โวเงิน‘ดิจิทัล’ ใช้แอปทางรัฐ 9แสนครั้ง/วัน

รมว.ดีอีชวน ปชช.สมัครใช้งานแอป “ทางรัฐ" ล่วงหน้า ก่อนดีเดย์ร่วมโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” 1 ส.ค.นี้ เผยยอดผู้เข้าร่วมทะลุ 8-9 แสนครั้งต่อวัน นายกฯ ขอบคุณกระแสตอบรับจำนวนมาก สร้างความเชื่อมั่นต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล 

เมื่่อวันจันทร์ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่รัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง ได้แถลงรายละเอียดการเข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet หรือโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2567 โดยให้ประชาชนกลุ่มที่มีสมาร์ทโฟนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน  “ทางรัฐ” ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัลล (องค์การมหาชน) หรือ DGA ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม - 15 กันยายนนี้

 ทั้งนี้ จากรายงานการสมัครเข้าใช้งานแอปทางรัฐของประชาชน ก่อนวันที่ 24 ก.ค. 2567 พบว่ามีจำนวนการใช้งานเฉลี่ยวันละ 50,000-60,000 ครั้ง ขณะที่ปัจจุบัน (ภายหลังวันที่ 24 ก.ค. 2567) พบว่ามีจำนวนการสมัครเข้าใช้งานเฉลี่ยถึงวันละ 800,000-900,000 ครั้ง

 ดังนั้น กระทรวงดีอีจึงขอแนะนำให้ประชาชนกลุ่มที่มีสมาร์ทโฟน ที่สนใจเข้าร่วมโครงการได้สมัครใช้งาน พร้อมยืนยันตัวตนในแอปทางรัฐล่วงหน้า เพื่อความสะดวกในการใช้งานก่อนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการก่อนวันที่ 1 ส.ค. 2567 ซึ่งคาดว่าในช่วงที่มีการเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ระหว่างวันที่ 1 ส.ค. - 15 ก.ย. 2567 จะมีจำนวนการสมัครเข้าใช้งานถึงวันละประมาณ 5,000,000-6,000,000 ครั้ง

 “อย่างไรก็ตาม หากประชาชนมีข้อสงสัยหรือต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต สามารถสอบถามได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet  โทร.สายด่วน Digital Wallet 1111 ตลอด 24 ชม. โดยกระทรวงดีอีได้เตรียมเจ้าหน้าที่รองรับการทำงานของระบบไว้กว่า 500 คน เพื่อช่วยอำนวยความสะดวก แก้ไขปัญหา ตอบข้อสงสัยเรื่องการลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ตให้แก่ประชาชน” นายประเสริฐกล่าว

 สอบถามข้อมูลข่าวสารโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต โทร.สายด่วน Digital Wallet 1111 (24 ชม.) และติดตามข้อมูลโครงการได้ที่เว็บไซต์ www.digitalwallet.go.th หรือ www.กระเป๋าเงินดิจิทัล.รัฐบาล.ไทย

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รับทราบยอดการใช้แอป “ทางรัฐ” เพิ่มจำนวนมาก ซึ่งถือว่าเป็นผลมาจากกระแสตอบรับ ความเชื่อมั่น ความหวังที่มีต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลพร้อมทำงานเพื่อประชาชน เพื่อบรรเทาหนี้สิน แบ่งเบารายจ่าย เพื่อวิถีชีวิตคนไทยความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และเพื่อให้เกิดเป็นแรงกระเพื่อม พายุหมุนทางเศรษฐกิจ ที่กลับมาเพิ่มแรงกระตุ้นให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศ ต่อยอดสู่การวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลให้ไทยในอนาคตอันใกล้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 30 ก.ค. กระทรวงมหาดไทยได้เสนอร่างกฎกระทรวง ฉบับที่…  (พ.ศ. …) ออกตามความใน พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 ต่อ ครม. โดยกำหนดเวลาการเล่นแข่งขันวัวลาน จากเดิมตั้งแต่เวลา 07.00 น. ถึง 19.00 น. มาเป็น 18.00 น.ถึง 06.00 น.ของวันรุ่งขึ้น เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวลานและอาชีพอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ รวมทั้งเป็นการทำนุบำรุง สืบสาน และอนุรักษ์การเล่นวัวลานซึ่งเป็นประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่น แก้ไขปัญหาการเรียกรับสินบนของเจ้าหน้าที่ กรณีที่ต้องจัดให้มีการเล่นแข่งขันวัวลานเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวสืบเนื่องจากในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่ จ.เพชรบุรี เมื่อเดือน พ.ค. 67 จังหวัดเพชรบุรีได้มีหนังสือขอแก้ไขเวลาการแข่งขันวัวลาน เนื่องจากเห็นว่าไม่สอดคล้องกับการละเล่นตามประเพณีท้องถิ่น ซึ่งนิยมเล่นในเวลากลางคืน ขณะที่นายกฯ ได้แจ้งข้อสั่งการในที่ประชุม ครม.สัญจร ขอให้กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญกับการดูแลการแข่งขันวัวลาน โดยให้เสนอขอแก้กฎกระทรวงเพื่อขยายเวลาในการละเล่นต่อ ครม.ภายใน 1 เดือน

 ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมเสนอขอให้ ครม.เห็นชอบให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ดำเนินโครงการสินเชื่อ SME  Green Productivity วงเงิน 15,000 ล้านบาท และให้ ธพว. แยกบัญชีดำเนินโครงการ ออกจากการดำเนินการตามปกติเป็นโครงการธุรกรรมนโยบายรัฐ รวมทั้งสามารถนำส่วนต่างระหว่างค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เกิดขึ้นจริงและค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่ได้รับชดเชย เพื่อบวกกลับในการคำนวณโบนัสประจำปีของพนักงานได้ และเป็นส่วนหนึ่งในการปรับตัวชี้วัดทางการเงินที่เกี่ยวข้องตามบันทึกข้อตกลงประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจได้ นอกจากนี้ยังขออนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณชดเชยเพื่อดำเนินโครงการ โดยขอรับงบประมาณชดเชยเป็นระยะเวลา 1 ปี ในกรอบวงเงินงบประมาณ 1,350 ล้านบาท.