เสกน้ำพระพุทธมนต์ครบ6รอบ

นายกฯ เป็นประธานพิธีมหามงคล 5 ศาสนา ถวายพระราชกุศล ก่อนเป็นประธานประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ณ วันพระเชตุพนฯ  เฉลิมพระเกียรติในหลวง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 รัฐบาลเตรียมจัดงานสโมสรสันนิบาต 29 ก.ค. เชิญชวน ปชช.ร่วมถวายพระพรชัยมงคล

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม เวลา 09.00  น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนางพักตร์พิไล ทวีสิน ภริยา เป็นประธานในพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา ถวายพระราชกุศล เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีผู้นำและผู้ประกอบพิธีทางศาสนา คณะรัฐมนตรี และคู่สมรส หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี

สำหรับพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา รัฐบาล โดยกระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดขึ้นทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ ประกอบด้วย ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์  ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาซิกข์

วันเดียวกัน เวลา 07.00 น. ที่บริเวณถนนอัษฎางค์ ด้านหน้ากระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเชิญคนโทน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ จากกระทรวงมหาดไทยไปยังวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เพื่อประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

สำหรับริ้วขบวนเชิญคนโทน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ฯ ประกอบด้วย 9 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 1 รถตำรวจนำขบวน, ตอนที่ 2 วงดุริยางค์กองทัพบก, ตอนที่ 3 สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน เชิญธงชาติและธงตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567, ตอนที่ 4 รถเชิญคนโทน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์, ตอนที่ 5 คณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย,  ตอนที่ 6 ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, ตอนที่ 7 ผู้เชิญคนโทน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์, ตอนที่ 8 ข้าราชการในสังกัดกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และตอนที่ 9 รถตำรวจปิดขบวน รวมจำนวนผู้ร่วมขบวน 581 คน ความยาวขบวน 126 เมตร

ทั้งนี้ คนโทน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดและกรุงเทพมหานครฯ ในครั้งนี้ ได้ผ่านการประกอบพิธีจัดทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ และกรุงเทพมหานคร ได้แก่ พิธีพลีกรรมตักน้ำ จากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 108 แห่งทั่วประเทศ พิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ และพิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ณ พระอารามวัดสำคัญของจังหวัด (ยกเว้นกรุงเทพมหานคร) ซึ่งได้มีการเชิญคนโทน้ำทั้ง 77 คนโทมาเก็บรักษาที่กระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 13 ก.ค. (กรุงเทพมหานคร) และวันที่ 14 ก.ค. (76 จังหวัด)

ต่อมาเวลา 15.20 น. ที่พระอุโบสถวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร นายกรัฐมนตรีและภริยา เป็นประธานพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ โดยนายกฯ ประธานรัฐสภา และประธานศาลฎีกา เทน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากคนโทน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 77 จังหวัด ลงในขันสาคร จากนั้นนายกรัฐมนตรีจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการที่หน้าพระพุทธเทวปฏิมากร พระประธานในพระอุโบสถ ก่อนถวายคำนับ ถวายธูปเทียนแพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระสงฆ์ให้ศีล พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ จุดธูปเทียนบูชาเทพเจ้า พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ อ่านประกาศ เจ้าหน้าที่อาราธนาพระปริตร พระสงฆ์ 73 รูป เจริญพระพุทธมนต์

นายกฯ จุดเทียนครอบสัมฤทธิ์ถวายสมเด็จพระธีรญาณมุนี ประธานสงฆ์ เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหาร จากนั้น ประธานสงฆ์ไปหลั่งน้ำพระพุทธมนต์จากครอบสัมฤทธิ์ลงในขันสาคร ประมวลรวมกับน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากจังหวัดต่างๆ ต่อจากนั้น พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ หลั่งน้ำเทพมนต์ลงในขันสาคร

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา และประธานศาลฎีกา ตักน้ำพระพุทธมนต์จากขันสาครโดยใช้ถ้วยศิลาจารึกอักษรพุทธคาถา รินลงในพระเต้าปทุมนิมิต พระเต้าปทุมนิมิตทอง ของนายกรัฐมนตรี พระเต้าปทุมนิมิตนาก ของประธานรัฐสภา พระเต้าปทุมนิมิตเงิน ของประธานศาลฎีกา นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา และประธานศาลฎีกา ร่วมถวายจตุปัจจัยไทยธรรมและย่ามปักตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และนายกรัฐมนตรีถวายพัดรองที่ระลึกและผ้าไตรแด่พระสงฆ์ จำนวน 73 รูป แล้วกรวดน้ำ กราบลาพระรัตนตรัย และกราบลาประธานสงฆ์ ถวายความเคารพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ในวันจันทร์ที่ 29 ก.ค. เวลา 19.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกฯ จะเป็นประธานในงานสโมสรสันนิบาตฯ ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ในวันและเวลาดังกล่าวให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าได้ชมและรับฟัง เพื่อร่วมถวายพระพรชัยมงคลในโอกาสนี้ด้วย

ทั้งนี้ รัฐบาลเชิญผู้ได้รับเชิญพร้อมคู่สมรส จำนวนทั้งหมด 1,956 คู่ ประกอบด้วย พระราชวงศ์ ส่วนราชการในพระองค์ องค์กรตามรัฐธรรมนูญ อดีตนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการการเมืองในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ทหาร/ตำรวจ ระดับเจ้ากรม หรือตำแหน่งหลักทางบริหารระดับพลโทขึ้นไป เอกอัครราชทูต เอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยซึ่งมีถิ่นพำนักในต่างประเทศ กงสุลกิตติมศักดิ์ประเทศต่างๆ  ประจำประเทศไทย และกงสุลอาชีพ ผู้แทนสหประชาชาติในประเทศไทย หัวหน้า/รองหัวหน้าหน่วยงานของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ประธานสภา/สมาคมต่างๆ ประธานมูลนิธิ (ในพระบรมราชูปถัมภ์) ผู้สื่อข่าวและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ (สื่อมวลชนและสื่อมวลชนต่างประเทศที่ประจำประเทศไทย) และภาคีเครือข่ายภาคเอกชน

นายเศรษฐาได้ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการพระราชดำริที่รัฐบาลดำเนินการว่า ขับเคลื่อนเต็มที่ทุกๆ ภาคส่วน ทบวง กรม ให้ความสำคัญอย่างมาก และขอเชิญชวนประชาชน ร่วมถวายพระพรในช่วงมหามงคล เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งโครงการรัฐบาลมีเยอะมากเป็นร้อยโครงการ โดยมี 10 โครงการใหญ่ในพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งทุกคนร่วมมือร่วมใจกัน รวมทั้งใส่เสื้อเหลืองเพื่อเฉลิมพระเกียรติ ให้พระองค์ท่านชื่นชมว่าคนไทยเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

นายกฯ กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 26 ก.ค. จะเดินทางไป จ.นครพนม เพื่อเป็นประธานพิธีมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุและมอบบ้านตามโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค.2567.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ เป็นประธานพิธีมหามงคล 5 ศาสนาถวายพระราชกุศล

นายกฯ เป็นประธานพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา ถวายพระราชกุศล เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567