"เศรษฐา" ยันโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เดินตาม กม. โปร่งใสตรวจสอบได้ "จุลพันธ์" แจงเหตุยังไม่นำดิจิทัลฯ เข้า ครม. เพราะผ่านความเห็นชอบหลักการแล้ว รอสรุปยอดลงทะเบียนแจ้งอีกครั้ง หัวเราะร่วนแจกเงินหมื่นถูกต้อง อนาคตไม่ติดคุก ฟุ้งคนแห่โหลดแอปทางรัฐยอดพุ่งทุกวัน "คลัง" เคาะฤกษ์ 8 โมงเช้า 1 ส.ค. กดปุ่มลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ "ปธ.วิปรัฐบาล" เชื่อถกงบฯ เพิ่มเติมปี 67 วาระ 2-3 วันพุธนี้ผ่านฉลุย "ฝ่ายค้าน" ตั้งท่าคว่ำ "จุรินทร์" เล็งสับเละหากแจงเงินหมื่นไม่เคลียร์
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 30 ก.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ที่ฝ่ายค้านมีข้อกังวลในเรื่องการตั้งงบประมาณข้ามปีว่า เรื่องนี้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (รมช.การคลัง) จะชี้แจงในรายละเอียด แต่ตนมีความมั่นใจว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 8 หน่วยงานที่เข้ามาชี้แจงคณะอนุกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อเป็นการยืนยันการดำเนินการต่างๆ ว่าเป็นไปตามกฎหมาย
"ยืนยันว่าทุกอย่างต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และต้องสุจริต" นายกฯ ระบุ
ขณะที่นายจุลพันธ์กล่าวว่า โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต จะยังไม่มีการนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. เนื่องจากที่ประชุม ครม.รับทราบหลักการไปแล้ว สามารถดำเนินการลงทะเบียนได้ในวันที่ 1 ส.ค.นี้ และคาดว่าจะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ให้รับทราบอีกครั้งเมื่อได้ยอดจำนวนผู้ที่ลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ชัดเจนอย่างเป็นทางการ เช่นเดียวกับกระทรวงพาณิชย์ ที่สามารถดำเนินการแถลงถึงความชัดเจนในเรื่องของขั้นตอน และในส่วนของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ อีกทั้งวันเดียวกันนี้จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตเพื่อตรวจสอบถึงความพร้อมต่างๆ
ถามถึงข้อกังวลหากสภาผ่านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท ในวาระ 2-3 จะสุ่มเสี่ยงต่อข้อกฎหมายอะไรหรือไม่ เพราะมีการมองว่าเป็นการใช้งบเหลื่อมปีไปแล้ว นายจุลพันธ์กล่าวว่า ในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้มีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึง 8 หน่วยงาน ตามที่ทุกฝ่ายร้องขอ และได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจให้มีความเข้าใจตรงกัน
“การที่มีบางฝ่ายมีข้อห่วงใยว่าจะสุ่มเสี่ยงต่อการข้อกฎหมายนั้น ก็เป็นการชี้ชัดแล้วว่ามีการดำเนินการทุกอย่างถูกต้อง ซึ่งหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านกฎหมายก็ยืนยันชัดเจนว่าเป็นไปตามกรอบสามารถดำเนินการได้ และทั้ง 8 หน่วยงานที่เชิญมาให้ความมั่นใจว่าเราดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว” นายจุลพันธ์กล่าว
ซักถึงรายละเอียดโดยเฉพาะของผู้ป่วยติดเตียง ได้มีการระบุขั้นตอนที่ชัดเจนแล้วหรือยัง รวมทั้งผู้ป่วยบางประเภทที่ยังไม่ถึงขั้นเป็นผู้พิการ แต่ไม่สามารถไปใช้จ่ายด้วยตัวเองได้ รมช.การคลังกล่าวว่า ต้องมีการหารือกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในส่วนของผู้พิการจะต้องมีกระบวนการยืนยันตัวตนว่าเป็นผู้ป่วยประเภทใด เพราะในการใช้เงินในโครงการดังกล่าวจะมีความแตกต่างกัน แต่การลงทะเบียนไม่แตกต่าง ใครมีมือถือระบบสมาร์ทโฟนก็ใช้ระบบดังกล่าว ใครไม่มีก็ใช้บัตรประชาชน
รมช.การคลังยืนยันว่า แอปพลิเคชันทางรัฐที่ใช้ยืนยันตัวตนเป็นระบบที่มีความปลอดภัยในระดับสูงสุด และเป็นมาตรฐานสากล ขณะนี้มีคนเข้ามาโหลดแอปทางรัฐ รวมถึงดำเนินการลงทะเบียนวันหนึ่งไม่ต่ำกว่าประมาณ 1 ล้านคนโดยเฉลี่ย ซึ่งสูงกว่าที่คาดหมายไว้ นี่ยังไม่เริ่มวันที่ 1 ส.ค. ที่จะเริ่มกระบวนการยืนยันเสร็จ แต่ก็มีการลงทะเบียนมาแล้ว ขณะนี้ตัวเลขกว่า 80 ล้านคนแล้ว ซึ่งเป็นประโยชน์กับทางระบบมาก เพราะเป็นการผ่องถ่ายโหลดของระบบเพื่อให้ระบบสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่น
ถามว่า ถึงเวลานี้โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเดินมาจนถึงขั้นเงินจะเข้ากระเป๋าประชาชนในเร็วๆ นี้ มั่นใจหรือไม่ว่าการดำเนินการต่างๆ จะไม่ทำให้ตัวเองติดคุกในวันข้างหน้า นายจุลพันธ์หัวเราะพร้อมกล่าวว่า มั่นใจครับ มั่นใจมาก ไม่ได้มีประเด็นปัญหาใดๆ เพราะทั้งหมดเป็นไปตามกฎหมาย
"เราก็ระมัดระวัง รับฟังความคิดเห็นของหน่วยงานอย่างครบถ้วน ข้อสังเกตใดๆ ที่เข้ามาเราก็รับมาพิจารณา และมีการปรับแก้มาเป็นลำดับ ฉะนั้นตอนนี้ตัวโครงการอยู่ในจุดที่เชื่อมั่นได้ว่าในสิ้นปีนี้เงินถึงมือประชาชนแน่นอน โดยทั้งหมดเป็นไปตามกรอบของกฎหมายทุกประการ" นายจุลพันธ์กล่าว
ที่กระทรวงการคลัง มีการประชุมคณะอนุกรรมการโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อติดตามความคืบหน้าการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนในโครงการ ซึ่งจะเริ่มลงทะเบียนในวันที่ 1 ส.ค.2567 เวลา 08.00 น. จากเดิมที่กำหนดลงทะเบียนในเวลา 00.00 น. ของวันที่ 1 ส.ค. รวมทั้งการหารือเรื่องแนวทางการลงทะเบียนของประชาชนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง กล่าวว่า ที่ประชุมมั่นใจว่าระบบจะสามารถรองรับประชาชนที่เข้ามาลงทะเบียนและยืนยันตัวตนได้อย่างไม่มีปัญหา ไม่ล่มแน่นอน เพราะที่ผ่านมาได้มีการซักซ้อมระบบมาเป็นอย่างดีแล้ว รวมทั้งมีการหารือเรื่องแนวทางการลงทะเบียนของประชาชนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ซึ่งจะมีการประกาศรายละเอียดทั้งหมดในวันที่ 16 ก.ย.นี้
"ที่ประชุมยังได้มีการหารือเรื่องรายละเอียดเกี่ยวกับการลงทะเบียนร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการ ซึ่งในแง่กฎเกณฑ์ต่างๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแล้ว ส่วนรายละเอียดทั้งหมดต้องรอทางกระทรวงพาณิชย์ชี้แจงอีกครั้ง รวมทั้งยังมีการหารือเรื่องการเชื่อมโยงระบบในลักษณะ Open Loop ซึ่งจะเป็นการดำเนินการระหว่างสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) สพร. หรือ DGA กับสถาบันการเงินและวอลเล็ตต่างๆ ซึ่งจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับเทคนิคที่จะต้องประสานกันต่อไป" นายเผ่าภูมิกล่าว
ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 31 ส.ค.ว่า ที่ประชุมจะร่วมกันพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท ในวาระ 2-3 โดยจะพิจารณาต่อจากการปรึกษาหารือของ สส. ซึ่งประชาชนทั่วประเทศต้องการให้งบประมาณส่วนนี้ผ่านเร็วที่สุด และที่ผ่านมา กมธ.วิสามัญฯ ได้พิจารณามาอย่างรอบคอบแล้ว เมื่อเข้าสู่วาระ 2-3 เป็นเพียงการขอความเห็นจากสภาอีกครั้ง ดังนั้นขอให้ประชาชนได้ติดตามการทำหน้าที่ของ สส.ด้วยว่าใครที่ทำหน้าที่สนับสนุนงบดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งเป็นความหวังของประชาชน
“ผมในฐานะที่เป็น สส. ก็อยากให้งบตัวนี้ผ่านไปโดยเร็ว เพื่อไปถึงประชาชน เพราะเราเข้าใจปัญหาเศรษฐกิจในช่วงนี้ดี โดยคิดว่าการพิจารณาจะใช้เวลาไม่นาน เพราะมีผู้แปรญัตติ 22 คน และมีผู้สงวนความเห็นไว้ 7 คน เมื่อคำนวณเวลาแล้ว การพิจารณาน่าจะเสร็จสิ้นไม่เกิน 16.00 น. จากนั้นจะเป็นการลงมติในวาระที่ 3” ประธานวิปรัฐบาลระบุ
นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) เชื่อมั่นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ เพิ่มเติม วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท สภาจะมีมติเห็นชอบในวาระ 3 อย่างแน่นอน เพราะโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นนโยบายเรือธงที่สำคัญของรัฐบาล
ด้านนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า การประชุมวิปฝ่ายค้านวันนี้ ได้เชิญคนที่เป็น กมธ.วิสามัญร่าง พ.ร.บ.งบฯ เพิ่มเติมของพรรคฝ่ายค้านมาให้ข้อมูลว่าในที่ประชุม กมธ.มีการพูดคุยอะไรกันบ้าง และมีอะไรที่ยังไม่ครบถ้วน เนื่องจากรายงานที่ได้รับมีเพียงว่ามาตรานี้ใครสงวนอะไรไว้บ้างเท่านี้
"เท่าที่ดูจากรายงานของ กมธ.พรรคก้าวไกลมีผู้สงวนความเห็นไว้ 7 คน ซึ่งจะได้อภิปรายถึงเหตุผล ส่วนผู้แปรญัตติทั้งหมด 25 คน ส่วนใหญ่จะเป็น สส.จากพรรคร่วมฝ่ายค้าน คิดว่าน่าจะมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง ในเรื่องของวงเงินที่จะใช้และวัตถุประสงค์ที่จะใช้" นายปกรณ์วุฒิกล่าว
ถามว่า โดยรวมแล้วฝ่ายค้านจะให้ความเห็นชอบหรือไม่ ประธานวิปฝ่ายค้านกล่าวว่า คิดว่าคงต้องย้อนไปที่หลักการ ซึ่งเมื่อตอนรับหลักการพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่สามารถรับหลักการได้ และเมื่อร่างของ กมธ.ที่ส่งกลับมา ก็ไม่ได้มีการแก้ไขใดๆ เลย ดังนั้น เราก็ไม่สามารถเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ได้
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า จนถึงวันนี้แล้วปัญหายังคงค้างอยู่ที่เดิมอย่างน้อย 3 ข้อ 1.แหล่งเงิน รวมทั้งจนวันนี้เงินในส่วน ธ.ก.ส.ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะใช้หรือไม่ 2.หากนำเงิน ธ.ก.ส.มาแจกก็จะมีปัญหาข้อกฎหมายตามมาอีกว่าผิดกฎหมายหรือไม่ และ 3.เรื่องวันเวลาแจกที่แน่นอน เพราะยิ่งทอดเวลายิ่งไม่ชัดเจน
“ปัญหายังคงค้างอยู่ที่เดิม รัฐบาลก็ยังคงต้องเล่นบทลิงแก้แหอีกต่อไป จนกว่าจะไม่มีบทในเรื่องให้เล่น เชื่อว่าวันที่ 31 ก.ค. จะมีการอภิปรายและซักถามในประเด็นเหล่านี้รวมอยู่ด้วย จึงขอให้รัฐบาลเตรียมตอบคำถามล่วงหน้าไว้ด้วย เพราะประชาชนรอคำตอบอยู่จะได้แน่ๆ กี่โมง” นายจุรินทร์กล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แฉระบบเด็กฝาก ทำลายองค์กรตร. ดับฝัน‘ดาวฤกษ์’
เช็ก 41 รายชื่อแต่งตั้งนายพลสีกากี ระดับรอง ผบ.ตร.-ผบช.
ยธ.เมินแจงกมธ. ปมนักโทษเทวดา รพ.ตำรวจชั้น14
ชั้น 14 น่าพิศวง "โรม" กวักมือเรียก “ทักษิณ” ไปสภา เข้าแจง กมธ.มั่นคงฯ
แจกเฟส2เอื้อเลือกอบจ. เตือนร้องถอดถอนครม.
นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ยันไทยสงบ สันติ หวังแม้รัฐบาลเปลี่ยน
ฟ้อง9บิ๊กมท.ทุจริตที่เขากระโดง
เรื่องถึงศาล "ณฐพร" ฟ้องกราวรูด "บิ๊ก ขรก.มหาดไทย"
ลุ้นศาลรับคดีล้มล้าง ตุลาการถก6ประเด็น‘ทักษิณ-พท.’/ดันแก้ประชามติไม่รอ180วัน
"ทักษิณ-พท." ระทึก! 9 ตุลาการศาล รธน.ยืนยันนัดประชุมวาระพิเศษ 22 พ.ย.นี้
'นิพนธ์' ซัดรัฐบาลแจกเงินหมื่น เฟส 2 หวังผลการเมือง ไม่ใช่กระตุ้นเศรษฐกิจ
นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย-อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และอดีตนายก อบจ. พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ เฟส 2 ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีการแจกเงินสด 10,000 บาท ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ที่ลงทะเบียนในระบบและยืนยันตัวตนแล้ว รวมกว่า 4 ล้านคน