ใต้ระอุ!บึ้ม2จว. ตร.เจ็บ10นาย สั่งเพิ่มคุมเข้ม

ด้ามขวานระอุอีกรอบ คนร้ายซุกระเบิดลอบบึ้ม 2 จุด ตำรวจเจ็บอื้อ หนองจิกเจ็บ 6 ราย เทพาเจ็บอีก 4 ราย คาดเป็นกลุ่มเดิมที่ลอบระเบิดร้านชำ “ยะลา” ผวาสั่งด่านตรวจเข้ม

เมื่อช่วงค่ำวันที่ 22 ก.ค. ต่อเนื่องถึงช่วงเช้าวันที่ 23 ก.ค. ได้เกิดเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกครั้งหนึ่ง โดยเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 22 ก.ค. ได้เกิดเหตุระเบิดริมถนนสายหาดใหญ่-ปัตตานี ม.9 บ้านทุ่งนเรนทร์ ม.9 มีเจ้าหน้าที่ 6 นายได้รับบาดเจ็บ ประกอบด้วย 1.ด.ต.สุริยา อีดหมาด อายุ 49 ปี 2.จ.ส.ต.สันติสุข จันทรเกษ อายุ 32 ปี 3.จ.ส.ต.อัครพล ครองราษฎร์ อายุ 35 ปี 4.ส.ต.อ.วีรการณ์ พรายอินทร์ อายุ 36 ปี 5.ส.ต.ท.ศิงขริน สวัสดิกูล อายุ 25 ปี และ 6.ส.ต.อ.เกริกฤทธิ์ แก้วแสงอ่อน อายุ 33 ปี โดยทั้ง 6 นายมีบาดแผลถลอกตามแขนขา หูอื้อและแน่นหน้าอก อาการปลอดภัย

จากการสอบสวนก่อนเกิดเหตุทราบว่า เจ้าหน้าที่ชุดร้อยเวร 20 สภ.หนองจิกทั้ง 6 นาย กลับมาจากลาดตระเวนเส้นทางเพื่อดูแลความปลอดภัย เมื่อเสร็จภารกิจ กำลังเดินทางกลับโรงพักหนองจิก ปรากฏว่าเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ห่างจากโรงพักประมาณ 1 กิโลเมตร คนร้ายได้กดชนวนระเบิดแสวงเครื่องแบบเร่งด่วนน้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัมที่ซุกซ่อนบริเวณเสาหลักกิโลเมตรริมถนนจนเกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง

ต่อมาในเวลา 09.35 น. วันที่ 23 ก.ค. ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถของตำรวจ สภ.เทพา ซึ่งเป็นรถกระบะ 4 ประตู บริเวณหน้าโรงไฟฟ้าชีวมวลเทพา พื้นที่บ้านบ่อน้ำส้ม ต.เกาะสะบ้า อ.เทพา จ.สงขลา ขณะออกลาดตระเวนพื้นที่ ทำให้ตำรวจบาดเจ็บ 4 นาย คือ 1.ร.ต.อ.ณัฐปคัลภ์ นิลกาฬ รอง สวป.ฯ/หน.ชป. 2.ร.ต.ท.ไชยสิทธิ์ แก้วเกาะสะบ้า 3.ด.ต.วัชรินทร์ กายรัตน์ และ 4.จ.ส.ต.ณัฐฆวัฒน์ มีคง

สำหรับความคืบหน้าล่าสุดในเหตุการณ์ที่หนองจิกนั้น เจ้าหน้าที่ยังคงปิดเส้นทาง และเปิดใช้เส้นทางเดียวให้ประชาชนที่จะเดินทางไปกลับปัตตานี-หาดใหญ่ โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารพรานดูแลความปลอดภัยบริเวณที่เกิดเหตุและห้ามไม่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไป เพราะเกรงว่าคนร้ายอาจจะล่อลวงซุกระเบิดอีกเพื่อหวังทำร้ายเจ้าหน้าที่ขณะเข้าที่เกิดเหตุ 

ขณะที่ชุดสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคงระบุว่า ก่อนหน้านี้ทางหน่วยข่าวได้รับรายงานจากแหล่งข่าวว่า พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบเข้ามาในพื้นที่ และมีการประชุมวางแผนในพื้นที่แห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนและเข้าตรวจสอบในพื้นที่ แต่ไม่พบ และเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายไหวตัวทันหลบหนีไปก่อนแล้ว โดยคาดว่าเหตุระเบิดครั้งนี้น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันที่เคยก่อเหตุในพื้นที่ และน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันที่ลอบวางระเบิดหน้าร้านขายของชำในพื้นที่ ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 3 ก.ค. แต่สามารถเก็บกู้ระเบิดไว้ได้ 2 ลูก ซึ่งกลุ่มที่ร่วมก่อเหตุครั้งนี้คาดว่ามี 4 คน และมีหมายจับคดีความมั่นคงหลายคดีคือ นายอาดูนัน อาแว, นายอับดุลการิม สะตาปอ, นายมะแอ สะอิ และนายอาริฟัน ยูนุ

พล.ต.ต.สันทัศน์ เชื้อพุฒตาล ผบก.ภ.จว.ปัตตานี พร้อมด้วย พ.อ.ปรเมศ ศานุพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 สั่งระดมกำลังร่วมเฉพาะกิจกระจายกำลังเข้าปิดล้อมพื้นที่เป้าหมาย 10 จุดบริเวณที่เกิดเหตุในรัศมี 1 กิโลเมตร และให้ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติ เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวมีอาวุธครบมือและพร้อมที่จะตอบโต้เกรงว่าจะเกิดความสูญเสียทั้งสองฝ่ายระหว่างปฏิบัติ

ต่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เดินทางมาที่โรงพยาบาลปัตตานี เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 6 นายที่ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นเปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้เชิญหัวหน้าสถานีตำรวจทุกพื้นที่มาประชุมและกำชับเพื่อไม่ให้เป็นฝ่ายถูกกระทำ เนื่องจากตอนนี้กลุ่มผู้ก่อเหตุยังคงมุ่งและกระทำต่อเจ้าหน้าที่รัฐเป็นหลัก โดยจากนี้จะมีการเพิ่มมาตรการให้เข้มแข็งขึ้น ส่วนการปฏิบัติการสืบสวนสอบสวนทางคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งต้องรอผลการตรวจให้ชัดเจน เชื่อว่ากลุ่มที่กระทำในครั้งนี้เป็นกลุ่มเดิมๆ และเรามีฐานข้อมูลอยู่แล้ว

ส่วนที่จุดตรวจศูนย์อำนวยการร่วม พ.ต.อ.จิรวัฒน์ ดูดิง ผกก.สภ.เบตง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ตรวจสอบบุคคล ยานพาหนะที่เดินทางเข้า-ออก อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อตรวจสอบบุคคลที่มีหมายจับ บุคคลเป้าหมาย และรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่มีการแจ้งหาย เพื่อป้องกันคนร้ายนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ประกอบระเบิดแบบแสวงเครื่องในรถยนต์หรือคาร์บอมบ์ และในรถจักรยานยนต์ เพื่อเคลื่อนย้ายนำไปยังพื้นที่เป้าหมายเพื่อทำการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงต่อเนื่อง หลังมีการแจ้งเตือนกลุ่มคนร้ายจะมีการก่อเหตุช่วงนี้.