ยี้ปุ๋ยคนละครึ่งขอไร่ละ1พัน

เช็กเสียงโหวตงบดิจิทัล อึ้ง!ฝ่ายค้านหาย 21 เสียง 6 งูเห่าหนุนรัฐบาล ขณะที่ สส.รัฐบาลไม่มา 23 ราย ทั้ง รมต.-สส.ตัวเป้ง "อนุทิน" เมินข้อหาสมรู้ร่วมคิด ยันหลักการพรรคร่วมยึดสิ่งที่เป็นประโยชน์ ปชช. "ภท.-พท." ผสมโรงโวยกลางสภา ยี้ "ปุ๋ยคนละครึ่ง" เอา "ไร่ละพัน" คืนมา

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นพิเศษ  เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 พ.ศ.... วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ เพื่อใช้ในโครงการเติมเงินหมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยในการลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ปรากฏว่ามีจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม 461 เสียง ผลการลงมติเห็นด้วย 297 เสียง ไม่เห็นด้วย 164 เสียง งดออกเสียงและไม่ลงคะแนนไม่มี

จากการตรวจสอบพบว่า เสียงของพรรคฝ่ายค้านที่หายไป เริ่มจากพรรคก้าวไกล มีผู้ที่ไม่ได้กดบัตรลงคะแนน 4 คน ประกอบด้วย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ, นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา, นางจุฬาลักษณ์ ขันสุธรรม สส.เชียงราย และนายปรีดี เจริญศิลป์ สส.นนทบุรี ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ร่วมลงมติ 10 คน เช่น  นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา และเลขาธิการพรรค นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรค เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำคัญพบว่ามี สส.ฝ่ายค้านโหวตสวนมติของพรรค ได้แก่ 3 สส.ของพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งก่อนหน้านี้มีพฤติการณ์โหวตลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง และมีข่าวที่จะย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย นางสุภาพร สลับศรี สส.ยโสธร, นายหรั่ง ธุระพล สส.อุดรธานี และนายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี นอกจากนี้ ยังมีนายปรีดา บุญเพลิง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน, นายสุรทิน พิจารณ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ และนายกฤดิทัช แสงธนโยธิน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคใหม่  ที่โหวตเห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ของรัฐบาล

ส่วน สส.พรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่ได้ลงมติ ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย 7 คน อาทิ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม,    นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย,   ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ,  พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ, นายวันนิวัติ สมบูรณ์ สส.ขอนแก่น,  น.ส.วิลดา อินฉัตร  สส.ศรีสะเกษ, พรรคภูมิใจไทย 2 คน ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย, นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล  สส.พระนครศรีอยุธยา รมช.ศึกษาธิการ 

พรรคพลังประชารัฐ 6 คน ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรค, นางขวัญเรือน เทียนทอง สส.สระแก้ว, นายสะถิระ เผือกประพันธุ์  สส.ชลบุรี, นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ สส.เชียงใหม่ และนายทวี สุระบาล สส.ตรัง, พรรครวมไทยสร้างชาติ 4 คน คือ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์,    นายอนุชา นาคาศัย สส.ชัยนาท, นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง สส.ชลบุรี และนายนิติศักดิ์ ธรรมเพชร สส.พัทลุง, พรรคชาติไทยพัฒนา 1 คน นายพาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ สส.นครปฐม, พรรคประชาชาติ 1 คน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง  รมว.ยุติธรรม และพรรคเสรีรวมไทย 1 คน นายมังกร ยนต์ตระกูล นอกจากนี้  ประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯทั้ง 3 คน ไม่ได้ร่วมโหวตด้วย 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2567 เพื่อนำมาใช้สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่าอาจขัดกฎหมายว่า  เท่าที่ได้ฟังการชี้แจงทั้งในคณะกรรมการดิจิทัล ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี รวมถึงคณะกรรมการกฤษฎีกา และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  ยืนยันว่าถูกกฎหมาย

ส่วนที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ระบุว่าโครงการนี้เสี่ยงผิดกฎหมายหลายข้อ การที่พรรคร่วมรัฐบาลสนับสนุนจะกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วยนั้น  นายอนุทินกล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นกฎหมายและผ่านสภาโดยเสียงข้างมาก ถือเป็นความรับผิดชอบต่อกัน เมื่อเป็นรัฐบาลผสมต้องสนับสนุนซึ่งกันและกัน ถ้าขัดกันไปขัดกันมาเป็นรัฐบาลไม่ได้ เสียงสนับสนุน 297 เสียงผ่านฉลุย ในจำนวนนี้มีภูมิใจไทยแน่นอน เป็นคำตอบอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า การที่พรรคภูมิใจไทยสนับสนุนนโยบายของเพื่อไทย เพื่อไทยควรสนับสนุนนโยบายของภูมิใจไทยใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า โดยหลักการควรเป็นเช่นนั้น

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกตว่าพรรคร่วมรัฐบาลยอมให้รัฐบาลนำงบประมาณทุกอย่างไปใช้ในโครงการดังกล่าว  นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ใช่ยอมหรือไม่ยอม แต่เป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาล นโยบายของพรรคร่วมรัฐบาลหากเป็นประโยชน์ต่อประชาชน เราต้องร่วมกันสนับสนุน ต้องมีหลักตรงนี้ก่อน ไม่เช่นนั้นคงเป็นพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้

ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 09.00 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมได้ เปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนในพื้นที่ โดยนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย หารือถึงปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรตอนหนึ่งว่า เรื่องโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง ซึ่งมีปัญหามากมาย ทั้งการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน สูตรปุ๋ยที่อาจจะไม่ตรงใจกับชาวนา ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ที่สำคัญคือ เงินที่เกษตรกรจะต้องนำไปซื้อปุ๋ยและต้องสำรองจ่ายก่อนครึ่งหนึ่ง

 “พี่น้องชาวนาฝากให้ผมมาพูดว่าอยากให้รัฐบาลได้ทบทวน และถ้าเป็นไปได้พี่น้องเกษตรกรอยากได้การช่วยเหลือแบบไร่ละพันเหมือนเดิมที่ผ่านมา เอาปุ๋ยคนละครึ่งคืนไป เอาไร่ละพันกลับมา” นายกรวีร์ระบุ

หลังจากนั้น มี สส.ต่างแสดงความเห็นในทิศทางเดียวกัน อย่างนายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หากรัฐบาลมีความจริงใจต่อเกษตรกร ขอให้ยกเลิกโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง แต่โครงการเยียวยาชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ขอให้คงไว้ตามเดิม

นายทินพล ศรีธเรศ สส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอยืนยันว่าชาวนาในจังหวัดของตน กังวลกับโครงการปุ๋ยคนละครึ่งของรัฐบาลว่าจะตอบโจทย์ช่วยเหลือชาวนาจริงหรือไม่ ถ้าชาวนาไม่มีเงินสมทบเติมเพื่อซื้อปุ๋ยจะทำอย่างไร ซ้ำร้ายกว่านั้นหากมีโครงการปุ๋ยคนละครึ่งแล้ว จะไม่มีโครงการไร่ละพัน ยิ่งทำให้ชาวนาทุกข์ใจเพิ่มมากขึ้น จึงฝากไปยังรัฐบาลและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ทบทวนพร้อมชี้แจงให้ประชาชนทราบด้วย

ส่วนนายวินัย ภัทรประสิทธิ์ สส.พิจิตร พรรคภูมิใจไทย หารือว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา เกษตรกร อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร ได้ทำหนังสือถึงตนไม่เห็นด้วยกับโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง แต่อยากได้โครงการเดิมที่รัฐบาลเคยช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท จึงอยากฝากหนังสือดังกล่าวไปยังคณะรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ให้รับทราบด้วย

ด้านนายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง สส.สงขลา และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณว่า พรรคกังวลว่ารัฐบาลจะยกเลิกโครงการเงินช่วยเหลือเกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท ซึ่งเป็นนโยบายที่ริเริ่มในสมัยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาลชุดที่ผ่านมา นอกจากนี้การบริหารโครงการปุ๋ยคนละครึ่งมีความคล้ายคลึงกับโครงการจำนำข้าวในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เนื่องจากดำเนินการผ่านคนกลาง ที่เป็นผู้ผลิตปุ๋ย ผู้ค้าปุ๋ย ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดโอกาสทุจริต บกพร่อง ผิดพลาดในการใช้งบประมาณได้ ดังนั้นจึงขอให้รัฐบาลทบทวนโครงการปุ๋ยคนละครึ่งอย่างรอบด้าน และไม่ควรยกเลิกโครงการไร่ละ 1,000 บาท.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดรายละเอียดโหวตงบ 1.22 แสนล้านบาท 'งูเห่าพรึ่บ-บิ๊กเนมแห่โดดร่ม'

เช็กเสียงโหวตร่างงบเพิ่มเติม 2567 เสียงฝ่ายค้านหายไป 21 เสียง อึ้ง! งูเห่า 6 เสียง 3 ทสท.-พรรคเล็กโผล่โหวตหนุนฝ่ายรบ. ด้าน ปชป.ครองแชมป์หายเยอะสุด 10 คน รบ.หาย 23 เสียง ทั้งรมต.-สส.ตัวเป้ง