มะกันช็อกโลก! มือปืนวัย 20 ปีลอบสังหาร “ทรัมป์” บนเวทีปราศรัยที่เมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย กราดยิงจนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เจ็บ 2 ราย อดีตประธานาธิบดีฮึดยกกำปั้นโชว์ขณะการ์ดหิ้วลงเวที “ผู้นำโลก” ร่วมประณามความรุนแรง “เศรษฐา” รับตกใจ แต่เชื่อมั่นการอารักขาไทยดีไม่ต้องปรับปรุง
เมื่อวันอาทิตย์ สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 13 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐอเมริกา เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในระหว่างการปราศรัยหาเสียงเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ โดยโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ถูกลอบยิงในระหว่างปราศรัย เกี่ยวกับปัญหาคนลักลอบเข้าประเทศ ที่เมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย
ตามรายงานระบุว่า ระหว่างทรัมป์ปราศรัยได้ยินเสียงคล้ายปืนก็ดังขึ้น ก่อนที่ทรัมป์จะเอามือกุมใบหูขวา และเห็นได้ชัดว่าที่ใบหน้ามีเลือดบริเวณแก้มและปาก ซึ่งในทันใดนั้นเจ้าหน้าที่อารักขาเข้ามาช่วยนำตัวทรัมป์ออกจากเวที ท่ามกลางเสียงร้องจากฝูงชน และเมื่ออดีตประธานาธิบดีกำลังถูกนำตัวลงจากเวที ยังหันกลับมาชูกำปั้นให้กล้อง ก่อนเสียงเชียร์ได้ดังขึ้น ในเวลาต่อมาขบวนรถของทรัมป์ก็ออกจากสถานที่ปราศรัยไปโรงพยาบาลทันที
ต่อมามีรายงานว่า มือปืนถูกยิงเสียชีวิตโดยเจ้าหน้าที่ และมีผู้ร่วมเวทีหาเสียงเสียชีวิตอีก 1 คน ผู้อยู่ในเหตุการณ์บาดเจ็บอีก 2 ราย
ต่อมาทรัมป์ให้ข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดีย Truth Social ของตนเองระบุว่า “ผมอยากจะขอบคุณหน่วยสืบราชการลับของสหรัฐอเมริกาและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั้งหมด สำหรับการตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อเหตุกราดยิงที่เพิ่งเกิดขึ้นในบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย สิ่งสำคัญที่สุดคือผมต้องการแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของบุคคลที่เข้าร่วมการชุมนุมที่ถูกสังหารและครอบครัวของบุคคลอื่นที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่การกระทำเช่นนี้จะเกิดขึ้นในประเทศของเราได้ ขณะนี้ยังไม่มีใครทราบเกี่ยวกับมือปืน ซึ่งขณะนี้เสียชีวิตแล้ว ผมถูกยิงด้วยกระสุนเจาะหูข้างขวา และรู้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติที่ได้ยินเสียงหวีดร้อง กระสุนปืน รวมทั้งรู้สึกถึงกระสุนทะลุผิวหนังทันทีเลือดออกมา จึงตระหนักว่าเกิดอะไรขึ้น พระเจ้าอวยพรอเมริกา!”
ล่าสุดมีรายงานว่า ทรัมป์ออกจากโรงพยาบาลท้องถิ่นแล้ว หลังเข้ารับการตรวจร่างกายหลังเกิดเหตุ โดยเขาจะเข้าร่วมการประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกันที่จะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตามกำหนดการเดิม
เควิน โรเจค เจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนเป็นคดีพยายามลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเอฟบีไอและหน่วยอื่นๆ กำลังเก็บรวบรวมพยานหลักฐานและสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเจ้าหน้าที่ไม่รู้ว่ามีคนอยู่บนหลังคาอาคารใกล้เวทีหาเสียงของนายทรัมป์ กระทั่งเกิดเสียงปืนดังขึ้น ทั้งการแถลงข่าวเอฟบีไอไม่ได้เปิดเผยรายชื่อมือปืนและมูลเหตุจูงใจ เพราะเจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนอย่างเข้มข้น
ต่อมาเอฟบีไอออกแถลงการณ์ว่า บุคคลซึ่งก่อเหตุลอบยิงเพื่อพยายามสังหารทรัมป์ คือนายโธมัส แมทธิว ครูกส์ วัย 20 ปี เป็นชาวเมืองเบเธลพาร์ก ในรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฯ ในที่เกิดเหตุ
ขณะที่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งอยู่ระหว่างพักผ่อนที่บ้านพักในรัฐเดลาแวร์ แถลงข่าวที่สถานีตำรวจท้องถิ่นว่า ได้รับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และจะโทรศัพท์สนทนากับทรัมป์ เขายินดีที่ทราบข่าวว่าทรัมป์ปลอดภัย ขอพระเจ้าคุ้มครองนายทรัมป์และครอบครัว รวมทั้งประชาชนทุกคนที่อยู่ในงานปราศรัยหาเสียง
ไบเดนกล่าวด้วยว่า สหรัฐไม่ยอมให้เกิดเหตุรุนแรงเช่นนี้ ทุกคนจะต้องร่วมใจกัน ไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น และต้องประณามเหตุที่เกิดขึ้น
ขณะที่บรรดาผู้นำโลก และผู้นำทางการเมืองพากันแสดงความกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต่างโพสต์ข้อความแสดงความเห็น และประณามเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นผ่านสื่อโซเชียล โดยเซอร์เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษระบุว่า รู้สึกตกใจต่อเหตุการณ์ในการชุมนุมของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ เราขอส่งความปรารถนาดีให้เขาและครอบครัว ความรุนแรงทางการเมืองไม่ว่าในรูปแบบไหนก็ตาม จะไม่มีในสังคมเรา และผมขอแสดงความเสียใจต่อเหยื่อของเหตุการณ์การโจมตีครั้งนี้
ด้านนิเกล ฟาเรจต์ พันธมิตรใกล้ชิดทรัมป์และผู้นำพรรคปฏิรูปอังกฤษ เขียนบน X ว่า “สื่อกระแสหลักต่างพากันนำเสนอเรื่องราวความเกลียดชังที่มีต่อโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อนของผม และผมหวังว่า พวกเขาจะภูมิใจในผลงานตัวเอง คนน่ารังเกียจ”
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล โพสต์บน X ว่า “ซาราและผมรู้สึกตกใจกับเหตุโจมตีอดีตประธานาธิบดีทรัมป์อย่างโจ่งแจ้ง เราขอให้เขาปลอดภัยและฟื้นอาการบาดเจ็บโดยเร็ว"
วิกเตอร์ ออร์บัน นายกรัฐมนตรีฮังการี ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดทรัมป์ และเพิ่งได้พบปะกันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ได้โพสต์ข้อความว่า “ผมขอส่งกำลังใจและขอให้อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ผ่านพ้นช่วงเวลามืดมนเช่นนี้
แอนโทนี แอลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย โพสต์ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในงานหาเสียงของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ที่รัฐเพนซิลเวเนีย เป็นเรื่องน่ากังวลและเผชิญหน้า ไม่มีพื้นที่ให้กับความรุนแรงในกระบวนประชาธิปไตย และรู้สึกโล่งอกที่ได้ยินว่าอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ปลอดภัยแล้ว
ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้รับทราบเหตุการณ์แล้วจากการติดตามสถานการณ์ด้วยตนเอง ถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้า ไม่มีที่ไหนทำแบบนี้อีกแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องน่าตกใจ คือเพิ่งเริ่มการแข่งขัน และรัฐเพนซิลเวเนียเป็นฐานเสียงของพรรครีพับลิกัน ก็เป็นเรื่องที่น่าตกใจไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก หวังว่าท่านจะปลอดภัย
เมื่อถามว่า มาตรการรักษาความปลอดภัย ของนายกรัฐมนตรีไทยจะมีการเพิ่มมาตรการในการลงพื้นที่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ประเทศเรากลับประเทศเขามันต่างกัน เชื่อว่าระบบรักษาความปลอดภัยของเราดีพออยู่แล้ว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคงแล้วกัน
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ โพสต์ผ่าน X ระบุว่า “ผมเป็นห่วงการโจมตีสะเทือนขวัญในการหาเสียงของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ เราขอประณามการยิงดังกล่าวและความรุนแรงทุกรูปแบบ ผมขอให้อดีตประธานาธิบดีปลอดภัยและฟื้นตัวโดยเร็ว ขอส่งความระลึกถึงและสวดภาวนาให้กับครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากการโจมตีนี้ทุกคน”.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘เอวา ลองโกเรีย’ หันหลังให้กับสหรัฐฯ หลังชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์
ในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง เอวา ลองโกเรีย สนับสนุนกมลา แฮร์ริสอย่างเสียงดังฟังชัด กระทั่งหลังการเลือกตั้งซึ่งโดนัลด์
ชูศักดิ์ดิ้นหนัก ลุยล็อบบี้กมธ. ปั้นกม.การเงิน
“นายกฯ อิ๊งค์” บอกไม่ได้จบกฎหมายมา โยน “ชูศักดิ์” ดูแลเรื่องรัฐธรรมนูญ
‘18บอส’นอนตะรางยาว! สายไหมไม่รอดเจอข้อหา
18 บอสดิไอคอนนอนคุกยาว ดีเอสไอยื่นฝากขังผัด 4 พ่วงแจ้งข้อหาใหม่โทษหนักคุก 10 ปี
อิ๊งค์ข้องใจแสนชื่อเลิก‘MOU44’
“หมอวรงค์” นำกลุ่มคนคลั่งชาติยื่น 104,697 รายชื่อร้องยกเลิกเอ็มโอยู 44
ปชน.ขนทัพใหญ่ หาเสียงทิ้งทวน! หวังปักธง‘สีส้ม’
“ปชน.” ปูพรมโค้งสุดท้าย ขนทัพใหญ่ดาวกระจาย 6 สายทั่วพื้นที่ “ปิยบุตร” ขอโอกาสปักธงสีส้ม “พิธา” เชื่อคะแนนยังสูสี พรรคประชาชนมีโอกาสพลิกชนะ
ทวีโยงคาร์บ๊องป้องแม้วพักชั้น14
ตามคาด "ทักษิณ" ไม่เข้าชี้แจง กมธ.ปมนักโทษชั้น 14 "ทวี" แจงแทน