ตีปี๊บชิงประธานสว. บิ๊กเกรียงหนักใจ ‘บุญส่ง’พร้อมนั่ง อังคณาขอโควตา

"สว.ป้ายแดง" เข้ารับหนังสือรับรองครบ 200 คน แต่ไปรายงานตัวสภา 186 คน  ขาดกลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่อีก 14 คน หลัง "นันทนา"  นัดไปพร้อมกัน 15 ก.ค. "พล.อ.เกรียงไกร" บอกหนักใจถูกเสนอชื่อชิง "ประธานวุฒิสภา" ออกตัวตั้งใจมาทำงานมั่นคงชายแดนใต้ ปัดมีการเมืองหนุนหลัง "บุญส่ง" สนนั่ง "ประมุขสภาสูง" ลั่นมีประสบการณ์ "เปรมศักดิ์" เปิดตัวกลุ่ม "สว.สีขาว"  ยันไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อต่อรองตำแหน่งหรือผลประโยชน์ "อังคณา" ขอโควตาให้ผู้หญิง 1 ตำแหน่ง "เลขาฯ กกต." โพสต์ยื่นตรงนี้ยากจะบอก แต่พร้อมยิ้มรับ "สนธิญา" ร้องสอบ สว.หลายราย

เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดให้ สว. 200 คน ที่ประกาศรายชื่อเป็น สว. เข้ารับหนังสือรับรองเพื่อนำไปรายงานต่อรัฐสภา ต่อจากวันที่ 11 ก.ค. ที่มี สว.มารับหนังสือแล้ว 173 คน โดยปรากฏว่าตั้งแต่เวลา 08.30 น. มี สว.ทยอยเดินทางมารับเอกสารรับรองอย่างต่อเนื่องกว่า 20 คน ในจำนวนนี้คือ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ สว. กลุ่ม 1 บริหารราชการแผ่นดิน ที่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน เนื่องจากมีกระแสข่าวถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภาด้วย จนผ่านครึ่งวันเหลือ สว.อีกเพียง 7  คนเท่านั้นก็จะครบ 200 คน ตามที่ กกต.ได้ประกาศรับรอง

จากนั้นช่วงบ่าย สว.อีก 7 คนได้เดินทางเข้ามารับหนังสือรับรองจนครบทั้ง 200 คนแล้ว แบ่งเป็นวันแรก รับหนังสือรับรองแล้ว 173 คน และวันนี้อีก 27 คน โดยนายณภพ สายวิเศษกุล สว.กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจ หรืออาชีพด้านการท่องเที่ยว กลุ่มที่ 11 มารับหนังสือรับรองเป็นสุดท้ายในเวลา 14.20 น.

พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ สว.กลุ่ม 1 กลุ่มบริหารราชการแผ่นดิน กล่าวถึงกระแสข่าวจะได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภาว่า มีความหนักใจ และต้องขอขอบคุณสื่อที่เสนอว่าตนเป็น 1 ในแคนดิเดตประธานวุฒิสภา แต่ความตั้งใจที่ตนเข้ามาสมัครรับเลือกเป็น สว. อยากทำงานทางด้านความมั่นคงในเรื่องของการด้านทหาร โดยเฉพาะชายแดนภาคใต้ จะเอาประสบการณ์องค์ความรู้ที่มีไปแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้  

ถามว่า ในการเลือกประธานวุฒิสภามีประเด็นเรื่อง สว.กลุ่มสีสู้กับกลุ่มอิสระมองอย่างไร พล.อ.เกรียงไกรกล่าวว่า ทุกคนมีโอกาส ทุกคนเป็นผู้มีองค์ความรู้ หลากหลายกลุ่มอาชีพทั้ง 20 กลุ่ม เราจะเห็นว่ากระบวนการเลือก สว.ที่ผ่านมา ที่กำหนดมาใน 20 กลุ่มอาชีพ เป็นกลุ่มอาชีพที่มีความหลากหลายและมีประสบการณ์ในอาชีพของตนเอง ที่ก้าวเข้ามาดูแลอาชีพของตนเอง ในบริบทของการเป็น สว.

ซักว่ามองการทำงานของ สว.ใหม่  200 คนจะเป็นอย่างไร พล.อ.เกรียงไกรกล่าวว่า ความหลากหลายใน 20 กลุ่มอาชีพ ทำให้มีการได้เปรียบในเชิงการปฏิบัติของผู้คนที่มีประสบการณ์ สามารถที่จะนำมาสู่กระบวนการกลั่นกรองการทำงานของสมาชิกวุฒิสภา

เมื่อถามว่า มีข้อกังขาในเรื่อง สว.จัดตั้งจะเป็นอุปสรรคและปัญหาของการทำงานของ สว.ชุดนี้หรือไม่ พล.อ.เกรียงไกรกล่าวว่า เราต้องขอมองกลับไปว่าการที่เกิดปัญหาการฮั้วมีกันทุกกลุ่ม เราก้าวเข้ามาด้วยห้วงเวลาที่จำกัด ไม่มีกระบวนการในการหาเสียง และเราก็ได้ใช้การพูดคุย การรวมกลุ่มกัน ให้ได้นำเสนอโอกาสของตัวเองหรือผลงานในช่วงที่ผ่านมา และได้มีการจับกลุ่มคุยกัน ซึ่งเป็นปกติ ในส่วนที่มีมุมมองต่างๆ ก็เป็นเรื่องของมุมมอง ความคิดเห็นที่มีความแตกต่างกันออกไป ก็ไม่เป็นไร ให้อยู่ในกระบวนการตรวจสอบ

"เรื่องกินรวบตำแหน่งประธานและรองประธานวุฒิสภานั้น ต้องมาดูกันในวันที่เปิดการประชุมว่าบริบทตรงนี้จะเป็นอย่างไร ผมคิดว่าอย่างไรก็แล้วแต่ ในเรื่องของกระบวนการประชาธิปไตยในเรื่องของการยอมรับในเสียงส่วนมากในการลงมติ แต่ก็ไม่เพิกเฉยต่อเสียงส่วนน้อย ก็ต้องฟังเสียงส่วนน้อยในข้อท้วงติง และแนะนำข้อเสนอเพื่อนำไปสู่เป้าหมาย" พล.อ.เกรียงไกรกล่าว

เมื่อถามว่า หากมีการเสนอชื่อให้ลงชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภาจะทำอย่างไร พล.อ.เกรียงไกรกล่าวว่า แล้วแต่สมาชิกแต่ละคน ส่วนในความคิดของตนต่อผู้ที่จะเป็นประธานวุฒิสภา จะต้องมีความรอบรู้ทางด้านกฎหมาย มีวุฒิภาวะ และเป็นที่ยอมรับ

"ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเสนอได้ทั้ง 200 คน เพราะมีโอกาสเป็นได้ทั้งนั้น และใน 200 คนส่วนตัวยังไม่ทราบว่ามีใครที่เคยเป็นวุฒิสภามาบ้างหรือไม่ แต่ส่วนใหญ่ก็คงยังไม่คุ้นเคยกับสภาทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ถือว่าเป็นบทบาทใหม่ ที่เราต้องเรียนรู้กันไป ในกฎระเบียบ ข้อบังคับ และหลักการทำงาน เราต้องศึกษาและเรียนรู้และดำเนินการ บางส่วนก็ได้มีการเตรียมการไปแล้วในหน้าที่บทบาทที่ตัวเองต้องทำ" พล.อ.เกรียงไกรกล่าว

พอถามว่า เสียใจหรือไม่ที่มีการนำเสนอข่าวเป็น สว.ที่มีสี พล.อ.เกรียงไกรกล่าวว่า ตนเป็นสีน้ำเงินเข้มอยู่แล้ว หมายถึงตนมาจากทหาร ยึดสถาบันพระมหากษัตริย์ยิ่งชีวิต ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สีแดง สีขาว สีน้ำเงิน และน้ำเงินแถบใหญ่มาก เป็นสีตรงกลางที่สำคัญมาก

สว.เหลือรายงานตัวสภา 14 คน

ที่รัฐสภา บรรยากาศการเปิดรับรายงานตัว สว.เป็นวันที่ 2 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยตั้งแต่ช่วงเช้ามี สว.ป้ายแดงทยอยเดินทางเข้ามารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาอย่างต่อเนื่อง อาทิ นายบุญส่ง น้อยโสภณ,พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง, พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์, นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ และนางอังคณา นีละไพจิตร สว. เป็นต้น ทำให้ยอด สว.ที่มารายงานตัวแล้ว 186 คน เหลืออีกเพียง 14 คน ก็จะครบทั้ง 200 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สว.ที่ยังไม่ได้เดินทางมารายตัวต่อสภา เป็นกลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่บางส่วน  นำโดยนางนันทนา นันทวโรภาส สว. จะเข้ารายงานตัววันที่ 15 ก.ค.นี้ หลังจากได้ให้สัมภาษณ์ว่าในช่วงเสาร์-อาทิตย์นี้จะรวมตัวกันเพื่อหารือถึงโควตาในตำแหน่งประธานวุฒิสภา  รวมถึงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการอีกด้วย

พล.อ.เกรียงไกรให้สัมภาษณ์อีกครั้งหลังเข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา  ปฏิเสธกระแสข่าวใกล้ชิดนักการเมืองว่า ตนไม่เคยเป็นสมาชิกพรรคการเมือง เป็นเพียงเพื่อนสนิทของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ตั้งแต่เรียนที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ตอนที่ตนประสบอุบัติเหตุ นายอนุทินก็เข้ามาดูแล รวมทั้งช่วงที่ลงสมัคร สว. ไปลาออกจากตำแหน่ง นายอนุทินยังตกใจเลย

ถามว่า ถูกมองเป็น สว.สีน้ำเงิน พล.อ.เกรียงไกรร้องอุทานว่า "โห" และกล่าวต่อว่า "ที่ท่านว่าผมเป็น สว.สีน้ำเงิน ผมสีน้ำเงินเข้ม เพราะชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ผมเทิดทูนด้วยชีวิต" พร้อมยืนยันว่า ไม่มีใครทาบทามให้ดำรงตำแหน่ง ขอบคุณมากที่สื่อให้ความไว้วางใจ ย้ำว่ายังว่างอยู่

ซักถึงกระแสข่าวมีการซื้อตัวหรือให้เงินเดือน  พล.อ.เกรียงไกรกล่าวว่า ไม่ได้รับการทาบทามติดต่อเลย

พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง สว.กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ยอมรับว่าขณะนี้ได้มีการพูดคุยภายในกลุ่มเกี่ยวกับการเลือกประธานวุฒิสภาบ้าง มีการประสานติดต่อเข้ามา หลายท่านก็มีความพร้อม ทั้งเรื่องคุณวุฒิและวัยวุฒิ  แต่หลังจากวันนี้ไปคงต้องมีการพูดคุยกัน เพื่อสรรหาคนที่มีความรู้ความสามารถ คนที่จะเป็นประธานวุฒิสภา ให้เป็นไปอย่างราบรื่น และให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ

ถามว่า มีใครเล็งในใจบ้างหรือไม่ พล.ต.ต.อังกูรกล่าวว่า มีบ้าง แต่ก็ต้องให้แต่ละคนออกมาแสดงวิสัยทัศน์ของตัวเองก่อน ในการที่จะมาทำงานร่วมกันและขับเคลื่อน เพื่อนำองค์กรนี้ไปสู่ความถูกต้องเรียบร้อย โดยถือประเทศชาติเป็นหลัก เนื่องจากทุกอย่างอยู่ที่ประเทศชาติ เพราะประเทศชาติหรือ สว.จะอยู่ได้ก็ขึ้นอยู่กับประธานวุฒิสภา

'เปรมศักดิ์' ตั้งกลุ่ม สว.สีขาว

ด้านนายบุญส่ง น้อยโสภณ สว. อดีตผู้พิพากษา กล่าวถึงกรณีมีชื่อชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภาว่า ต้องขอบคุณสื่อมวลชน แต่ของจริงก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะเป็นอำนาจของผู้เสนอชื่อ รวมถึงต้องเคารพสิทธิของสมาชิกทุกคน ที่จะเลือกคนเหมาะสมมาทำหน้าที่ โดยไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์คุณสมบัติของคนที่จะมาทำหน้าที่ประธานวุฒิสภา เพราะมองทุกคนในแง่บวก

ถามว่า เคยทำงานร่วมกับรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 และมีกระแสข่าวถูกวางตัวไว้เป็นประธานหรือรองประธานวุฒิสภา มีความพร้อมหรือไม่นั้น นายบุญส่งกล่าวว่า พร้อมครับ เพราะมีส่วนในการให้ความเห็นในการร่างกฎหมายต่างๆ รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาก่อน

ซักว่าผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภาหรือรองประธานวุฒิสภา จำเป็นต้องรู้เรื่องกฎหมายหรือไม่ นายบุญส่งกล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องกฎหมายก็ได้ เพราะระเบียบข้อบังคับการประชุมมีอยู่แล้ว ซึ่งต้องแม่นข้อบังคับ เพราะตีความได้ยาก ดังนั้นประธานต้องเก่งและประนีประนอมได้ อย่าตัดบทในขณะที่สมาชิกอภิปราย ไม่เช่นนั้นจะทะเลาะกัน ซึ่ง สว.มาจากหลากหลายกลุ่ม การควบคุมก็จะยากขึ้น และเมื่อขึ้นทำหน้าที่ประธาน จะมีเอกสารให้ดู จะมีเลขาฯ คอยส่งข้อมูลให้ ก็จะพูดตามนั้น แต่การควบคุมที่ประชุมก็อาจยากหน่อย เพราะ สว.มาจากหลายกลุ่ม

นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ที่เข้ามารายตัวต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา กล่าวว่า กลุ่ม สว.ของตนมีชื่อว่า สว.สีขาว ไม่ใช่กลุ่มเดียวกับกับนางนันทนา นันทวโรภาส เพราะกลุ่มของเขาเรียกว่ากลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ โดยกลุ่ม สว.สีขาว เป็น สว.ที่มาจากทั่วประเทศ ซึ่งสนใจเข้าร่วมหลังจากได้รับการคัดเลือกแล้ว จึงมาอยู่ด้วยกัน ยืนยันว่าไม่มีพรรคการเมืองใด สีใด หรือใครบงการสนับสนุนทั้งสิ้น เรามาด้วยความรักในอุดมการณ์ เพื่อต่อสู้ทางการเมืองอย่างเป็นอิสระจริงๆ

ถามถึงการชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา นพ.เปรมศักดิ์กล่าวว่า การช่วงชิง การแก่งแย่ง พวกเราไม่ประสงค์อย่างนั้น เพียงแต่ขั้นตอนกว่าจะรายงานตัวเสร็จ จนเข้าสู่การประชุมเพื่อเลือกประธานวุฒิสภา มีเวลากำกับอยู่ ตนคิดว่าการมุ่งไปที่การชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภาไม่น่าจะเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของ สว.ชุดนี้ แต่ควรให้เป็นไปตามเวลาที่เหมาะสมดีกว่า

เมื่อถามว่า กลุ่ม สว.สีขาวมีจุดยืนเหมือนกันอย่างไร นพ.เปรมศักดิ์กล่าวว่า เราไม่จำกัดส่วนสูงและน้ำหนัก แต่จำกัดว่าต้องเข้ามาทำงานเพื่อประชาชน เน้นที่ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน บางคนอาจจะถูกปรามาสและด้อยค่า แต่ตนคิดว่าทุกคนมีค่าสามารถทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้ เราไม่ได้เน้นหนักว่าจะต้องมีปริมาณเท่าไหร่ เพราะ สส. 1 คน ก็ทำให้สภาป่วนได้ อย่าไปมองว่าต้องมี สว.เป็นร้อยคน เพราะร้อยคนอาจจะทำงานเดินสภาไม่ได้ เนื่องจากไม่มีความร่วมมือของสมาชิก

ซักว่า สว.สีขาวมีใครบ้าง นพ.เปรมศักดิ์กล่าวว่า จะเปิดเผยในการประชุมที่จะมีการอภิปรายและลงมติ เพราะพวกตนเป็นการร่วมกันทางอุดมการณ์ ไม่ใช่ร่วมกันเพื่อต่อรองตำแหน่ง หรือต่อรองผลประโยชน์ และการที่ สว.ทั้ง 200 คน มีกลุ่ม ก็อาจจะทำงานลำบาก แต่เป็นความจำเป็นของระบอบประชาธิปไตย ที่จะต้องมีความเห็นต่าง เพียงแต่การเป็นกลุ่มนั้น ขออย่างเดียว อย่ามีผู้บงการอยู่เบื้องหลังหรือเงาทะมึนมาสั่งว่า จะต้องเอาองค์กรอิสระคนนี้ เอากฎหมายแบบนี้ เพราะถ้าสวนทางกับประชาชน ถึง สว.กลุ่มนั้นจะมีปริมาณเท่าไหร่ ก็อยู่ไม่ได้

ถามถึงกระแสข่าวว่า เริ่มมีการทาบทาม สว.ให้ไปอยู่กลุ่มการเมือง ด้วยการเสนอเงินเดือน รถ หรือคนติดตามให้ได้รับการทาบทามหรือไม่ นพ.เปรมศักดิ์กล่าวว่า ก็มีคนไลน์และโทรศัพท์มาบอก แต่ตนตอบกลับไปว่าเงินตนมีเยอะแล้ว  ไม่ต้องการเป็นลูกน้องใคร เพราะตนเป็นลูกน้องมาแล้ว 6 พรรคการเมือง ซึ่งแต่ละพรรคการเมืองก็มีกฎเหล็กข่มขืนใจสมาชิกกันทั้งนั้น ไม่อย่างนั้นเขาไม่ลงทุน และเมื่อสมาชิกไม่ทำตามทางการเมือง ก็อาจจะถูกขับออกจากพรรค หรือเป็นแกะดำ ตนจึงคิดว่าน่าจะขจัดเงาทะมึน โดยการร่วมกันทำงานอย่างเป็นอิสระ ถ้ายังไม่รู้จะทำอย่างไร  ก็เอาริสต์แบนด์สีขาวไปสวมก็ได้ ให้ค่อยๆ สลายเงาทะมึน โดยตอนนี้ก็มีคนมารับริสต์แบนด์ไปกว่า 10 คนแล้ว

"คนที่ไลน์มาหามีข้อเสนอมาเยอะ แต่ไม่อยากระบุและไม่ทราบว่าคนอื่นเห็นแล้วจะหวั่นไหวหรือไม่ แต่ทราบว่ามีการส่งคนมาดักตรงจุดรับใบรับรองที่ กกต. จนบางคนเปลี่ยนใจจากการเป็นอิสระไปก็มี แต่ผมคิดว่าการเปลี่ยนใจไม่เป็นอิสระนั้น ต้องคิดให้ดี บางทีก็ไม่คุุ้ม เพราะอยู่ 5 ปี เป็นอิสระ ทำงานอย่างมีศักดิ์ศรี น่าจะดีกว่า ศักดิ์ศรีกินไม่ได้ แต่ทำให้เราภูมิใจได้" นพ.เปรมศักดิ์ระบุ

ส่วนนางอังคณา นีละไพจิตร สว. กล่าวว่า ยังไม่มีใครติดต่อขอคะแนนเลือกประธานวุฒิสภาเลย แต่โดยส่วนตัวอยากให้มีประธานหรือรองประธานเป็นผู้หญิง 1 คน หากมองในเรื่องความเสมอภาคและความเท่าเทียมทางเพศ  เพราะสภาผู้แทนราษฎรก็ไม่มีผู้หญิง

ถามว่า สว.ในกลุ่มนางนันทนามีการระบุชื่อนางอังคณาอยู่ในกลุ่มด้วย นางอังคณากล่าวว่า ในกลุ่มนั้นเป็นเพื่อนกันหลายคน เราเคยทำงานภาคประชาสังคมหรืออยู่ในวงการเดียวกันมาก่อน เพราะฉะนั้นด้วยความสัมพันธ์ส่วนตัวรู้จักกันมาก่อน มีประมาณกว่า 20 คน ตนก็เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งในกลุ่มยังไม่มีการพูดคุยถึงชื่อประธานในใจ แต่อยากให้เป็นพลเรือนและเป็นผู้หญิง

แสวงรับยื่นตรงนี้ยากจะบอก

วันเดียวกัน นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ตอนหนึ่งระบุว่า อิทธิพลสื่อ... จริตคน... ขอบคุณสื่อ... ยิ้มได้ยัง... โลกนี้คือละคร... ในแต่ละวันข่าวการเมืองเยอะมาก  บางข่าว ต้องรับแรงกระแทกโดยตรง เลยอยากดูข่าวประเภทอื่นบ้าง หรือพอจะมีข่าวอะไรบ้างที่จะมาลดข่าวการเมืองหรือพอจะเบี่ยงเบนข่าวการเมืองที่รับผลโดยตรงได้บ้าง

นายแสวงยังระบุอีกว่า การเลือก สว.ครั้งนี้ สื่อมีอิทธิพลอย่างมาก และสื่อได้ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ในส่วนที่สำนักงาน กกต.ต้องการสื่อสารไปถึงประชาชน ไม่มีการเบี่ยงเบน ตัดทอนให้สังคมเข้าใจผิดไปจากสิ่งที่นำเสนอแม้แต่ครั้งเดียว จึงขอขอบคุณสื่อเป็นอย่างยิ่งไว้ในโอกาสนี้ ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา มักจะถูกเพื่อนฝูงว่า งานที่รับผิดชอบคลี่คลายลงแล้วหรือไม่ มีความสบายใจโล่งใจแล้วใช่หรือไม่ และขอแสดงความยินดี ซึ่งยอมรับว่าการอยู่ในตำแหน่งนี้ไม่ว่างานจะหนักแค่ไหน ยากที่จะบอก แต่พร้อมที่จะยิ้มรับ

"งานที่รับผิดชอบเบาลงแล้วใช่ไหม สบายใจแล้วใช่ไหม โล่งใจแล้วใช่ไหม ขอแสดงความยินดี ยิ้มได้แล้วใช่ไหม ยืนอยู่ตรงนี้ วันนี้เรื่องนี้ผ่านไป พรุ่งนี้เรื่องใหม่ก็มา ก็เป็นแบบนี้มาตลอด หนักเบาแค่ไหนก็ยากที่จะบอก แต่เราก็ยิ้มรับกับมันทุกครั้ง เพราะมันเป็นหน้าที่ และก็เชื่อว่าเราทุกคนก็มีความสุขกับงานที่ต้องรับผิดชอบ"  เลขาธิการ กกต.

ด้านนายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เดินทางมาที่ กกต.เพื่อยื่นคำร้องเพื่อให้เร่งรัดและตรวจสอบในหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเลือก สว.ครั้งที่ผ่านมา ทั้งการฮั้ว สว.ระดับอำเภอในพื้นที่ปทุมวัน ให้ตรวจสอบนางนันทนา นันทวโรภาส สว.กลุ่มที่ 18 สื่อสารมวลชน กรณีที่ไปประชุมพิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน ก่อนการเลือก สว.ระดับจังหวัด ในวันที่ 15 มิ.ย.2567 ที่ผ่านมา โดยมีผู้สมัคร สว.เข้าร่วมการประชุมกว่า 100 คน และมีผู้ขึ้นปราศรัย 2 คน เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ รวมทั้งขอให้ตรวจสอบ พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สว.กลุ่มที่ 19 กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ  ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่ระบุว่าจบมาจากต่างประเทศ แต่ระบบ ก.พ.ไทยไม่ได้รับรองคุณสมบัติการศึกษา ตรงนี้้เข้าข่ายความผิดหรือไม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'วัน' ยื่น กกต. ลาขาดเพื่อไทย เปิดใจทั้งน้ำตา คำพูดผู้ใหญ่ต้นเหตุไขก๊อก

'วัน อยู่บำรุง' ยื่นลาออกเพื่อไทยแล้ว เปิดใจน้ำตาคลอ พ้อคำพูดผู้ใหญ่ไม่อาจด้านอยู่ต่อ ย้ำสัมพันธ์ 'บิ๊กแจ๊ส' แน่นแฟ้น​ ลั่นตระกูลอยู่บำรุงไม่ประจบสอพลอใคร พร้อมเปิดทางร่วมงานพรรคใหม่