‘นิด’เดินสายโอ่งานปราบยา

"เศรษฐา" โชว์ผลงาน นั่ง ฮ.ไปแหลมฉบัง แถลงยึดสาร “โทลูอีน” สารตั้งต้นยาเสพติดล็อตใหญ่กว่า 90 ตัน เอาไปผลิตยาไอซ์ได้ 4,500  กิโลกรัม ยาบ้า 270 ล้านเม็ด มูลค่ากว่าหมื่นล้าน    เผยต้นทางมาจากเกาหลี ส่งไปเมียนมา    ขอนแก่นเปิดสายด่วนซอมบี้ขยี้ยาเสพติด 24  ชั่วโมง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2567  ที่สำนักงานศุลกากร ท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา  จ.ชลบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบังโดยเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเป็นประธานการแถลงผลการสืบสวนและตรวจยึดสารโทลูอีน (Toluene) เคมีภัณฑ์ที่เป็นวัตถุอันตรายประเภท 3 ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 จำนวน 90 ตัน โดยมีพล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.,   พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส.  พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการแถลง

โดยนายกฯ ได้รับฟังรายงานการสืบสวนจับกุม พร้อมดูวิธีการทดสอบเบื้องต้นการตรวจสารเคมีว่าเป็นสารโทลูอีนที่ใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติดจาก 6 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนัก 90 ตัน ซึ่งสารโทลูอีนปริมาณ 90 ตัน หากใช้เป็นสารเคมีจำเป็นในขั้นตอนการผลิตยาเสพติด จะผลิตยาไอซ์ได้ 4,500 กิโลกรัม ยาบ้า 270 ล้านเม็ด  และโคเคน 4,500 กิโลกรัม

 นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนเรื่องของการป้องกันปราบปรามยาเสพติดขั้นเด็ดขาด เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสนใจมาก และครั้งนี้ถือว่าเป็นการปฏิบัติการอีกครั้งหนึ่งที่ต้องชื่นชมกรมศุลกากร กรมอุตสาหกรรมโรงงาน  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงาน ป.ป.ส. ที่ร่วมมือร่วมใจกันตรวจค้นจนได้สารตั้งต้นของการผลิตยาบ้า ยาไอซ์ และโคเคน โดยที่ผู้นำเข้ามาไม่เคยนำเข้าสารชนิดนี้มาก่อน ซึ่งต้นทางมาจากเกาหลี ปลายทางที่เมียนมา

 นายกฯ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการขยายผลเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ได้มีการออกหมายเรียกตัวบริษัทที่นำเข้ามา ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะถือว่าเป็นสารตั้งต้นของการผลิตยาเสพติดอีกหลายชนิด ซึ่งจำนวนที่จับกุมได้ครั้งนี้ 90 ตัน ถึงแม้มูลค่าไม่กี่ล้านบาท แต่ถ้าสารนี้หลุดไปถึงแหล่งผลิตโคเคนได้ ก็จะเป็นน้ำหนักหลายพันกิโลกรัม มูลค่าเป็นหมื่นๆ ล้านบาท ก็จะกลับมาเป็นวังวนอุบาทว์ให้กับพี่น้องประชาชนชาวไทยและทั่วโลก

ดังนั้น การปฏิบัติการครั้งนี้จึงขอชื่นชมว่าเป็นเรื่องที่ดี และสิ่งที่สำคัญมากคือเรื่องของการขยายผล ขณะที่เดินทางมาตนได้มีการพูดคุยกับ พล.ต.ท.สำราญ ที่ดูแลด้านยาเสพติด ก็มีเรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้น ที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ มีการเข้าไปตรวจค้นผู้ค้ายา ซึ่งมีลักษณะอยู่บนเขาจึงมองเห็นเจ้าหน้าที่ก่อน จึงเกิดการปะทะ มีเจ้าหน้าที่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตและบาดเจ็บ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่มีการพูดคุยกับตนว่าจะต้องมีการจัดการขั้นเด็ดขาด ตนจึงกำชับให้ดูแลสวัสดิการ สวัสดิภาพเจ้าหน้าที่ของเราให้เต็มที่ และต้องมีความพร้อมในการใช้กำลังตอบโต้ พร้อมกำชับให้ดูแลเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของฝ่ายปราบปราม ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก วันนี้เรามีการยกระดับการปราบปรามยาเสพติดอย่างไม่มีความย่อท้อ เรายังมีภารกิจอีกมาก ก็ถือเป็นนิมิตหมายอันดี ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกรายที่เกี่ยวข้อง และขอให้ดูแลสวัสดิภาพของตัวเองให้ดี

นายเศรษฐายังโพสต์ข้อความผ่าน X ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งในการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยระบุว่า ขอบคุณพี่น้องตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ที่ป้องกันการลักลอบขนยาเสพติดตามแนวชายแดน เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องลูกหลานบ้านเรา

 “ผมขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของเจ้าหน้าที่ผู้เสียชีวิต และขอแสดงความห่วงใยไปยังผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะกันขณะตำรวจเข้าตรวจค้น"

ต่อมาในช่วงเย็น นายเศรษฐาพร้อมคณะ เดินทางตรวจราชการพื้นที่ จ.เชียงราย โดยได้เดินทางมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย   เพื่อมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และรับฟังรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน กองร้อยตชด.327 ที่ได้ตรวจยึดยาเสพติดรายสำคัญเมื่อวันที่ 11 ก.ค. โดยตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่ง (ยาบ้า) จำนวน 3 ล้านเม็ด รถยนต์ 3 คัน และรถจักรยานยนต์ 1 คัน

นายจักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีนายกรัฐมนตรีเรียกประชุมรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยว่า เป็นเรื่องของยาเสพติด ซึ่งนายกฯ ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เราใช้เวลาแค่ 6-7 เดือนในปี 2567 สามารถจับกุมได้มากกว่าปีที่แล้วทั้งปี ไม่ว่านายกฯ จะลงพื้นที่ไหน ให้ความสำคัญกับเรื่องยาเสพติดมาก จึงหาแนวทางปรึกษากันเองภายใน ครม.ของพรรคเพื่อไทย ดูว่าเรามีวิธีการอย่างไรกันบ้างในการที่จะปราบปรามยาเสพติดให้ได้มากกว่านี้

ที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จ.ขอนแก่น ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จว.ขก. และนายประจวบ รักแพทย์ ปลัดจังหวัดขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวผลการระดมตรวจค้นปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 7 ระยะเร่งด่วน 3 เดือน ในพื้นที่เป้าหมาย หลังเปิดปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นทั้งจังหวัด 139 เป้าหมาย ครอบคลุมพื้นที่ 30 หมู่บ้าน

นายไกรสรกล่าวว่า สายด่วนซอมบี้ขยี้ยาเสพติด หรือสายด่วน 0-4324-1251 และ 06-3904-1671 จะมีเจ้าหน้าที่ประจำเพื่อรับโทรศัพท์และรับเรื่องตลอดทั้ง 24 ชม. ซึ่งวอร์รูมที่ตั้งขึ้นนี้นั้น จะประสานข้อมูลการทำงานร่วมกันกับทุกฝ่าย เพราะขณะนี้สายด่วนทั้งตำรวจ, ป.ป.ส. หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบกับยาเสพติด มีการดำเนินงานเชิงรุกทุกหน่วยงาน แต่จากการลงพื้นที่ พบว่าบางคนไม่กล้าที่จะแจ้งข้อมุูลใดๆ กับบางหน่วยงาน ดังนั้นจังหวัดจึงจัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินการจู่โจมเป้าหมาย และตรวจซ้ำพื้นที่ตามเบาะแสคู่ขนานกับพื้นที่เป้าหมายที่เราจะตรวจค้นทุกวัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บอร์ดดิจิทัลวอลเล็ต' เคาะแหล่งที่มาเงิน 4.5 แสนล้าน ไม่ง้อ ธ.ก.ส. ชง ครม. 23 ก.ค.

'บอร์ดดิจิทัลวอลเล็ต' เคาะงบ 4.5 แสนล้าน แจก 45 ล้านคน ตัดงบ ธ.ก.ส. ชง ครม. สัปดาห์หน้า แถลงใหญ่ 24 ก.ค. ยันลงทะเบียนไตรมาส 3 โอนเงินไตรมาส 4