สว.กลุ่มอิสระขยับ นัดถกส่งชิงปธ.สภาสูง แห่รายงานตัว136คน

"สว.ใหม่" แห่รายงานตัววันแรกคึกคัก! รับหนังสือรับรอง กกต. 173 คน เข้ารายงานตัวสภา 136 คน "นันทนา" เผย สว.กลุ่มอิสระ 30 คน นัดหารือ "เสาร์-อาทิตย์" นี้ เลือกตัวแทนชิงประธานวุฒิสภา "มงคล" แคนดิเดตประมุขสภาสูงปัดตอบสื่อ บอกยังใหม่มาก ไม่ได้ฝันถึงเรื่องนี้ "พิธา" ให้โอกาส สว.ชุดใหม่ทำงาน จี้ กกต.ตรวจสอบข้อมูลไม่ตรงความจริง

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  วันที่ 11 ก.ค. ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ซึ่ง กกต.ประกาศรับรองต่างทยอยเดินทางมารอรับเอกสารรับรอง สว. เพื่อไปรายงานตัวที่รัฐสภา โดย น.ส.นวลนิจ หงษ์วิวัฒน์ สว.กลุ่ม 19  กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ มานั่งรอเป็นคนแรกในเวลา 07.30 น. จนเวลา 08.30 น. เจ้าหน้าที่ กกต. ได้เปิดให้รับหนังสือรับรอง

น.ส.นวลนิจกล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้นที่ได้รับเลือก จึงมารายงานตัวตั้งแต่เช้า เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวาย ส่วนการเลือกประธานวุฒิสภาเห็นว่าทุกคนมีคุณสมบัติที่ดี แต่ก็ยังเห็นว่าตำแหน่งประมุขของสภาสูงควรที่จะมีสัดส่วนของผู้หญิงด้วย

จากนั้นก็มี สว.ที่ได้รับการแต่งตั้งรายอื่นๆ ต่างเดินทางมารับเอกสารรับรองเช่นเดียวกัน อาทิ นายชิบ จิตนิยม สว.กลุ่มสื่อมวลชน, นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี สว.กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง, น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.กลุ่มสื่อมวลชน, นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว.กลุ่มสื่อมวลชน, พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สว.กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพผู้ประกอบอาชีพอิสระ เป็นต้น

นายชิบ จิตนิยม สว.กลุ่มสื่อมวลชน ให้สัมภาษณ์ว่า บทบาทของสมาชิกวุฒิสภาเป็นบทบาทสำคัญที่ต้องมีความรู้ ความสามารถ ทำการบ้านเยอะ โดยเฉพาะตำแหน่งประธานวุฒิสภา รองประธานวุฒิสภา เรื่องของตัวบทกฎหมาย ระเบียบวาระต่างๆ ต้องมีความแม่นยำ ทำอย่างไรให้สภามีความสมดุล ซึ่ง สว.แต่ละคนที่เข้ามาก็หวังผลักดันวาระของตน การตั้งกรรมาธิการชุดต่างๆ การจัดทำยุทธศาสตร์ ซึ่งประธานวุฒิสภาต้องแม่นมากๆ ถือเป็นความท้าทาย

ถามถึงแคนดิเดตประธานวุฒิสภามี 2 รายชื่อคือ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ และนายมงคล สุระสัจจะ มองว่าเหมาะสมหรือไม่ นายชิบกล่าวว่า พูดยาก เพราะยังไม่มีโอกาสได้ฟังเสียงทั้งสองคน ต้องทำความรู้จักมักคุ้นกัน แต่เชื่อว่าคนที่จะมาทำหน้าที่นี้ต้องรู้จักตัวเองว่าตัวเองทำได้มากน้อยขนาดไหน

นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี สว.กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง กล่าวว่า การทำงานในวุฒิสภาน่าจะมีความเป็นเอกภาพ เพราะ สว.ชุดเก่ายังมีการสบประมาท สั่งให้หุบปาก ซึ่งในวันนี้ตนคิดว่าถึงเวลาที่เราจะต้องหันหน้าปรองดองซึ่งกันและกัน

"เรื่องตำแหน่งเป็นประธานและรองประธานวุฒิสภา แคนดิเดต 2 รายชื่อที่ออกมาก็เป็นผู้ทรงคุณวุฒิอยู่แล้ว แต่ใครจะมาดำรงตำแหน่งจะต้องมีการพูดคุยกัน ส่วนตัวยังไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ยังต้องมีการปรึกษากับเพื่อน สว.ก่อนว่าจะมีความเห็นอย่างไร" นายวีระศักดิ์กล่าว

ถามถึงกรณีมองการแก้ไขรัฐธรรมนูญคือเรื่องเร่งด่วนหรือไม่ นายวีระศักดิ์กล่าวว่า อย่าถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องทำ ยังต้องฟังความเห็นของเพื่อนสมาชิกว่ามีเหตุผลอย่างไร แต่อย่างน้อยเราคิดว่ามันมีปัญหาเยอะ ทำให้คนในประเทศแตกแยกกันมาก ทำให้คนในครอบครัวเดียวกันคิดต่างกัน

เมื่อถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญควรแก้ไขทั้งฉบับหรือแก้ไขบางส่วน นายวีระศักดิ์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องปรึกษากับหลายฝ่าย ตัวเองทำเองคนเดียวไม่ได้

สว.ใหม่รายงานตัวคึกคัก

นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว.กลุ่มสื่อมวลชน กล่าวถึง สว.กลุ่มใหญ่ที่รวมตัวกันและถูกคาดการณ์ว่าเป็นประธานและรองประธานวุฒิสภา โดยเห็นว่าประเด็นสำคัญคือคาดหวังให้ สว.จะมาสร้างบรรยากาศที่ดี ซึ่งเสียงข้างมากอาจจะถูกมองไปด้านใดด้านหนึ่ง แต่หลักการประชาธิปไตยต้องเคารพและรับฟังเสียงข้างน้อยด้วย ซึ่งเปรียบกับการทำงานของวุฒิสภาชุดก่อน เพราะประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วม วุฒิสภาควรเปิดพื้นที่ให้เป็นประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมจากประชาชนในเรื่องของการร้องทุกข์

"สว.ชุดนี้ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันมาก ควรที่จะรู้ร้อนรู้หนาว ควรรับฟังความคิดเห็นความต้องการของประชาชน หวังว่าวุฒิสภาชุดใหม่ แม้จะถือมติของเสียงส่วนใหญ่ แต่ควรเคารพเสียงส่วนน้อย และเอาหลักประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมหรือเสียงของประชาชนเข้ามาพิจารณาด้วย" นายเทวฤทธิ์กล่าว

พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สว.กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่ได้คะแนนสูงสุด ชี้แจงประเด็นข้อสงสัยวุฒิการศึกษาของตนเองว่า ยืนยันวุฒิการศึกษาที่ได้มาทั้งหมดเป็นของจริง จบจริง ไม่มีการซื้อปริญญา มหาวิทยาลัยที่จบก็ไม่ใช่มหาวิทยาลัยห้องแถว ที่ก่อนหน้านี้ไม่ออกมาชี้แจงเพราะเกรงว่าจะผิดต่อระเบียบของ กกต. ซึ่งจริงๆ โดนตรวจสอบวุฒิการศึกษาตั้งแต่ระดับอำเภอแล้ว เราได้ชี้แจงเป็นเอกสารทั้งหมด ปริญญาที่ได้จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียยูนิเวอร์ซิตี และใบรับรองที่ได้จากกระทรวงศึกษาธิการของสหรัฐอเมริกา และตัวแคลิฟอร์เนียยูนิเวอร์ซิตีจริงๆ ก็เป็นมหาวิทยาลัยจริงๆ ไม่ใช่ห้องแถว ไม่มีการซื้อปริญญา

"เรื่องตำแหน่งประธานวุฒิสภามีคิดไว้ในใจแล้ว แต่ขอฟังเสียงที่ประชุมก่อนว่าจะเป็นอย่างไร" พญ.เกศกมลกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทั่งถึงเวลา 16.30 น. ซึ่ง กกต.ปิดทำการรับหนังสือรายงานตัวนั้น กกต.ได้สรุปยอด สว.จากจำนวน 200 คน ที่เดินทางเข้ามารับหนังสือรับรองการเป็น สว.เป็นวันแรก แล้วกว่า 173 คน ในจำนวนนี้มี 2 กลุ่มอาชีพที่ผู้ได้รับเลือกเป็น สว.มารับหนังสือรับรองครบทั้ง 10 คนแล้ว ประกอบด้วยกลุ่มที่ 4 สาธารณสุข และกลุ่มที่ 19 ผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบผู้ที่ยังไม่มารับหนังสือรับรอง และเป็นผู้ที่สังคมให้ความสนใจเนื่องจากเป็นแคนดิเดตประธานวุฒิสภาด้วยก็คือ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 กลุ่ม 1 บริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง ซึ่งมีรายงานว่าจะเข้ารับหนังสือรับรองในช่วงเช้าวันที่ 12 ก.ค.นี้

ที่รัฐสภา ตั้งแต่ช่วงเช้า บรรยากาศการรอรับ สว.ชุดใหม่เข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ภายหลัง กกต.ประกาศผลการเลือก สว.ก็เป็นไปอย่างคึกคัก โดย สว.ชุดใหม่ที่เดินทางมาจะเข้าแสดงตนที่ห้อง 102-106 ชั้น 1 ภายหลังจากไปรับหนังสือรับรองผลการเลือกสมาชิกวุฒิสภาจาก กกต. พร้อมนำเอกสารส่วนบุคคลเข้ายื่นต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา

เวลา 09.30 น. นายชาญวิศว์ บรรจงการ สว. เดินทางมาแสดงตนเป็นคนแรก พร้อมกล่าวว่า ตั้งใจมาเป็นคนแรก เมื่อเช้าเดินทางไปรับใบรองที่ กกต.ตามกำหนด ซึ่งการทำหน้าที่ สว.ถือว่าได้มาทำหน้าที่เป็นตัวแทนประชาชน ทำหน้าที่ตามกฎหมายกำหนด โดยตั้งใจจะมาทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล เป็นหน้าที่โดยตรงของ สว. ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ

มีรายงานว่า สว.ในกลุ่มอิสระได้นัดเตรียมพร้อมหารือถึงการเข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ในวันที่ 15 ก.ค. เวลา 11.00 น. และนัดพูดคุยถึงการพิจารณาส่งบุคคลเพื่อชิงตำแหน่งประมุขสภาสูง

น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. กล่าวว่า หลังจากที่ กกต.รับรองผลการเลือก สว.แล้ว ทางกลุ่มได้นัดหมายที่จะเข้าไปรายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ซึ่งมีความพร้อมในวันที่ 15 ก.ค. เวลา 11.00 น.นี้ เนื่องจากวันนี้หลายคนเดินทางมาจากต่างจังหวัด

ถามถึงวาระแรกของการประชุม ที่จะมีการเลือกประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภา มองอย่างไรต่อกรณีที่มีการล็อกตัวคนที่จะทำหน้าที่แล้ว น.ส.นันทนากล่าวว่า ทางกลุ่มจะหารือต่อประเด็นดังกล่าว ในช่วงวันเสาร์หรือวันอาทิตย์นี้ โดยส่วนตัวมองว่าหากตำแหน่งดังกล่าวแบ่งสัดส่วนให้เหมาะสมกับกลุ่มของ สว. จะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานในอนาคต รวมถึงการพิจารณากำหนดสัดส่วนของประธานกรรมาธิการคณะต่างๆ ด้วย

อย่างไรก็ดี ช่วงเช้า น.ส.นันทนาให้สัมภาษณ์ระหว่างไปรับหนังสือรับรองจาก กกต.ว่า ในกลุ่มมีสมาชิกประมาณ 30 คน โดยเป็นกลุ่มอิสระที่จะร่วมอุดมการณ์กัน และเชื่อว่าจะมีเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มนี้จะมีบทบาทต่างจากกลุ่ม 40 สว.ในอดีต เนื่องจาก สว.ปัจจุบันมาด้วยอุดมการณ์ และมีวาระที่จะขับเคลื่อนผลักดันวาระของประชาชนร่วมกัน ไม่มีใครเป็นเจ้าของกลุ่มหรือกดปุ่มสั่งการใดๆ มีจิตวิญญาณเสรี

"ยอมรับว่าตามรายงานข่าวของสื่อมวลชน มี สว.ที่รวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนใหญ่ ที่น่าจะมีเสียงค่อนข้างมากตามกลไกระบอบ แต่กลไกตามระบอบประชาธิปไตยเห็นว่าควรมีบุคคลที่มีศักยภาพ และมีคุณสมบัติเหมาะสมทางกลุ่ม ทางกลุ่มก็จะส่งไปชิงตำแหน่ง โดยยังไม่ขอเปิดเผยรายชื่อ ขอให้มีการหารือกันก่อน และยังไม่ทราบว่าจะเป็นดิฉันหรือไม่ และเชื่อว่า สว.ที่ได้รับเลือกเข้ามามีอุดมการณ์ที่ทำงานให้ประชาชน" น.ส.นันทนากล่าว

ด้านกลุ่ม สว.จากจังหวัดสุรินทร์ ได้เดินทางมารายงานตัวพร้อมกัน 6 คน โดยนั่งรถตู้มาคันเดียวกัน มีนายปกรณ์ มุ่งเจริญพร สส.สุรินทร์ พรรคภูมิใจไทย และนายสนอง เทพอักษรณรงค์ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย มารอต้อนรับ และเป็นที่น่าสังเกตว่าทั้งหมดแต่งตัวโดยสวมเสื้อสีเหลือง

มงคลอุบนั่ง 'ปธ.วุฒิฯ'

ที่น่าสนใจคือ นายมงคล สุระสัจจะ  สว. ซึ่งเป็นแคนดิเดตประธานวุฒิสภา ก็เดินทางมารายงานตัวเป็น สว.ในวันนี้ โดยผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามกรณีที่มีชื่อปรากฏเป็นแคนดิเดตประธานวุฒิสภา ซึ่งนายมงคลปฏิเสธให้สัมภาษณ์ โดยระบุว่า "ผมไปไหนมาไหนไม่สะดวกเลย ไม่ได้คิดอะไร ผมไม่ชอบแบบนี้"

จากนั้นผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงความพร้อมในการนั่งตำแหน่งประธานวุฒิสภาอีกครั้ง นายมงคลกล่าวว่า ตนยังใหม่มาก เป็นครั้งแรกในชีวิต ถือว่าใหม่มาก คงยังพูดอะไรไม่ได้ พร้อมกับบอกด้วยว่าไม่ทราบเลย เพราะไม่ได้คิดไม่ได้ฝัน เรื่องนี้ยังคิดอะไรไม่ได้

ถามย้ำว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจใช่หรือไม่  นายมงคลกล่าวว่า ตนไม่รู้เรื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเปิดให้ผู้ได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ทั้ง 200 คนเข้ารายงานตัว ตั้งแต่เวลา 08.30 น. บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้ที่ได้รับเลือกเป็น สว.ทยอยเดินทางมารายงานตัว ตั้งแต่เวลา 09.30 น. จนกระทั่งเวลา 16.30 น. มีผู้มารายงานตัวทั้งหมด 136 คน คิดเป็นร้อยละ 68 ของผู้ที่ได้รับเลือกเป็น สว.ทั้งหมด ทั้งนี้ ยังเหลืออีก 2 วันสำหรับการรายงานตัว โดยเริ่มตั้งแต่เวลา  08.30 น.

สำหรับตำแหน่งประธานวุฒิสภาและรองประธานที่จะเลือกในวาระแรกของการประชุมวุฒิสภา ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงปลายเดือน ก.ค.เบื้องต้น จะให้สัดส่วนกับ สว.กลุ่มสตรี ดำรงตำแหน่งรองประธานวุฒิสภาด้วย ซึ่งในกรณีดังกล่าวส่วนของ สว.กลุ่มอิสระมีแนวคิดที่จะผลักดัน สว.ในเครือข่ายเข้ารับตำแหน่งด้วย

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงการที่ กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกสมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่แล้วว่า ต้องขอขอบคุณ สว.ชุดเก่า 250 คน ที่ได้ทำงานร่วมกันมาอย่างหนักในการพิจารณากฎหมายสำคัญที่ผ่านมา ตลอดวาระ 5 ปี ซึ่งถือว่าเป็นที่สิ้นสุดของ สว.ชุดเดิม รวมถึงตำแหน่งในกรรมาธิการวุฒิสภาอย่างเป็นทางการ

นายธนกรกล่าวว่า เชื่อว่า สว.ชุดใหม่ ล้วนเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ และมีอิสระในการทำงาน โดยขอให้ยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง ซึ่ง สว.ชุดใหม่จะได้ร่วมทำงานกับสภาผู้แทนราษฎรในการกลั่นกรองกฎหมายสำคัญออกมาอย่างต่อเนื่อง ให้สามารถเดินหน้าพัฒนาประเทศและช่วยเหลือความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนต่อไปได้ทันที

"ส่วนสำคัญคือ กกต.ถือว่าได้ทำหน้าที่พิจารณาข้อมูล พยานหลักฐาน ครบทุกองค์ประกอบอย่างรอบคอบ ถี่ถ้วน เพื่อให้เกิดความสุจริต เที่ยงธรรม เป็นไปตามกฎหมาย และได้ สว.ครบ 200 คน มีบัญชีสำรอง 99 คน เพื่อจะสามารถเปิดประชุมวุฒิสภาได้ ส่วนที่มีการร้องเรียนก็ต้องดำเนินการตรวจสอบและสอยทีหลังได้ ทั้งนี้ก็ขอให้ 200 สว.ชุดใหม่ได้ใช้ศักยภาพ ความรู้ความสามารถ ทำงานกลั่นกรองกฎหมาย เลือกตัวบุคคลในองค์กรอิสระ โดยยึดประโยชน์ประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง มีความเป็นอิสระปราศจากการเมืองเบื้องหลัง" นายธนกรกล่าว

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ สว.ชุดใหม่เริ่มมารายงานตัววันนี้เป็นวันแรกจะสามารถฝากความหวังได้หรือไม่ว่า ต้องคำนึงถึงกระบวนการ เพราะต้องการให้เป็นตัวแทนของภาควิชาชีพว่าตอบโจทย์หรือไม่ คงต้องให้โอกาส สว.ชุดใหม่ในการทำหน้าที่ และให้ประชาชนช่วยกันพิสูจน์ข้อกล่าวหาต่างๆ รวมถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เองต้องดูไม่ใช่แค่เรื่องความเหมาะสมทางอาชีพ แต่ต้องดูในเรื่องวุฒิการศึกษา และข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงด้วย ตนเข้าใจว่ามีการแจกใบส้มไปแล้ว 1 ราย ส่วนจะเป็นความหวังหรือไม่คงต้องรอดูกันต่อไป.