ล็อกโผประธานวุฒิ กลุ่มอิสระดัน‘บุญส่ง’นั่งรองปธ./สีน้ำเงินรอ‘บ้านใหญ่’เคาะ

ตั้งวงล็อบบี้กันเดือด! สภาสูงระอุ ชิงเก้าอี้ ปธ.วุฒิสภา-รองประธานฯ เดือด กลุ่มอิสระ 30 คนตบเท้าแสดงพลัง ปิดชั้น 7 ตึกหรูรัชดาฯ  คุยกัน 4 ชั่วโมง ดัน "บุญส่ง-อดีต กกต." นั่งรองประธาน สว.สีน้ำเงินรอสัญญาณบ้านใหญ่บุรีรัมย์ เคาะจบวันอาทิตย์นี้เอาใคร “มงคลหรือบิ๊กเกรียง” สะพัด ล็อกโผเก้าอี้ประธาน กมธ.เกรดเอหมดแล้ว ขณะที่ "แพทยสภา" มีมติตั้งข้อกล่าวโทษ "หมอเกศ" ผิด พ.ร.บ.วิชาชีพ

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ก่อนถึงวันประชุมวุฒิสภานัดแรก วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม 2567 ซึ่งจะมีการเลือกประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่งและคนที่สอง รวม 3 ตำแหน่งสำคัญของวุฒิสภาว่า ยิ่งใกล้ถึงวันโหวตยิ่งมีความเคลื่อนไหวอย่างหนักของ สว.กลุ่มต่างๆ  เพื่อล็อบบี้คะแนนเสียงในการโหวตเลือกประธานวุฒิสภา รองประธานวุฒิสภา โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการเสนอชื่อคนแข่งลงชิงรองประธานวุฒิสภากับ สว.สีน้ำเงิน ที่ล่าสุดตอนนี้ สว.สีน้ำเงินมี สว.ในกลุ่มมากถึง 140 เสียง บวกลบห้า  และกลุ่ม สว.สีน้ำเงินยังคงพยายามดึง สว.จากกลุ่มอื่นๆ และ สว.ที่ยังไม่เข้ากลุ่มใดมาเข้าเป็นสมาชิก สว.สีน้ำเงินอย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ช่วงสาย มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจของ สว.ร่วม 30-35 คน ที่มีการนัดพบปะกันที่ตึกซีเอส ทาวเวอร์ ถนนรัชดาฯ โดยนัดหมายกันผ่านโทรศัพท์และการเชิญชวนผ่านไลน์ สว. ทั้งไลน์ส่วนตัวและไลน์กลุ่ม ที่มีการตั้งกันไว้หลายกลุ่ม แต่จะเน้นชวน สว.ที่ชัดเจนว่าไม่ได้อยู่ สว.สีน้ำเงินและ สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ หรือ สว.สีส้มเดิม 

การพูดคุยดังกล่าวเริ่มตั้งแต่เวลา 11.00 น. โดยหารือกันร่วม 4 ชั่วโมง พร้อมกับร่วมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน ซึ่ง สว.บางคนก็อยู่ร่วมหารือจนเลิก แต่บางคนก็เดินทางออกไปก่อน ในการพบปะกันครั้งนี้ ข่าวแจ้งว่าผู้ประสานงานที่เป็นคนดีลให้ สว.มาหารือกันคือ นายวราวุธ ตีระนันทน์ ที่เข้ามาเป็น สว.จากกลุ่มสุดท้าย กลุ่มที่ 20

มีรายงานว่า การหารือดังกล่าว นายบุญส่ง น้อยโสภณ สว. และอดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มีข่าวว่าจะได้รับการเสนอชื่อชิงรองประธานวุฒิสภา ร่วมหารือด้วย โดยเบื้องต้นทางกลุ่มเห็นตรงกันว่าจะมีการรวมกลุ่ม สว.กัน โดยใช้ชื่อว่า สว.กลุ่มอิสระ แต่จะไม่เคลื่อนไหวแล้วประกาศตัวว่ามีการตั้งกลุ่มแบบ สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ ที่นำโดย ดร.นันทนา นันทวโรภาส แต่จะเป็นการรวมกลุ่มกันแบบรู้กันภายในว่าในกลุ่มมีใครบ้าง และเวลานัดเจอกันหรือกำหนดท่าทีทางการเมือง ก็จะมีการนัดหารือกันเพื่อกำหนดทิศทางกลุ่ม ซึ่งแนวทางดังกล่าว สว.ส่วนใหญ่ที่ร่วมหารือด้วยต่างก็เห็นด้วย บางคนบอกว่าเคยไปร่วมกลุ่มกับ สว.พันธุ์ใหม่ แต่เห็นว่าแนวทางไปด้วยกันไม่ได้เลยแยกตัวออกมา และมาเข้าร่วมกลุ่ม สว.อิสระ   

แหล่งข่าวจากวงหารือ สว.ดังกล่าวเปิดเผยว่า ในวงหารือได้มีการแจ้งว่าจะมี สว.อีกหลายคนมาเข้าร่วมกลุ่ม สว.อิสระ เพราะเห็นด้วยกับแนวทางการเคลื่อนไหวของกลุ่มที่เป็นอิสระ ไม่ขึ้นกับ สว.กลุ่มใดๆ แต่ก็พร้อมพูดคุยกับทุกกลุ่ม โดยแนวทางของกลุ่มจะเป็นแบบประนีประนอม

ในวงพูดคุย สว.ดังกล่าว สว.หลายคนเสนอความเห็นไปในทางเดียวกันว่า จะเสนอชื่อนายบุญส่งชิงตำแหน่งรองประธานวุฒิสภาคนที่สอง  เพราะเห็นว่ามีความเหมาะสม เนื่องจากเป็นอดีตผู้พิพากษา เคยอยู่ในตำแหน่งบริหารของศาล เช่น อดีตอธิบดีศาลอุทธรณ์ภาค 7 และยังเป็นอดีต กกต. จึงถือว่ามีความรู้ ประสบการณ์ทางด้านกฎหมายสูง อีกทั้งที่ผ่านมา 5 ปี ก็ทำงานเป็นที่ปรึกษาของนายศุภชัย สมเจริญ อดีตรองประธานวุฒิสภาคนที่สองมาตลอด จึงทำให้รู้ระบบงานวุฒิสภาเป็นอย่างดี

จองเก้าอี้ประธาน กมธ.แล้ว

อีกทั้งหากนายมงคล สุระสัจจะ อดีต ผวจ.บุรีรัมย์ หรือ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ อดีต ผช.ผบ.ทบ. คนใดคนหนึ่งเป็นประธานวุฒิสภา ก็พบว่าทั้งสองคนไม่ใช่สายนักกฎหมาย จึงจำเป็นต้องมีรองประธานวุฒิสภาที่มาจากสายนักกฎหมายไปช่วยงาน ในวงหารือจึงเห็นพ้องกันว่านายบุญส่งเหมาะสมที่จะเป็นรองประธานวุฒิสภาคนที่สอง จึงจะมีการเสนอชื่อนายบุญส่งให้เป็นรองประธานวุฒิสภา

นอกจากนี้ สว.หลายคนประเมินกันว่า กลุ่ม สว.สีน้ำเงิน ที่กุมเสียงร่วม 144 เสียง คงเอาโควตาประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่งไว้เอง แต่โควตารองประธานวุฒิสภาคนที่สอง กลุ่มสีน้ำเงินอาจยอมให้โควตากับกลุ่มอื่นเพื่อไม่ให้เกิดภาพว่า สว.สีน้ำเงินยึดหมดทั้ง 3 ตำแหน่ง แต่ถ้ากลุ่มสีน้ำเงินไม่ยอม ก็ต้องวัดคะแนนเสียงกัน แต่ในวงหารือ มี สว.บางคนแจ้งว่าหลังจากนี้จะมีการประสานหาทางพูดคุยกับแกนนำ สว.สีน้ำเงินเพื่อแจ้งว่า ทางกลุ่ม สว.อิสระจะเสนอชื่อนายบุญส่งชิงรองประธานวุฒิสภา ที่ต้องดูว่า สว.สีน้ำเงินจะว่าอย่างไร ซึ่ง สว.ในวงหารือหลายคนก็เห็นด้วยที่จะมี สว.กลุ่มอิสระไปคุยกับ สว.สีน้ำเงิน

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการหารือ นายบุญส่งได้กล่าวขอบคุณ สว.หลายคนที่ร่วมสนับสนุนให้ลงชิงรองประธานวุฒิสภา และบอกว่าพร้อมจะลงสมัครและพร้อมทำหน้าที่ แม้โอกาสที่จะได้รับเลือกอาจจะมีน้อย หาก สว.เสียงส่วนใหญ่คือ สว.สีน้ำเงินไม่ยอมให้โควตาทั้ง 3 ตำแหน่งกับกลุ่มอื่น

ยังมีรายงานด้วยว่า ช่วงเย็นวันเดียวกัน มี สว.อีกหลายคนนัดหารือกันหลายวง เพื่อหารือกันถึงการลงมติเลือกประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภา เพราะ สว.หลายคนจะเดินทางกลับต่างจังหวัดในช่วงวันศุกร์นี้ ซึ่งติดช่วงหยุดยาวราชการ 3 วัน เสาร์-อาทิตย์-จันทร์

แหล่งข่าวเผยว่า ขณะนี้การหารือกันของ สว. ถึงเรื่องการจัดสรรตำแหน่งต่างๆ ในวุฒิสภา หารือกันไปถึงเรื่องการทำโผเก้าอี้ประธานคณะกรรมาธิการสามัญของวุฒิสภาแล้ว ว่ากลุ่มไหนได้โควตาประธานคณะกรรมาธิการชุดสำคัญๆ  อะไรบ้าง

โดยข่าวแจ้งว่า กลุ่ม สว.สีน้ำเงิน จองโควตาประธานคณะกรรมาธิการไว้แล้วหลายคณะ อาทิ คณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริต  ประพฤติมิชอบและเสริมสร้างธรรมาภิบาล,  คณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ, คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์,  คณะกรรมาธิการการคมนาคม แต่ก็มีบางกลุ่ม เช่น กลุ่ม สว.บ้านป่ารอยต่อฯ ต้องการโควตาประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรฯ เป็นต้น

รอสัญญาณบ้านใหญ่

ขณะที่ตำแหน่งประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภา มีข่าวว่า สว.สีน้ำเงินรอสัญญาณจากบ้านใหญ่บุรีรัมย์ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ว่าจะเสนอชื่อใคร หลังข่าวพลิกไปพลิกมา เช่น มีข่าวว่าจะดันนายมงคลเป็นประธานวุฒิสภา  แล้วให้ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ เป็นประธานคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงแห่งรัฐ แต่ก็มีข่าวอีกบางกระแสว่า พล.อ.เกรียงไกรจะเป็นรองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง และกลุ่มสีน้ำเงินอาจยอมให้นายบุญส่งเป็นรองประธานวุฒิสภา เพื่อมาช่วยงานด้านกฎหมายให้กับนายมงคลกับ พล.อ.เกรียงไกร และเพื่อไม่ให้เกิดภาพว่ากลุ่มสีน้ำเงินยึดหมดทั้ง 3 ตำแหน่ง

แต่ข่าวบางกระแสก็บอกว่า ประธานวุฒิสภาอาจไม่ใช่นายมงคล อาจมีการเปลี่ยนตัวโค้งสุดท้ายก็ได้ แต่ข่าวว่า สว.สีน้ำเงินจะได้รับสัญญาณชัดในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ที่บ้านใหญ่บุรีรัมย์จะเคาะออกมาไม่เกินวันอาทิตย์ที่ 21 ก.ค.นี้ ก่อนที่จะมีการโหวตกันวันอังคารที่ 23 ก.ค. 

มีรายงานว่า ที่ประชุมกรรมการแพทยสภา ครั้งที่ 11/2567 เมื่อวันที่ 11 ก.ค.2567 ที่ผ่านมา ได้มีการหยิบยกประเด็นคุณสมบัติ พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย หรือ “หมอเกศ” สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กลุ่ม 19 (กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ) กรณีกรอกประวัติเป็น “แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและความงาม” ขึ้นมาพิจารณา

เนื่องจากเห็นว่า เป็นความเชี่ยวชาญที่ไม่ได้มีการรับรอง โดยที่ประชุมมีมติตั้งข้อกล่าวโทษ พญ.เกศกมล ตามมาตรา 32 วรรคสาม พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 พร้อมมอบหมายให้เลขาธิการแพทยสภาดำเนินการตามข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยวิธีพิจารณาจริยธรรมผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2563

โดยจากนี้จะมีการนำเข้าที่ประชุมกรรมการแพทยสภา ในวันที่ 8 สิงหาคมนี้ ตามรอบการประชุมกรรมการแพทยสภาทุกวันพฤหัสบดีที่ 2 ของเดือน ซึ่งตามขั้นตอนแล้ว หากมีมติรับรอง ก็จะส่งเข้าที่ประชุมอนุกรรมการจริยธรรมเพื่อพิจารณาต่อไป

ที่ศาลฎีกาเเผนกคดีเลือกตั้ง ศาลนัดฟังคำสั่งในคดีที่ พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีต ผช.ผบ.ตร., นายจิรัฏฐ์ แจ่มสว่าง, น.ส.ณัฐนันท์ ทองดี ทั้ง 3 ในฐานะอดีตผู้สมัคร สว. ฟ้องผู้อำนวยการเลือกตั้งระดับเทศเเละ กกต. ต่อศาลฎีกา เพื่อให้เพิกถอนการประกาศของ กกต. รับรอง สว. 200 คน และขอให้ศาลสั่งให้มีการเปิดหีบบัตรนับคะแนนใหม่ เพื่อตรวจสอบการเชื่อมโยงของโพยกับบัตรลงคะแนน และพิจารณาตัดสิทธิ์ผู้ที่ได้คะแนนลำดับสูง และผู้ที่ได้คะแนนมาโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม

ศาลไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายใดให้ผู้สมัครหรือผู้ใดมีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาได้โดยตรงเพื่อให้มีคำสั่งตามที่โจทก์ที่ 2, 3 มีคำขอ โจทก์ที่ 2, 3 จึงไม่มีสิทธิยื่นคำฟ้องต่อศาลฎีกา

ส่วนที่โจทก์ที่ 2, 3 ยื่นคำร้องขอให้ศาลคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาและคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินตามคำร้องเมื่อศาลฎีกาวินิจฉัยเสร็จสิ้นมาดังกล่าวแล้ว จึงไม่ต้องสั่งคำร้องดังกล่าวอีก จึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้อง.