ตีปี๊บดิจิทัลปลุกพายุหมุน4ลูก

"เศรษฐา" ลั่นพร้อมแล้วก้าวแรกดิจิทัลวอลเล็ต "พิชัย" นำ 2 รมช.การคลังแจงยิบ มั่นใจแจกหมื่นสร้างพายุหมุนเศรษฐกิจ 4 ลูก  กระตุ้นการฟื้นตัวทุกภาคส่วน เคาะลงทะเบียนผ่านสมาร์ทโฟน 1 ส.ค.-15 ก.ย. ไตรมาส 4 เริ่มใช้จ่ายได้ ปัดตอบประเมินผลจีดีพี-การจัดเก็บภาษีเพิ่ม อ้างไม่เหมือนโครงการอื่น เล็งแถลงครั้งหน้ากลางเดือน ก.ย. กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน-ผู้ป่วยติดเตียง "ศิริกัญญา" หยันแถลงดิจิทัลฯ ใหม่แค่วันลงทะเบียน ประเด็นอื่น รบ.ไม่เคลียร์ "กมธ.งบฯ เพิ่มเติม 67" แย้มหน่วยงานมีกันเบิกเงินเหลื่อมปีโครงการดิจิทัลฯ แล้ว

เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ตั้งแต่ช่วงเช้า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ก่อนที่รัฐบาลนำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  (รมว.การคลัง), นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (รมช.การคลัง) และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง จะแถลงข่าวโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า วันนี้แล้วครับพี่น้องคนไทยทุกคน รัฐบาลพร้อมสำหรับก้าวแรกของโครงการ ‘Digital Wallet’ 10.00 น. วันนี้ คุณพิชัย รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคุณจุลพันธ์และคุณเผ่าภูมิ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมแถลงข่าวอย่างเป็นทางการครั้งแรก  ให้พี่น้องประชาชนจะได้รับทราบรายละเอียด  และความชัดเจนตั้งแต่การลงทะเบียน การยืนยันตัวตน และการตรวจรับสิทธิ์

"ประชาชนทุกคนครับ ท่านมีส่วนช่วยมากๆ  ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เราพร้อมแล้วครับ วันนี้ก้าวแรก เราจะก้าวไปพร้อมๆ กันกับอีก 50 ล้านคนครับ" นายกฯ ระบุ

ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ยืนยันการที่นายกฯ ไม่ร่วมแถลงข่าวโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะไม่ถือเป็นการเสียโอกาส เนื่องจากนายกฯ ติดภารกิจเป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการจากทั่วประเทศ ซึ่งเราทำงานกันเป็นทีม ไม่ว่าจะเป็นนายกฯ รองนายกฯ หรือนายพิชัย ตนเองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการพูดคุยกันตลอด และยังมีนายจุลพันธ์และนายเผ่าภูมิ รมช.การคลัง ซึ่งวันนี้ก็จะชัดเจนในภาพรวมทั้งหมด จากนั้นเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะชี้แจงกันอีกครั้ง

"เรื่องนี้มีรายละเอียดเยอะ หากพูดทีเดียวจะเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับหลายเรื่องไปหมด และจะเกิดปัญหาความสับสน ฉะนั้นวันนี้จะเป็นเรื่องภาพรวมรายละเอียดในส่วนที่ประชาชนเกี่ยวข้องกับโครงการนี้ หลังจากนั้นจะเป็นเรื่องของร้านค้าที่มีรายละเอียด เพราะหากมีคำถามจะได้เคลียร์ทีเดียว เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน อีกทั้งวันนี้จะมีพรีเซนเตชันที่จะไปทำความเข้าใจกับโครงการดังกล่าว" นายภูมิธรรมกล่าว

จากนั้นเวลา 10.05 น. นายพิชัยพร้อมด้วยนายจุลพันธ์และนายเผ่าภูมิ  2 รมช.การคลัง ร่วมกันแถลง "ดิจิทัลวอลเล็ต โครงการเพื่อประชาชน พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจแล้ววันนี้"

นายพิชัยกล่าวว่า หลังจากที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการพิจารณารายละเอียดโครงการอย่างรอบคอบ สอดคล้องตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ข้อกฎหมายและระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมนำความเห็นหน่วยงานต่างๆ มาประกอบการพิจารณาอย่างรอบคอบและรัดกุมนั้น โครงการมีความพร้อมที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจแล้ว

โวดิจิทัลฯ สร้างพายุหมุน ศก.

นายพิชัยกล่าวว่า เมื่อเริ่มดำเนินโครงการแล้วจะก่อให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจจำนวน 4 ลูก ได้แก่ พายุหมุนลูกที่ 1 การใช้จ่ายระหว่างประชาชนกับร้านค้าขนาดเล็ก ถือเป็นกระตุ้นเศรษฐกิจไปยังฐานราก กระจายไปพร้อมกันทุกอำเภอทั่วประเทศ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ลดภาระค่าใช้จ่ายแก่ประชาชน, พายุหมุนลูกที่ 2 การใช้จ่ายระหว่างร้านค้าขนาดเล็กกับร้านค้าขนาดใหญ่, พายุหมุนลูกที่ 3 การใช้จ่ายระหว่างร้านค้าขนาดใหญ่กับร้านค้าขนาดใหญ่ ซึ่งจะทำให้เกิดการต่อยอดกำลังซื้อ การบริโภค หรือสร้างโอกาสในการลงทุนเพื่อประกอบอาชีพ และพายุหมุนลูกที่ 4 พลังการใช้จ่ายของประชาชนแต่ละคนจะเกิดผลต่อการหมุนเวียนของกิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นทวีคูณ ช่วยฟื้นฟูภาคการผลิตของประเทศ และสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบเศรษฐกิจในภาพรวม

ทั้งนี้ รัฐบาลจะเปิดให้ประชาชนที่สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการในระหว่างวันที่ 1 ส.ค.-15 ก.ย.2567 และมีกำหนดการที่จะให้เริ่มใช้จ่ายในโครงการภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567

 “มีหลายคนถามว่า ทำไมล่าช้า คิดไปทำไปหรือไม่ ถ้าดูโครงการเติมเงินในอดีต ท่านสามารถเติมเงินได้ แต่ปัญหาอยู่ที่ฐานรากประชาชน เราอยากจะเห็นโจทย์ที่หนึ่งคือ ต้องตั้งต้นปัญหา มีเงินในกระเป๋าเพื่อใช้จ่าย ไม่ใช่เป็นโครงการอุดหนุน เพราะโครงการนี้ถือเป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น และน่าจะมีผลในการสร้างความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจ ทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เติมไปครั้งเดียว หวังว่าโครงการนี้จะสร้างความเชื่อมั่นในประเทศ” นายพิชัยกล่าว

 ส่วนนายจุลพันธ์ แถลงถึงคุณสมบัติประชาชนที่เข้าร่วมโครงการว่า เป็นประชากรที่มีที่อยู่ในทะเบียนบ้าน สัญชาติไทย มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ปิดรับลงทะเบียน (15 ก.ย.2567) ไม่เป็นผู้มีรายได้เกิน 840,000 บาท สำหรับปีภาษี 2566 ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันเกิน 500,000 บาท โดยตรวจสอบข้อมูลเงินฝาก 6 ประเภท ได้แก่ 1.เงินฝากกระแสรายวัน 2.เงินฝากออมทรัพย์ 3.เงินฝากประจำ 4.บัตรเงินฝาก 5.ใบรับเงินฝาก และ 6.ผลิตภัณฑ์เงินฝากในชื่อเรียกอื่นใดที่มีลักษณะเดียวกับข้อ 1- 5

นายจุลพันธ์กล่าวว่า เงินฝากดังกล่าวให้หมายความถึงเฉพาะเงินฝากที่อยู่ในรูปสกุลเงินบาทเท่านั้น และไม่รวมถึงเงินฝากในบัญชีร่วม และเป็นเงินฝาก ณ วันที่ 31 มี.ค.2567 ไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ

"การเปิดลงทะเบียนจะดำเนินการผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ บนสมาร์ทโฟน โดยไม่มีการจำกัดจำนวนประชาชนที่จะเข้าร่วมใช้สิทธิ์ในโครงการ ดังนั้นประชาชนทุกคนที่มาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการและมีคุณสมบัติครบถ้วน ก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ซึ่งรัฐบาลได้ประมาณการไว้จำนวน 45-50 ล้านคน ส่วนการลงทะเบียนประชาชนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการให้เข้าร่วมโครงการได้ในระยะต่อไป โดยจะให้มีการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านช่องทางที่กำหนด ระหว่างวันที่ 16 ก.ย.-15 ต.ค.2567 ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติ สถานะบุคคล และที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน เช่นเดียวกับกลุ่มผู้มีสมาร์ทโฟน" นายจุลพันธ์กล่าว

รมช.การคลังกล่าวว่า ในส่วนการใช้จ่ายนั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาให้ใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชน แต่การใช้สิทธิซื้อสินค้าจากร้านค้าจะทำได้ในวงแคบกว่าการใช้สิทธิของประชาชนกลุ่มที่มีสมาร์ทโฟน ดังนั้นการลงทะเบียนผ่านสมาร์ทโฟนจะสามารถใช้งานได้สะดวกกว่า จึงแนะนำให้พยายามลงทะเบียนผ่านทางสมาร์ทโฟนก่อนเป็นอันดับแรก

 นอกจากนี้ สำหรับการลงทะเบียนร้านค้า เบื้องต้นกำหนดไว้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ซึ่งจะมีการแถลงข่าวเพิ่มเติมเพื่อแจ้งเกี่ยวกับคุณสมบัติของร้านค้า ช่องทางและวิธีการสมัครเข้าร่วมโครงการ  และเงื่อนไขอื่นๆ ให้ทราบต่อไป

แจงเงื่อนไขใช้จ่ายเงินหมื่น

ส่วนเรื่องการใช้จ่ายในโครงการมีรายละเอียด ดังนี้ 1.เริ่มใช้จ่ายได้ภายในไตรมาส 4 ของปี 2567 2.เงื่อนไขการใช้จ่าย 2.1 การใช้จ่ายระหว่างประชาชนกับร้านค้านั้น ประชาชนจะสามารถใช้จ่ายได้กับร้านค้าขนาดเล็ก รวมถึงร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก โดยไม่รวมห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่งสินค้าขนาดใหญ่ระดับประเทศและระดับท้องถิ่น และในการซื้อสินค้า หากประชาชนมีที่อยู่ตามทะเบียนบ้านในอำเภอใด ก็ต้องซื้อสินค้าจากร้านค้าในอำเภอเดียวกันเท่านั้น และต้องซื้อขายแบบพบหน้า ซึ่งคำว่าซื้อขายแบบพบหน้านี้ จะมีการตรวจสอบที่อยู่ของร้านค้าตามที่ลงทะเบียนโครงการที่อยู่ของประชาชนตามทะเบียนบ้านในขณะที่ลงทะเบียนโครงการและพิกัดที่อยู่ของประชาชนใน ขณะที่ใช้จ่ายกับร้านค้าต้องอยู่ในเขตอำเภอเดียวกัน การชำระเงินจึงจะสมบูรณ์ และ 2.2 การใช้จ่ายระหว่างร้านค้ากับร้านค้า ซึ่งร้านค้าทุกประเภทสามารถซื้อขายสินค้าระหว่างกันได้ และไม่มีการกำหนดเงื่อนไขว่าต้องเป็นการซื้อขายแบบพบหน้า จึงซื้อขายสินค้าระหว่างกันได้แม้จะอยู่ต่างพื้นที่

"ประเภทสินค้านั้น สินค้าทุกประเภทสามารถเข้าร่วมโครงการได้ ยกเว้นสินค้า Negative List ได้แก่ สลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม ผลิตภัณฑ์กัญชาและกระท่อม บัตรกำนัล บัตรเงินสด ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือสื่อสาร อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์อาจพิจารณาแก้ไขปรับปรุงรายการสินค้า Negative List เพิ่มเติมได้ ทั้งนี้ การใช้จ่ายภายใต้โครงการจะไม่รวมถึงบริการต่างๆ" รมช.การคลังกล่าว

 ด้านนายเผ่าภูมิ แถลงในส่วนขั้นตอนการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ แบ่งเป็น 2 รูปแบบคือ รูปแบบที่ 1 การยืนยันตัวตนและลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.-15 ก.ย.2567 รูปแบบที่ 2 การยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ มาก่อนวันที่ 1 ส.ค.2567 แล้วจึงค่อยมาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.-15 ก.ย.2567 ซึ่งจะทำให้คงเหลือขั้นตอนลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.เป็นต้นไป ที่ง่ายและรวดเร็วกว่า

"คณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการ นำเสนอรายละเอียดต่างๆ ของโครงการต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบภายในเดือน ก.ค.2567" นายเผ่าภูมิกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า พอปรับวงเงินเหลือ 4.5 แสนล้านบาท จะส่งผลต่อจีดีพีเท่าไหร่ รวมถึงจะทำให้รัฐบาลจะเก็บภาษีได้เท่าไหร่ นายเผ่าภูมิกล่าวว่า เวลารัฐบาลประเมินจีดีพีจะประเมินจากความจริง ไม่เคยประเมินจีดีพีจากตัวเลข 50.7 ล้านคน ผลที่จะกระทบในเชิงบวกถูกประเมินจากตัวเลข 80-90% ของผู้ที่มาใช้สิทธิอยู่แล้ว และเนื่องจากโครงการนี้ไม่เหมือนกับโครงการที่ผ่านมา ไม่สามารถอ้างอิงข้อมูลจากทางวิชาการ ข้อมูลจากงานวิจัยหรืออะไรต่างๆ ที่มีผลต่อเศรษฐกิจเท่าไหร่อย่างแน่ชัดได้ กระบวนการนี้เป็นกระบวนการใหม่ ทั้งการป้องกันไม่ให้นำไปเพื่อออมทรัพย์ ไม่ให้ซื้อสินค้าอบายมุข มีการกำหนดเงื่อนไขให้ใช้หมู่บ้าน ชุมชน เพื่อให้เกิดการสร้างการผลิต สร้างเงื่อนไขให้ไปใช้ต่ออีกรอบก่อนที่จะมาขึ้นเงิน ฉะนั้นไม่สามารถนำงานวิจัยหรืออะไรต่างๆ มาคำนวณได้ ส่วนใหญ่ประเมินจากการซื้อขาย มองมุมกว้าง

"รัฐบาลจะเก็บภาษีได้เท่าไหร่นั้น เราการันตีว่าเงินทุกบาทต้องมีภาษีเข้าสู่รัฐบาล จึงกำหนดเงื่อนไขว่าร้านค้าที่ลงทะเบียนจะต้องเป็นร้านค้าที่อยู่ในระบบการเสียภาษีเท่านั้น" นายเผ่าภูมิกล่าว

เริ่มเปิดลงทะเบียน 1 ส.ค.

ถามว่า มีความมั่นใจว่าจะบริหารงบประมาณใน 2 ปีงบประมาณได้อย่างเพียงพอหรือไม่ และหากไม่เพียงพอจะมีมาตรการรองรับอย่างไร นายจุลพันธ์กล่าวว่า ส่วนงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง ยืนยันโดยกรอบที่มีอยู่สามารถบริหารจัดการได้

 ซักว่า ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.เคยมีข้อกังวลเรื่องการทุจริตต่างๆ ได้เตรียมวางระบบป้องกันไว้อย่างไร นายจุลพันธ์กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ทุกครั้ง นายกฯ เน้นย้ำเรื่องการป้องกันการทุจริต และไม่เคยได้ยินเรื่องการทุจริตในโครงการ เชื่อว่าการทุจริตของภาครัฐเองไม่สามารถทำได้ เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์จะมีผู้รับคือประชาชน

"รัฐจะระมัดระวังในเรื่องการทุจริต เพราะเบื้องต้นรัฐบาลได้ตัดสิทธิบุคคลที่ละเมิดเงื่อนไขหรือผิดกฎโครงการรัฐในอดีตไปแล้ว อีกทั้งรัฐบาลได้ตั้งอนุกรรมการเพื่อมาติดตามการใช้เงิน และมีการประชุมหลายครั้ง เพื่อใช้กลไกต่างๆ ป้องกันการทุจริตอย่างเข้มข้น" นายจุลพันธ์กล่าว 

เมื่อถามถึงความพร้อมของแอปพลิเคชันทางรัฐ นายจุลพันธ์กล่าวว่า ขณะนี้ในแอปพลิเคชันทางรัฐยังไม่ได้เปิดให้ยืนยันสิทธิสำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่สามารถเข้าสู่แอปพลิเคชันเพื่อทำการยืนยันตัวตนไว้ก่อนได้ ซึ่งในวันที่ 1 ส.ค. จะขึ้นปุ่มให้ยืนยันสิทธิ ปุ่มให้ลงทะเบียนตรวจสอบสิทธิ แต่หากประชาชนเข้ามาใช้สิทธิเป็นจำนวนมากอาจจะทำให้แอปพลิเคชันเกิดการดีเลย์บ้างเป็นปกติ แต่ยืนยันว่าสามารถรองรับได้ แต่อาจจะใช้เวลามากกว่าปกติ ส่วนวันเวลาการลงทะเบียน นับตั้งแต่ 00.01 น. วันที่ 1 ส.ค. ลงทะเบียนได้ตลอด 24 ชม.

"คนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน รวมถึงผู้ป่วยติดเตียง เดี๋ยวจะชี้แจงรายละเอียดอีกครั้งในการแถลงข่าวครั้งต่อไป โดยจะมีการแถลงข่าวทั้งหมด 3 ครั้ง โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 1 ส่วนสาเหตุที่ไม่ชี้แจงในครั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสับสน และต้องการเน้นไปที่กลุ่มบุคคลที่มีสมาร์ทโฟน ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่มีจำนวนมากที่สุด โดยการแถลงครั้งถัดจะมีขึ้นช่วงกลางเดือน ก.ย." นายจุลพันธ์กล่าว

วันเดียวกัน น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 กล่าวถึงการแถลงข่าวโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า  จากการติดตา เรื่องใหม่ยังไม่เคยได้ยินมาก่อน และมีการยืนยันแล้ว มีเพียงแค่เรื่องวันในการลงทะเบียน นอกจากนั้นแล้วยังไม่มีความชัดเจนใดๆ เลย แม้จะมีการทวงถามจากสื่อมวลชนแล้วก็ตาม

น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า เรื่องแรกที่อยากจะพูดถึงคือเรื่องผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ ภายหลังจากเกิดพายุหมุนดิจิทัลวอลเล็ตแล้ว เศรษฐกิจจะโตแค่ไหน ซึ่งนายเผ่าภูมิก็ออกมาบอกว่าไม่สามารถประเมินออกมาเป็นตัวเลขได้ เนื่องจากเป็นโครงการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโลก แต่จากที่ตนเข้าไปสังเกตการณ์ในห้องคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2567 ซึ่งหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งกระทรวงการคลังได้มีการส่งผลที่จะเกิดขึ้นภายหลังโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเข้ามาแล้ว

ซัด รบ.ไม่เคลียร์หลายประเด็น

นอกจากนี้ ประเด็นความไม่ชัดเจนของแหล่งที่มาของเงินนั้น ก็มีการถามย้ำว่า การบริหารงบประมาณคืออะไรกันแน่ ทั้งที่มีการบริหารงบปี 67 และปี 68 ด้วย แต่นายจุลพันธ์ก็ไม่ได้ให้ความชัดเจน เรื่องปัญหาในข้อกฎหมายในส่วนงบเพิ่มเติมที่จะต้องใช้ภายในปีงบประมาณ ก็มีการถกกันว่าจะต้องใช้เป็นงบรายจ่ายประจำปีทั่วไปกันเงินเอาไว้เบิกเหลื่อมปี ถ้าปี 67 ใช้ไม่หมดได้หรือไม่

"สิ่งที่ต้องติดตามกันต่อคือ สรุปแล้วจะสามารถใช้เงินข้ามปีได้หรือไม่ หากไม่ได้งบเพิ่มเติมที่จะต้องมีการอนุมัติกันในวาระสองและวาระสาม ก็คงต้องใช้ให้หมดภายในวันที่ 30 ก.ย.นี้ หากใช้ไม่ทัน ก็มีสิทธิ์ที่จะใช้ไม่ได้ข้ามปี และต้องใช้วิธีการอื่นในการทำ ซึ่งก็มี 2 ทาง คือแจกเลยเป็นเงินสดภายใน 30 ก.ย.นี้ โดยที่ระบบยังไม่เสร็จ หรือจะแจกพร้อมกันหมด ก็อาจจะต้องพับเงินก้อนนี้ไป เพราะใช้ไม่ได้แล้ว ต้องหาเงินก้อนอื่น ซึ่งทางปลัดกระทรวงก็ออกมาบอกว่า อาจจะกลับไปใช้มาตรา 28 ก็เป็นได้ เท่ากับว่าทุกอย่างยังคงลื่นไหล ไม่นิ่ง ไม่แน่ไม่นอน" น.ส.ศิริกัญญากล่าว

สส.ก้าวไกลรายนี้ระบุว่า เรื่องลงทะเบียนน่าจะไม่มีปัญหา แต่ปัญหาคือระบบจ่ายเงินที่มีความซับซ้อนมาก เพราะต้องสร้างกระเป๋าเงินอีกหนึ่งอันเพื่ออยู่ในแอปพลิเคชันของธนาคารต่างๆ แล้วจึงให้เรามาใช้ ซึ่งเราก็ได้ขอดูทีโออาร์ไปแล้วว่ามีการกำหนดไว้อย่างไรบ้าง แต่ปรากฏว่าทีโออาร์ไม่สามารถให้ได้ เพราะเป็นการจัดซื้อจัดจ้างแบบคัดเลือก ส่วนหนังสือเชิญชวนก็ยังร่างไม่เสร็จ จึงไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะทำอย่างไรให้เสร็จทัน เพราะยังต้องส่งต่อให้กับหน่วยงานอื่นอีก แล้วเงินที่จ่ายไปจะปรากฏอยู่ในกระเป๋าเงินดิจิทัลจริงใช่หรือไม่ ไม่มีการตกหล่นหายระหว่างทางใช่หรือไม่

นอกจากนี้ระยะเวลากว่าเดือนครึ่งในการลงทะเบียนสำหรับผู้ที่มีสมาร์ทโฟน อาจจะเป็นเพราะอยากให้คนมีการลงทะเบียนแบบออฟไลน์น้อยที่สุด แต่ก็ยังไม่มีการบอกรายละเอียดการลงทะเบียนแบบที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ซึ่งก็คิดว่าคงไม่มีผลต่อการกระตุ้นให้เกิดการใช้สมาร์ทโฟน

ถามว่า จะให้คะแนนการแถลงข่าวโครงการดิจิทัลวอลเล็ตครั้งนี้อย่างไร น.ส.ศิริกัญญาปฏิเสธที่จะให้คะแนน โดยระบุว่า รู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่าจะมีการแบ่งแถลง 3 ครั้ง ครั้งนี้เป็นการแถลงโดยรัฐมนตรี ซึ่งจะให้นายกฯ มาแถลงภายหลัง เท่ากับว่ายังไม่มีอะไรคืบหน้ามากนัก แต่มีอะไรที่พูดได้ก็พูดไปก่อน ดังนั้นเมื่อไม่คาดหวัง จึงไม่ผิดหวัง

ที่รัฐสภา เวลา 14.30 น. นายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 แถลงผลการประชุม กมธ.ว่า การประชุมเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเพื่อตอบข้อซักถาม จำนวน 9 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ สำนักงบประมาณ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสมาคมธนาคารไทย โดยที่ประชุมมีการพิจารณาในประเด็นที่สำคัญเกี่ยวกับการกันเงินไว้เบิกเงินเหลื่อมปี ซึ่งโครงการดิจิทัลวอลเล็ตมีกำหนดการเปิดลงทะเบียนและการจ่ายเงินอยู่คนละปีงบประมาณ

นายธีระชัยกล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงว่า การกันเงินไว้เบิกเงินเหลื่อมปี ต้องเป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินตามที่กระทรวงการคลังกำหนด ทั้งนี้ เงื่อนไขของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตคือ เมื่อมีผู้ประสงค์เข้าร่วมโครงการ จะมีการตรวจสอบสิทธิ์ว่าบุคคลดังกล่าวมีคุณสมบัติตามเงื่อนไขของโครงการหรือไม่ ทั้งเรื่องของรายได้ อายุ และเงินฝาก เป็นต้น และเมื่อผ่านการตรวจสอบสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว จะมีระบบตอบกลับไปยังผู้ประสงค์เข้าร่วมโครงการ ซึ่งถือเป็นการเสนอและการสนองที่ทำให้เกิดนิติสัมพันธ์ขึ้น และมีผลทำให้สามารถดำเนินการกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีได้

ส่วนประเด็นกำหนดรายการยกเว้นสินค้าของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 23 เม.ย.67 ได้กำหนดจำนวน 15 รายการ และมติของคณะกรรมการนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตล่าสุด ได้เพิ่มสินค้าในรายการยกเว้น อีก 3 รายการ คือ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือสื่อสาร ดังนั้นสินค้ายกเว้นทั้งหมดมี 18 รายการ รวมธุรกิจบริการอีก 1 รายการ รวมเป็น 19 รายการ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สามารถเสนอแก้ไขปรับปรุงรายการสินค้ายกเว้นเพิ่มเติมได้

"ที่ประชุม กมธ.ยังมีข้อสังเกตว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ต้องดำเนินการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบของการดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ในประเด็นผลกระทบของการมีอำนาจเหนือตลาดและการผูกขาด รวมทั้งศึกษาว่าการดำเนินโครงการจะนำไปสู่การเพิ่มสวัสดิการของสังคมหรือผู้บริโภคในส่วนของครัวเรือนอย่างไร ซึ่งที่ประชุมได้ลงมติรายมาตรา ผลปรากฏว่า กมธ.เสียงข้างมากเห็นชอบตามร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว โดยมี กมธ.บางส่วนสงวนความเห็นในมาตรา 3 มาตรา 4 และมาตรา 5 และนัดประชุม กมธ.ครั้งต่อไปในวันที่ 25 ก.ค. เวลา 13.30 น." นายธีระชัยกล่าว.