ่ง‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ยังขลุกขลัก ‘ย้ายทะเบียนบ้าน’ส่อทำเงินกระจุก

เริ่มแล้ว! อย่างเป็นทางการสำหรับ โครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โครงการ เรือธง ของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่เปิดให้ประชาชนได้ลงทะเบียนวันแรก 1 สิงหาคม 2567 ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ”

อึ้ง! เศรษฐาประชุมความปลอดภัยท้องถนนแต่โอ่เรื่องไทยเป็นเจ้าภาพแข่งรถยนต์ไฟฟ้า

นายกฯ ประชุมหารือการป้องกันความปลอดภัยบนท้องถนน ร่วมงานกับ UN ในโครงการ Road Safety รณรงค์สวมหมวกนิรภัยลดอุบัติเหตุ เพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน