ครม.อุ้มต่อค่าไฟ-ดีเซล นิดชิ่งส่งคลังแจงดิจิทัล

"เศรษฐา" ส่ง 3 รมต.คลังแถลงข่าว  "ดิจิทัลวอลเล็ต" 24 ก.ค. ส่วนเจ้าตัวรอจ้อทีเดียวก่อนวันเงินเข้ากระเป๋า ปชช. "ภูมิธรรม" ตีปี๊บร้านค้าแห่ลงทะเบียนเพียบ ใช้จ่ายเซเว่นฯ ได้ คาด ต.ค.เริ่มจ่ายเงิน “พีระพันธุ์” เผย ครม.เคาะตรึงค่าไฟฟ้า 4.18 บาทต่อหน่วยอีก 4 เดือน พร้อมอุ้มดีเซล 33 บาทต่อลิตรถึง 31 ต.ค.นี้  “คลัง” จ่ออัดมาตรการบูมอสังหาฯ เพิ่ม

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม  เวลา 12.15 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าที่ประชุมรับทราบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอเกี่ยวกับมาตรการลดราคาพลังงาน

ด้านนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน  แถลงว่า ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการลดราคาค่าพลังงาน โดยให้ตรึงค่าไฟฟ้างวดใหม่ที่ 4.18 บาท/หน่วย ไปอีก 4 เดือน (ก.ย.-ธ.ค.) และคงมาตรการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่ใช้ไฟไม่เกินเดือนละ 300 หน่วย คิดค่าไฟที่ 3.99 บาท/หน่วย เท่าเดิมไปจนถึงสิ้นปี 67                 

ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะไม่มีผู้ใดเดือดร้อน และไม่ได้ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ไปแบกรับ ซึ่งจะได้เงินส่วนต่างจากค่าไฟฟ้าไปจ่าย แต่จะจ่ายในจำนวนที่ลดน้อยลง และนำไปชำระหนี้ให้ กฟผ.ด้วย ซึ่งการชำระจะจ่ายตามงวดค่าไฟฟ้า และการชำระหนี้ไม่จำเป็นต้องจ่ายในงวดเดียวทั้งหมด เพราะการจ่ายหนี้งวดเดียวจบ ประชาชนจะเป็นผู้แบกรับหนี้ ซึ่งไม่มีเหตุจำเป็นที่จะทำเช่นนั้น ฉะนั้นการทยอยจ่ายเป็นรายงวดก็มีค่าเท่ากัน

"กรณีค่าไฟงวดใหม่ ก.ย.-ธ.ค.67 หลังจากที่ได้เชิญประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.), ผู้ว่าการ กฟผ. และประธานคณะกรรมการ บมจ.ปตท. มาหารือร่วมกัน โดยได้ข้อยุติที่จะตรึงค่าไฟงวดใหม่ไว้ที่ 4.18 บาท/หน่วยตามเดิม" นายพีระพันธุ์ระบุ

นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังมีมติตรึงราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 33 บาทต่อลิตร โดยใช้มาตรการจากสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ไปจนถึงวันที่ 31 ต.ค.67

ผู้สื่อข่าวถามถึงการตรึงราคาน้ำมันดีเซลเพียงอย่างเดียว แต่ผู้ใช้น้ำมันเบนซินเดือดร้อนเช่นกันนั้น นายพีระพันธุ์กล่าวว่า กลไกน้ำมันเป็นเช่นนี้มานานนับเวลา 50 ปี ซึ่งตนก็ไม่พอใจ แต่ขณะนี้กำลังดำเนินการแก้ไข ซึ่งอยู่ระหว่างการร่างเป็นกฎหมาย ขณะนี้ได้ร่างกฎหมายต้นฉบับเสร็จเรียบร้อยแล้ว กำลังส่งให้ฝ่ายกฎหมายของทีมตรวจสอบ และจะส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องราคาน้ำมันที่ขึ้นทุกวันได้

เมื่อถามว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวจะไม่ทันใช้ในวันที่ 31 ต.ค.นี้ใช่หรือไม่ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ไม่ทัน เพราะต้องส่งเข้าสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ต้องใช้ตามกฎหมายเดิมไปก่อน แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อไหร่ จะมีการปรับระบบทั้งหมด และเชื่อว่าหลังวันที่ 31 ต.ค. กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยังจะแบกรับไหวอยู่ ทั้งนี้ ต้องไปพูดคุยกับกระทรวงการคลังว่าจะมีวิธีการอย่างไรต่อไป ส่วนหลังวันที่ 31 ต.ค. จะใช้กลไกของลดภาษีสรรพสามิตมาช่วยใช่หรือไม่นั้น ต้องหารือกันอีกครั้งหนึ่ง

ส่วนการแก้ไขปัญหาโครงสร้างราคาน้ำมันจะได้รับความร่วมมือจากฝ่ายอื่นหรือไม่ ในการออกกฎหมายดังกล่าว หรือจะมีการขัดแข้งขัดขากันหรือไม่นั้น นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ไม่มี เรื่องนี้เป็นเรื่องของผลประโยชน์ประชาชน และจากการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีใครมีปัญหา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าจะแถลงรายละเอียดทั้งหมดของโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ในวันที่ 24 ก.ค.นี้ ล่าสุดนายกฯ ไม่มีกำหนดการร่วมแถลงข่าวดังกล่าวแล้ว โดยจะมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง เป็นประธานการแถลงข่าว ในชื่องาน “ดิจิทัลวอลเล็ต โครงการเพื่อประชาชน พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจแล้ววันนี้” ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 10.00 น. พร้อมด้วย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) และ Facebook Live เพจ Live NBT2HD

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่าการแถลงข่าวโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ได้จัดการแถลงข่าวออกเป็น 3 ระยะ โดยระยะแรก ในวันที่ 24 ก.ค. กระทรวงการคลังจะแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับไทม์ไลน์ วันลงทะเบียนในส่วนของประชาชน ตอบข้อสงสัย เช่น คนที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือต้องทำอย่างไร เป็นต้น จากนั้นระยะที่ 2 จะมีการแถลงความคืบหน้ารายละเอียดเกี่ยวกับร้านค้าร่วมโครงการ ต้องทำอย่างไร มีเงื่อนไขอะไร รับเงินแบบไหน พร้อมตอบชี้แจงข้อสงสัย โดยกระทรวงพาณิชย์จะเป็นผู้แถลง และช่วงสุดท้ายในระยะที่ 3 เมื่อมีความคืบหน้า เงินจะเข้าได้เมื่อไหร่ ประชาชนเริ่มใช้เงินได้วันไหน นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้แถลงและตอบข้อซักถามที่สงสัยด้วยตัวเองเมื่อถึงช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งต้องใช้เวลาอีกเป็นเดือน ดังนั้นในวันที่ 24 ก.ค.นี้ นายกฯ จึงไม่ได้เข้าร่วมการแถลงข่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันที่ 24 ก.ค. นายกฯ มีกำหนดการปฏิบัติภารกิจนอกทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 11.30 น. จะเป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 2/2567 ที่กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อมอบนโยบายในการทำงาน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าสินค้าที่อยู่ในโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตว่า อยู่ในกระบวนการทำงาน ตอนนี้เรื่องร้านค้าคืบหน้าไปมาก ทั้งสินค้าต้องห้ามและสินค้าที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ พิจารณามาเยอะแล้ว ซึ่งหลังจากวันที่ 24 ก.ค. จะมีการชี้แจงรายละเอียดต่างๆ มีความคืบหน้าอย่างชัดเจน คาดว่าไม่เกิน 1 สัปดาห์

เมื่อถามว่า จะมีร้านค้าตอบรับการลงทะเบียนมากน้อยแค่ไหน นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตอนนี้ก็มีเยอะแล้ว สมาคมค้าปลีกกว่า 500,000 ร้านค้า ร้านธงฟ้า 146,000 ร้าน และร้านอาหารธงฟ้า 5,000 ร้าน ซึ่งทยอยติดต่อมา บางส่วนได้มีการจัดการรายละเอียดแล้ว โดยมีการแยกกันทำงาน ส่วนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หาบเร่แผงลอย หากจำตัวเลขไม่ผิดจะอยู่ที่ประมาณ 500,000 ร้าน ซึ่งร้านค้าเหล่านี้ได้มีการยื่นมาแล้ว และคิดว่าในวันที่ 24 ก.ค. เมื่อมีการชี้แจงเสร็จสิ้นในส่วนนี้จะดำเนินการต่อ เข้าใจว่าภายในเดือน ต.ค. จะเริ่มจ่ายเงินให้เรียบร้อยไปตามกระบวนการ

ส่วนของร้านค้าร้านเล็กๆ อย่างเช่นร้านหมูปิ้ง จะลงทะเบียนได้ที่ไหน นายภูมิธรรมกล่าวว่า ในวันที่ 24 ก.ค.นี้ ส่วนต่างๆ จะแถลงตามขั้นตอน ซึ่งจะได้เห็นและได้เข้าใจหมด โดยจะมีคอลเซ็นเตอร์ให้สอบถามด้วย

เมื่อถามย้ำว่า ร้านเซเว่นฯ สามารถเข้าร่วมโครงการได้หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เข้าใจว่าได้

ขณะที่ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีสถานการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันที่สต๊อกบ้านเหลือขายเป็นจำนวนมากว่า กระทรวงการคลังได้เตรียมมาตรการไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ อยากให้ทุกฝ่ายรอฟังความชัดเจนอีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้ กระทรวงการคลังได้ระบุถึงผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ ในส่วนมาตรการสินเชื่อและค่าธรรมเนียมว่า เพียงระยะเวลาแค่ 3 เดือน ช่วยให้มีการจดทะเบียนมากกว่า 40,000 ราย และช่วยสร้างเม็ดเงินใหม่ให้กับระบบเศรษฐกิจกว่า 65,000 ล้านบาท.