27ก.ค.นัดสภาสูงร่วมพิธี โปรดเกล้าฯประธานสว.

สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาส่งหนังสือแจ้งพิธีรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งประมุขสภาสูง 27 ก.ค. “สรชาติ” ฟิตจัด  เตรียมยื่นญัตติหั่น กมธ.สามัญฯ ลงตามจำนวน สว.ที่เหลือ 200 คน แต่ชงเพิ่ม กมธ.วิสามัญขึ้น 2 คณะ “พิธา” ตีกินบอกรอพิสูจน์ผลงานวุฒิสภาด้วยการหนุนรื้อรัฐธรรมนูญฉบับก้าวไกล

เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2567 มีความคืบหน้าการแต่งตั้งนายมงคล สุระสัจจะ เป็นประธานวุฒิสภา, พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ เป็นรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 และนายบุญส่ง น้อยโสภณ เป็นรองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 โดยสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้แจ้งต่อ สว.เป็นการภายในว่า วันนี้ได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เรื่องพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจึงขอเรียนว่า ตามที่ได้แจ้งเรียนเชิญสมาชิกวุฒิสภาเตรียมพร้อมร่วมพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งในวันนี้นั้น ขอเลื่อนการจัดพิธีไปก่อน

ต่อมาในช่วงเย็น สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาแจ้งต่อ สว.ว่า ในวันเสาร์ที่ 27   กรกฎาคม 2567 เวลา 11.00 น. จะมีพิธีรับสนองพระบรมราชโองการประกาศแต่งตั้ง ประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภา ในการนี้ ขอเรียนเชิญ สว.ที่สะดวก ไม่ติดภารกิจใดๆ เข้าร่วมพิธีในวันและเวลาดังกล่าว โดยขอเรียนเชิญพร้อมกันในเวลา 10.00 น. ณ ห้องริมน้ำ ชั้น 1  อาคารรัฐสภา

ด้านความเคลื่อนไหวของ พล.อ.เกรียงไกร ได้เดินทางมาที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) โดยมาสักการะพระบรมรูปรัชกาล 5 เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมทั้งเข้าพบ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์  ผบ.ทบ. โดย พล.อ.เกรียงไกรระบุว่า เดินทางมาขอพรและสักการะรัชกาล 5 เพราะจบมาจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า มีพระองค์เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และเป็นถิ่นกำเนิดของเรา เพื่อให้การทำงานต่อจากนี้สำเร็จลุล่วงด้วยความราบรื่น และได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับ ผบ.ทบ.เรื่องความมั่นคงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

พล.อ.เกรียงไกรกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาได้มีการหารือกันมาโดยตลอดในเรื่องดังกล่าว อยากจะเข้าไปสานต่องานต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วง เช่น การพูดคุยสร้างสันติสุขในพื้นที่ การควบคุมพื้นที่ให้เกิดความปลอดภัย และวันนี้ได้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับ ผบ.ทบ. เชื่อว่าจะมีโอกาสได้ลงพื้นที่ร่วมกัน รวมถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ

 “เรื่องนี้ไม่ใช่ทหารเดินหน้าเพียงอย่างเดียว ทุกกระทรวง ทบวง กรมที่เกี่ยวข้องต้องมาบูรณาการทำงานร่วมกัน ทั้งการเมือง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ต้องเดินหน้าไปพร้อมกัน ทั้งหมดจะต้องโฟกัสลงไปในพื้นที่ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาสำเร็จ” พล.อ.เกรียงไกรกล่าว และว่า ใจจริงแล้วอยากนั่งกรรมาธิการ (กมธ.) การทหารด้วย แต่ด้วยตำแหน่งรองประธาน สว. ไม่สามารถรับตำแหน่งนี้ได้ และเชื่อว่าในโอกาสข้างหน้านี้จะมีโอกาสได้เดินทางลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กับ ผบ.ทบ.

ด้าน พล.อ.เจริญชัยกล่าวเสริมว่า ให้กำลังใจ  พล.อ.เกรียงไกรตลอด และมีโอกาสได้เจอและพูดคุยกันเสมอ

ขณะที่ นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สว.   ระบุว่า ได้ร่างญัตติด่วนเรื่อง ขอเสนอญัตติแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา ฉบับที่... ยื่นต่อประธานวุฒิสภา โดยอ้างถึงข้อบังคับการประชุมวุฒิสภาปี 2562 ที่กำหนดให้มี กมธ.สามัญประจำวุฒิสภา จำนวน 26 คณะ และกำหนดให้มี กมธ.ติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศและการจัดทำดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ ตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 270 กำหนดไว้ ซึ่งบทเฉพาะกาลกำหนดหน้าที่ของวุฒิสภาชุดเก่าไว้  แต่เมื่อมีวุฒิสภาชุดใหม่ 200 คนเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 วรรค 5 จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะแก้ไขข้อบังคับการประชุมวุฒิสภาปี 2562 ให้มีคณะ กมธ.เหมาะสมกับจำนวน สว.ที่ลดลง และอำนาจหน้าที่เปลี่ยนแปลงไป

นายสรชาติกล่าวว่า ควรมีการปรับปรุงจำนวนองค์ประกอบ หน้าที่และอำนาจของคณะ กมธ.สามัญประจำวุฒิสภา จำนวนคณะอนุ กมธ. ตลอดจนบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับภารกิจการปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อให้คณะ กมธ.สามารถปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนภารกิจของวุฒิสภาด้านนิติบัญญัติ และติดตามการบริหารราชการแผ่นดินอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะปรับปรุงแก้ไขบทบัญญัติเกี่ยวกับคณะ กมธ.ประจำสภา และให้ตั้งขึ้นใหม่จำนวน 2 คณะ คือ 1.คณะ กมธ.วิสามัญแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ เพื่อพิจารณาแนวทางในการแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และ 2.คณะ กมธ.วิสามัญแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อพิจารณาศึกษาหาแนวทางที่เหมาะสมเพื่อรองรับข้อเสนอให้แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่อาจมีขึ้นในอนาคต

ส่วนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ  และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงผลการเลือกประธาน สว.และรองประธาน สว.ว่า สังคมมีข้อครหาในเรื่องเอกภาพและอิสระของความเป็น สว. ซึ่งก็ต้องมาดูกันต่อในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการรัฐประหาร ที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล  เตรียมยื่นเข้าสู่สภา ที่ต้องประชุมร่วมระหว่างสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา โดยจะมีการอภิปรายทั้งสองฝ่าย และจะได้ดูว่า สว.ที่ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชนมากนักจะทำเพื่อประชาชนได้มากน้อยแค่ไหน

 “ขอให้ดูต่อไป เพราะไม่อยากสรุปในสิ่งที่ไม่ได้ติดตาม หรือเรื่องที่จะรู้ว่าใครต่อใครคิดอย่างไร แต่วิธีที่จะทดสอบคือการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งจะรวมไปถึงรัฐบาลด้วยว่าคำสัญญาที่เคยให้กับประชาชนไว้ จะเป็นอย่างไร และจะเป็นประโยชน์กับประชาชนที่กังวลว่าจะเกิดการรัฐประหารในปี 2567 นี้หรือไม่” นายพิธากล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง