สว.แย่งชามข้าวระอุ‘อิสระ’ท้าชน‘สีนํ้าเงิน’

วุฒิสภาฝุ่นตลบ! เปิดอินไซด์ "สว.สีส้ม" นัดเช็กเสียงผ่านซูม เตรียมชน "บ้านใหญ่บุรีรัมย์" หลังสะพัด "สีน้ำเงิน" รวบ 3 เก้าอี้ใหญ่สภาสูง ไม่แบ่งกลุ่มอื่น สว.ภาคธุรกิจแนะทุกขั้ว สลายสีเพื่อให้วุฒิสภาสง่างาม กลุ่มพันธุ์ใหม่ขอเสียงหนุนดัน "นันทนา-บุญส่ง" ชิงรองประธานวุฒิฯ "อังคณา" รับมีการตั้งกลุ่มต่อรองขอตำแหน่ง เสนอเงื่อนไขดูแลรายเดือน เตือนอย่าเอาโควตาไปตั้งคนในบ้านมาช่วยงานกินเงินเดือนหลวง "ยุคล" เผยมี สว.ไม่สบายใจถูกจับโยงพรรค-สี จ่อนำ "สว.อิสระ" แถลงจุดยืนกู้ภาพสภาสูง "ธนาธร" ฝากช่วยผลักดันแก้ไขร่าง รธน. แนะ "ประธานวุฒิฯ" ต้องเป็นกลาง

เมื่อวันอาทิตย์ มีรายงานว่าสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้แจ้งผ่านกลุ่มไลน์สื่อมวลชนประจำรัฐสภาว่า ภายหลังรับการแสดงตนของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ครบตามจำนวนในวันที่ 15 กรกฎาคมแล้ว น.ส.นภาภรณ์ ใจสัจจะ  เลขาธิการวุฒิสภา จะให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการดำเนินการขั้นตอนหลังจากนี้ โดยในวันแรกของการเปิดประชุม พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี ในฐานะ สว.ที่มีอายุมากที่สุด 78 ปี จะทำหน้าที่เป็นประธานชั่วคราว ในวาระการเลือกประธานวุฒิสภา

 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ สว.ชุดใหม่ ที่คาดว่าจะมีการนัดประชุมวุฒิสภาเพื่อเลือกประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภาช่วงปลายสัปดาห์นี้ว่า เมื่อช่วงวันพฤหัสบดี-ศุกร์ที่ 11-12 ก.ค.ที่ผ่านมา มี สว.ไปรายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาร่วมกว่า 100 คน  จนเกือบครบ 200 คนแล้ว โดยวันจันทร์ที่ 15 ก.ค. เป็นวันรายงานตัววันสุดท้าย หลังจากนั้น สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจะมีการออกหนังสือถึง สว.ทุกคน เพื่อนัดประชุมวุฒิสภาต่อไป

มีรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังการรายงานตัว สว.เสร็จสิ้น สว.ได้มีการนัดหมายกันไปทานข้าว ดื่มกาแฟนอกรัฐสภากันหลายวงในช่วงสองวันดังกล่าว ขณะที่ สว.บางส่วน พอรายงานตัวเสร็จก็มีเพื่อน สว.ชักชวนพาไปพบผู้ใหญ่ทางการเมืองที่สนับสนุนกลุ่ม สว. เช่น ที่บ้านป่ารอยต่อฯ ตามคำแนะนำของ สว.ด้วยกันเอง ขณะเดียวกัน สว.เกือบทั้งหมด พอเจอกันก็แอดไลน์และแลกเบอร์โทรศัพท์เพื่อทำความรู้จักกัน รวมถึงมีการดึง สว.บางส่วนเข้ากลุ่มไลน์ที่ทาง สว.แต่ละกลุ่มตั้งไว้ เพื่อให้เข้ามาเป็น สว.ในกลุ่ม ที่มีทั้งกลุ่มใหญ่และกลุ่มย่อย

  รายงานข่าวแจ้งว่า ในวงพูดคุยของ สว.หลังการรายงานตัวสร็จสิ้น ที่มีการคุยกันที่รัฐสภาและตามร้านอาหาร รวมถึงการพูดคุยผ่านโทรศัพท์และการประสานงานผ่านไลน์ สว.หลายคนได้รับแจ้งข่าวจาก สว.สีน้ำเงินว่า ขณะนี้ สว.สีน้ำเงินมี สว.ในกลุ่มเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 126 เสียง ตอนนี้เกือบแตะ 140 เสียง บวกลบ 5  ทำให้คุมเสียงส่วนใหญ่ใน สว.ไว้ได้แล้ว และ สว.สีน้ำเงินได้แจ้งกับ สว.หลายคนว่า สว.สีน้ำเงินจะส่งคนไปรับตำแหน่งใหญ่ในวุฒิสภาหมดทั้ง 3  เก้าอี้ คือประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่งและรองประธานวุฒิสภาคนที่สอง โดยเบื้องต้นรองประธานวุฒิสภาคนที่สองจะให้เป็นโควตา สว.สตรี แต่จะไม่แชร์โควตาให้สว.หญิงกลุ่มอื่น

ขณะที่รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง ซึ่งมีข่าวก่อนหน้านี้ว่าอาจแชร์โควตาให้ สว.บ้านป่าฯ นั้น แต่ล่าสุดหลังเช็กเสียงแล้วพบว่า สว.บ้านป่าฯ มีไม่ถึง 20 คน จากเดิมที่บอกว่าจะได้ประมาณขั้นต่ำ 30 เสียง ทำให้ สว.สีน้ำเงินคุยกันว่าเมื่อเป็นแบบนี้คงจะไม่มีการแชร์โควตารองประธานวุฒิสภาให้ สว.กลุ่มบ้านป่าฯ เว้นแต่ว่าผู้ใหญ่ของทั้งสองกลุ่มที่อยู่ในซีกรัฐบาล คือบ้านป่าฯ กับบ้านใหญ่บุรีรัมย์จะตกลงกัน ซึ่งหากตกลงกันได้ก็อาจต้องเปิดทางให้ แต่หากไม่มีสัญญาณมา สว.สีน้ำเงินก็คงส่งคนไปนั่งตำแหน่งใหญ่ในวุฒิสภาทั้ง 3 เก้าอี้ แล้วให้โควตาประธานคณะกรรมาธิการสามัญวุฒิสภาชุดสำคัญๆ กับทาง สว.บ้านป่าฯ แทน

สว.พันธุ์ใหม่แท็กทีมชิงเก้าอี้

  สำหรับความเคลื่อนไหวของ สว.ที่เรียกตัวเองว่า สว.พันธุ์ใหม่ หรือ สว.สีส้มเดิม ที่มีแกนนำเช่น ดร.นันทนา นันทวโรภาส สว.สายสื่อฯ นั้น ช่วงหลายวันที่ผ่านมามีความเคลื่อนไหวในการไปรวมเสียง สว.จากกลุ่มอื่นๆ เข้ามาอยู่ในกลุ่มให้มากขึ้น เช่น สว.จากสายนักธุรกิจ-ผู้ประกอบการ, สว.สายนักวิชาการ, สว.สายสื่อสารมวลชน  มาร่วมหารือกับทางกลุ่มด้วย และมีการเชิญชวนให้ สว.บางคนที่เริ่มรู้จักกันมาร่วมประชุมผ่านระบบ ZOOM ซึ่งมี สว.บางคน เช่น สว.สายสื่อสารมวลชนตอบรับร่วมพูดคุย แต่ สว.บางคนก็ปฏิเสธไม่ร่วมด้วย เพราะเกรงจะถูกเคลมว่าเป็น สว.ในกลุ่มแล้วจะนำจำนวน สว.ไปต่อรองทางการเมือง ผนวกกับไม่ค่อยเห็นด้วยกับแนวทางที่ถูกมองว่ามีความเชื่อมโยงกับคณะก้าวหน้าของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่

อย่างไรก็ตาม ต่อมาก็ได้ทราบข่าวจาก สว.ที่ไปร่วมหารือกับ สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ดังกล่าว จนได้ข้อมูลว่า แนวโน้มกลุ่มดังกล่าวจะส่งชื่อชิงรองประธานวุฒิสภา 2 คน แต่ประธานวุฒิสภายังไม่แน่ใจ โดยขณะนี้ สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่กำลังมีการเชื่อมคอนเนกชันกับ สว.กลุ่มอื่นๆ อยู่ เช่น สว.สีขาว ที่มี นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ กำลังรวมเสียงอยู่ แต่ยังไม่ค่อยมีเสียงตอบรับ รวมถึง สว.กลุ่มที่มาจากสายนักธุรกิจ-ผู้ประกอบการ ที่เข้ามาเป็น สว.รอบสุดท้ายในกลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม-กลุ่มผู้ประกอบกิจการอื่น-กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจหรืออาชีพด้านการท่องเที่ยว-กลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม-กลุ่มพลังงาน ที่ตอนนี้น่าจะมีเสียงประมาณกว่า 10 เสียง ที่มีนายปฏิมา จีระแพทย์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เป็นผู้ประสานงาน 

ทั้งนี้ สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่มีการนัดหมายจะไปรายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ในวันจันทร์ที่ 15 ก.ค. เวลา 11.00 น. และจะมีการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเพื่อแสดงความชัดเจนว่าจะส่งคนลงชิงเก้าอี้ประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภาหรือไม่

นอกจากนี้ มีกระแสข่าวว่า สว.ที่มาจากสายนักธุรกิจ-ผู้ประกอบการ ที่เข้ามาเป็น สว.รอบสุดท้าย ได้รวมกลุ่มกันขึ้นมาได้ประมาณกว่า 10 เสียง และพร้อมจะจับมือกับกลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ ที่มี ดร.นันทนาเป็นแกนนำ เพื่อสนับสนุนบุคคลที่ทางกลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ ส่งชื่อชิงรองประธานวุฒิสภาคือ ดร.นันทนา และนายบุญส่ง น้อยโสภณ รวมถึงในการส่งคนของกลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ ไปนั่งเก้าอี้ประธานคณะกรรมาธิการสำคัญๆ ในวุฒิสภา 

นายปฏิมา จีระแพทย์ สว.จากกลุ่มพลังงาน-สิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกระแสข่าวเป็นแกนนำ สว.กลุ่มภาคนักธุรกิจ-ผู้ประกอบการว่า ไม่ได้เป็นแกนนำ สว.จากภาคธุรกิจอย่างที่มีกระแสข่าว  แต่เนื่องจากพวกเรา สว.เป็นอิสระ และเป็นเพื่อนกันหมดทุกคน อย่าเรียกกลุ่มอะไรเลย เป็นเพื่อนกันทุกกลุ่ม ตอนนี้เรารวมกันเฉพาะ สว.ที่รู้จักกันเบื้องต้นก่อน เช่น เคยรู้จักกันมาก่อนสมัยเรียนหลักสูตรบางหลักสูตรที่เปิดกัน หรือรู้จักกันมาก่อนตอนสมัยติดต่อทางธุรกิจ เพราะ สว.มี 200 คน ยังไม่ได้รู้จักกันหมด แล้วค่อยถือโอกาสไปทำความรู้จักกับ สว.คนอื่นๆ

เมื่อถามถึงกระแสข่าวกลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ นำโดย ดร.นันทนา มีการติดต่อขอเสียงสนับสนุน สว.จากภาคธุรกิจให้มาช่วยโหวตสนับสนุนรายชื่อคนที่กลุ่มจะเสนอชื่อชิงประธานวุฒิสภา นายปฏิมากล่าวว่า ก็ใช่ ก็มีการคุยกัน แต่อยากบอกว่าก็คุยกันหมดกับทุกคน เพราะการติดต่อกันเป็นสิ่งที่ดี เพราะต้องทำงานร่วมกัน แนะนำตัวพูดคุยกันและชวนหารือกัน ก็เป็นเรื่องปกติของการมาทำงานในองค์กรใหม่ร่วมกัน เจอ สว.ด้วยกันก็แนะนำตัวกัน แลกไลน์กัน เราควรอยู่สีแดง สีขาว สีน้ำเงิน ที่ก็คือสีธงชาติไทย ไม่มีสีอื่น จะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน อยากให้ทุกคนหันหน้าเข้าหากัน สามัคคีกัน ไม่อย่างนั้นประชาชนก็จะเบื่อหน่าย ไม่สง่างาม

เสนอผลประโยชน์รายเดือน

เมื่อถามถึงกระแสข่าวมีการเจรจาล็อบบี้ สว.เพื่อขอเสียง สว.และดึงเข้ากลุ่ม โดยมีเงื่อนไขต่างๆ เช่น ให้ผลประโยชน์ มีการจะให้เงินเพิ่มรายเดือน นายปฏิมากล่าวว่า ถ้าเราไม่ได้ยินเองกับหูเราเองก็อย่าไปปักใจเชื่อดีกว่า เพราะ สว.เราเป็นผู้ใหญ่แล้ว ส่วนเรื่องข่าวลืออะไรต่างๆ  หากเราไม่ได้ยินจากหูเราเองก็อย่าไปใส่ใจ

นางอังคณา นีละไพจิตร สว. กล่าวหลังถูกถามถึงกรณีเริ่มมีข่าวเรื่องการล็อบบี้อะไรต่างๆ ส่วนตัวมีใครมาติดต่อล็อบบี้อะไรหรือไม่ ว่าไม่มีเลย แต่ว่าได้คุยกับบางคนที่อายุยังไม่มาก เขาก็เล่าให้ฟังว่ามีคนโทรศัพท์มา ก็มีแบบสัญญาว่าจะให้อะไรแบบนี้ ตัวเลขอาจจะเป็นแบบเงินเดือนเพิ่มเติม มีอะไรให้แบบนี้ เขาก็มีพูดให้ฟัง เราก็รับฟัง แล้วก็คนที่แบบบอกว่าผมก็อยู่กับพวกคุณ แล้วเราจะเสนอคนนี้เป็นรองประธานวุฒิสภา เราก็อ้าว มาจากไหน ที่เข้าใจก็คือจะมีคนที่พยายามจะรวมกลุ่มคนที่ไม่ได้เป็นกลุ่มก้อนใหญ่ เพื่อที่จะไปต่อรองขอรับตำแหน่ง แต่ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะมาเอาชื่อเราไปรวมอยู่ด้วย เพราะรู้สึกมีความพยายามรวบรวม

นางอังคณากล่าวต่อว่า มีบางคนที่เขาติดต่อเข้าไปอยู่ในหลายกลุ่ม แล้วบอกว่ากลุ่มตัวเองมีอยู่ 30 คน เพราะฉะนั้นต้องได้ 1 ตำแหน่ง อะไรแบบนี้ ตรงนี้ก็ได้ยินอยู่ แต่ว่าจริงหรือไม่จริงก็ไม่ทราบ แต่ที่ได้ยินกับตัวเองก็คือ มีคนมาพูดว่ามีคนที่อยากจะมาอยู่กลุ่มกับเรา แล้วเราจะเสนอเขาเป็นรองประธานวุฒิสภา แต่ก็ไม่ได้มีใครมาคุยกับเรา คิดว่าทุกคนก็ระมัดระวัง ส่วนบุคคลที่จะมาเป็นประธานวุฒิสภาควรเป็นพลเรือน ซึ่งบางทีวิสัยทัศน์ของคนที่เคยอยู่ในหน่วยงานด้านความมั่นคง อาจจะเคยชินกับการออกคำสั่ง พลเรือน มีความยืดหยุ่น มีความเป็นกลาง เป็นธรรม ไม่ลำเอียง หนึ่งในสามตำแหน่ง มีความจำเป็นที่ต้องมีผู้หญิงเข้าไปด้วย ที่เสนอไม่ใช่ว่าจะเสนอตัวเอง แต่เป็น สว.ผู้หญิงคนใดก็ได้ที่มีความสามารถจะทำหน้าที่ได้

 “ในเรื่องของระบบวุฒิสภา ที่ถือว่าเป็นสภาสูงที่มีหน้าที่กลั่นกรอง ปรับปรุงแก้ไขสิ่งที่สภาส่งมา ความเป็นสภาผู้ใหญ่ ที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ สิ่งสำคัญก็คือความซื่อสัตย์ ความตรงไปตรงมา แต่ถ้าคุณคิดจะใช้อำนาจครอบงำตามอำเภอใจ ที่หมายถึงนอมินีที่เข้าไปนั่งทั้งหลาย ต้องยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ สุดท้ายทุกคนต้องพิสูจน์ตัวเอง ไม่มีใครจะมาคอยอุ้มพยุงใครไปได้ ปกป้องใครไปได้ และ สว.เองสามารถถูกตรวจสอบได้ อย่าง สว. 1 คน จะมีผู้ช่วย สว.-ที่ปรึกษาได้ 7 คน ก็ควรตั้งคนดีๆ เข้ามา อย่าไปคิดแต่ว่าจะต้องมีการตอบแทน เอาพรรคพวก เอาคนในครอบครัวเข้ามา ต้องระมัดระวัง จะเป็นการขัดกันของผลประโยชน์” สว.อังคณาระบุ

นายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา สว.กลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์อื่น กล่าวว่า ไม่ได้รับการติดต่อให้สนับสนุนหรือโหวตให้กับบุคคลใดตามที่มีชื่อปรากฏในสื่อมวลชน มองว่าบุคคลที่จะทำหน้าที่เป็นประมุขสภาสูงนั้น ต้องเป็นคนที่มีความรู้ และที่สำคัญต้องไม่แบ่งสีต่างๆ ไม่ควรเกิดขึ้น สว.ที่ได้รับเลือกเข้ามาทำหน้าที่ต้องเป็น สว.ที่ทำงานเพื่อชาติ เพื่อประชาชน ไม่อยากให้ สว.ถูกย้อมสี แต่ยอมรับว่าจากการที่มีการออกข่าวมี สว.หลายคนไม่สบายใจ และเห็นร่วมกันว่าเพื่อแสดงจุดยืนต่อสังคมและเพื่อเรียกความศรัทธาเชื่อมั่นของสภาสูงต่อประชาชน ซึ่งตนเตรียมแถลงข่าวก่อนการเปิดประชุมวุฒิสภาเพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้สภาสูง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีการประกาศตัวชัดเจน เช่น ส.ว.พันธุ์ใหม่ จะทำให้เป็นภาพแบ่งแยกหรือไม่ นายยุคลกล่าวว่า เชื่อว่ากลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ ที่นำโดยนางนันทนา จะคำนึงถึงการทำงานเพื่อประชาชน และจะหลอมรวมร่วมทำงานด้วยกันได้ ส่วนแคนดิเดตประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภา อยากให้ผู้ที่ถูกเสนอชื่อได้แสดงวิสัยทัศน์ เพื่อแสดงให้ สว.ได้เห็นก่อนลงมติ เพื่อให้การตัดสินใจเลือกนั้น เป็นไปโดยการตัดสินใจของ สว. ไม่ใช่เกิดจากการชี้นำ และที่สำคัญต้องสลายสี 

"เราต้องไม่มีพรรคการเมือง เราเป็นสมาชิกวุฒิสภาของประเทศไทย ทุกคนล้วนมีประสบการณ์ ดังนั้นต้องทำงานเพื่อส่งไม้ต่อให้ลูกหลานต่อไป เป็นสภาสีขาวของประเทศแท้จริง ไม่มีพรรค" นายยุคลกล่าว

'ธนาธร' ฝากแก้ไข รธน.

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข้อครหาต่างๆ ต่อ สว.ชุดใหม่ว่า มองเหมือนที่สังคมเห็น แต่เขาก็มาตามระบอบ ถามว่าน่าชื่นชมหรือไม่ ก็ไม่ มีเพียงบางคนที่ยอมรับได้ เช่นเรื่องวุฒิการศึกษา และจริงๆ สภาสูงต้องเป็นที่ยอมรับ เคารพนับถือของประชาชน ต้องเป็นกลางทางการเมือง แต่ที่เราเห็นก็เหมือนที่ประชาชนเห็นและพิจารณา ก็ไม่สบายใจ แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อเขามาตามระบบนี้ มาตามรัฐธรรมนูญ แต่ก็ดีที่มีหลายฝ่ายยื่นตรวจสอบ ซึ่งก็ต้องว่าไปตามกระบวนการ

เมื่อถามถึงกรณีการเลือกประธานวุฒิสภาที่หลายฝ่ายก็หวังจะได้เก้าอี้นั้น นายวิสุทธิ์กล่าวว่า เป็นธรรมดาของมนุษย์ และทางการเมืองที่มีการต่อสู้แย่งชิงกัน แต่ไม่ขอไปยุ่งเกี่ยวอะไรด้วย ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ทั้งนี้ ต้องเป็นกลางทางการเมือง มีความรอบคอบในด้านข้อกฎหมายต่างๆ ที่สำคัญประธานวุฒิสภาเป็นหัวหลักในการที่จะเลือกองค์กรอิสระทั้งหลาย ขอให้ได้คนที่เป็นที่ยอมรับของสังคม ส่วนการจะประสานกับ สส. ไม่มีปัญหา เพราะในส่วนนี้เราต้องว่ากันไปตามข้อบังคับสภา

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ถึงความพอใจในการได้มาของ สว.ว่า เท่าที่ดูก็เห็นผู้ที่ได้รับการไว้วางใจให้เป็น สว. ที่มีความสนใจวาระประชาธิปไตย ฝักใฝ่ประชาธิปไตยหลายคน ถือว่าผลเป็นที่น่าพอใจ ส่วนความคาดหวังจาก สว.ชุดนี้ มีหลายเรื่อง ประการแรก เป็นเรื่องของการแต่งตั้งบุคลากรที่จะไปดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระต่างๆ ซึ่งทาง สว.ชุดนี้จะแต่งตั้งทั้ง กสทช., ป.ป.ช., กกต., อัยการสูงสุด, ศาลรัฐธรรมนูญ มีความสำคัญต่อการพัฒนาประชาธิปไตย ต่อการพัฒนาประเทศทั้งนั้น

 “เราไม่ต้องการเห็น สว.ที่แต่งตั้งคนของสีส้มสีน้ำเงิน สีนู้นสีนี้เข้าไป เราอยากเห็นการแต่งตั้งคนที่มีจิตใจรักความเป็นธรรม รักความยุติธรรมเข้าไปดำรงตำแหน่งสำคัญ การที่บุคลากรสำคัญเข้าไปดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระต่างๆ กลับมาตั้งมั่นบนหลักการที่ถูกต้อง กลับมาตั้งมั่นบนหลักการของความเป็นธรรม จะเป็นจุดเริ่มต้นของการที่ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้"

นายธนาธรย้ำว่า อยากฝาก สว.ชุดใหม่ เรื่องการผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญ อยากจะเสนอว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จุดเริ่มต้นจะต้องมีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนทั้งหมด เป็นการยืนยันจุดยืนที่สำคัญว่าอำนาจสูงสุดในประเทศนี้เป็นของประชาชน ถือเป็นประเด็นสำคัญที่จะยืนยันว่าประเทศนี้อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนจริงหรือไม่ ส่วนคุณสมบัติประธานวุฒิสภา ต้องเป็นธรรม เป็นกลาง เป็นการเปิดพื้นที่ให้กับทุกฝ่ายได้นำเสนอความเห็นอย่างเท่าเทียมกัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เคาะแล้ว! ประชุม สว. นัดแรก 23 ก.ค. เลือก 3 เก้าอี้สภาสูง วางตัว 'ปธ.ชั่วคราว'

น.ส.นภาภรณ์ ใจสัจจะ เลขาธิการวุฒิสภา เปิดเผยว่า ขณะนี้มีสมาชิกวุฒิสภา (สว.) มาแสดงตนแล้ว 198 คน ซึ่งคาดว่าอีก 2คน จะมาแสดงตนในช่วงบ่ายของวันนี้