สายเขียวบุกสธ. สมศักดิ์ยืนกราน เป็น‘ยาเสพติด’

"ปานเทพ-หมอธีระวัฒน์-รสนา" นัดยื่นหนังสือถึง รมว.สธ. 16 ก.ค.นี้ จี้แก้ไขเพิ่มเติมข้อเสนอใหม่ ประกาศกัญชาเป็นยาเสพติดแบบมีเงื่อนไข ด้านเครือข่ายกัญชาอดอาหารเข้าวันที่ 6 หามแกนนำเข้า รพ. ก่อนออกมาปักหลักหน้าประตู 2 ทำเนียบฯ ยันจุดยืนเดิม ขณะที่ "สมศักดิ์" ยืนกรานกำหนดกัญชาเป็นยาเสพติด

เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์  คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า "ขอเชิญสื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนผู้สนใจ ทำข่าวการยื่นหนังสือขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อ

1.ยื่นข้อเสนอใหม่ประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ให้กัญชาเป็นยาเสพติดแบบมีเงื่อนไข โดยขอให้ทบทวนฉบับคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด

2.ยื่นหนังสือสอบถามรายงานการประชุมและการวิจัยอันเป็นสาเหตุของการถอดฟ้าทะลายโจรออกจากเวชปฏิบัติโรคโควิด-19 แต่ยังคงฟาวิพิราเวียร์อยู่

และแถลงข่าวเสนอทางออกวันอังคารที่ 16 กรกฎาคม 2567 เวลา 10.00 น. หน้าอาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จึงขอเรียนเชิญสื่อมวลชนและทุกท่านที่ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ด้วยจิตคารวะ  ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา, น.ส.รสนา โตสิตระกูล, อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์"

ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า หากมาก็รับไว้ทั้งหมด และก็จะมอบให้กับผู้รับผิดชอบโดยตรง

ส่วนประเด็นการนำกัญชากลับมาเป็นยาเสพติด  นายสมศักดิ์กล่าวว่า ยังคงเดินหน้าตามแผนของรัฐบาล และตามมติของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด ที่ได้มีการประชุมการพิจารณา (ร่าง) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. ... ที่กำหนดให้กัญชาและกัญชงเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5 ซึ่งจะนำข้อเสนอดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ที่มีนายกฯ เป็นประธาน ส่วนข้อเสนอที่ให้มีการทบทวนร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ให้ช่อดอกกัญชา และช่อดอกกัญชงเป็นยาเสพติดแบบมีเงื่อนไขนั้นก็รับฟังไว้

 วันเดียวกัน เวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย พร้อมด้วยนายอัครเดช ฉากจินดา ผู้ประสานงานเครือข่าย ซึ่งได้เข้าพักรักษาตัวที่ รพ.ราชวิถี ในช่วงสายของวันนี้ได้พาสังขารที่อ่อนแรงออกจาก รพ. ทั้งที่หมอให้แอดมิต เนื่องจากต้องทำภารกิจกดดันรัฐบาล โดยการย้ายที่นอนจากเดิมบริเวณชมัยมรุเชฐ มาเป็นหน้าประตู 2 ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งประตูด้านหน้าติดถนนพิษณุโลก เพื่อเพิ่มแรงกดดันเรียกร้องให้รัฐบาลรับข้อเสนอตามที่เครือข่ายได้ยื่นไปก่อนหน้านี้ คือให้ตั้งคณะกรรมการร่วมกันสองฝ่าย เพื่อศึกษาวิจัยประเด็นสำคัญ 4 มิติที่เกี่ยวกับกัญชา

ประกอบด้วย 1.กัญชามีผลร้ายต่อร่างกายอย่างไร เมื่อเทียบกับบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2.กัญชามีผลร้ายต่อสังคมอย่างไร เมื่อเทียบกับบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 3.คุณสมบัติในการรักษาโรคและดูแลสุขภาพ เทียบกับบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 4.กัญชาทำลายสมองเด็กและก่อเกิดจิตเวชตามที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน  กล่าวอ้างหรือไม่

ทั้งนี้ เมื่อผลวิจัยออกมาแล้ว หากกัญชาร้ายกว่าเหล้าและบุหรี่ทั้ง 3 ข้อ และก่อเกิดอันตรายจริงตามข้อ 4 ให้นำกัญชาไปควบคุมโดยกฎหมายยาเสพติดได้เลย แต่หากกัญชาไม่ได้ร้ายไปกว่าบุหรี่เหล้า ทั้งไม่เป็นเหตุในการก่อโรคตามข้อ 4 ให้นำกัญชาไปควบคุมโดยกฎหมายพระราชบัญญัติกัญชาต่อไป

นอกจากนี้ นายประสิทธิชัยได้โพสต์ภาพนายอัครเดช ขณะนั่งรถเข็นใน รพ.ราชวิถี พร้อมข้อความว่า เพื่อนผมกำลังจะหมดแรง

สำหรับนายประสิทธิ์ชัยและนายอัครเดช ทั้งคู่ได้อดอาหารมาตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทำตามข้อเสนอของเครือข่าย ที่ต้องการให้เสนอผลการวิจัยคุณและโทษของกัญชา โดยเทียบกับบุหรี่และสุรา

นายประสิทธิ์ชัยเปิดเผยด้วยว่า นายอัครเดชต้องเข้าโรงพยาบาลเมื่อช่วงเช้า หลังได้รับการตรวจจากแพทย์ที่ลงความเห็นว่ามีอาการอ่อนเพลียอ่อนแรง แนะนำให้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพื่อรอดูอาการ แต่นายอัครเดชระบุว่ามีภารกิจจึงขอกลับมาร่วมทำหน้าที่กับสมาชิกคนอื่นๆ ในส่วนของตนเองตอนนี้ การอดอาหารดำเนินการสู่วันที่ 6 แล้ว ยังไหว แต่ก็มีอ่อนเพลียอ่อนแรงบ้าง ยืนยันว่าจะยังแสดงออกตามเจตนารมณ์ที่วางไว้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง