ชงหวยเกษียณ ครม.เคาะก.ย. งวดละ5ล้านใบ

“คลัง” เดินหน้าหวยเกษียณ เร่งแก้กฎหมาย กอช. ชง ครม.ภายใน ก.ย. คาดประเดิมขายต้นปีหน้า 5 ล้านใบต่องวด กำชับเข้มต้องไม่กระทบรายได้ผู้ค้าสลากฯ เดิม ยันไม่สะเทือนงบหลวง ใช้เงินแค่ปีละ 700-800 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ (สลากเกษียณ) หรือหวยเกษียณ  ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ โดยคาดว่ากระบวนการจะแล้วเสร็จและสามารถเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ภายในเดือน ก.ย.2567 และคาดว่าจะสามารถเปิดจำหน่ายงวดแรกได้ในช่วงต้นปี 2568

สำหรับรูปแบบของหวยเกษียณนั้น ขณะนี้หน่วยงานที่รับผิดชอบอยู่ในขั้นตอนการออกแบบ  แต่ยืนยันว่าจะเป็นสลากแบบขูดแน่นอน ซึ่งเบื้องต้นมี 3 รูปแบบที่อยู่ระหว่างการพิจารณา คือ 1.สลากขูดแบบตัวเลข 2.สลากขูดแบบรูปภาพ และ 3.สลากขูดแบบชื่อจังหวัด หรืออำเภอ ซึ่งคาดว่าจะข้อสรุปเพื่อนำเสนอ ครม.พิจารณาพร้อมกับการแก้ไขกฎหมายของ กอช.

 “ผู้ซื้อจะได้ประโยชน์ 3 เด้ง คือได้ลุ้นรางวัลแจ็กพอต 1 ล้านบาท ทุกวันศุกร์ ได้เก็บออมทุกบาทที่ซื้อหวย และได้ผลตอบแทนการลงทุนตลอดช่วงเวลาการออม โดยรัฐบาลได้มอบนโยบายหน่วยงานที่รับผิดชอบว่า การดำเนินการจะต้องไม่กระทบกับรายได้ของผู้ค้าสลากกินแบ่งเดิม ซึ่งจะจำหน่ายใบละ 50 บาท เบื้องต้นกำหนดไว้ที่ 5 ล้านใบต่องวด รางวัลแจ็กพอต 1 ล้านบาท” นายเผ่าภูมิระบุ

รมช.การคลังยืนยันว่า ระบบการจำหน่ายจะไม่ซับซ้อน เพราะ กอช.มีแอปพลิเคชันอยู่แล้ว โดยจะมีการเพิ่มฟีเจอร์เข้าไป ผู้ซื้อที่ถูกรางวัลเงินจะโอนเงินเข้าพร้อมเพย์ของผู้ถูกรางวัล ส่วนผู้ที่ไม่ถูกรางวัลเงินจะถูกออมเข้าบัญชี กอช. แต่หากในงวดดังกล่าวหากสลากขายไม่หมด หรือออกรางวัลไม่หมด ก็ให้ทบรางวัลในงวดถัดไป ส่วนการออกรางวัลนั้น จะเป็นหน้าที่ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และยืนยันว่าการดำเนินการในเรื่องนี้จะไม่กระทบกับงบประมาณของรัฐ เพราะถือว่าต่ำมาก เพียงปีละ 700-800 ล้านบาทเท่านั้น

อย่างไรก็ดี กระทรวงการคลัง กอช. และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ผนึกกำลังลงพื้นที่เพื่อสร้างการรับรู้ให้ประชาชน ก่อนเริ่มใช้งานจริง รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อขัดเกลาให้ได้นโยบายที่ดีที่สุด โดยมีกำหนดการ ดังนี้ กรุงเทพ วันที่ 31 ก.ค.2567, พังงา วันที่ 14 ส.ค.2567, สกลนคร วันที่ 25 ส.ค.2567 และพิษณุโลก วันที่ 28 ก.ย.2567.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง