โวพรรคร่วม314เสียงแข็งโป๊ก

"เศรษฐา" ไปไม่เป็นหลัง "ทักษิณ" ประกาศคืนสังเวียนลุยทำงาน เฉไฉบอกสื่อไม่ได้ฟังคำให้สัมภาษณ์  ยังไม่ได้มีการคุยกันให้มารับตำแหน่ง ขณะที่ "ภูมิธรรม" พร้อมเปิดประตู ชี้พ้นมลทินก็ช่วยงานพรรคได้ "วัน อยู่บำรุง" น้ำตาท่วม กกต.ยื่นลาออกจากสมาชิก พท.แล้ว จ้วงแทงบ้านเก่าสั่งลา "หัดทบทวนตัวเองหลังสอบตกสนาม กทม.ยกแผง" "อุ๊งอิ๊ง" ไม่มีรั้งบอกเคารพการตัดสินใจ "พปชร." จัดดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลคึกคัก ทำมือประสานใจแต่ไร้เงา "ป้อม-ป๊อด" ด้าน "ธรรมนัส" อ้าง "ประวิตร" ฝากดูแลแทน นายกฯ ลั่นพรรคร่วมฯ 314 ไม่มีแตกแถวและแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อวันจันทร์ ที่บริเวณด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แสดงความเห็นว่า หลังเดือนสิงหาคมนี้รัฐบาลคงจะทำงานได้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า แล้วนายกฯ เศรษฐาและรัฐบาลมีแนวคิดที่จะเชิญอดีตนายกฯ ซึ่งจะพ้นโทษในเดือน ส.ค.นี้มาเป็นที่ปรึกษา หรือให้คำแนะนำอะไรหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า “พอดียังไม่ได้ฟังการให้สัมภาษณ์ของท่าน และท่านให้สัมภาษณ์ว่าอย่างไรบ้าง  ขอคำถามอีกครั้ง”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า อดีตนายกฯ ออกมาระบุว่าหลังเดือน ส.ค.นี้ รัฐบาลคงจะทำงานได้เป็นรูปธรรมมากขึ้น และเป็นประโยชน์กับประชาชนทั้งประเทศ นายกฯ และรัฐบาลมีแนวคิดที่จะเชิญอดีตนายกฯ ซึ่งจะพ้นโทษและเป็นผู้บริสุทธิ์ในเดือน ส.ค.นี้มาเป็นที่ปรึกษาหรือให้คำแนะนำอะไรหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ตรงนั้นยังไม่ได้คิดและยังได้มีการพูดคุยกัน ส่วนการทำงานที่จะเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นนั้น ตรงนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็มีการพูดคุยกันตลอดเวลาในเรื่องของการทำงาน เพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก

เมื่อถามย้ำว่า แนวคิดที่จะเชิญอดีตนายกฯ มาเป็นที่ปรึกษาหรือให้คำแนะนำจะเป็นไปได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ได้มีการพูดคุยกันตรงนี้ แต่อย่างที่ตนเคยชี้แจงไปแล้ว ตนได้มีโอกาสได้พบปะกับอดีตนายกรัฐมนตรีหรือผู้นำของประเทศ ไม่ว่าจะใครก็ตามที่มีข้อเสนอแนะที่ดี ตนเองก็ยินดีรับฟัง

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ก็เป็นความเห็นของนายทักษิณ ที่ท่านอยากนำเอาความรู้ความคิดเห็นที่ท่านมี และ ประสบการณ์ที่มีอยู่มาช่วยเหลือประเทศชาติ ซึ่งต้องไปถามท่านว่าจะช่วยอะไรอย่างไร หรือจะมีความคิดเห็นในเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งตอนนี้ก็ต้องอยู่ที่ท่าน ตนว่าไปถามกับท่าน

ถามว่า หากจะช่วยงานพรรคเพื่อไทย (พท.) สามารถทำได้หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ถ้าท่านพ้นมลทินทั้งหมดก็สามารถที่จะเข้าไปช่วยเหลือได้

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายวัน อยู่บำรุง อดีต สส.พรรคเพื่อไทย ได้มายื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค พท.ต่อเลขาฯ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง โดยนายวันกล่าวว่า ตนได้ลาออกจากพรรค พท.แล้ว โดยเมื่อวันที่ 9 ก.ค. หลังประชุมพรรคตนได้ไปรอพบหัวหน้าพรรค โดยเมื่อตนอธิบายความออกไปก็ไม่ได้มีท่าทีว่าอะไรจะดีขึ้นเลย ซึ่งบทสนทนามีมากกว่านั้น และมีหลายประโยคที่สื่อมวลชนยังไม่ทราบ จึงเป็นเหตุที่ทำให้ตนพูดออกไปว่า ขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี  เมื่อผู้ใหญ่ในพรรคมองว่าตนไม่เข้าตาแล้ว ท่านไม่แฮปปี้ ตนก็ไม่สบายใจ ถ้าไม่ลาออกจากสมาชิกพรรค เมื่อพรรคมีกิจกรรมอะไรตนก็ต้องไปร่วมงาน ตนคงไม่หน้าด้านที่จะไปเดินเกะกะรกหูรกตาผู้ใหญ่ในพรรค

'วัน' ชีวิตต้องดำเนินต่อไป

นายวันยังกล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนก็แค่ สส.กทม.สอบตก  แต่ที่สอบตกอย่าลืมว่ากรุงเทพฯ มี สส. 33 คน พรรคพท.ตก 32 คน ถ้าตนสอบตกคนเดียว ตนจะพิจารณาตนเอง คิดว่าเพื่อไทยก็ต้องกลับไปพิจารณาตัวเอง ว่านโยบายหาเสียงของพรรคครั้งที่แล้วเป็นอย่างไร จะว่าเป็นความผิดของผู้สมัคร กทม.ก็ไม่ใช่ และคนเราก็อย่าไปเกรงกลัวการเปลี่ยนแปลง แต่จงหาทางอยู่รอดกับการเปลี่ยนแปลง

 “ชีวิตต้องดำเนินต่อไป คงไม่ทราบว่ากรณีของผมจะเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู หรือตีวัวกระทบคราดหรือไม่ ผมรู้ว่าผมผิดจึงไปมอบตัว แต่ไม่คิดว่าความผิดของผมจะหนักหนาสาหัส ผมคิดไปเองว่าเมื่อมาถึงพรรคก็แค่โดนดุหรือตักเตือน ไม่คิดว่าจะเลยเถิดบานปลายถึงขนาดนี้” นายวัน ระบุ

เมื่อถามว่า การลาออกครั้งนี้เป็นการตัดสินใจเองหรือบีบให้ลาออก นายวันกล่าวว่า บทสนทนาในวันนั้นมีมากกว่านี้ มีหลายประโยค จึงเป็นเหตุที่ทำให้ตนตัดสินใจลาออก ตนตั้งข้อสังเกตกรณีนายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษารองนายกฯ ที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของนายกฯ ลองเปรียบเทียบกับกรณีของตนว่าจะผิดมารยาทหรือไม่ หรือว่าจะมีคนที่อยู่เบื้องหลังนายวรชัยที่บารมีมากกว่านายกฯ  จึงทำให้นายวรชัยพูดได้

เมื่อถามเพิ่มเติมว่า วันที่จะลาออก น.ส.แพทองธาร  ชินวัตร หัวหน้าพรรค ได้รั้งไว้บ้างไหม นายวันกล่าวว่า  เขาไม่ได้พูดอะไร ทั้งนี้ตอนที่ตนไปมอบตัวยังไม่ได้คิดว่าจะลาออกจากตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น เมื่ออยู่แล้วเขาไม่มีความสุข ตนจะไปเสนอหน้าอยู่ทำไม ตอนนี้ตนก็มีสถานะนักการเมืองไร้สังกัด แต่ยังทำงานการเมืองต่อไป ตอนนี้ยังไม่มีใครติดต่อมา ขอยืนยันว่าครอบครัวอยู่บำรุงรักชาติ  ศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์

เมื่อถามว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จะยังอยู่กับพรรคพท.หรือไม่ นายวันกล่าวว่า ณ เวลานี้ยังอยู่ พท. ท่านก็อยากให้ขับออก คุณพ่ออายุเยอะ แต่ความรู้ความสามารถเขาไม่ได้ลดน้อยลง เขาก็อยากมีบทบาททางการเมืองอยู่  แต่ก็ยังไม่ได้รับโอกาสนั้น

เมื่อถามว่า นายทักษิณ ชินวัตร ได้ติดต่อมาคุยกับบิดาหรือไม่ นายวันกล่าวว่า ไม่ทราบ โดยแต่ก่อนท่านคุยกันบ่อยมาก สัปดาห์หนึ่งคุย 2-3 วัน แต่พอหลังจากเลือกตั้งมาแล้วจนถึงทุกวันนี้ตนไม่ทราบ ในส่วนของนายอาชวิน (บุตรชายนายวัน) ซึ่งทำงานด้านการเมือง จะทำอย่างไรก็ให้เขาได้ตัดสินใจเองเพราะโตแล้ว ตอนนี้ก็อายุ 27 ปี ส่วนตัวไม่ได้ให้คำปรึกษาหรือแนะนำอะไร

เมื่อถามว่า ถ้ามีการพูดคุยเคลียร์ใจกัน จะกลับมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยได้อีกหรือไม่ นายวันกล่าวว่า มันเลยจุดนั้นไปไกลแล้ว ชีวิตตนเองก็ต้องดำเนินต่อไป ตนก็ต้องทบทวนตัวเอง แต่ยืนยันว่ายังทำงานการเมือง ซึ่งตนก็ต้องมีทางเดินของตนเอง เมื่อเขาไม่แฮปปี้ ตนไม่สบายใจ ก็ถอยออกมาดีกว่า

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า เรื่องนี้ได้พูดคุยกันเป็นการส่วนตัวไปแล้ว และได้เห็นนายวันออกมาให้สัมภาษณ์แล้ว จึงไม่มีประเด็นอะไรที่มากกว่านี้แล้ว

"ทั้งนี้เคยแสดงความตั้งใจกับนายวันไปแล้วว่า ไม่ได้อยากให้นายวันออกจากพรรคเพื่อไทย แต่ก็เคารพการตัดสินใจของนายวัน เพราะท่านเป็นผู้ใหญ่แล้ว และทั้งสองครอบครัวก็รู้จักกันมานาน ดังนั้นควรขอให้กำลังใจกันดีกว่า ถึงจะไม่ได้อยู่ในพรรคเพื่อไทย เพราะสามารถให้กำลังใจกันได้อยู่แล้ว" น.ส.แพทองธารระบุ

ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิมอยากให้พรรคขับออกเพื่อไปสังกัดพรรคใหม่นั้น น.ส.แพทองธารย้ำว่า พรรคไม่มีนโยบายขับออก

'นิด' ลั่นพรรคร่วมฯ 314 ไม่แตกแถว

 เมื่อเวลา 17.30 น. ที่พิพิธภัณฑ์บ้านปาร์คนายเลิศ ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งมีพรรคพปชร.เป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยง เพื่อกระชับความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นการจัดงานครั้งที่ 3 มีบรรดาหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคต่างๆ มาร่วมอย่างคับคั่ง โดยเวลา 18.00 น. นายเศรษฐาเดินทางมาถึง มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร. มารอต้อนรับ บรรยากาศภายในงานนายกฯ และแกนพรรคร่วมฯ ต่างทำมือรูปหัวใจ เพื่อสื่อความหมายถึงการประสานใจ

 ด้าน ร.อ.ธรรมนัสกล่าวก่อนร่วมรับประทานอาหารว่า  วันนี้เป็นเจ้าภาพ ขอให้เจ้าภาพจงเจริญ ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.ไม่ได้เดินทางมาร่วมในวันเดียวกันนี้ แต่ได้ฝากให้ดูแลพรรคร่วมรัฐบาล  และ พล.อ.ประวิตรได้แสดงเจตนารมณ์ตั้งแต่ร่วมรัฐบาลอยู่แล้วว่า ในกรณีที่มีงานหรือการพบปะกันได้มอบหมายให้  พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ทรัพยากรฯ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค และตนในฐานะเลขาธิการพรรคเป็นผู้ทำหน้าที่แทน และวันเดียวกันนี้ พล.ต.อ.พัชรวาทไม่สบาย ป่วย ไม่ได้มาร่วมงาน ก็คงเหลือแต่ตน นายสันติ และนายอรรถกรเป็นเจ้าภาพ

 ต่อมาเวลา 19.45 น. ร.อ.ธรรมนัสกล่าวในฐานะเจ้าภาพว่า ขอแสดงความต้อนรับทุกๆ ท่านด้วยความยินดีอีกครั้ง และอาจจะเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ ซึ่งพรรคต่อไปที่จะเป็นเจ้าภาพก็ขอให้ดูอันนี้ให้ดี และต้องขอบคุณสื่อมวลชน ซึ่งพรรคได้จัดสถานที่ต้อนรับทุกคน ถือว่าพวกเราเป็นกันเอง ระหว่างรัฐบาลและสื่อมวลชนที่ได้ร่วมกันทำงานเพื่อประเทศและประชาชน

 ด้านนายเศรษฐากล่าวภายหลังร่วมงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลว่า อย่างที่เห็นบนกระดานมีหลายภาค และมีอีกหลายพรรคที่ยังไม่ได้โชว์บนกระดานนี้ จากความร่วมมือของทุกๆ คนในรัฐบาลนี้ ให้เห็นว่าเรามีมากกว่า 314 เสียง  แน่นอนการอยู่ด้วยกัน เมื่อกี้ได้มีการพูดคุยถึงการทำงานร่วมกัน บรรยากาศอาจมีความตึงเครียดบ้าง ตนอาจจะดุบ้าง พูดจาไม่เข้าหูบ้าง แต่เรามี 300 กว่าเสียง ยืนยันทำงานด้วยกันเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน มีการพูดคุยกันอย่างเป็นผู้ใหญ่ แม้จะมีเสียงเล็ดลอดออกไปบ้าง แต่ในวันนี้สื่อมวลชนได้มาอยู่ที่นี่แล้ว อยากขอบอกว่าดูบรรยากาศเอาเองแล้วกัน ว่าเราสมัครสมานสามัคคีกันหรือเปล่า ดูจากรอยยิ้มและวิธีการที่เราพบปะพูดคุยกัน

 “ผมมั่นใจว่า 314 เสียงเป็นอย่างน้อย ไม่มีการแตกแถว และเรามาที่นี่ทำงานหนักกันทุกคนเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนทุกคน ไม่ว่าจากการทำงานในทำเนียบฯ หรือในกระทรวงต่างๆ เป็นการลงพื้นที่เท่าที่เคยติดตามการเมืองมา ก็ไม่เคยเห็นรัฐบาลไหนลงพื้นที่เยอะเท่ารัฐบาลนี้ รัฐมนตรีทุกคนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเชื่อว่ารัฐบาลนี้จะแข็งแกร่งขึ้นไปเรื่อยๆ ขอบคุณพลังประชารัฐอีกครั้ง” นายกฯ กล่าว

 จากนั้นนายกฯ และแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลได้ร่วมถ่ายภาพ ทำมือสัญลักษณ์มินิฮาร์ตและคล้องแขนจับมือแสดงความสามัคคี โดยช่วงหนึ่งผู้สื่อข่าวกระเซ้าว่าจับมือแบบนี้จะอยู่ครบ 4 ปีใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "ครับแน่นอน มากกว่า 4 ปีด้วย"

ภายหลังงานเลี้ยง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทยและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ร้องเพลงรักเธอนิรันดร์ โดยท่อนท้ายของเพลงที่ร้องว่า “ฉันจะอยู่เพื่อรักเธอตลอดไป แม้สิ้นลมหายใจ ไอเลิฟยู...” พร้อมเดินมาที่ น.ส.แพทองธาร โดย น.ส.แพทองธารได้ยกมือไหว้ขอบคุณ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลครั้งต่อไปจะมีพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เป็นเจ้าภาพ.