เสี่ยนิดซูฮกลุงตู่ อยู่8ปีคนคิดถึง ลุยแจก‘ดิจิทัล’

"เศรษฐา" ซูฮก! "ลุงตู่" อยู่ 8 ปี ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติหลายอย่าง มีคนคิดถึงเป็นเรื่องธรรมดา ยันรัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือ  ปชช.ออกมาแล้ว หลังถูกวิจารณ์ข้าวยากหมากแพง “พิชัย” แจงคดีนายกฯ ไม่กระทบโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ปัญหาการเมืองก็ต้องปล่อยให้เดินไป  โครงการก็ต้องเดินหน้า

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 ที่สโมสรทหารบก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในการบริหารราชการของรัฐบาล เป็นยุคข้าวยากหมากแพง ว่า  กระทรวงพาณิชย์มีหน้าที่กำกับดูแลกรมการค้าภายใน มีหน้าที่กำกับดูแลราคาสินค้าให้อยู่ในราคาที่เหมาะสมถูกต้อง ส่วนเรื่องของค่าไฟฟ้าและค่าน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุน ในที่ประชุม ครม.เมื่อวันอังคารที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการพูดคุยและหารือในการออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนออกมาแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในโซเชียลไปไกลถึงขนาดมีเสียงเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา   องคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรีกลับมา นายกฯ  ตอบว่า เป็นเรื่องธรรมดา เพราะ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีที่อยู่มาถึง 8 ปี และท่านเองก็ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติหลายอย่าง ก็คงมีคนคิดถึงเป็นเรื่องธรรมดา ก็ไม่ได้คิดอะไร

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ในระยะที่ 3 นายกฯ จะเป็นคนแถลงด้วยตัวเองใช่หรือไม่ว่า ก็ต้องดูก่อน จริงๆ แล้วก็มีหลายเรื่องที่เขาทำกัน ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของกระทรวงการคลัง ซึ่งเมื่อวันที่ 24 ก.ค. อยู่ในขั้นตอนของกระทรวงการคลัง สามารถให้ข้อมูลที่แม่นยำและตรง

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง กล่าวถึงประเด็นที่หลายภาคส่วนมีความกังวลเกี่ยวกับกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติคดีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 14 ส.ค.นี้ จะส่งผลกระทบกับโครงการดิจิทัลฯ หรือไม่ ว่าอยากให้แยกประเด็นปัญหาเรื่องการเมืองกับเรื่องเศรษฐกิจ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา จะเห็นว่าปัญหาการเมืองยังไม่เห็นมีเรื่องไหนนิ่ง จะมีการเคลื่อนไหว มีประเด็นเกิดขึ้นเรื่อยๆ เปลี่ยนรูปแบบไปเรื่อยๆ ดังนั้นในส่วนนี้ก็คงไม่มีอะไร ต้องปล่อยให้ปัญหาการเมืองเดินไป ส่วนเรื่องเศรษฐกิจ โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเราก็ต้องเดินต่อไป

 “ผมเชื่อว่าไม่ว่าการเมืองจะไปทางไหน ไม่ว่าใครจะมา ใครจะไป ก็คงอยากจะทำในสิ่งที่มันต้องทำกันทั้งนั้น” นายพิชัยระบุ

ส่วนประเด็นเรื่องการใช้งบประมาณปี 2567 สำหรับทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ตข้ามปีนั้น นายพิชัยกล่าวว่า อย่างที่เคยชี้แจงไปแล้วว่า โครงการไหนที่มีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเกิดผลต่อเนื่อง สร้างความเชื่อมั่น ก่อให้เกิดการลงทุน พวกนี้ถือเป็นสิ่งที่ผูกพันกับเศรษฐกิจ ถือเป็นรายจ่ายลงทุนชนิดหนึ่ง ดังนั้นโดยทั่วไปถ้าโครงการที่จะดำเนินการมีผลผูกพันกับเศรษฐกิจ และมีการยืนยันว่าจะใส่เงินเข้าไปแล้ว ก็ถือเป็นการการันตี ก็ควรจะผูกพันการใช้งบประมาณได้

สำหรับประเด็นที่รัฐบาลยังไม่ได้มีการกำหนดวันใช้จ่ายเงินดิจิทัลอย่างชัดเจน โดยระบุว่าจะใช้ได้ในไตรมาส 4/2567 นั้น มองว่าอยากให้รู้ข้อมูลการลงทะเบียนที่ครบถ้วนก่อน ว่ามีคนแสดงความสนใจเท่าไหร่ มาลงทะเบียนเท่าไหร่ หากข้อมูลตรงส่วนนี้ครบถ้วน จะทำให้การตัดสินใจอะไรดูดีขึ้น

อย่างไรก็ดี นายพิชัยยังระบุถึงกรณีที่กระทรวงพลังงานมีแนวคิดในการแก้ไขกฎหมายภาษีน้ำมัน และดึงอำนาจในการพิจารณาเรื่องโครงสร้างภาษีน้ำมันมาดูแลเองว่า ขอรับเรื่องนี้กลับไปพิจารณาดูก่อน เพราะตามข้อเท็จจริงแล้ว โครงสร้างภาษีประเทศไทยน่าจะได้รับการทบทวนใหม่ เช่น หากลองพิจารณาระยะยาวอีก 30 ปี คนเลิกใช้น้ำมัน แล้วรัฐบาลจะเก็บภาษีที่ไหน จะเก็บอะไรแทน รัฐบาลจะอยู่อย่างไร ดังนั้นเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องไปคิดถึงข้างหน้า จะต้องคิดว่าจะทำอย่างไร แก้ไขอย่างไร จะลดตัวไหน จะเพิ่มตัวไหน เป็นเรื่องที่คนดูแลเรื่องนี้จะต้องรับไปทำเป็นการบ้าน

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 8 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง นายศุภโชติ ไชยสัจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้สดด้วยวาจา เรื่องราคาพลังงาน ทั้งน้ำมันและไฟฟ้า ต่อนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นผู้ตอบแทน

โดยนายศุภโชติกล่าวว่า ประเด็นแรก ทุกวันนี้ประชาชนจ่ายค่าน้ำมันแพง แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละเกือบ 40 บาท ดีเซล 33 บาท เชื่อว่า สส.คงได้ยินเสียงก่นบ่นของประชาชนว่าราคาขนาดนี้เขารับไม่ไหว ล่าสุดรัฐออกมาตรการตรึงดีเซลไว้ที่ 33 บาท ก็สร้างปัญหาอีก คือช่วยเหลือเฉพาะผู้ใช้ดีเซล ไม่ได้พูดถึงคนที่ใช้น้ำมันเบนซิน และมาตรการนี้จะสร้างผลกระทบเชิงลบต่อประเทศในระยะยาว จึงต้องถามว่ารัฐมนตรีไม่มีมาตรการที่ดีกว่านี้แล้วหรือ

นายศุภโชติกล่าวต่อว่า ที่ต้องถามแบบนี้ เพราะรัฐมนตรีกำลังทำแบบเดิมๆ ที่ให้กองทุนน้ำมันฯ เข้ามาแบกส่วนต่างทางราคา ขณะที่ตอนนี้สถานะกองทุนฯ ติดลบแล้วกว่า 110,000 ล้านบาท เรียกว่าสุ่มเสี่ยงต่อการล้มละลายอย่างยิ่ง แม้จะให้กองทุนฯ ไปกู้ธนาคารพาณิชย์มาเพิ่มโดยให้กระทรวงการคลังเป็นคนค้ำ ต้องถามว่าธนาคารที่ไหนจะกล้าให้กู้ ถ้าหนี้ของกองทุนฯ ยังติดลบมากขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีแผนชำระหนี้เลย

นายพีระพันธุ์ลุกขึ้นชี้แจงว่า ก่อนเป็นรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานก็ไม่ต่างจากประชาชนทั่วไป ไม่รู้เรื่องว่าอะไรคืออะไร ถึงเวลาก็ต้องจ่ายค่าน้ำมัน ไปเติมที่ปั๊มขึ้นราคาเท่าไหร่ก็จ่ายไปเท่านั้น ปัญหาจะแก้ด้านขวาก็มาเจอด้านซ้าย พอมาเป็นรัฐมนตรี เห็นปัญหาต่างๆ ที่เป็นประเด็น รวมถึงภาระกองทุนน้ำมันฯ ที่กำหนดเอาไว้กว่า 40 ปี ไม่มีใครคิดจะปรับปรุงแก้ไข ใช้แต่กองทุนน้ำมันฯ ได้รู้ว่าค่าน้ำมัน 38-40 บาทต่อลิตร เพราะไทยมีเนื้อน้ำมันผสม 2 สูตร คือแก๊สโซฮอล์กับไบโอดีเซล ราคาอยู่ที่ 21 บาท

ส่วนภาษีน้ำมัน ถ้าจะช่วยประชาชนก็ต้องเก็บพอสมควร แต่ถ้าต้องการหารายได้เข้ารัฐก็ต้องเก็บเยอะ ทำอย่างไรจึงจะอยู่ในความพอดี ในอาเซียนมีแค่ 3 ประเทศที่เก็บภาษีคือ ไทย สิงคโปร์ และเวียดนาม ไทยเก็บสรรพสามิต 5.99 บาท อีกทั้งต้องเสียภาษีบำรุงท้องถิ่น 60 สตางค์ ราคาอยู่ที่ 6.50 บาท รวมทั้ง vat และเงินเข้ากองทุนอนุรักษ์พลังงาน ประชาชนต้องแบกภาระสองต่อ ทำให้ทำให้ราคาน้ำมันแพงถึงเกือบ 40 บาท

นายพีระพันธุ์กล่าวถึงอำนาจหน้าที่ของกระทรวงพลังงาน คือการกำหนดภาษี แต่ไม่ได้เก็บ คนเก็บคือกระทรวงการคลัง กฎหมายกองทุนน้ำมันฯ ที่ออกมาใหม่ ตัดอำนาจออกเหลือแต่ใช้เงิน นี่คือสาเหตุทำให้หนี้กองทุนน้ำมันฯ รัฐบาลเป็นหนี้กว่า 50,000 ล้านบาท เพราะไม่สามารถกำหนดเพดานภาษีได้ ปัญหาที่ผ่านมามัวแต่ใช้เงินยัน ไม่คิดวิธีอื่น ตนคิดเหมือนท่านว่าไม่คิดกันบ้างหรือไง และวันนี้ตนกำลังคิดและกำลังทำ เราทำอะไรไม่ได้ถ้าไม่มีกฎหมาย ท่านต้องดูกฎหมายกองทุนน้ำมันฯ มีอำนาจตรงไหนให้กระทรวงพลังงานหรือรัฐมนตรีพลังงานทำได้ ไม่มีเลย พูดเปรียบเทียบมาตลอดจะขึ้นราคาต้องขออนุญาต.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ เป็นประธานพิธีมหามงคล 5 ศาสนาถวายพระราชกุศล

นายกฯ เป็นประธานพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา ถวายพระราชกุศล เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567