มงคล : แทนคุณชาติศาสน์กษัตริย์

“วุฒิสภา” จัดพิธีการรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานและรองประธานวุฒิสภา “มงคล” ลั่น! จะปฏิบัติงานทดแทนคุณแผ่นดิน รักษาชาติ-ศาสน์-กษัตริย์ จนชีวิตหาไม่ ยันอยู่กับความเห็นต่างมาตลอดไม่เคยมีขั้ว-สี "อังคณา" โพสต์แสดงความยินดีอย่างจริงใจ

เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศแต่งตั้งประธานและรองประธานวุฒิสภา มีใจความดังนี้ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ประกาศว่า ด้วยในคราวประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 1 สมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง วันที่ 23 ก.ค.2567 ที่ประชุมได้ลงมติเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 116 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งประธานและรองประธานวุฒิสภา ดังต่อไปนี้ 1. นายมงคล สุระสัจจะ เป็นประธานวุฒิสภา 2.พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ เป็นรองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง และ 3.นายบุญส่ง น้อยโสภณ เป็นรองประธานวุฒิสภา คนที่สอง

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 26 กรกฎาคม พุทธศักราช 2567 เป็นปีที่ 9 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ  นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

ขณะเดียวกัน ที่รัฐสภา เวลา 11.19 น. มีพิธีการรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง โดยมีนางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นผู้เชิญพระบรมราชโองการฯ  และมีนายมงคล พล.อ.เกรียงไกร และนายบุญส่ง พร้อมด้วย น.ส.นภาภรณ์ ใจสัจจะ เลขาธิการวุฒิสภา และผู้บริหาร เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียงกัน

จากนั้น เลขาธิการ ครม.เชิญพระบรมราชโองการฯ วางเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์  และอ่านพระบรมราชโองการฯ ทั้งนี้ นายมงคลได้เปิดกรวยดอกไม้ จากนั้น นายมงคล พล.อ.เกรียงไกร และนายบุญส่ง ถวายบังคม 3 ครั้ง และถวายความเคารพ เป็นอันเสร็จพิธี

นายมงคลให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภาว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมแก่ข้าพระพุทธเจ้าทั้งสามคน เป็นมงคลแก่ชีวิต และขอยืนยันในปณิธานอันแน่วแน่ว่า จะปฏิบัติงานเพื่อทดแทนคุณแผ่นดิน รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ  ศาสน์ กษัตริย์ เพื่อรับใช้ประชาชนด้วยความซื่อสัตย์สุจริต จนกว่าชีวิตจะหาไม่

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่สังคมตั้งข้อสงสัยเรื่องที่มาที่ไปของ สว.ชุดนี้ การทำหน้าที่จะเรียกความเชื่อมั่นของประชาชนกลับมาอย่างไร  นายมงคลตอบว่า เรื่องนี้เราไปห้ามคนให้คิดไม่ได้ เพราะในประวัติกว่าจะเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ ผ่านชีวิตมีเพื่อนมีพี่มีน้อง ผ่านอะไรมามากมาย ถ้าไม่รู้จักใครเลย ไม่สนิทกับใครเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่ในเรื่องของการทำงานหรือการปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ก็เป็นอีกหน้าที่หนึ่ง ก็จะดำเนินการให้เป็นไปตามจริยธรรม และเป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ และเป็นไปตามธรรมเนียมปฏิบัติ

"สว.ทุกท่านยินดีรับใช้ทุกคน และเป็นมิตรกับทุกคน ในเมื่ออยู่ตรงนี้แล้ว สิ่งที่ผมและรองประธาน สว.ทั้งสองคนได้ตั้งปณิธานร่วมกันไว้ ตามที่ได้แสดงวิสัยทัศน์ไปแล้ว ก็ถือว่านั่นคือสิ่งที่จะแสดงเจตนาในการปฏิบัติหน้าที่"

เมื่อถามถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ  ประธานวุฒิสภาตอบว่า เป็นเรื่องรายละเอียด เรายังพูดไม่ได้ เพราะตอนนี้เพิ่งรับตำแหน่ง ก็ต้องขอดูรายละเอียดก่อน แต่ตามเจตนารมณ์ก็จะยึดมั่นผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน

ถามว่า จะยึดมั่นตามประชาชน ไม่มีคำว่าพรรคพวกใช่หรือไม่ นายมงคลบอกว่า ขออย่าได้ถามคำถามนี้เลย เพราะเรามาอยู่ตรงนี้ก็ต้องดูผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก

ส่วนกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่าเตรียมบททดสอบเพื่อตรวจสอบการทำงานของ สว.นั้น ประธานวุฒิสภากล่าวว่า  อย่าเพิ่งเลย ขอทำงานก่อน ขอไม่ตอบในเรื่องนี้

สำหรับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ สว.สีน้ำเงิน  นายมงคลปฏิเสธว่า ไม่มีหรอกครับ จริงๆ คือ น้ำเงิน ขาว แดง เป็นปณิธานของพวกเราที่จะรวมกันเพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์  รวมถึงประชาชน

ซักว่ามี สว.หลายคนบอกว่า หากนายมงคลเป็นประธาน จะสลายขั้วต่างๆ จะทำตามนั้นหรือไม่ ประธานวุฒิสภาชี้แจงว่า ไม่เคยคิดจะมีขั้วหรือมีสี เพราะในชีวิตที่ผ่านมาอยู่กับคนที่มีความเห็นต่างมาโดยตลอด ถือว่าความแตกต่างกับความแตกแยกเป็นคนละอย่างกัน ทั้งนี้ ความแตกต่างเป็นสิ่งที่ดี เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะเห็นเหมือนกัน เชื่อว่าจะหาจุดร่วมกันได้ ความเห็นต่างเป็นสิ่งที่เราต้องรับฟังด้วยเหตุและผลและข้อเท็จจริง ยืนยันว่าสามารถทำงานร่วมกันได้ทุกคน

ขณะที่ นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการแบ่งโควตากรรมาธิการ (กมธ.) วุฒิสภา กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ได้เจรจากับกลุ่มอื่นหรือยังว่า ยอมรับว่ามีบุคคลไปพูดคุยเพื่อให้รู้ว่าคนอื่นมีแนวทางเรื่องนี้อย่างไร แต่ยืนยันว่ายังไม่มีการตกลงกัน เพราะมีข้อเสนอให้แก้ข้อบังคับ ปรับลดจำนวน กมธ. ที่นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สว. เป็นผู้เสนอ ซึ่งจะมีผลต่อการจัดสรรโควตา กมธ.

เขากล่าวต่อว่า เราต้องการ กมธ.ที่สามารถเป็นพื้นที่ให้ทำงานตามจุดยืน ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สิทธิมนุษยชน หรือการมีส่วนร่วมของประชาชน จึงมุ่งหมายจะต่อรองเพื่อให้ได้ ไม่ใช่ว่าอยากได้ตำแหน่งเพื่อผลประโยชน์ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับข้อตกลงในที่ประชุมและการเจรจากับกลุ่มใหญ่ด้วย

เมื่อถามว่า นายมงคลระบุว่าพร้อมทำงานกับคนที่เห็นต่าง มองว่าเป็นสัญญาณที่ดีหรือไม่ นายเทวฤทธิ์กล่าวว่า เป็นสัญญาณที่ดี แต่ก็ต้องรอพิสูจน์เชิงรูปธรรมว่าจะให้พื้นที่ในการทำงานจริงหรือไม่ หรือจะยึดหมดทุกที่

ถามถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการลบล้างผลพวงรัฐประหารจำนวน 3 ฉบับ เพื่อให้บรรจุเข้าสู่วาระการประชุมของรัฐสภา กลุ่มพันธุ์ใหม่มีจุดยืนต่อร่างฉบับนี้อย่างไร นายเทวฤทธิ์กล่าวว่า จุดยืนของเราคือต้องการฟื้นฟูความเป็นประชาธิปไตย ซึ่งบทบาทของ สว. คือการแก้รัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นการลบล้างผลพวงและป้องกันการรัฐประหาร หรือการยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ ก็เป็นหนึ่งในภารกิจของเรา เป็นหลักการที่เราเห็นด้วย

ขณะที่ นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา อดีตผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงตำแหน่งรองประธานวุฒิสภา คนที่สอง โพสต์ข้อความว่า ขอแสดงความยินดีอย่างจริงใจต่อท่านประธาน และท่านรองประธานวุฒิสภาทั้งสอง ที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ในวันนี้นะคะ ร่วมกันทำงานต่อเพื่อประเทศและประชาชนค่ะ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟ้องต้นตอหมอคางดำ

สภาทนายความฯ เตรียมฟ้องแพ่งบิ๊กเอกชน-หน่วยงานรัฐ ต้นตอ "เอเลี่ยนสปีชีส์"

ประธานวุฒิสภา ให้คำมั่นจะปฏิบัติงานทดแทนคุณแผ่นดิน ยันสว.ไร้สีไม่มีขั้วการเมือง

ที่รัฐสภา นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภา ว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้น

ศาลรธน. แพร่ 'คำวินิจฉัยกลาง' พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว. ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่

สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่คำวินิจฉัยกลาง เรื่อง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.