นายกฯ ตีปี๊บเปิดลงทะเบียนเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 ส.ค.นี้ ยันไม่คอยเก้อแน่นอน "จุลพันธ์" เผยรัฐบาลเคาะงบฯ 4.5 แสนล้านจากปี 67/68 ตัดแหล่งเงินจาก ธ.ก.ส. แจกเงินดิจิทัล 45 ล้านคนสิ้นปี 67 รับเปลี่ยนแหล่งที่มาของเงินจากข้อห่วงใยหน่วยงานต่างๆ ตัดสิทธิ์ร้านค้า-ประชาชนเคยโกงโครงการรัฐ จ่อแถลงใหญ่ 24 ก.ค.นี้ "ภูมิธรรม” ระบุ พณ.เตรียมร้านค้ารองรับแล้ว
ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล เวลา 10.00 น. วันที่ 15 กรกฎาคม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ครั้งที่ 4/2567 พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์, นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง, นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง, นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา และหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
ภายหลังการประชุม ที่บริเวณด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า นายเศรษฐาแถลงว่า ผลการประชุมวันนี้ยาว มีเรื่องของรายละเอียดที่เรามาชี้แจงทำให้กระจ่างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นประเภทของสินค้าหรือหลายๆ อย่าง ซึ่งนายจุลพันธ์จะเป็นผู้แถลง ตนไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ เป็นการตอกย้ำเรื่องความชัดเจน และเรื่องการป้องกันการทุจริตประพฤติมิชอบ ซึ่งสื่อก็เห็นว่า พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.ก็มาด้วย
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้เริ่มมีการออกมาแอบอ้างเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตกันแล้ว โดยอ้างว่าเป็นลิงก์ของรัฐบาล ตรงนี้ได้สั่งให้มีการดำเนินการอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่มี เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ ซึ่งทางภาครัฐคงต้องมีการแจ้งว่าเป็นเรื่องของการแอบอ้าง คอยฟังประกาศจากรัฐบาลอย่างเดียวดีกว่า
เมื่อถามว่า ประเด็นแหล่งเงินของดิจิทัลวอลเล็ต ได้ซักถามกระทรวงการคลังหรือไม่ว่าทำไมถึงเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เหตุใดถึงไม่เอาเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แต่กลับไปใช้งบปี 67-68 นายกฯ กล่าวว่า เดี๋ยวจะมีการชี้แจงซึ่งตนได้เรียนไปแล้ว เมื่อซักว่าอยากให้นายกฯ พูดในฐานะที่เป็นผู้นำ นายกฯ นิ่งสักครู่พร้อมหันหน้าไปอีกทาง ก่อนกล่าวว่า เรียนไปแล้ว แจ้งไปเรียบร้อยแล้วครับ
ต่อมานายเศรษฐาได้ทวีตข้อความผ่าน X ว่า "ดิจิทัลวอลเล็ตพร้อม เปิดลงทะเบียน 1 ส.ค.นี้ครับ การประชุมวันนี้ถือเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดลงทะเบียน และการดำเนินการในภาพรวมที่จะรองรับการใช้งานของประชาชนและร้านค้า โดยมีการมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ รวมไปถึงการลงรายละเอียดเงื่อนไขของการรับสิทธิ์ และมาตรการป้องกันการทุจริต การเรียกเงินคืนให้ชัดเจนขึ้นครับ"
"โครงการดิจิทัลวอลเล็ต คือโครงการใหญ่ของภาครัฐที่จะเติมเงินใส่กระเป๋าพี่น้องประชาชน ผู้ประกอบการ และระบบเศรษฐกิจในภาพรวม เพื่อความละเอียดรอบคอบทั้งทางกฎหมายและทางเทคนิค โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ทำให้ใช้เวลาดำเนินการมากหน่อย แต่พี่น้องไม่ต้องคอยเก้อแน่นอนครับ
ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง กล่าวว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบแหล่งที่มาของเงินที่ใช้ในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตครั้งใหม่ โดยจะตัดแหล่งเงินจากมาตรา 28 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินและการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ของ ธ.ก.ส. และใช้เงินจากงบประมาณปี 2567 และปี 2568 รวม 4.5 แสนล้านบาท เพื่อแจกให้ 45 ล้านคน
เมื่อถามถึงสาเหตุของการปรับที่มาของแหล่งวงเงินครั้งนี้ นายจุลพันธ์ยอมรับว่า รัฐบาลได้ดำเนินการตามข้อห่วงใยของหน่วยงานต่างๆ ที่ตรวจสอบแหล่งที่มาของเงิน ซึ่งในอดีตการดำเนินโครงการของรัฐไม่มีโครงการใดที่มีคนลงทะเบียนร่วมโครงการเกิน 90% กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณจึงได้หารือร่วมกัน และเห็นชอบกับการตั้งงบประมาณให้สอดคล้องกัน โดยปรับลดลงมาจากเดิม 5 แสนล้าน เหลือ 4.5 แสนล้าน
“โครงสร้างกรอบแหล่งเงินโครงการครั้งใหม่ จะไม่มีเงินจากมาตรา 28 แต่จะใช้งบประมาณปี 2567 และงบประมาณปี 2568 ซึ่งเพียงพอและสามารถดำเนินการได้ภายในกรอบของงบประมาณ และถ้าคนลงทะเบียนน้อยกว่าหรือมากกว่า รัฐบาลจะใช้กลไกในการบริหารงบประมาณ เพื่อให้มีเงินทุกบาททุกสตางค์เพียงพอกับการใช้ในโครงการนี้ และรายละเอียดทั้งหมดจะเสนอที่ประชุมครม.เห็นชอบในสัปดาห์หน้า” นายจุลพันธ์ยืนยัน
ทั้งนี้ แหล่งเงินของโครงการรอบใหม่ วงเงิน 450,000 ล้านบาทนั้น มีที่มาจาก 2 แหล่งคือ งบประมาณปี 2567 ทั้งการตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม วงเงิน 122,000 ล้านบาท และการบริหารจัดการงบประมาณอีก 43,000 ล้านบาท โดยไม่ใช่แค่งบกลางอย่างเดียว งบประมาณปี 2568 วงเงิน 152,700 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณางบประมาณ และการบริหารจัดการงบประมาณอีก 132,300 ล้านบาท
ส่วนไทม์ไลน์โครงการนั้น ที่ประชุมได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการกำกับโครงการไปพิจารณา กรอบรายละเอียดวันและเวลาของการเริ่มต้นโครงการ และวันเปิดลงทะเบียน ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดนายกฯ จะเป็นผู้แถลงในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้อีกครั้ง เบื้องต้นกรอบของโครงการยังไม่เปลี่ยน คือลงทะเบียนในไตรมาสที่ 3 และโอนเงินให้ประชาชนในไตรมาสที่ 4 ปี 2567
นายจุลพันธ์กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบการกำหนดเงื่อนไขและรายละเอียดของร้านค้า รวมถึงสินค้าที่จะเข้าร่วมในโครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และที่ประชุมยังมีความเห็นเพิ่มเติมว่าให้กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) พิจารณาความยืดหยุ่นของการจัดทำรายการข้อห้าม/ข้อจำกัด (Negative List) ของสินค้าที่จะเข้าร่วมในโครงการ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์และความจำเป็น รวมทั้งยังกำหนดเงื่อนไขของผู้เข้าร่วมในโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ตทั้งร้านค้าและประชาชน หากเป็นผู้ที่เคยกระทำความผิดในโครงการรัฐโครงการใดโครงการหนึ่งมาก่อน หรือถูกฟ้องร้องเรียกเงินคืนจะถูกตัดออกจากโครงการทันที เพราะถ้าให้สิทธิ์ไปก็มีความเสี่ยงที่จะกระทำความผิดซ้ำได้
รมช.การคลังกล่าวว่า การกำหนด Negative List ของสินค้า กระทรวงพาณิชย์ต้องมาคุยในคณะอนุกรรมการกำกับโครงการก่อน โดยให้นำเสนอเข้ามา เพราะวันนี้มีบางหน่วยงานนำเสนอรายการเข้ามา เช่น การห้ามสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอาวุธและยุทโธปกรณ์ ที่ผ่านมาไม่ได้คิด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่จะนำมาไว้ในรายการ โดยให้กระทรวงพาณิชย์รับไปพิจารณา และจะมีการนำเสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาในสัปดาห์หน้า จากนั้นในวันที่ 24 ก.ค.นี้ นายกฯ จะแถลงรายละเอียดที่ชัดเจนต่อไป
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ดูรายละเอียดเกี่ยวกับร้านค้า ซึ่งได้เตรียมไว้ทั้งหมดแล้วว่ามีร้านค้ารองรับไว้ทั้งหมดเท่าไหร่
ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณางบประมาณเพิ่มเติมสำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า ในวันพุธที่ 17 ก.ค.นี้ จะมีการพิจารณางบจำนวน 122,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบเพิ่มเติมของปี 67 เพื่อใช้ในโครงการเงินหมื่นที่ชาวบ้านรออยู่ เพราะอยากได้เงินตรงนี้ไปเยียวยา ทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนได้ดีขึ้น โดยจะเป็นการพิจารณาในวาระแรกแค่หนึ่งวัน และแปรญัตติอีกสองวัน ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันที่ 19-20 ก.ค.ที่จะถึงนี้ ส่วนการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ปี 67 คาดว่าจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.เป็นต้นไป โดยใช้เวลาการพิจารณา 5 วัน จากนั้นจึงกลับเข้ามาพิจารณาในวาระสอง และวาระสามของสภาฯ อีกครั้งหนึ่ง
"เราพยายามเร่งรัด เพราะประชาชนมีความเดือดร้อน ต้องการเงินส่วนนี้ และเชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากได้ เป็นเรื่องที่ดี จึงตั้งใจทำให้เสร็จอย่างรวดเร็ว รวมถึงการตรวจสอบเพื่อไม่ให้มีช่องโหว่งให้ใครกล่าวหา" นายวิสุทธิ์กล่าว
ถามว่า มีความกังวลหรือไม่ที่ฝ่ายค้านเตรียมร้องศาลปกครองหากงบฯ ผ่าน นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน เรามั่นใจว่าสิ่งที่ทำจะถึงมือพี่น้องประชาชนจริงๆ ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะทำการตรวจสอบทุกวิถีทาง เขาก็ไม่อยากให้เราเอาเงินออกไปไวๆ เป็นธรรมดา ถ้าเราเป็นฝ่ายค้านก็ทำแบบนี้ เขาไม่อยากให้โครงการนี้สำเร็จ แต่เรามั่นใจในเสียงของรัฐบาลที่เกินมาเยอะ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ ปลุกทุกภาคส่วน ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรีทุกรูปแบบ
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านวีดิทัศน์ว่า เนื่องในเดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็นเดือนแห่งการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ประจำปี 2567
ความจริง 'ชั้น 14' ชี้ชะตา 'รัฐบาลอิ๊งค์'
นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย และอดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อายุรัฐบาลขึ้นกับความจริงบนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ (รพ.ตร.)
ตั้งกก.สอบผกก.บางซื่อ ทนายปาเกียวเล็งทิ้งตั้ม
“ดีเอสไอ” เตรียมสรุปสำนวนคดี 18 บอสดิไอคอนเสนออัยการคดีพิเศษภายใน 20 ธ.ค.นี้
นิกรหักเพื่อไทย เตือนส่อผิดกม. ให้กมธ.ตีความ
“นิกร” หักข้อเสนอ “ชูศักดิ์” เลยช่วงเวลาแปลงร่างประชามติเป็นกฎหมายการเงินแล้ว
‘สนธิ’ลั่นการเมืองใกล้สุกงอม!
“อุ๊งอิ๊ง” เมินปม กกต.สอบครอบงำต่อ เด็ก พท.ยันเป็นการดำเนินการตามปกติ
จ่อส่งคดีหมอบุญให้DSI
ตร.สอบปากคำอดีตภรรยา-ลูกสาว “หมอบุญ” เพิ่มเติม