‘ทักษิณ’คุมรัฐบาล! เปิดทางหลังพ้นโทษ22ส.ค.‘เศรษฐา’ปิดปากปูขออภัยโทษ

นายกฯ ไม่ตอบข่าวลือ "ยิ่งลักษณ์"  ขออภัยโทษ "ทวี" ยัน "ทักษิณ" พ้นโทษตามขั้นตอนปกติ​ "ปลัด ยธ." ระบุ 22 ส.ค.ได้รับใบบริสุทธิ์ เป็นประชาชนปกติไร้เงื่อนไข​ "วิษณุ" ชี้ช่อง "แม้ว" ช่วยงานรัฐบาลได้ถ้าไม่ใช่ตำแหน่งทางการเมือง "อุ๊งอิ๊ง" รับอยากให้พ่อมาช่วยงาน  อุบมองนั่งตำแหน่งไหนไว้ เล็งดูข้อ กม.ก่อน แจงลูกพรรคขอจบดรามาอยู่บำรุง "อนุทิน-ธรรมนัส"  ประสานเสียงแซวหยอกล้อดูแลพรรคเล็ก "ก.ก." ส่งคำร้องเพิ่มโต้แย้งพยานหลักฐานคดียุบพรรค

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 16 ก.ค. เวลา 10.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางลงมาจากตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง ไปยังตึกบัญชาการ 1 เพื่อเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยระหว่างทางเดินได้มีการพูดคุยกันไปด้วย

มีรายงานว่า นายกฯ ได้พูดคุยกับรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยบนตึกไทยคู่ฟ้าถึงเรื่องของการทำงาน รวมถึงนายกฯ ได้มีข้อสั่งการในเรื่องต่างๆ

ภายหลังการประชุม ครม. นายเศรษฐาปฏิเสธตอบคำถามกรณีข่าวลือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ขอพระราชทานอภัยโทษหรือไม่ เมื่อผู้สื่อข่าวขอให้นายกฯ ช่วยสยบข่าวลือดังกล่าว นายเศรษฐาไม่ตอบคำถาม ได้แต่ยิ้ม ก่อนเดินออกจากตึกบัญชาการไปตึกไทยคู่ฟ้าทันที

พ.ต.อ.ทวี​ สอดส่อง​ รมว.ยุติธรรม​ กล่าวถึงการรับใบบริสุทธิ์​หลังจากที่นายทักษิณ​ ชินวัตร​ อดีตนายกรัฐมนตรี​ ครบกำหนดการพักโทษในช่วงเดือน ส.ค.นี้ว่า​ ยังไม่ทราบรายละเอียดในเรื่องนี้​ แต่เป็นไปตามกระบวนการปกติ ซึ่งการพักโทษหรือการปล่อยตัว จะต้องมีหมายศาลเพื่อให้ออกคำสั่ง

"ในรายละเอียดครบกำหนดการพักโทษ ท่านก็ต้องพ้นโทษตามหลักเกณฑ์ ขณะนี้ยังไม่มีการรายงานเข้ามาว่าอยู่ในขั้นตอนใด และจำไม่ได้ว่าวันครบกำหนดวันพักโทษของนายทักษิณเป็นวันใด รู้แต่ว่าอยู่ในเดือน ส.ค. ถือเป็นการปฏิบัติตามปกติ​ ไม่มีอะไรพิเศษ​ สำหรับผู้ที่ได้รับการพักโทษ ถ้าเขาครบกำหนดก็ต้องไปขอศาล จะมีหมายพ้นโทษ ส่วนเงื่อนไขหลังการพ้นโทษก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการฯ ส่วนคดีอื่นที่อยู่ระหว่างการฟ้องร้อง เช่น คดีมาตรา 112 ก็เป็นไปตามกระบวนการปกติ ในแต่ละคดีจะไม่มาโยงกัน เว้นแต่คดีนั้นตัดสินถึงที่สุดแล้ว" พ.ต.อ.ทวีกล่าว

ถามถึงนักโทษที่จะเข้าเกณฑ์ได้รับการอภัยโทษในช่วงวันมหามงคล รมว.ยุติธรรมกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่อาจก้าวล่วงได้ เป็นพระมหากรุณาธิคุณ ต้องรอให้ประกาศลงมาก่อน กระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ต้องเตรียมกันไว้ และเป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรี ซึ่งไม่ทราบว่าจะต้องนำเข้า ครม.ก่อนวันที่​ 28 ก.ค.นี้หรือไม่​ แต่ก็ยอมรับว่ากรมราชทัณฑ์​มีการสำรวจเอาไว้แล้ว​ และกระทรวง​ยุติธรรมเตรียมข้อมูลไว้  เรียกเมื่อใดก็ได้​ แต่ไม่ทราบว่ามีจำนวนเท่าใด​  เพราะไม่สามารถไปกำหนดจำนวนได้​

พอถามถึงการยื่นขอฎีกาพระราชทานอภัยโทษของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พ.ต.อ.ทวีบอกทันทีว่า ไม่ทราบรายละเอียด

ทักษิณพ้นโทษ 22 ส.ค.นี้

ด้านนางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม ยอมรับว่ากำหนดพ้นโทษของนายทักษิณเป็นวันที่ 22 ส.ค.นี้ แต่ในส่วนขั้นตอนศาลจะออกหมายปล่อย จากนั้นจะได้รับใบบริสุทธิ์ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นประชาชนทั่วไปตามปกติ และไม่มีเงื่อนไขใดๆ

นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายทักษิณพ้นโทษในเดือน ส.ค.ว่า ถ้ารัฐบาลให้มาช่วยก็ทำได้ เหมือนคนธรรมดาทั่วไป

เมื่อถามว่า สามารถรับตำแหน่งอะไรได้บ้างถ้ายังมีคดีอยู่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบ เอาเป็นว่าในหลักการเป็นได้ทั้งนั้น ยกเว้นสิ่งที่รัฐธรรมนูญห้ามไว้ เช่น มาเป็นรัฐมนตรีไม่ได้ ส่วนอย่างอื่นเป็นได้ แต่นายทักษิณจะมาเป็นหรือไม่นั้นตนไม่รู้ เพราะที่ฟังการให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณ ก็ไม่ได้บอกว่าจะมาเป็น เพียงแต่บอกว่าจะมาช่วยเท่านั้น ซึ่งการช่วย ช่วยได้หลายสถานะ ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งอะไรในรัฐบาลก็ได้ มีตำแหน่งลอยๆ อย่างตนก็ได้

ซักว่าตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกฯ ได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า เป็นได้ ถ้าไม่ใช่ตำแหน่งที่ปรึกษาในตำแหน่งทางการเมือง เป็นที่ปรึกษาอุปโลกน์ เมื่อถามย้ำว่า ตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกฯ มีข้อจำกัดหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มี ถ้ามีตนก็ติดไปแล้ว

พอถามว่า นายทักษิณสามารถเป็นผู้แทนพิเศษของนายกฯ ได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ก็เป็นได้ ถ้าเป็นเฉพาะกิจ เฉพาะคราวเท่านั้น แต่จะมาตั้งแบบผู้แทนทางการค้าไม่ได้ จะเป็นลักษณะของนายกฯ มอบหมายให้ไปปฏิบัติภารกิจแทน อาจจะให้ไปประเทศนู้นประเทศนี้แล้วกลับเป็นการชั่วคราว เป็นเฉพาะกิจไป เอาไว้ให้ไปถึงเดือน ส.ค.ก่อน แล้วรู้ว่าจะให้มาช่วยหรือไม่ ตอนนั้นค่อยมาพูดกันว่าเป็นได้หรือไม่ได้ ถ้ามาถามตอนนี้ ที่ปรึกษา 370 ตำแหน่งมันพูดยาก

ถามว่า นายทักษิณสามารถช่วยพรรคได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า อย่างนี้ยิ่งได้ใหญ่เลย เพราะเป็นเรื่องภายในของพรรค ซึ่งพรรคเหมือนกับเป็นเอกชน เมื่อถามว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องการครอบงำพรรคใช่หรือไม่ นายวิษณุปฏิเสธว่าไม่  พร้อมกับระบุว่า ต้องดูว่านายทักษิณเป็นสมาชิกพรรคหรือไม่ ถ้าเป็นสมาชิกพรรคก็ไม่เรียกว่าครอบงำ แต่ถ้าไม่ได้เป็นก็ต้องดูว่ามาทำอะไร

เมื่อถามว่า นายทักษิณยังมีคดีมาตรา 112 ค้างอยู่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่เป็นไร สมาชิกและผู้บริหารของพรรคก็มีคดีทั้งนั้น ฉะนั้นไม่มีปัญหา รวมถึงไม่ได้ห้ามดำรงตำแหน่งในรัฐบาล ถามอีกว่าหากถูกมองในเรื่องของความเหมาะสม นายวิษณุ​กล่าวว่า ก็เอาให้รู้ก่อนว่านายทักษิณมาทำอะไร เป็นอะไร แล้วค่อยมาพูดว่าอันนั้นเป็นได้หรือไม่

 ถามว่า การมาดำรงตำแหน่งของนายทักษิณจะไม่ทำให้ประชาชนสับสนว่ามีนายกฯ กี่คน นายวิษณุกล่าวว่า ไม่เห็นจะสับสนอะไร ผู้สื่อข่าวสับสนกันเอง ซึ่งตนคิดว่าเจ้าตัวไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น และในอดีตก็มีเรื่องทำนองนี้ หรือมีผู้มีบารมีในพรรคออกมาช่วยงานรัฐบาล ก็เคยมีมาแล้ว ยกตัวอย่างในสมัยช่วงยึดอำนาจ​ทั้งช่วง คสช.และ รสช. ที่ดำรงตำแหน่งทั้งนายกฯ และหัวหน้า คสช.​ รวมถึงในช่วง พล.อ.สุนทร​ คงสมพงษ์ ตอนนั้นนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกฯ และอำนาจของหัวหน้า รสช. ยิ่งใหญ่กว่านายกฯ เสียอีก

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในอนาคตนายทักษิณจะกลับมาดำรงตำแหน่งเป็นนายกฯ หรือลงเลือกตั้งได้อีกหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ได้หากยึดตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่หากมีการร่างใหม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง 

ขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนายทักษิณเตรียมตัวเข้ามาทำงานการเมืองว่า เป็นสิทธิของนายทักษิณที่ทำได้ หากเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งหากนายทักษิณมีความรับผิดชอบบางอย่างตามกฎหมาย พรรคก้าวไกลในฐานะฝ่ายตรวจสอบพร้อมจะตรวจสอบ อำนาจ การใช้งบประมาณว่าถูกต้องหรือไม่

 “หากนายทักษิณมีตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งไม่แน่ใจว่าแบบใด นายทักษิณต้องอยู่ภายใต้การตรวจสอบ ทั้งนี้ ผมมองว่าวันนี้สังคมรู้สึกว่าระหว่างนายเศรษฐากับนายทักษิณใครมีอำนาจมากกว่ากัน" นายรังสิมันต์กล่าว

'อิ๊งค์' อยากให้พ่อช่วยงาน

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) เวลา 16.30 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เข้าร่วมประชุม สส.ของพรรค โดยมีนายเศรษฐาเข้าร่วมด้วย

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ได้อธิบายให้กับ สส.ฟังเพื่อทำความเข้าใจในเรื่องบ้านอยู่บำรุง ในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรค การที่จะเชิญใครมาพูดคุยด้วยก็ขอให้มองว่าเป็นเรื่องปกติ ซึ่งหากเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด ก็จะได้ทำความเข้าใจให้ถูก การเรียกนายวัน อยู่บำรุง อดีต สส.พรรคเพื่อไทยมาคุยนั้น ก็ขอให้เป็นการพูดคุยที่เราจะต้องรับรู้ว่าพร้อมที่จะรับฟังและทำความเข้าใจกันทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ใช่เรียกมาคุยเพื่อทำให้ทุกข์ใจ เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในพรรค ตนก็อยากที่จะรับฟังก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น เพื่อที่จะมีข้อยุติและคำอธิบายต่างๆ

ถามว่า ท่าทีของ สส.ในพรรคเข้าใจใช่หรือไม่ในเรื่องราวที่เกิดขึ้น น.ส.แพทองธารกล่าวว่า จริงๆ ก็ได้พูดคุยกันหลายกลุ่ม ซึ่งทุกคนก็เข้าใจเป็นอย่างดี ตนเป็นคนพูดตรง แต่เป็นการพูดตรงที่ให้เกียรติ ไม่ใช่เป็นการตรงที่ทำร้าย เราจะถามเลยว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างไรบ้าง ซึ่งก็ดีใจมากที่วันนั้นมีนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทยและ ผอ.พรรคนั่งอยู่ด้วย ตนไม่ได้อยู่คนเดียวกับนายวัน ก็ได้มีการพูดคุยกันอย่างเปิดเผย เพราะรู้สึกว่าการมาเป็นหัวหน้าพรรคก็ต้องจริงใจกับคนในพรรค เพื่อให้คนในพรรคไม่เกิดความสับสน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ และตนได้สื่อสารไปทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ฉะนั้นขอจบที่ตรงนี้ เพราะไม่ได้มีประโยคอะไรที่น่าตื่นเต้นมากกว่านี้

 “ขอพูดตรงนี้ว่า ไม่ว่าอย่างไร ขออวยพรให้นายวันประสบความสำเร็จ นี่คือสิ่งที่อยากจะพูด นอกจากนั้นไม่มีอะไรมากกว่านี้ และไม่ได้คิดจะมีดรามาอะไรเพิ่ม ขอให้เข้าใจตรงนี้ว่าไม่ได้โกรธหรือเกลียดอะไรนายวัน ฉะนั้นจบที่ตรงนี้” น.ส.แพทองธารกล่าว

ถามถึงกรณีนายทักษิณจะพ้นโทษในเดือน ส.ค. ได้มีการมองตำแหน่งอะไรไว้ให้หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ไม่ได้มองเลยว่าตำแหน่งอะไรดี และคิดว่าหากไม่ผิดกฎตนก็อยากให้นายทักษิณช่วยอยู่แล้ว นี่คือความสัตย์จริงว่าหากมีท่านคอยให้คำแนะนำหรือให้คำปรึกษาก็เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ต้องดูเรื่องของข้อกฎหมายเป็นหลัก ไม่เช่นนั้นก็จะปรึกษาในฐานะพ่อลูกอยู่แล้ว

ส่วนที่นายวิษณุยืนยันว่านายทักษิณสามารถรับตำแหน่งทั้งหมดได้ยกเว้นตำแหน่งทางการเมืองนั้น หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า เดี๋ยวรอวันนั้นก่อนแล้วค่อยว่ากัน ตอนนี้ยังไม่ได้คิดไว้เลยว่าจะอย่างไร

วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พูดกลางงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลระบุหัวหน้าพรรค ภท.ดูแลอยู่หลายพรรคการเมืองว่า เขาก็พูดแซวๆ ไปอย่างนั้นแหละ ข้อเท็จจริงคือดูพรรคภูมิใจไทยอยู่พรรคเดียว ตอนนี้ สส.ที่ดูแลก็มีอยู่เท่าที่พรรคภูมิใจไทยมี

ส่วน ร.อ.ธรรมนัส ชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า เป็นแค่มุกหยอดนายอนุทิน เรื่องจริงเป็นเรื่องของการร่วมอุดมการณ์กันมากกว่า พรรคเล็กหลายพรรคก็ร่วมรัฐบาล เมื่อถามว่าถึงขนาดยุบพรรคมารวมกันหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า คงไม่ หัวหน้าพรรคแต่ละพรรคก็รักษาพรรคตัวเอง พอถามย้ำว่าพรรคเล็กแค่รักษาอุดมการณ์เป็นพรรคสาขาไปเรื่อยๆ ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ร่วมรัฐบาล

ส่งคำร้องเพิ่มสู้ยุบ 'ก.ก.'

ที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงความคืบหน้าคดียุบพรรคก้าวไกล ภายหลังสองฝ่ายทั้งผู้ร้อง กกต. และผู้ถูกร้อง พรรคก้าวไกล ได้ตรวจพยานหลักฐานแล้วว่า วันนี้พรรคได้ส่งทีมกฎหมายไปส่งเอกสารคำร้อง 2 ฉบับต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยทั้ง  2 คำร้องนี้เป็นคำร้องเพื่อโต้แย้งหรือโต้เถียงพยานหลักฐานที่มีการตรวจเมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วนสำคัญ

นายชัยธวัชกล่าวว่า ส่วนแรก หมาย ร. เป็นการโต้แย้งหรือโต้เถียงพยานหลักฐานของผู้ร้องในสำนวน และส่วนที่สอง หมาย ศ. เป็นการโต้แย้งหรือโต้เถียงพยานหลักฐานที่เป็นเอกสารของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งได้นำเข้ามาสู่สำนวน โดยเป็นเอกสารที่เคยถูกใช้ในคดีก่อนหน้านี้ หรือในคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้พรรคก้าวไกลและนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ยุติการกระทำ

"ในคำร้องที่ 2 นี้เราได้โต้แย้งและขอให้ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับฟังพยานหลักฐานเอกสารที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เป็นเพียงความเห็น หรือการให้ข้อเท็จจริงที่เป็นเท็จ รวมถึงขอให้การมีการไต่สวนพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงที่มีการถูกกล่าวอ้างในเอกสารด้วย" นายชัยธวัชกล่าว

ถามว่า พรรคก้าวไกลจะสามารถชี้แจงอย่างไรว่าไม่ได้ล้มล้างการปกครอง นายชัยธวัชกล่าวว่า จริงๆ เราชี้แจงไปเยอะมาก ส่วนหนึ่งก็อยู่ในคำแถลงครั้งแรกของนายพิธาด้วย แต่เนื่องจากมีหลายประเด็น เลยไม่ได้ลงรายละเอียด อีกทั้งคำชี้แจงของพรรคก็ได้เผยแพร่ต่อสาธารณะไปแล้ว สิ่งสำคัญคือเราหวังว่าศาลรัฐธรรมนูญจะเปิดให้มีการไต่สวนก่อนที่จะมีการวินิจฉัย

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ปชป. พร้อมด้วย น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร รองหัวหน้าพรรค ปชป. และคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) พรรค ได้ให้การต้อนรับ Mr.Truong Quang Hoai Nam รองประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม พร้อมคณะ ที่เดินทางมาเพื่อเข้าเยี่ยมคารวะและพูดคุยถึงบทบาทการทำงานของพรรค ปชป. เพื่อเสริมความสัมพันธ์ระหว่างพรรค พร้อมกับหารือสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง