กกพ.เคาะแล้ว ค่าเอฟทีไฟฟ้างวดส่งท้ายปี 2567 ขึ้นแน่ ตั้งแต่ระดับ 0.47-1.83 บาท/หน่วย เปิดให้โหวต 3 ทางเลือก 12-26 ก.ค.ก่อนกำหนดราคาจริง ชี้หากขึ้นสูงสุด 6.01 บาท/หน่วย เจ็บแล้วจบ ปีหน้าค่าไฟลด เผยหากรัฐต้องการตรึงราคา ต้องหาเงินมาโปะ 2.8 หมื่นล้าน
เมื่อวันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม 2567 นายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. แถลงถึงการประชุมคณะกรรมการ กกพ.ว่า ที่ประชุมเห็นชอบผลการคำนวณประมาณค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) งวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.2567 เป็น 3 แนวทางปรับเพิ่มขึ้นในระดับหน่วยละ 46.83-182.99 สตางค์ เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่หน่วยละ 3.7833 บาท ส่งผลให้ค่าไฟฟ้างวด ก.ย.-ธ.ค.2567 เพิ่มขึ้น 0.47-1.83 บาท เป็นค่าไฟฟ้าเรียกเก็บกับประชาชน 4.65-6.01 บาทต่อหน่วย เทียบจากงวดนี้ (พ.ค.-ส.ค.) อยู่ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย โดยมอบให้สำนักงาน กกพ. นำสมมุติฐานดังกล่าว เปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชน ตั้งแต่วันที่ 12-26 ก.ค.2567 ก่อนสรุปและประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป
สำหรับ 3 แนวทางที่เปิดรับฟังความเห็น ประกอบด้วย 1.จ่ายค่าเชื้อเพลิงคืนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ทั้งหมด 98,495 ล้านบาท ภายในสิ้นปีนี้ ส่งผลให้ค่าเอฟทีเพิ่มขึ้น 222.71 สตางค์ต่อหน่วย รวมค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ย ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 6.01 บาทต่อหน่วย หรือเพิ่มขึ้น 44% จากงวดปัจจุบัน 2.จ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้าง กฟผ. 3 งวด 3 งวด งวดละ 32,832 ล้านบาท จะมีภาระต้นทุนคงค้างที่ กฟผ. รับภาระแทนประชาชนเหลืออยู่ที่ 65,663 ล้านบาท ส่งผลให้ค่าเอฟทีเพิ่มขึ้น 113.78 สตางค์ต่อหน่วย รวมค่าไฟฟ้าฐาน ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ย ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 4.92 บาท หรือเพิ่มขึ้น 18% และ 3.จ่ายคืนภาระต้นทุน กฟผ. 6 งวด งวดละ 16,416 ล้านบาท หรือภายใน 2 ปี บวกมูลค่าส่วนต่างราคาก๊าซธรรมชาติที่เกิดขึ้นจริงกับราคาก๊าซธรรมชาติที่เรียกเก็บเดือน ก.ย.-ธ.ค.2566 (เอฟเอฟก๊าซ) 15,083.79 ล้านบาท ส่งผลให้ค่าเอฟทีเพิ่มขึ้น 86.55 สตางค์ต่อหน่วย รวมค่าไฟฟ้าฐานที่หน่วยละ 3.78 บาท ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ย ปรับเพิ่มขึ้นเป็นหน่วยละ 4.65 บาท หรือเพิ่มขึ้น 11% จากปัจจุบัน เพื่อให้ กฟผ.มีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีขึ้น สามารถดำเนินการตามแผนชำระคืนหนี้เงินกู้ที่วางไว้เพื่อรักษาระดับความน่าเชื่อถือ และลดภาระดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้น โดยคาดว่า ณ สิ้นเดือน ธ.ค.2567 จะมีภาระต้นทุนคงค้างที่ กฟผ. รับภาระแทนประชาชนคงเหลืออยู่ที่ 82,079 ล้านบาท
“ค่าไฟฟ้างวดสุดท้ายของปีนี้ที่เพิ่มขึ้นมาจากต้นทุนเชื้อเพลิงก๊าซ ทั้งก๊าซในอ่าวไทย และราคาก๊าซธรรมชาติเหลวแบบสัญญาจร และเป็นช่วงที่ค่าเงินบาทอ่อนค่า ในขณะที่ความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาวในปลายปี เมื่อรวมกับการทยอยคืนหนี้สะสมทั้งในส่วนของ กฟผ. 98,495 ล้านบาท และค่าภาระหนี้ของระบบที่ต้องจ่ายคืนให้ผู้ขายก๊าซคือ ปตท.และ กฟผ. อีก 15,000 ล้านบาท จึงทำให้ต้องปรับค่าไฟเพิ่มขึ้น” นายพูลพัฒน์กล่าว
นายพูลพัฒน์กล่าวต่อว่า หากภาคนโยบายต้องการตรึงราคาค่าไฟฟ้าที่หน่วยละ 4.18 บาทเท่าเดิม รัฐต้องหางบประมาณมาเพิ่ม 28,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปได้ใน 2 แนวทาง คือยืดจ่ายหนี้ กฟผ. จาก 0.2723 เหลือ 0.05 สตางค์ แต่จะทำให้มีหนี้คงค้าเพิ่มขึ้นจาก 98,495 ล้านบาทบวก 28,000 ล้านบาท เป็น 126,495 ล้านบาท หรือไปการใช้วิธีนำมูลค่าส่วนต่างราคาก๊าซธรรมชาติที่เกิดขึ้นจริงกับราคาก๊าซธรรมชาติที่เรียกเก็บเดือน ก.ย.-ธ.ค.2566 มาใช้ คือตรึงค่าแก๊สในส่วนที่ต้องจ่าย ปตท. และกฟผ. ในฐานะชิปเปอร์ เพื่อมาทดแทนในส่วนของ 28,000 ล้านบาท ซึ่งขึ้นอยู่กับแนวทางของนโยบาย
“ตอนนี้ยังไม่มีการประกาศอะไรออกมา ต้องรอนโยบายจากภาครัฐ รวมถึงการดูแลกลุ่มเปราะบางที่จะตรึงค่าไฟให้อยู่ที่ 3.99 บาทต่อหน่วยด้วย ซึ่งขณะนี้ทั้ง 3 ทางเลือกเป็นการคืนหนี้ให้ กฟผ. ทั้งสิ้น โดยถ้าเลือกแนวทางยอมให้ปรับขึ้นหน่วยละ 6.01 บาท ถือว่าเจ็บแต่จบ จะใช้หนี้ กฟผ.หมดในงวดเดียว และหลังจากนั้นงวดแรก ปี 2568 ก็มีโอกาสที่ค่าเอฟทีจะลดลงหน่วยละ 1.80 บาท ทำให้ค่าไฟลดลงจากหน่วยละ 6.01 เหลือประมาณหน่วยละ 4.20 บาทได้”นายพูลพัฒน์กล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ยก ‘ภูพระบาท’ เป็นมรดกโลก
คนไทยได้เฮ! อีก ยูเนสโกขึ้นทะเบียน "ภูพระบาท" จ.อุดรธานี
ฟ้องต้นตอหมอคางดำ
สภาทนายความฯ เตรียมฟ้องแพ่งบิ๊กเอกชน-หน่วยงานรัฐ ต้นตอ "เอเลี่ยนสปีชีส์"
‘ทศมรัชชจักรี’ เชิญชวนคนไทยพร้อมใจสวมเสื้อสีเหลืองร่วมเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ
ในหลวงทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน ในการพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ
มงคล : แทนคุณชาติศาสน์กษัตริย์
“วุฒิสภา” จัดพิธีการรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานและรองประธานวุฒิสภา
‘เนวิน’รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดมิวสิคัลเทิดพระเกียรติ
“เนวิน” รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล “ลมหายใจของแผ่นดิน” โดยบุรีรัมย์ออร์เคสตรา แสดงความจงรักภักดี 28-30 ก.ค.2567 สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์
เผ่าภูมิยอมรับ ไร้‘สมาร์ทโฟน’ ใช้ดิจิทัลยาก!
“เผ่าภูมิ” ยันเคาะใช้จ่ายเงินหมื่นไม่เกินไตรมาส 4 แนะควรลงทะเบียนผ่านสมาร์ทโฟน