ลุยรถไฟสายสีส้ม เซ็นสัญญา18ก.ค. เริ่มให้บริการปี71

ครม.ไฟเขียวผลประมูลสัมปทานสายสีส้ม 30 ปี ให้ BEM หลังศาลปกครองสูงสุดยกฟ้องทุกคดี ชี้ช่วง 10 ปีแรกเก็บค่าโดยสาร 15-44 บาท  “สุริยะ” บอกเดินรถบางส่วนปี 71 ทั้งระบบปี 73 จ่อเซ็นสัญญา 18 ก.ค.นี้

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอผลการคัดเลือกเอกชนร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์- มีนบุรี (สุวินทวงศ์) โดยที่บริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) BEM เป็นผู้ได้รับการคัดเลือก ซึ่งปัจจุบันศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษายกฟ้องในทุกคดี และร่างสัญญาร่วมลงทุนได้ผ่านการตรวจพิจารณาของอัยการสูงสุดแล้ว โดยให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องชี้แจงในรายละเอียดต่อไป

 ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์กรณี ครม.มีมติเห็นชอบเดินหน้ารถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่ขณะนี้ฝ่ายตะวันออกสร้างเสร็จแล้ว เหลือแต่ระบบเดินรถ จะบริหารการก่อสร้างอย่างไร ว่า ตอนนี้ BEM ต้องไปสั่งซื้อรถ เพื่อให้สามารถเดินรถได้ ซึ่งปี 2571 จะเดินรถได้ส่วนหนึ่ง ส่วนอีกฝั่งจะเดินรถได้ปี 2573 โดยจะเดินรถได้ทั้งระบบในปี 73

เมื่อถามว่า ได้คุยเรื่องค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายด้วยหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวตอนเสนอเข้าครม. ก็มีข้อสังเกตว่าหน่วยงานต่างๆ  อยากให้มีระบบตั๋วร่วม ซึ่งต้องมี พ.ร.บ.ตั๋วร่วม ซึ่งเรื่อง 20 บาทตลอดสายอยู่ในกฎหมายฉบับนี้ ส่วนการลงนามในสัญญากับเอกชนที่ชนะประมูล เบื้องต้นกำหนดไว้ในวันที่ 18 ก.ค.นี้

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ​ แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มว่า ​ ภายหลังจากที่ศาลตัดสินแล้ว​ วันนี้ได้นำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.แล้ว ทุกอย่างจะเดินตามระบบที่ค้างอยู่ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีปัญหาอุปสรรคอะไร ส่วนจะเรียกผู้รับเหมาเข้ามาเซ็นสัญญาเมื่อใด ขอรอคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดก่อน เพราะทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนปฏิบัติ

เมื่อถามว่า ประชาชนจะสามารถใช้รถไฟฟ้าสายสีส้มได้เมื่อใด นายสุรพงษ์​ กล่าวว่า​ ช่วงไหนที่ก่อสร้างเสร็จก่อน ก็จะเปิดเดินรถก่อน​ ตอนนี้ติดปัญหาในส่วนที่ติดคดีความอยู่ ดังนั้นตรงไหนเสร็จก่อนเราก็จะให้เดินรถก่อน เพื่อไม่ให้เสียค่าบำรุงรักษา​ ซึ่งจากนี้ขอเวลา 2 สัปดาห์หารือให้ตกผลึก และจะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ

เมื่อถามย้ำว่า การเปิดเดินรถไม่จำเป็นต้องรอในส่วนที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จใช่หรือไม่ นายสุรพงษ์กล่าวว่า ตอนนี้ไม่ได้มีเพียงส่วนของ รฟม.เท่านั้น แต่ยังมีส่วนขยายของส่วนอื่นๆ ที่ต้องให้เชื่อมต่อกัน เช่น รถไฟรางคู่

นายสุรพงษ์​กล่าวอีกว่า ต้องมีการจัดเตรียมให้พร้อมทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ ให้ตรงกับกำหนดการที่จะเดินรถ นโยบายของรัฐบาลก็คือเดินรถ 20 บาทตลอดสาย และหลังจากนี้ก็จะมีการบูรณาการร่วมกัน เชื่อมต่อระบบล้อ​ ราง​ เรือ​ ส่วนเรื่องอุปสรรคการเชื่อมต่อระหว่างรถไฟสีต่างๆ จะไม่มีอีกแล้ว รฟท.ก็จะมีรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ​ เฟสต่างๆ ที่จะเข้าสู่ที่ประชุม ครม.

อย่างไรก็ตาม ปัญหารถไฟฟ้าสายสีส้มไม่มีอะไรแล้ว จากนี้เดินหน้าตามโครงการ ขณะนี้รอเพียงขั้นตอนการพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด กรอบเวลายังคงเป็นเท่าเดิม

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลว่า ที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชนและร่างสัญญาร่วมลงทุนที่ผ่านการตรวจพิจารณาของอัยการสูงสุด และเงื่อนไขสำคัญของสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี ขณะนี้คดีได้รับการสะสางเป็นที่ชัดเจนแล้ว กระทรวงคมนาคมจึงเสนอ ครม. ขอพิจารณาให้ความเห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชน และร่างสัญญาร่วมลงทุนที่ผ่านการพิจารณาจากอัยการสูงสุดแล้ว รวมถึงเงื่อนไขของสัญญาของรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ผลปรากฏว่าบริษัทที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกคือบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพฯ (BEM) ที่ได้รับเลือกเพราะมีข้อเสนอที่ดีกว่าคู่แข่ง เนื่องจากขอรับงบสนับสนุนสุทธิน้อยกว่า โดย BEM ขอรับงบสนับสนุน 78,000 ล้านบาท แต่ของคู่แข่งเสนอกว่า 102,000 ล้านบาท

สำหรับสัญญาดังกล่าวมีอายุสัมปทาน 30 ปี นับจากโครงการทางด้านตะวันออก คือตั้งแต่ศูนย์วัฒนธรรมไปจนถึงมีนบุรี เมื่อเริ่มเปิดดำเนินการนับไป 30 ปี ส่วนราคาค่าโดยสารมีการเจรจากันว่าในช่วง 10 ปีแรก ค่าโดยสารที่จะอยู่ที่ 15 บาท ถึง 44 บาท และทุก 2 ปีจะปรับครั้งหนึ่งตามอัตราค่าครองชีพที่เปลี่ยนแปลง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง