"ทักษิณ" เหยียบถิ่นภูมิใจไทย ก่อนลงพื้นที่สุรินทร์ "รมต.-แกนนำเพื่อไทย" แห่รับถึงเครื่องบินตามประกบตลอดทริป "เสื้อแดง" พรึ่บ รุมผูกผ้าขาวม้าชูป้ายนายกฯ ในดวงใจ "นายใหญ่เพื่อไทย" ยันหลัง ส.ค. เห็นผลงานรัฐบาล “ราชทัณฑ์” เตรียมออกใบบริสุทธิ์ "น.ช.เทวดา" พ้นโทษเดือนหน้า “เศรษฐา" ทัวร์เชียงรายวันสุดท้าย โปรยยาหอมลุย พ.ร.บ.ชาติพันธุ์จบ ก.ค. ใช้เวลาพิสูจน์สัญชาติแค่ 5 วัน ก่อนลุยสระแก้ว จี้ศุลกากรเร่งสร้างด่านบ้านหนองเอี่ยน ทันประชุม "มินิ ครม.ไทย-กัมพูชา” ปีหน้า
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางโดยเครื่องบินถึงท่าอากาศยานบุรีรัมย์ โดยจะเดินทางไปยังวัดสุวรรณวิจิตร ต.กังแอน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เพื่อเป็นประธานอุปถัมภ์ โครงการบรรพชา-อุปสมบทพระ 334 รูป ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทั้งนี้ มีบรรดารัฐมนตรี อาทิ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย, นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.พรรคเพื่อไทย รอให้การต้อนรับถึงเครื่องบิน
ทันทีที่เข้ามาในอาคาร มีกลุ่มวัยรุ่นเพื่อไทย สตึกบุรีรัมย์ ให้การต้อนรับ โดยผูกผ้าขาวม้าให้นายทักษิณ พร้อมระบุว่า "ท่านเป็นนายกฯ ในดวงใจ" รวมทั้งมีแกนเสื้อแดงคนหนึ่งมอบ "ตะขอช้าง" ที่ได้รับการปลุกเสกให้กับอดีตนายกฯ ซึ่งนายทักษิณได้ควักเงินให้กับคนที่มอบให้เพื่อเป็นการตอบแทน นอกจากนี้ ยังมีประชาชนที่มาใช้บริการสนามบินเดินเข้ามาขอถ่ายรูปกับนายทักษิณจำนวนมาก
สำหรับจังหวัดบุรีรัมย์ ถือเป็นพื้นที่ของบ้านใหญ่ตระกูลชิดชอบ ฐานเสียงสำคัญของพรรคภูมิใจไทย ต่อมา นายทักษิณเดินทางถึงวัดสุวรรณวิจิตร จังหวัดสุรินทร์ โดยทันทีที่มาถึงมีกลุ่มคนเสื้อแดงจังหวัดสุรินทร์และพื้นที่ภาคอีสานใต้ ได้มอบช่อดอกไม้ ดอกกุหลาบ ตะขอช้างเสริมอำนาจบุญและบารมีให้กับนายทักษิณ พร้อมป้ายเชียร์ที่มีข้อความ อาทิ นายกฯ ในดวงใจ แฮปปี้เบิร์ธเดย์ 26 กรกฎาคม 2567, คิดฮอดหลายนายกฯ ของคนอีสาน ทั้งนี้ นายทักษิณได้เซ็นชื่อในหนังสือเก่าให้กับคนเสื้อแดงที่มาขอลายเซ็นด้วย
โดยภายหลังเสร็จสิ้นพิธีอุปสมบทฯ นายทักษิณได้กล่าวกับประชาชนที่มาร่วมงานว่า วันนี้รู้สึกมีความสุข มาด้วยความเต็มใจ สุขใจอย่างยิ่ง ที่มาร่วมบุญใหญ่ ขอให้ทุกท่านที่อยู่บริเวณนี้ได้รับบุญกุศลร่วมกัน เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งบรรดาเณรที่กำลังบวชอยู่ ขอให้ถึงวันที่ 28 กรกฎาคม อย่าเพิ่งสึก และร่วมกันสวดชยันโต ถวายความจงรักภักดีและเพื่อความเป็นสิริมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะวันที่ 28 เป็นวันสำคัญของคนไทยทั้งประเทศ
หลัง ส.ค.เห็นผลงานรัฐบาล
นายทักษิณกล่าวว่า ห่างจากประเทศไทยไป 17 ปี ปราศรัยไม่ค่อยเป็นแล้ว แต่มีความห่วงใย และผูกพันกับแผ่นดินไทย กับพี่น้องคนไทยตลอดเวลา ไม่เคยลืม วันนี้ขอให้ทุกคนร่วมอนุโมทนาบุญ กุศลใหญ่นี้ ขอให้ทุกท่านและครอบครัวได้พ้นบ่วงแห่งหนี้สิน มีโอกาสที่จะตั้งตัว
"ผมเชื่อว่าหลังจากเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป รัฐบาลคงจะทำงานเป็นรูปธรรมออกมา เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ เราต้องให้ความมั่นใจ และเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน ให้แข็งแรง วันนี้เป็นงานบุญ เราเริ่มต้นทำจิตใจให้ผ่องใส สมองจะได้ผ่องใส แก้ปัญหาของทุกคนได้ ขอให้ทุกคนมีความสุขความเจริญ สุขภาพแข็งแรง คิดหวังสิ่งใดสมความปรารถนา" นายทักษิณระบุ
จากนั้นนายทักษิณได้เดินพบปะพี่น้องประชาชนที่มาร่วมงาน โดยหลายคนเข้ามารุมล้อม สวมกอด ขอถ่ายรูปและมอบดอกกุหลาบให้ มีจังหวะหนึ่ง แฟนคลับพยายามที่จะหอมแก้มนายทักษิณ แต่เจ้าหน้าที่ได้ห้ามไว้ทัน เนื่องจากกังวลเรื่องปัญหาสุขภาพ
ก่อนเดินทางกลับ นายทักษิณได้เป็นเจ้าภาพในการถวายภัตตาหารแด่เหล่าพระภิกษุสงฆ์และสามเณรที่บวชใหม่วันนี้ พร้อมกันนี้ได้มอบปัจจัยให้พระและเณรที่บวชใหม่รูปละ 10,000 บาท 334 รูป รวมเป็นเงิน 3,340,000 บาท
ที่กระทรวงยุติธรรม นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกระแสข่าวกรณีเรือนจำ/ทัณฑสถานทั่วประเทศ เริ่มสำรวจคัดกรองรายชื่อผู้ต้องขังที่มีเกณฑ์อาจได้รับการพระราชทานอภัยโทษ หากมีพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษเป็นการทั่วไป เนื่องในวันมหามงคลของไทยว่า ยืนยันว่าในตอนนี้ราชทัณฑ์ยังไม่ได้มีการมอบหมายให้เรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศดำเนินการสำรวจรายชื่อผู้ต้องขัง เพราะจะเริ่มทำได้ต่อเมื่อมีการประกาศพระราชกฤษฎีกา ซึ่งราชทัณฑ์ไม่สามารถทำก่อนได้ เพราะเป็นเรื่องของพระราชอำนาจ อย่างไรก็ต้องรอกฎหมายออกมาก่อน ซึ่งเป็นส่วนรับผิดชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ส่วนกรณีของนายทักษิณ ซึ่งอยู่ระหว่างการถูกคุมความประพฤติ 6 เดือนนั้น อธิบดีกรมราชทัณฑ์เผยว่า นายทักษิณจะครบกำหนดการพักโทษในเดือน ส.ค.นี้ โดยราชทัณฑ์จะดำเนินการออกใบบริสุทธิ์ให้กับอดีตนายกฯ ซึ่งกรมคุมประพฤติจะเป็นหน่วยงานรับเอกสารดังกล่าวเพื่อประสานกับผู้ถูกคุมประพฤติ และเมื่อครบกำหนดพักโทษนายทักษิณไม่ต้องมาที่ราชทัณฑ์อีกแล้ว ให้ได้รับการปล่อยตัวจากสถานที่ที่อาศัยอยู่ในปัจจุบัน หรือเรียกว่าเป็นผู้พ้นโทษได้รับการปล่อยตัวตามกฎหมายได้เลย
วันเดียวกัน เวลา 09.30 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายเป็นวันที่ 3 โดยเดินทางพร้อมกับ น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช สส.เชียงราย ลงพื้นที่ บ.โป่งป่าแขม อ.แม่จัน ทันทีที่มาถึงตัวแทนชนเผ่าได้มอบเสื้อชนเผ่าอิ้วเมี่ยน หรือเย้า ให้กับนายกฯ ซึ่งนายเศรษฐาได้สวมเสื้อดังกล่าวทันที
จากนั้นผู้นำชุมชนได้ต้อนรับตามประเพณีของชนเผ่า พร้อมเชิญนายกฯ และคณะเข้าบ้านเพื่อจิบชาต้อนรับตามประเพณี ซึ่งอาหารที่ต้อนรับประกอบด้วยข้าวปุกงา หรือโมจิดอย ซึ่งถือเป็นขนมจากสวรรค์ โดยผู้นำชุมชนหรือพ่อหลวงกล่าวว่า เป็นเกียรติ ซึ่งหมู่บ้านนี้อยู่มา 70 ปี เพิ่งมีผู้นำมาเยี่ยมถึงหมู่บ้าน และขออวยพรให้เป็นนายกฯ ไปนานๆ ทั้งนี้ นายเศรษฐาได้พูดคุยแลกเปลี่ยนปัญหาในพื้นที่ โดยผู้นำชุมชนได้สะท้อนถึงปัญหาว่าชนเผ่าชาติพันธุ์ในพื้นที่ 77,729 ราย มี 19,432 ราย ไม่มีสัญชาติ ทำให้ถูกจำกัดสิทธิ์ ขณะที่เรื่องของสาธารณูปโภคพบว่าบางหมู่บ้านยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ส่วนระบบสาธารณสุข ในส่วนของโรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง อยากให้มีการเพิ่มบุคลากรโรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง
สัญญาพิสูจน์สัญชาติ 5 วันจบ
ด้านนายเศรษฐากล่าวกับชาวบ้านว่า ภายใต้การผลักดันของ น.ส.ปิยะรัฐชย์ ที่มีความมุ่งมั่นในการผลักดันร่างพระราชบัญญัติชาติพันธุ์ที่ให้ความสำคัญเรื่องของสิทธิขั้นพื้นฐานเรื่องของสัญชาติ ซึ่งรัฐบาลสัญญาว่าจะให้การพิสูจน์ทราบสัญชาติให้จบภายใน 5 วัน ไม่ใช่ 180 วัน คาดว่าจะพิจารณากฎหมายจบได้ภายในเดือน ก.ค.นี้ ขอพูดไว้เลยว่าการดูแลพี่น้องชาติพันธุ์ต้องได้รับความเสมอภาคเท่าเทียม ไม่แบ่งแยก ส่วนโรงพยาบาลที่ไม่เพียงพอ รัฐบาลพยายามจัดสรรงบประมาณดูแลให้ทั่วถึง ส่วนเรื่องของไฟฟ้ายืนยันได้เลยว่าจะจัดการให้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเดินทางจากอำเภอแม่จัน เพื่อมายังสนามบินแม่ฟ้าหลวง นายเศรษฐาได้แวะให้กำลังใจ พร้อมมอบอาหารและน้ำดื่ม รวมอุปกรณ์ที่ใช้ทำงาน ให้เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังผาเมืองที่จับยาบ้าได้ช่วงค่ำวันที่ 13 ก.ค. ที่อำเภอเชียงแสน จำนวน 8 ล้านเม็ด พร้อมกำชับให้ใช้ความระมัดระวังอย่าประมาทในการเข้าจับกุม และขอเป็นกำลังใจให้เจ้าที่ทุกคนดูแลตัวเองดีๆ
ต่อมาเวลา 13.00 น. นายกฯ เดินทางโดยเครื่องบินกองทัพอากาศมาถึงท่าอากาศยานทหาร กองบิน 3 ต.ห้วยโจด อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว เพื่อเป็นประธานพิธีเปิดโครงการยกระดับโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช โรงพยาบาลชุมชนเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลชัยพัฒน์ และหน่วยบริการปฐมภูมิ 72 แห่ง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ ศูนย์สุขภาพชุมชนเขตเมืองโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว อ.เมือง จ.สระแก้ว
หลังเสร็จสิ้นพิธีเปิดโครงการฯ นายเศรษฐาได้ตรวจวัดความเครียดภายในคลินิกหมอครอบครัวตำบลสระแก้ว พบว่ามีความเครียดนิดหน่อย อาจจะเกิดจากความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง แต่สามารถควบคุมได้
จากนั้นนายเศรษฐาได้ประชุมหารือร่วมกับส่วนราชการ เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งเรื่องความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารจุดผ่านแดนถาวรบ้านหนองเอี่ยน โดยนายกฯ กำชับให้กรมศุลกากร เร่งสร้างด่านตามกำหนดที่เหลืออีก 1 ปี เพื่อปีหน้าจะได้มีการจัดประชุมมินิ ครม.ไทย-กัมพูชา ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการหารือกับสมเด็จฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาไว้แล้ว ทั้งนี้ได้มีการคาดโทษ พร้อมให้รัฐมนตรีติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบตัวเลขออกมาไม่ประทับใจ ฝากฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจกวดขันเพิ่มขึ้นด้วย ส่วนปัญหายาเสพติดยังมีบ้าง แต่ไม่รุนแรงเท่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้เฝ้าระวัง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปลุกเที่ยวเหนือ สั่งเยียวยาเพิ่ม ฟื้นพื้นที่น้ำท่วม
นายกฯ อิ๊งค์แต่งตัวรับลมหนาว ฟุ้งไทยแม้หนาวไม่มากแต่มีกิจกรรมให้ทำยาวทุกจังหวัดตั้งแต่ พ.ย.ปีนี้ถึง ม.ค.ปีหน้า
DSIชี้ไอคอนแชร์ลูกโซ่ พปชร.ลากไส้เพื่อไทย
คกก.กลั่นกรองดีเอสไอฟันคดี “ดิไอคอนกรุ๊ป” ผิดแชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.คอมพ์
คลังให้การบ้านธปท.หนุนศก.
“พิชัย” ฟุ้งถก "ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ" ฉลุย ไม่ติดกรอบเงินเฟ้อ 1-3%
มติพท.ชงนิรโทษไม่รวม112
"พท." เคาะมติเห็นพ้องเสนอร่าง กม.นิรโทษกรรมประกบ หวังสร้างสมานฉันท์
ตากใบคาใจคนใต้! บี้เอาผิดปล่อยหมดอายุความ/‘อิ๊งค์’ขึงขังฟันขรก.หนีคดี
นายกฯ ทำขึงขังขอดูระเบียบยึดบำเหน็จบำนาญ ขรก.เอี่ยวคดีตากใบ
อปท.ฟื้นแม่สาย อิ๊งค์จ่อลงพื้นที่ ถก‘ครม.สัญจร’
"ศปช." ย้ำไม่หยุดฟื้นฟูส่ง "แม่สาย" ให้ อปท.ลุยต่อ “บิ๊กอ้วน” นำทีม ศปช.ส่วนหน้าคืนรอยยิ้มให้ชาวเชียงราย