ตั้งกก.สอบโรคอหิวาต์หมู ‘พณ.’เปิดธงฟ้าตรึงราคา

นั่งไม่ติด! อธิบดีปศุสัตว์เซ็นตั้ง คกก.สอบปมหนังสือเตือนโรคอหิวาต์หมู หลังปัดลั่นไม่เคยเห็น ขณะที่ "ศรีสุวรรณ" จัดเต็มยื่นฟ้องต่อ ป.ป.ช.เอาผิดกราวรูดบิ๊กข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ปกปิดข้อมูลจนกลายเป็นไฟลามทุ่ง ทำชาวบ้านเดือดร้อนระนาว ด้าน "จุรินทร์" เบรกฉวยโอกาสขึ้นราคาไข่-เนื้อไก่ ฮึ่มงัดกฎหมายจัดหนัก พร้อมเปิดธงฟ้าหมูตรึงราคาไว้ ระบุยังไม่เคาะแผนนำเข้าจากต่างประเทศ ฝ่ายค้านไม่พลาดโหนวิกฤตเดือดถล่มรัฐบาล

เมื่อวันจันทร์ จากกรณีนายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ระบุว่ายังไม่เห็นหนังสือภาคีคณบดี คณะสัตวแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย แจ้งมายังกรมปศุสัตว์เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.64 เกี่ยวกับข้อห่วงใยต่อสถานการณ์โรคระบาดและการควบคุมโรคในสุกร โดยหน่วยงานของสถาบันการศึกษาสัตวแพทยศาสตร์ในประเทศไทย พบเชื้อไวรัสอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (Afican Swine Fever: ASF) ในซากสุกรที่ส่งชันสูตรโรค และได้รายงานการตรวจพบโรคต่อกรมปศุสัตว์ตามข้อกำหนดของพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 และขอให้กรมปศุสัตว์ดำเนินการตามมาตรการเพื่อควบคุมโรคโดยเร็ว

ล่าสุด  น.สพ.สรวิศได้ลงนามคำสั่งกรมปศุสัตว์ เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยคำสั่งดังกล่าวแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ประกอบด้วยบุคคลดังต่อไปนี้ 1. นายโสภัชย์ ชวาลกุล รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธาน 2.น.ส.เยาวนิตย์ บุรีรักษา เลขานุการกรมสำนักงานเลขานุการกรม เป็นกรรมการ  3.นายพฤศจิ เนื่องจำนงค์ นิติกรปฏิบัติการ สำนักกฎหมาย เป็นกรรมการและเลขานุการ

ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.เพื่อขอให้ไต่สวน สอบสวนเอาผิดอธิบดีกรมปศุสัตว์, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กรณีปล่อยให้หมูและไข่แพง โดยมีนายพิศิษฐ์ พัฒนกิจจำรูญ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษเป็นผู้รับหนังสือ

นายศรีสุวรรณกล่าวว่า ถือเป็นข้อกล่าวหาในฐานทุจริตต่อหน้าที่  หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย โดยเฉพาะการปกปิดข้อมูลการแพร่ระบาดของเชื้ออหิวาต์แอฟริกาในหมู หรือ  ASF จากการยืนยันของนักวิชาการและสมาคมผู้เลี้ยงสัตว์ต่างยืนยันตรงกันว่า มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอหิวาต์แอฟริกาในสุกร  (Afican Swine Fever: ASF) มากว่า 3 ปีแล้ว

 “แต่ทว่าอธิบดีกรมปศุสัตว์และกระทรวงเกษตรฯ กลับปกปิดข้อมูลข่าวสารดังกล่าว และอ้างมาโดยตลอดว่าประเทศไทยปลอดเชื้อ ASF  100% จนนำมาซึ่งปัญหาการล้มตายของสุกรเป็นจำนวนมาก ทำให้เกษตรกรเลิกเลี้ยง และเป็นสาเหตุสำคัญที่นำมาซึ่งปัญหาหมูแพงในปัจจุบัน ทั้งที่หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องต่างรู้และทราบปัญหาดังกล่าวมาตั้งแต่ต้น กลับเพิกเฉยและหลีกเลี่ยงที่จะเปิดเผยให้ประชาชนทราบ”  นายศรีสุวรรณระบุ 

นายศรีสุวรรณกล่าวด้วยว่า สิ่งที่บ่งชี้ถึงความผิดพลาดล้มเหลวในการควบคุมราคาการจำหน่ายสุกรของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือการลุกลามไปถึงสินค้าและบริการอื่นๆ อีกมากมายที่แห่กันขึ้นราคา เพราะล่าสุดสมาคมผู้ผลิตผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ได้ออกประกาศปรับขึ้นราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์ม จากฟองละ 2.80 บาทเป็น 3 บาท รวมทั้งแผงราคาขึ้นไปอีก 6 บาท มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปแล้ว โดยที่กระทรวงพาณิชย์หาได้มีการควบคุมหรือดำเนินการยับยั้งการขึ้นราคาดังกล่าวตามอำนาจหน้าที่ หรือตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ 2542 ได้

ที่บริเวณด่านศุลกากรสะพานมิตรภาพไทย-ลาว จังหวัดหนองคาย  นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะราคาไข่ไก่และเนื้อไก่ที่ทยอยปรับตัวว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ยังไม่อนุญาตให้มีการขึ้นราคาสินค้าดังกล่าว ซึ่งอาจมีการฉกฉวยขึ้นราคา ก็จะมีการดำเนินคดีอย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้เป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค แต่หากมีความจำเป็นต้องขึ้นราคาสินค้าในรายการใด ก็สามารถทำเรื่องมายังกระทรวงพาณิชย์เพื่อพิสูจน์เป็นรายกรณีไปว่ามีความจำเป็น เพื่อไม่ให้กระทบต่อเกษตรกรรายย่อยจากการกดราคาทางนโยบาย เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าขาดตลาดอีก

 นายจุรินทร์ยืนยันด้วยว่า ได้มอบหมายให้อธิบดีกรมการค้าภายใน ไปติดตามราคาเนื้อไก่และไข่ไก่ เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากกรณีที่เนื้อหมูได้ขึ้นราคาไปแล้ว ขณะเดียวกันก็ยังจะต้องช่วยเหลือดูแลเกษตรกรรายย่อยด้วย โดยจะต้องสมดุลกันระหว่างผู้บริโภคและเกษตรกรรายย่อย

ส่วนการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนหลังจากเนื้อหมูขึ้นราคาไปแล้วนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า ขณะนี้มีโครงการพาณิชย์ลดราคา ที่กำหนดราคาหมูเนื้อแดงไว้คงที่ในกิโลกรัมละ 150 บาท จำนวนกว่า 600  จุด พร้อมเตรียมเสนอของบกลางเพื่อเร่งมาชดเชยราคาในโครงการที่ตรึงไว้ 150 บาทต่อกิโลกรัม และอุดหนุนเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายย่อย เพื่อให้มีกำลังใจในการเลี้ยงหมูต่อไป และไม่ให้เกิดภาวะหมูขาดแคลนในอนาคต โดยในวันพรุ่งนี้ (11 ม.ค.) จะชี้แจงด้วยวาจาให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบก่อนในเบื้องต้น

 “การพิจารณานำเข้าเนื้อหมูจากต่างประเทศนั้นจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะจะต้องระมัดระวังโรคติดต่อที่มากับหมูและสุขอนามัย รวมถึงข้อกฎดันทางการค้าอื่นๆ ประกอบด้วย” นายจุรินทร์ ระบุ

นายพชร นริพทะพันธุ์ กรรมการบริหารพรรคและคณะทำงานเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากนี้ไปพลเอกประยุทธ์จะต้องเผชิญกับน้ำมันแพง ก๊าซแพง ไฟฟ้าขึ้น ค่าครองชีพพุ่ง อาหารแพง เงินเฟ้อสูง  ดอกเบี้ยขึ้น หนี้ท่วมทั้งภาครัฐและเอกชน พลเอกประยุทธ์จะบริหารประเทศให้สำเร็จได้อย่างไร ปี 2565 นี้จะเป็นปีแห่งความทรุดโทรมและเสื่อมถอย ซึ่งเป็นผลมาจากความล้มเหลวของพลเอกประยุทธ์ที่สะสมมาตลอด 7 ปี ทั้งนี้ไม่ต้องพูดถึงอนาคตว่าประเทศไทยจะพัฒนาต่อไปอย่างไร

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล กล่าวว่า  การปกปิดการระบาดของ ASF ในหมู ทำให้ฟาร์มหรือเกษตรกรรายย่อยเลิกเลี้ยงหมู และต้องขายหมูที่รอดออกไปด้วยราคาขาดทุน แต่ทุนใหญ่ไม่เจอปัญหานี้เพราะมีตู้แช่แข็ง สามารถชำแหละหมูแช่เอาไว้เพื่อปล่อยสู่ตลาด เป็นเจ้าหลักเจ้าเดียวในวันที่ไม่มีหมูเจ้าอื่นในตลาด ได้ประโยชน์ทั้งราคาและไม่มีคู่แข่ง อีกทั้งการไม่มีรายงานการติดเชื้อ  ASF ในไทยอย่างเป็นทางการตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ก็ทำให้ยังส่งออกหมูได้โดยไม่มีผลกระทบ เรื่องนี้เกษตรกรรู้ โรงเชือดรู้ และสัตวแพทย์ก็รู้ ภาคีคณบดีสัตวแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย 14 สถาบัน จึงต้องทำหนังสือถึงอธิบดีกรมปศุสัตว์ตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค.64

 “ข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ขนาดนี้ แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรัฐบาลยังยืนกรานว่าไม่พบ ASF แบบนี้จึงไม่รู้ว่าทำไปเพื่อปกป้องผลประโยชน์ให้ใครกันแน่ แต่เท่าที่รู้ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนอย่างแน่นอน” ส.ส.พรรคก้าวไกลระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปชน.ขนทัพใหญ่ หาเสียงทิ้งทวน! หวังปักธง‘สีส้ม’

“ปชน.” ปูพรมโค้งสุดท้าย ขนทัพใหญ่ดาวกระจาย 6 สายทั่วพื้นที่ “ปิยบุตร” ขอโอกาสปักธงสีส้ม “พิธา” เชื่อคะแนนยังสูสี พรรคประชาชนมีโอกาสพลิกชนะ